POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) – ตอนที่ 53
วันถัดมาในตอนบ่ายเวลา 13.00 น.
ดงซูบินยังคงคิดว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจของเสี่ยวหยานได้อย่างไร
หลี่ชิงได้สวมชุดกีฬาเข้ามาในสำนักงานกิจการทั่วไป “ รถบัสกำลังจะมา อย่าลืมล่ะว่าวันนี้มีการแข่งขันฟุตบอลกัน พวกนายทุกคนควรเตรียมพร้อมได้แล้ว ถ้าตอนนี้ยังไม่อยากเปลี่ยนชุดก็เอาชุดไปเปลี่ยนที่สนามก็ได้ ใส่ชุดทีมของวันก่อนนะ ด้านบนต้องเป็นสีขาวและกางเกงขาสั้น” ใบหน้าของหลี่ชิงเริ่มจริงจัง” ทุกคนฟังนะ มีการแข่งขันอีกเพียง 2 รายการรวมถึงเกมในบ่ายนี้ด้วย เล่นให้ดีที่สุด หัวหน้าเสี่ยวคอยดูพวกเราอยู่ พวกเราต้องไม่แพ้ในครั้งนี้ ทำให้เต็มที่เอาชัยชนะมาให้ได้!”
“เอิ่ม? แพ้ไม่ได้เลยหรอครับผู้อำนวยการหลี่?” ทุกคนเริ่มคร่ำครวญ
หลี่ชิงตอบอย่างหนักแน่น “ พวกเราทุกคนต้องถือว่าสิ่งนี้เป็นภารกิจสำคัญของเขตเรา! ทุกคนเข้าใจไหม?”
“ครับท่าน!”
“ครับท่าน!”
เกาแพนเหว่ย และจ้วงจื้อ ตอบทันทีทั้งที่พวกเขาก็ไม่มั่นใจสักเท่าไร
ดงซูบินเองก็แอบดีใจที่เขารอดพ้นจากการแข่งขันในครั้งนี้ เขาเคยได้ยินมาจากต้าหลินเหม่ยว่าทีมของพวกเขาไม่เคยชนะเลยหลังจากผ่านมา 6 เกม รวมถึงยังแพ้อย่างหมดรูปในทุกเกมที่พวกเขาเล่น เช่นคะแนน 5: 0, 3: 0 และ 7: 0 ทีมของพวกเขายังไม่ได้ทำประตูสักประตูเดียวเลยด้วยซ้ำ นี่คือสาเหตุที่ผู้บริหารระดับสูงต้องกำชับลงมาว่านี้คือภารกิจสำคัญที่ต้องชนะเท่านั้น
ดงซูบิน, ต้าหลินเหม่ย และ พี่หยาน ยังคงอยู่ในสำนักงานต่อไป ฉางจ้วง, จ้วงจื่อ และคนอื่น ๆ ติดตามหลี่ชิงออกไป
ในช่วงบ่ายนั้นในสำนักงานไม่ค่อยมีงาน ทำให้ดงซูบินดื่มชาและดูหนังออนไลน์ได้อย่างสบายใจเฉิบ
ในช่วงวันหยุดวันชาติ เวลาเลิกงานของพวกเขาจะเปลี่ยนไปเป็นเวลา 15.00 น. ซึ่งตอนนี้เหลืออีก 5 นาทีจะถึง 15.00 น. และ ต้าหลินเหม่ยก็เริ่มเก็บข้าวของของเธอแล้ว เธอตบหลังของดงซูบินอย่างร่าเริง “ ซูบิน! ไปที่สนามกีฬาหยัวถังกัน พวกเราจะได้ไปดูการแข่งขันด้วย ตอนนี้ฉันคิดว่าเขตของเราน่าจะกังวลเกี่ยวกับวิธีการทำให้ชนะในการแข่งขันในแมตซ์นี้ หากพวกเขาแพ้การแข่งขันทั้งหมดในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาจะด่าแบบไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน”
ซึ่งประจวบเหมาะกัยที่ดงซูบินก็ไม่มีอะไรทำที่อพาทเม้นท์อยู่แล้ว เขาจึงพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ! ป่ะ! ไปดูการแข่งขันกัน” การที่เขาเลือกที่จะไปดูการแข่งขันเพราะเสี่ยวหยานเองเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย มันอาจจะเป็นโอกาสที่ดงซูบินจะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น
ณ สนามกีฬา หยัวถัง
ทางสำนักได้จองสนามแห่งนี้ไว้แล้ว ดงซูบิน และ ต้าหลินเหม่นแสดงบัตรประจำตัวของพวกเขาเพื่อใช้ในการขออนุญาตเข้าสู่สนาม พวกเขาเดินผ่านอุโมงค์ทางเข้าและได้ยินเสียงเชียร์ที่ดังสนั่นขึ้นมา ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาสมาชิกกว่า 20 คนของสำนักงานแห่งรัฐและมั่นคงที่กำลังวิ่งอยู่บนสนาม จ้วงจื่อเหงื่อนั้นมีเหงื่อท่วมตัวและอยู่ในอาการหอบ เขายืนอยู่ใกล้กับเสาประตู ส่วน เกาแพนเหว่ยเองก็กำลังวิ่งไปรอบๆอย่างไร้จุดหมายและตะโกน“ ส่ง, ส่งมาให้ฉัน!” ฉางจี้เองก็ก็ยังคงถือรองเท้าฟุตบอลของเขาและนั่งข้างๆสนาม ดูเหมือนว่าเขาจะได้เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น
“ป้องกัน! ป้องกัน!” ที่ด้านข้างของสนามนั้นมี เสี่ยวหยานในชุดกีฬาที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับกำลังตะโกน แนะนำให้ทีมของเธอ “ ทุกคนกลับมาและป้องกัน! หมายเลข 21 อ่ะ! ดูดีๆ!”
“ อย่าปล่อยเขาเข้ามาได้! หยุดเขาไว้!” หลี่ชิงกำลังถือกระเป๋าของเสี่ยวหยานสะพายข้างของเธอและเธอก็ยังตะโกนใส่ผู้เล่นไม่ขาดสาย
ต้าหลินเหม่ยเริ่มกระซิบไปที่ดงซูบิน“ หัวหน้าเสี่ยวของเรานั้นดูจริงจังมากเลย ดูเหมือนว่าเธอจะคาดหวังกับการแข่งขันในครั้งนี้ไว้มากน่าดู ไปกันเถอะ. พี่จ้วงนั่งอยู่ตรงนั้น”
ดงซูบินหยุดอยู่พักหนึ่ง “ พวกเราไม่ควรไปทักทายหัวหน้าก่อนหรือ”
“ นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้หัวหน้ากำลังยุ่งอยู่?”
ดงซูบินมองไปที่ด้านหลังของเสี่ยวหยานอย่างเสียดายและเดินตามต้าหลินเหม่ยไปยังที่ที่ฉางจ้วงนั่งอยู่ ซึ่งฉางจ้วงก็นั่งอยู่กับชายหนุ่มและสาวๆจากแผนกการเมืองและฝ่ายการเงิน พวกเขาเชียร์ทีมของพวกเขาอย่างเต็มแรง “ ลุยไปเลย ยิง!” แต่เสียงเชียร์ของพวกเขาดูนิ่มนวลมาก เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ ซึ่งเสียงของพวกเขาแถบจะไม่ได้ยินเลย
“ น้องซูบิน น้องหลินเหม่ย มาแล้วหรอ?” จางจ้วงหันมาหาพวกเขาและถือพัดอยู่ในมือเพื่อเอาไว้บังแสงอาทิตย์
ดงซูบินถามอย่างบังเอิญว่า“ พี่สาวจ้วง! ทั้งสองทีมเป็นอย่างไงบ้างแล้ว? คะแนนตอนนี้เท่าไรแล้วครับ?”
ฉางจ้วงตอบกลับไปว่า:“ ครั้งนี้ทีมเราเล่นได้ดีกว่านัดก่อนๆ คะแนนตอนนี้ 0: 0 และเหลือเวลาอีก 10 นาที ดูเหมือนว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการจับสลาก อย่างน้อยเราก็ทำตามความต้องการของหัวหน้าเสี่ยวที่ไม่ให้เราแพ้ได้”
ต้าหลินเหม่ยอ้าปากค้าง “ เราเล่นได้ดีขนาดนั้นเลยหรอ!”
ตอนนี้มันใกล้ถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งขันแล้ว และผู้เล่นทุกคนในสนามดูเหนื่อยล้ามากๆ พวกเขาเริ่มวิ่งช้าๆหลังจากลูกบอลโดยไม่มีแท๊คติกหรือมีแท๊คติกใดๆ ทีมจากสำนักงานสาขาเขตตะวันตกไม่ได้มีมาตรฐานการเล่นเดียวกันกับทีมของสำนักสาขา เฉาหยาง ส่วนใหญ่พวกเขาเน้นเล่นตั้งรับมากกว่าและฝ่ายตรงข้ามพยายามทำคะแนนจากการยิงไกล
เสี่ยวหยานเริ่มตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งของเธอ:“ ตั้งรับให้ดีที่สุด! เหลือเวลาอีกเพียง 10 นาที!เท่านั้น”
หลี่ชิงยังตะโกนว่า“ วิ่งให้เร็วที่สุด! ทุกคนวิ่งให้เร็วที่สุด!”
ผู้เล่นของสำนักงานสาขาเขตเฉาหยางหมายเลข 21 วิ่งไปข้างหน้าและรับบอลจากนอกเขตโทษและเขาหันไปยิงที่ประตู ซูม! มันเป็นมุมที่น่าอึดอัดใจและลูกบอลพลาดโดนเสาประตูเพียงนิดเดียว หมายเลข 21 กุมขมับของเขาด้วยความเจ็บปวดและจากนั้นเขาก็ยกนิ้วให้เพื่อนร่วมทีมของเขาที่ส่งลูกบอลมาให้เขา
ดงซูบินเริ่มกะพริบตา “ ผู้ชายคนนั้นคือใคร? ทำไมเขาถึงเล่นได้ดีจัง?” ดงซูบินเองก็เล่นฟุตบอลกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นเก่งอะไร แต่เขาก็สามารถบอกความแตกต่างระหว่างผู้เล่นที่เป็นมืออาชีพกับมือใหม่ได้ หมายเลข 21 นั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างจากผู้เล่นของอื่นๆมาก
ฉางจ้วงตอบกลับไปว่า:“ ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนี้เคยเป็นทีมเยาวชนของชาติมาก่อน เขาเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพถ้าเทียบกับคนอื่นๆ เขาเกือบจะทำลายการตั้งรับของเราได้หลายครั้งแล้ว “
เสี่ยวหยานที่อยู่ไม่ไกลนักก็ตะโกนด้วยความโมโห “ ล็อกตัวหมายเลข 21! อย่าให้เขาได้ลูกบอล!”
ไม่กี่วันมานี้เสี่ยวหยานเธออารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะเธอคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการแข่งขันที่กระชับมิตรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของเขาเกิดความสามัคคีผ่านกิจกรรมกีฬา นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมและโค้ช แต่สำนักงานสาขาที่เหลือนั้นพยายามอย่างเต็มที่โดยไม่คิดว่านี้เป็นการแข่งขันกระชับมิตรธรรมดาและมันทำให้ทีมของเธอก็พ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันและแพ้มาตลอด มันทำให้เสี่ยวหยานยอมไม่ได้และออกคำสั่งในการแข่งขั้นในครั้งนี้ ทีมของเธอต้องได้รับชัยชนะและจะแพ้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว
เหลืออีก 8 นาที……
เหลืออีก 5 นาที……
คะแนนยังคงเป็น 0: 0
เสี่ยวหยานรู้สึกโล่งอก เธอมองหญิงวัยกลางคนที่กำลังดูการแข่งขันออกไปไม่ไกลและขมวดคิ้ว
หญิงสาวคนหนึ่งถือป้ายเชียร์และเมื่อเธอเห็นเสี่ยวหยานจึงหันมาเยาะเย้ย
ดงซูบินกำลังเฝ้าดูเสี่ยวหยานพร้อมกับดูเกมการแข่งขั้นไปด้วย เมื่อเขาสังเกตเห็นรายละเอียดการแข่งทุกอย่าง เขาถามต้าหลินเหม่ย ว่า “เธอรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ดูเหมือนหัวหน้าเสี่ยวจะไม่ชอบเธอมากๆเลยนะ เธอเป็นผู้จัดการทีมของทีมเฉาหยางหรือป่าว?”
ต้าหลินเหม่ยมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ “ ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อน พี่จ้วงพี่รู้จักเธอคนนั้นไหม”
“ ใคร?” ฉางจ้วงมองไปยังทิศทางที่ดงซูบินกำลังชี้ “ ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?”
ดงซูบินถามว่า:“ เธอคือใคร”
ฉางจ้วงมองไปรอบ ๆ เธอแล้วลากต้าหลินเหม่ย และดงซูบินไปด้านข้าง “ ชื่อของบุคคลนั้นคล้ายกับหัวหน้าเสี่ยว เธอชื่อเสี่ยวหยานด้วยเช่นกัน เธอเป็นรองผู้อำนวยการกองการเมืองของสำนักงานเขตสาขาตะวันออก โอ้! ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของเรากับสำนักสาขาภาคตะวันออก เธอควรจะอยู่ที่นี่เพื่อจะมาดูทีมของเรา”
ดงซูบินเริ่มงงงวยแล้ว “ นี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อกระชับมิตรหรือยังไง? จำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้ไหม?”
ฉางจ้วงหัวเราะ “ มีหลายสิ่งที่พวกเธอยังไม่รู้ หัวหน้าเสี่ยวและผู้ตัดสินทางการเมืองเสี่ยว ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร สำหรับคนอื่น ๆ นี่อาจเป็นการแข่งขันกระชับมิตรก็ได้นะ แต่สำหรับคู่นี้ไม่ใช่ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งคู่โต้เถียงกันบ่อยครั้งระหว่างการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของเมือง อืม …… ฉันจะบอกความลับอื่นกับพวกเธอ แต่พวกเธอต้องเงียบเอาไว้เลยนะ” ฉางจ้วง ลดเสียงของเธอลง “ พวกเธอรู้หรือไม่ว่าหัวหน้าเสี่ยวพึงหย่าร้างกับสามีเก่าของเธอ และสามีเก่าของเธอก็ไปแต่งงานใหม่และเจ้าสาวคนใหม่ของเขาคือเสี่ยวหยานคู่ปรับของเธอนั้นเอง เพราะเหตุผลนี้……ฮิฮิ… .. พวกเธอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ใช่ไหม”
ต้าหลินเหม่ย พูดว่า:“ โอ้……ฉันเองก็ยังคงสงสัยว่าทำไมหัวหน้าเสี่ยวจึงออกคำสั่งเช่นนั้น เธอไม่ต้องการถูกคู่แข่งของเธอมองว่าต่ำต้อยสินะ!”
ดงซูบินก็เข้าใจสถาณการณ์นี้เช่นกัน
ฉางจ้วงตอบว่า:“ อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย มันไม่ดีเลยถ้าข่าวกระจายไปทั่ว และก็การแข่งขันใกล้จะจบแล้ว มาเถอะ! มาเชียร์ทีมของเรากัน!”
เหลือเวลาอีกเพียง 3 นาทีเท่านั้น
ต้าหลินเหม่ยโบกมืออย่างตื่นเต้น:“ ทีม!สู้ๆสู้ๆ ไปไปไป!”
ดงซูบินยังได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศและเริ่มส่งเสียงเชียร์ให้กับทีมของพวกเขา:“ ตั้งรับ! ป้องกัน!”
ดงซูบินและคนที่เหลือหวังเพียงแค่ขอให้เสมอเพียงเท่านั้น
แต่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ เกาแพนแหว่ยซึ่งเล่นอยู่กองหลังได้วิ่งเข้าไปชนหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของเขานอกเขตโทษทำให้ทั้งคู่วิ่งชะลอตัวลง นี่เป็นโอกาสอีกครั้งของหมายเลข 21 ที่จะฝ่าด่านตั้งรับนี้เข้าไป เขาวิ่งเข้าไปในเขตโทษพร้อมกับลูกบอลและสับขาหลอกให้กองหลังรู้สึกสับสนก่อนที่เขาจะเดินหน้าต่อไปและเหลือเพียงผู้รักษาประตูเท่านั้นที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา!
ผู้รักษาประตูคนนั้นคือเสี่ยวเกาจากส่วนการเมือง เขาไม่รู้วิธีเล่นฟุตบอลด้วยซ้ำ เขาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมเพราะเขาตัวสูง อีกทั้งในตอนนั้นเสี่ยวเการีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อพยายามบังหมายเลข 21 แต่เขาก็บังเอิญสะดุดล้มลงที่พื้นและขาของเขาก็เข้าไปเกี่ยวกับขาของหมายเลข 21 จนหมายเลข21ล้มลงกับพื้น!
ทั้งเสี่ยวเกา และหมายเลข21 กลิ้งลงบนสนามด้วยความเจ็บปวด
“ปี๊บ! ปี๊บ!”
กรรมการแข่งขันจากสำนักเมืองเป่านกหวีดและชี้ไปที่จุดที่ทั้งคู่ล้มลง! “จุดโทษ!”
คอมเม้นต์