The Boss Behind The Game – ตอนที่ 249 : เพิ่มเวลา

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Boss Behind The Game ตอนที่ 249 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

ตอนที่ 249 : เพิ่มเวลา

 

เฟินสุยราชาแห่งภูตงุนงงเมื่อเขาได้ยินคําตอบจากฮู่เฮ่อ

 

“นี่ความทรมานทําให้เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”

 

มองไปที่ฮู่เฮ่อที่ไม่เหมือนเดิม เฟินสุยเริ่มรู้สึกอึดอัด

 

เขาเข้าใจดีว่าทําไมหยวนซูอยากจะผนึกฮู่เฮ่อเอาไว้ 

 

ไม่ใช่แค่เพราะหยวนซูอยากรู้ถึงจุดมุ่งหมายที่ฮู่เฮ่อขุดผนึกทุกที่ขึ้นมา แต่ยังเป็นเพราะเขาเห็นถึงความสามารถของฮู่เฮ่อและอยากจะดึงฮู่เฮ่อเข้ามาเป็นพวก

 

เป้าหมายหลักที่ผนึกเขาเอาไว้ก็คือกดดันฮู่เฮ่อและทําให้เขากลัวเนื่องจากเขาไม่กลัวความตาย

 

ถ้าฮู่เฮ่อบ้าไปแล้วจริงๆ ก็ไม่มีทางที่เขาจะเอาอะไรไปรายงานกับหยวนซูได้

 

“ข้าไม่ได้บ้า เจ้านั่นแหละที่บ้า!” ฮู่เฮ่อจ้องมองไปที่เเฟินสุย

 

เขาไม่มีแม้แต่ความตื่นตระหนกใดๆ เนื่องจากเหล่าผู้เล่นทั้งหมดสนับสนุนเขา พวกเขาจะต้องให้ความช่วยเหลือเมื่อมันจําเป็น

 

ยิ่งกว่านั้น ความกลัวของเขาได้หายไปหมดเมื่อเขาพบว่าหนึ่งพันปีในความมืดมิดนิรันดร์นั้นเป็นเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงในความเป็นจริงเท่านั้น

 

ข้ารู้แล้ว เป็นไปได้ยังไงที่แบทเทิลออนไลน์จะมีบัคขนาดใหญ่เช่นนี้! ฮู่เฮ่อคิดถึงตัวเขาและรู้สึกโล่งใจ

 

จ้องไปที่เฟินสุย ราชาแห่งภูต ฮู่เฮ่อรู้แล้วว่าตัวเขานั้นมีค่าแค่ไหน ขณะเดียวกัน แรงกระตุ้นต่อการค้นหาผนึกก็ผุดขึ้นในตัวเขาอีกครั้ง เขากระซิบออกมา “เจ้าอยากจะเพิ่มเวลาไปอีกสักพันปีใหมล่ะ?”

 

คําพูดของเขาทําให้เฟินสุยหมดคําพูด

 

จ้องไปที่เฟินสุยที่งุนงง ฮู่เฮ่อพูดต่อ “เจ้าถามข้าว่าข้ารู้สึกยังไง ข้าไม่คิดว่าข้าอธิบายสิ่งที่ข้ารู้สึกได้หมดในตอนนี้หรอก ให้ข้าเข้าไปอีกครั้งได้ไหม?”

 

เมื่อเห็นฮู่เฮ่อดูใจเย็น เฟินสุยก็รู้สึกหงุดหงิดมากในทันที

 

จากสิ่งที่เขาคาดไว้ ท่าทางของฮู่เฮ่อหลังจากที่ถูกปล่อยตัวออกมาควรจะร้องไห้ด้วยความดีใจ ฮู่เฮ่อควรจะคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอร้องเขา… ทําไมเขาถึงท้าทายเช่นนี้?

 

สายตาที่เยือกเย็นมองไปที่ฮู่เฮ่ออยู่พักหนึ่ง ความคาดเดาค่อยๆก่อตัวขึ้นมาในหัวของเฟินสุย

 

ไอ้หมอนี่จะต้องทําที่แสดงอย่างแน่นอน มันจะต้องกลัวอยู่แน่ๆ!

 

เขาไม่เคยมีความคิดที่ว่าฮู่เฮ่อจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย

 

เขาได้เห็นผู้คนมากมายที่ถูกปล่อยตัวออกมาจากความมืดมิดนิรันดร์ สิ่งแรกที่พวกเขาทําก็คือการขอความเมตตา ตราบใดที่พวกเขาไม่ต้องกลับเข้าไปในความมืดมิดนิรันดร์ พวกเขาก็พร้อมที่จะตายและสาบานความภักดีต่อหยวนซู!

 

เมื่อเขาคิดเช่นนั้น เฟินสุยก็ยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าเวลาจะน้อยเกินไปสําหรับเจ้า! ข้าหวังว่าเจอกันครั้งต่อไป เจ้าจะทําตัวดีกว่านี้!”

 

จากนั้นเขาก็ถีบฮู่เฮ่อกลับเข้าไปในความมืดมิดนิรันดร์อีกครั้ง

 

ด้านในของความมืดมิดนิรันดร์นั้นเป็นลักษณะลูกกรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทั้งหมดถูกควบคุมจากด้านนอก ภายในนั้นไม่สามารถสัมผัสถึงนักโทษคนอื่นๆที่อยู่ข้างในได้เลย ไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าฮู่เฮ่อจะทําอะไรที่คาดไม่ถึง เพราะฮู่เฮ่อนั้นถูกตรวจสอบแล้วว่าไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือใดๆติดตัวเข้าไป

 

ครั้งนี้ ฮู่เฮ่อยังใจเย็นและไม่เสียสติใดๆ

 

อย่างแรก เขาเปิดหน้าเมนูขึ้นมาเพื่อหาเพลงฟัง

 

เพลงเหล่านี้มาจากสิ่งประดิษฐ์และเชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับการได้ยินของเขา ดังนั้นความมืดมิดนิรันดร์จึงไม่สามารถบลอคมันได้

 

อย่างไรก็ตาม เขาได้เข้าไปที่ฟอรั่มและนั่งอ่านโพสต์ไปเรื่อยๆ

 

ในที่สุด เขาก็เปิดไลฟ์สตรีมขึ้นมาดูพวกชาวเน็ตที่โพสต์เรื่องไร้สาระลงในออนไลน์

 

ไม่นานแสงไฟก็สว่างขึ้นออีกครั้ง ฮู่เฮ่อถูกดูดออกไปด้านนอก

 

“รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?”

 

ฮู่เฮ่อพยักหน้าอย่างจริงจัง

 

“ครั้งนี้ข้ารู้สึกอะไรบางอย่าง!”

 

เฟินสุย ราชาแห่งภูตหมดความอดทนในทันทีและถีบฮู่เฮ่อกลับเข้าไปในความมืดมิดนิรันดร์อีกครั้งทันที

 

เขาไม่อยากเชื่อว่าฮู่เฮ่อนั้นจะทนต่อการทรมานของเขาได้นานเช่นนี้

 

ขณะเดียวกัน ลึกเข้าไปในความมืดมิดนิรันดร์ ร่างกายของฮู่เฮ่อบิดไปมา เขาเต้นไปกับเสียงเพลง

 

ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีใครที่เห็นเขาได้อยู่แล้ว เขาจึงสามารถเต้นได้เต็มที่

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

 

ก่อนที่เขาจะพยุงตัวขึ้นยืนได้ ฮู่เฮ่อก็ถูกถีบกลับเข้าไปข้างในโดยเฟินสุยอีกครั้ง

 

คราวนี้เฟินสุยโกรธจัด เขาตั้งใจจักผนึกฮู่เฮ่อเอาไว้ข้างในเป็นเวลาหมื่นปี ไม่มีทางที่ไอ้เด็กบ้านจะทนได้!

 

หลังจากที่กลับเข้ามาข้างใน ฮู่เฮ่อก็เริ่มฟังเพลงตามปกติเลื่อนอ่านโพสต์และดูไลฟ์สตรีม แต่เมื่อเขาดูจบ เขาก็สังเกตได้ว่าเฟินสุยนั้นยังไม่ยอมปล่อยเขาออกไป ดังนั้นเขาจึงออฟไลน์ออกมากินกาแฟ หลังจากที่สบายใจแล้วเขาก็ล็อคอินกลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง

 

ครั้งนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปสํารวจความมืดมิดนิรันดร์

 

พื้นที่ที่เขาอยู่นั้นไม่กว้างเท่าไหร่นัก ประมาณสามสิบตารางฟุต ที่มุมของพื้นที่นั้นเป็นผนึกที่อ่อนนุ่มและสามารถสัมผัสได้

 

ฮู่เฮ่อพยายามผลักมันและพับว่ากําแพงผนึกนั้นมีความยืดหยุ่นที่สูงมาก เขาไม่สามารถทําลายมันได้ด้วยพละกําลังของเขา

 

แต่มันกลัยกระตุ้นความกระหายในตัวของฮู่เฮ่อในการขุดกําแพงผนึกเหล่านี้

 

แม้ว่าตัวละครของเขาจะไม่มีความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆเช่นการเข้าร้านค้าที่มีอุปกรณ์ให้เลือกมากมาย

 

ดังนั้นฮู่เฮ่อจึงเริ่มค้นหาอุปกรณ์ในร้านค้าที่เขาจะเอามาใช้ทําลายผนึกได้

 

เจสันจากกิลด์ซีโร่ในยุโรปได้โอนเงินให้กับเขาเพื่อขุดผนึก เขาจึงไม่กังวลในเรื่องการใช้เหรียญวิญญาณ

 

เขาได้ลองใช้สว่านไฟฟ้าและมีดทําลายปีศาจ ถ้าร้านค้านั้นขายเครื่องขุดด้วย เขาก็คงจะซื้อมันมาลองด้วย

 

โชคไม่ดีที่อุปกรณ์ต่างๆนั้นทําอะไรกับกําแพงผนึกนี้ไม่ได้ มันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

 

แต่ฮู่เฮ่อก็ยังไม่หมดกําลังใจและตั้งใจเข้าไปส่องดูที่หัวข้อของพิเศษในร้านค้า

 

มีไอเทมพิเศษจํานวนมากวางขายในหน้านี้ เจ้าคิดว่าเขาอาจจะโชคดีกับของพวกนี้ก็ได้

 

หลังจากที่เลื่อนหาอยู่สักพัก ฮู่เฮ่อก็เจอสิ่งที่เตะตาเขา

 

[เครื่องถอนผนึก (อุปกรณ์)] :

 

ข้อมูลไอเทม : ของที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้พัฒนาไร้นามในตอนที่เขาเพิ่งจะเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับผนึก มันสามารถเพิกถอนพลังงานของผนึกส่วนใหญ่ได้ (คําเตือน : อุปกรณ์ชิ้นนี้ใช้ได้ครั้งเดียว)

 

ราคาไอเทม : 400 เหรียญวิญญาณ

 

เพียงแค่เหลือบไปเห็นราคาก็ทําให้ฮู่เฮ่อลังเล เพื่อที่จะได้ทําลายกําแพงผนึก หัวใจของเขากระสับกระส่ายอีกครั้ง

 

เขาครุ่นคิดทบทวนไปมา จากนั้นเขาก็กัดฟันซื้อมาชิ้นหนึ่ง

 

เครื่องถอนผนึกปรากฏขึ้นทันทีต่อหน้าเขา รูปร่างของมันดูคล้ายกับลูกบิดประตู

 

ด้วยความหวัง ฮู่เฮ่อติดอุปกรณ์ชิ้นนั้นเข้ากับกําแพงอากาศ

 

ในตอนนั้น ที่กําแพงผนึกเริ่มมีระลอกคลื่นและเริ่มแข็งตัวไม่อ่อนนุ่มเหมือนในตอนแรก

 

เวลาผ่านไปไม่กี่นาที เสียงแตกหักก็ดังก้องผ่านอากาศและเครื่องถอนผนึกก็สลายไปในมือของฮู่เฮ่อ

 

ในขณะที่ผลลัพธ์ของมันปรากฏขึ้น อุปกรณ์ชิ้นนั้นก็ล้มเหลว ฮู่เฮ่อปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ในเมื่อเขาได้เริ่มแล้ว มันไม่ใช่ธรรมชาติของเขาที่จะทําอะไรครึ่งๆกลางๆ เขาจึงซื้ออุปกรณ์ชิ้นนั้นมาอีกอันหนึ่ง

 

หลังจากที่เขาได้ใช้เครื่องถอนผนึกไปถึงสามอัน ในที่สุดกําแพงผนึกก็เริ่มแตกออก

 

ขณะที่เขาจ้องไปที่ผนึกที่ถูกทําลายลงได้สําเร็จ เฮ่อก็ประสานมือของตัวเองด้วยความตื่นเต้นก่อนที่จะเดินผ่านมันออกไป

 

ด้านในของกําแพงผนึกนั้นดําสนิท ขณะที่ฮู่เฮ่อเริ่มคลําไปรอบๆนั้น

 

แครก!

 

ขณะที่เขากําลังเดินไปนั้น ฮู่เฮ่อรู้สึกทันทีว่าเท้าของเขาเตะเข้ากับอะไรบางอย่าง ทําให้เขากลิ้งลงไปกับพื้น

 

เขารีบลุกขึ้นและถอยหลังไปด้วยสัญาตญาณ

 

แต่สถานที่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด มันเป็นไปไม่ได้เลยสําหรับเขาที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองสะดุดล้ม เขาเอื้อมตัวไปคลําดูบริเวณขาของเขา

 

ฮืมม? มันนุ่มนวลมาก?

 

แต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงขาเขานั้นยังคงนิ่งเหมือนตาย ไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น

 

ฮู่เฮ่อนั้นรู้สึกสิ้นหวังที่เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงเท้าของเขาได้ เขารู้สึกจริงๆว่ามันเป็นไปไม่ได้สําหรับพวกเขาที่จะตอบสนองกันและกัน

 

เขาจึงเข้าไปที่ร้านค้าอีกครั้ง

 

ชั่วครู่ ฮู่เฮ่อก็ได้เจอกับไอเทมวิเศษอีกหนึ่งชิ้น

 

[เชือกสกัดดวงวิญญาณ] :

 

ข้อมูลไอเทม : อุปกรณ์ชี้นําดวงวิญญาณที่ถูกคิดค้นโดยนักพัฒนาไร้นาม ใช้เพื่อสื่อสารกับดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิต (ตัวอย่าง : ภูตและภูตชั่วร้าย)

 

วิธีใช้งาน : สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง (ร่างจิตวิญญาณ) ที่มาสัมผัสกับเชือกสกัดดวงวิญญาณสามารถเริ่มการติดต่อกันได้ (คําเตือน: ร่างจิตวิญญาณส่วนมากจะไร้ความรู้สึก ดังนั้นจึงอาจทําให้การติดต่อล้มเหลว เมื่อซื้อแล้วจะไม่มีการรีฟัน!)

 

ราคาไอเทม : 500 เหรียญวิญญาณ

 

ราคานั้นทําให้ฮู่เฮ่อปวดใจ แต่เขาก็ยังคงซื้อมันมา

 

จากคําอธิบาย เขาติดปลายเชือกด้านหนึ่งเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่บนพื้น

 

หลังจากที่พวกเขาเชื่อมต่อกัน ฮู่เฮ่อก็ทําการทักทายไป

 

“เฮ้ เฮ้ เฮ้ น้องชาย ได้ยินข้าไหม?”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด