The Boss Behind The Game – ตอนที่ 57 : การกลับมาของสหายร่วมรบ
วิดิโอที่ถูกโพสต์ลงหน้าแรกในฟอรั่มของแบทเทิลออนไลน์โดยหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกเตะออกจากระบบหลังจากที่เขาถูกฆ่าตายในเกม
[เพื่อนๆของเราตาย! ฉันเฝ้ารอการกลับมาของพวกเขาเพื่อต่อสู้เคียงข้างกับฉันและเพื่อการล้างแค้นให้กับการตาย!]
ในวิดิโอ เห็นได้ว่าลู่โม่และสมาชิกในทีมที่เหลือนั้นดูเหนื่อยล้า พวกเขาเหลือพลังเพียงน้อยนิดที่จะต้านทานเหล่าผู้เล่นที่เหลือ ในตอนท้าย พวกเขาถูกเผาตายด้วยไฟโลกันต์จนกลายเป็นเถ้าถ่าน
วิดิโอนั้นทำให้ผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในเกมถึงกับงง
เครย่อน_ซินชาน : “ฉันยังจำตอนที่ได้คุยกับพี่ลู่ในคืนนั้นได้ขึ้นใจเลย พวกเรายังดื่มเหล้าด้วยกันอยู่เลย ไปสู่สุขคตินะพี่ชาย! ฉันจะแก้แค้นให้เอง!”
คานตาบาย_เยียร์ : “ไปสู่สุขคตินะพี่! ฉันจะสังหารเจ้าชานาและกองทัพของมันให้พี่เอง”
ซูหลีผู้แข็งแกร่ง : “ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนที่ฉันไม่อยู่ ฉัน ซูหลี ขอเข้าร่วมทีม! ฉันจะไปฆ่าชานาเพื่อแก้แค้น!”
ฟูดดี้_เสี่ยวเจีย : “แค่คิดว่าจะไม่ได้ล้มรสชาติอาหารของเชฟจ้ำม่ำอีกต่อไป มันทำให้ฉันโมโหมาก!!! รอแปปนะ ฉันกำลังกลับบ้าน รอฉันก่อนนะพี่น้องทั้งหลาย!”
การตายของลู่โม่และ NPC นั้นทำให้ผู้เล่นต่างๆโกรธแค้นเป็นฟืนเป็นไฟ พวกเขาหลายคนติดต่อกันส่วนตัวและกำลังรีบกลับบ้านเพื่อเข้าร่วมพันธมิตร
ในตอนนี้ ผู้เล่นส่วนมากของแบทเทิลออนไลน์ได้รับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนวันคริสมาสจากแชทกิลด์แล้ว บางคนก็ได้รับข้อความจากเพื่อนๆ
และความโกรธแค้นของผู้เล่นทั้งหลายก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างแรงกล้า
ห้องหนึ่งในโรงแรมที่ไม่ได้ระบุชื่อ ชายคนหนึ่งรีบแต่งตัวอย่างเร่งรีบ ขณะที่แฟนสาวที่กำลังโกรธเขาอยู่นั้นมองเขาด้วยสายตาที่งงงวย เขารีบวิ่งไปที่ประตู
ในห้องคาราโอเกะ หนุ่มสาวต่างก็วางไมโครโฟนลงพร้อมกันด้วยความไม่พอใจ บอกลาเพื่อนคนอื่นๆอย่างรวดเร็วและรีบเดินทางกลับบ้านในทันที
ที่บาร์แห่งหนึ่ง กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบดื่มกำลังดื่มด่ำอย่างมีความสุข ชายคนหนึ่งรับสายโทรศัพท์และท่าทีของเขาก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที เขาพูดคำบางคำกับเพื่อนของเขา หลังจากนั้น พวกเขาบางคนก็เดินออกจากบาร์และกลับบ้านในทันที
สถานที่หนึ่งในร้านบิลเลียด คนๆหนึ่งได้ส่งต่อข้อความที่เขาได้รับมาให้กับเพื่อนที่กำลังเล่นพูลอยู่ด้วยกัน พวกเขาจ่ายบิลและรีบกลับไปที่บ้านในทันที
…
แล้วก็เป็นไปอย่างนั้น เหตุการณ์คล้ายๆกันเกิดขึ้นในหลายๆที่
ผู้เล่นปรากฏตัวขึ้นในเกมทีละคน ทันทีที่เข้าสู่ระบบ พวกเขาทั้งหมดก็ถูกเชิญชวนจากสหายของเขาเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อการแก้แค้น
จากห้องแชทของกิลด์เดโมลิชั่น เสียงคำรามของหัวหน้ากิลด์ดังก้องอยู่ในหูของสมาชิกคนอื่นๆ “พี่น้อง ฉันจะไปอยู่แนวหน้า ถ้าฉันจะตายในการต่อสู้ ฉันอยากให้พวกนายทุกๆคนก้าวข้ามศพของฉันไปและบุกไปข้างหน้า! ฆ่ามัน!”
จากห้องแชทของกิลด์อเวนเจอร์ หวู่กิวอี้แผดเสียงออกมา “ความสามัคคีจะทำให้เราได้อยู่ร่วมกัน พวกเราจงปกป้องคฤหาสน์แห่งความตายแห่งนี้! บุกไปพร้อมกับฉัน!”
จากห้องแชทของกิลด์เกรทดราก้อน เฉินซีหยูตะโกนว่า “เพื่อเกียรติของราชาแห่งเป่ยฉีและเพื่อเพื่อนๆของเราที่จากไป จงทิ้งความเศร้าเสียใจไปซะ! บุก!”
จากห้องแชทของอินวินสิเบอร์ มิธ อินวินสิเบอร์_โลนลิเนส พูดออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับกวาดแกว่งดาบยาวของเขาในขณะที่จ้องเขม็งไปที่ชานาที่อยู่ไกลออกไป “คืนนี้ฉันสาบานว่าจะสังหารชานาให้ได้ และจะไม่หยุดจนกว่ามันจะตาย!”
…
ในจุดนี้ ทุกๆกิลด์ตัดสินใจที่จะปล่อยวางความขัดแย้งที่มีต่อกันและเตรียมตัวที่จะทำการโจมตีอย่างเต็มที่ไปที่ชานา
แม้แต่ชานาเองก็ยังงงเมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับจำนวนของสิ่งมีชีวิตที่กำลังเพิ่มขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขา จำนวนของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้พุ่งขึ้นไปแตะ 300,000 คนอย่างน่าภูมิใจ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่รู้เลยว่าพวกมันมาจากที่ไหน ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก
ลู่หวู่รู้สึกมีกำลังใจเมื่อเขาเห็นผู้เล่นรวมตัวกัน เขาจึงดึงไฟล์เพลงจากอีเมลของปาหลุนและให้เป่ยลี่จัดการข้อมูลก่อนที่จะอัพโหลดมันเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์
ตุบ! ตุบ! เสียงของกลองแห่งสงครามจากด้านหลังของกองทัพของชานาดังก้องไปทั่วดินแดน ในขณะเดียวกันเพลงเบื้องหลังก็เริ่มเล่นอยู่ในหูของผู้เล่นทุกคน
“เดอะฟีนิกซ์(วิหคนิรันดร)”
ทาหน้าเพื่อเตรียมออกรบซะ
แกมันคือก้อนอิฐที่มัดติดกับฉันเพื่อฉุดรั้งฉันเอาไว้
จุดไม้ขีด แล้วฉันจะเผาแกให้เป็นจุล
มาแล้ว คลื่นน้ำสูงขึ้นแล้ว มาสิ
ทาหน้าเพื่อเตรียมออกรบซะ
ผนึกก้อนเมฆไว้ด้วยเส้นสีเทา
เราจะกู้เอาโลกใบนี้กลับมาจากการหัวใจวาย
เสียงของเพลงดังไปทั่วสนามรบ กลบเสียงของกลองไปหมดสิ้น มันได้ปลุกพลังที่แรงกล้าในตัวของเหล่าผู้เล่นทั้งหลาย
“ย้ากกกก!”
“ฆ่ามัน!”
สายน้ำที่ไหลหลากทั้งสองได้ไหลมาปะทะกันอีกครั้ง ผู้เล่นเปลี่ยนความโกรธของพวกเขาให้เป็นความแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงพลังที่เหนือกว่าในการต่อสู้กับศัตรูของพวกเขา
สิ่งที่ทำให้น่ากลัวในการสู้รบก็คือการไม่มีจุดอ่อนและความตั้งใจที่จะสู้จนตัวตาย
ภายในอิทธิพลของเพลงแบคกราวน์ ผู้เล่นต่างๆรุดไปด้านหน้าโดยไม่มีการถอยหลังเลยแม้แต่เพียงก้าวเดียวอีกทั้งยังสามารถต้านกองทัพของชานาจนถอยหลังไปได้อีกด้วย
ด้วยความเร่าร้อนของสงครามที่เพิ่มขึ้น ชานาเริ่มรู้สึกหมดหนทางที่จะต่อกรกับจำนวนผู้เล่นที่มากมายขนาดนี้ ที่แม้แต่การโจมตีของเขาเองก็ข่วยอะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เขากลัวยิ่งขึ้นไปอีกก็คือจำนวนผู้เล่นที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกชั่วขณะ
ในการต่อสู้ครั้งนี้ กองกำลังของผู้เล่นค่อยๆสูงขึ้นหนือกองทัพของชานาในแง่ของกำลังใจ
“บุกไปข้างหน้า นักฆ่าราตรีทั้งหลาย!” ภายใต้คำสั่งของเย่เสี่ยวเอ้อ กลุ่มนักฆ่าส่งเสียงคำรามดังลั่นและมุ่งหน้าไปที่แนวหน้า
ร่างสีแดงขนาดใหญ่จากด้านหลังของกองทัพศัตรูปกคลุมทุกคน ด้วยการแกว่งดาบสีแดงเลือดขนาดมหึมานั้นทำให้เลือดสดๆสาดกระเซ็นไปบนอากาศ
นักฆ่ากลุ่มนี้ถูกรวบรวมมาโดยเย่เสี่ยวเอ้อด้วยเหรียญจำนวนมหาศาล รวมทั้งหมด 10 คน พวกเขาแต่ละคนได้เก็บเกี่ยวแก่นแท้เลือดมาไม่น้อยกว่า 10,000 หน่วยเพื่อที่จะกลายเป็นผู้เล่นแนวหน้าในการเลื่อนคลาสเป็นสาวกต้องสาป ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถปลดปล่อยพลังงานที่ทรงอานุภาพได้ในการต่อสู้นี้
นักฆ่าราตรีกำลังสังหารทหารหยินด้วยพลังที่เหมือนปิศาจในขณะที่ชานาทำได้แค่เพียงจ้องมองด้วยความหวาดผวา
“นักฆ่าราตรี! อาณาจักรนารากะ! พวกเจ้าคือสายเลือดของตระกูลต้องสาป!” ชานาอุทานออกมาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
เขาจำได้ถึงพลังของตระกูลต้องสาป ตัวเขาเองก็เคยเป็นสมาชิกของกองทัพที่ล้อมตระกูลต้องสาปเอาไว้ ตระกูลที่ทรงพลังที่ต้องให้ราชาแห่งเป่ยฉีมากำราบเท่านั้น
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพวกอ่อนแอที่อยู่ต่อหน้าเขาจะค้นพบวิธีที่จะใช้พลังแห่งอาณาจักรนารากะ ความกลัวในใจของชานาได้แผ่ขยายออกมา
ยิ่งความตายของลู่โม่และคนอื่นๆที่ได้จุดไฟแห่งความโกรธแค้นในตัวของผู้เล่นนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ความปรารถนาต่อการแก้แค้นมันไม่มีวันหมด และไม่มีอะไรที่จะมาหยุดการโจมตีของพวกเขาลงได้ จนกว่าเลือดของชานานั้นจะกระเด็นลงสู่พื้น
“ย้ากก! ข้าจะฆ่าเจ้า!” เบอร์เซิร์กเกอร์แยกตัวออกมาจากกลุ่ม ด้วยตาที่แดงดุจเลือด เขาพุ่งตรงไปที่ชานาในขณะที่ดาบใหญ่ของเขาได้ฟันผ่านต้นขาของชานา
ความทรงจำของเขาที่กระจัดกระจายเมื่อครึ่งเดือนก่อน บวกกับการที่ได้เปิดใจคุยกับลู่โม่ในตอนนั้นได้ลอยเข้ามาในหัวของเขา จำได้ถึงคำแนะนำและรอยยิ้มที่จริงใจของลู่โม่ มันยิ่งทำให้เขานั้นโกรธแค้น
“ฆ่ามัน!” อินวินสิเบอร์_โลนลิเนส จากกิลด์มิธถอดผ้าคลุมของเขาออกเพื่อเผยให้เห็นรูนแกะสลักที่อยู่ใบร่างกายและไหลมารวมกันที่หมัดของเขา เมื่อแสงสีมรกตส่องขึ้นมา เขากระโดดเข้าใส่ชานา ต่อมามีแสงสีแดงทับทิมส่องสว่างขึ้นจากการที่เขารวบรวมพลังทั้งหมดของเขาไปที่หมัดและต่อยเข้าไปที่กลางศีรษะของชานา ทำให้เขากระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว หมัดที่ต่อยไปนั้นได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนกลางกะโหลกศีรษะของชานาอีกด้วย
หลังจากที่ได้จ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อแลกกับเหรียญวิญญาณ กู่หยูก็ได้วัตถุดิบครบต่อเงื่อนไขของการเลื่อนคลาส เขาได้กลายเป็นรูนมาสเตอร์คนแรกของเกมและได้แสดงถึงทักษะที่ทรงพลังออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีร่างๆหนึ่งกระโดดเข้ามาบนสนามรบ ดึงความสนใจของทหารหยินไป
คนๆนี้สวามิภักดิ์ต่อดาบวิญญาณทั้งเก้าเล่ม พลังแห่งดาบชีโคจรอยู่รอบๆตัวเขาและดาบพายุติดตามการปรากฎตัวของเขามา ทำให้เกิดห้วงสุญญากาศขึ้น
ภายใต้การควบคุมของอ้าวเจียน พลังที่ไร้เทียมทานของดาบวิญญาณที่แผ่ออกมาตัดผ่านร่างกายของทหารเหมือนกับเคียวของยมทูต
อ้าวเจียนไม่รู้สึกโศกเศร้าต่อสิ่งที่เคยเกิดขึ้น เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าเจียนโช่วนั้นคืออาจารย์ของเขา และอาจารย์ของเขานั้นจงรักภักดีต่อราชาแห่งเป่ยฉี!
ชานาสับสนต่อการปรากฏตัวของอ้าวเจียนมาก เขาทำได้แค่อุทานออกมา “นั่นมันปรมาจารย์ดาบเจียนโช่ว! ข้าคิดว่าเขาตายไปแล้ว!?”
คอมเม้นต์