Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 99 เหยื่อล่อ
บทที่ 99 เหยื่อล่อ
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
ช่วงเวลาที่มีดมิดที่สุดในค่ำคืนได้คืบคลานมาถึง
ราชันจักจันทองคํา ลูกหมู และแมลงสาบต่างกลับมามือเปล่า แม้จะค้นหาจนทั่วทั้งผาปากอินทรีแล้วก็ยังไม่พบวี่แววของจินจื่อคุน
ทว่าเยี่ยฉวนยังคงโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์อย่างไม่ยอมแพ้ เขาส่งกระแสจิตบริสุทธิ์ออกไปจนถึงขีดสุดและส่งบริวารตัวน้อยทั้งสามออกไปอีกครั้ง
ในคืนเดียวกันนั้น บรรดาศิษย์ทยอยออกเดินทางที่ละกลุ่มตามคําสั่งของเขาโดยอาวุโสลําดับสองเดินทางจากไปรายแรก ยามรุ่งสางจึงเหลือศิษย์สํานักหมอกเมฆาอยู่บนผาปากอินทรีราวยี่สิบคนเท่านั้น อีกทั้งจ้าวต้าจอยังจัดหาร ถ้าสองคันมาให้ตามคําสั่งของเยี่ยฉวน คันหนึ่งสําหรับเยี่ยฉวนและอีกคันสําหรับขนย้ายนักโทษอี้สั่วผู้อยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิง
รถม้าเคลื่อนตัวออกไป ผู้คนทั้งกลุ่มกําลังเริ่มออกเดินทางกลับ
อี้สั่วไม่เงยหน้าขึ้นมาเลยตลอดทาง อาจเป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกทรมานเพื่อให้รับสารภาพหรือ อาจเป็นเพราะเขาหมดหวังอย่างสิ้นเชิงแล้วก็เป็นได้ ไม่มีร่องรอยของความจองหองในอดีตหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
เส้นทางบนเขาจากผาปากอินทรีถึงสํานักหมอกเมฆานั้นขรุขระอีกทั้งยังต้องข้ามภูเขาลูกแล้วลูกเล่า การเดินเท้านั้นเชื่องช้ากว่าการใช้กระบี่บินนัก ทุกคนจึงต้องเร่งรีบมากขึ้น
เยี่ยฉวนไม่ได้รีบร้อนนัก แต่ยังคงสั่งให้ผู้คนเร่งความเร็วขึ้นเพื่อกลับไปถึงสํานักหมอกเมฆาโดยเร็วที่สุด
อี้สั่วในรถม้าขนย้ายนักโทษเป็นทั้งคนทรยศและเหยื่อล่อปลาตัวใหญ่อย่างจินจื่อคุน
การลงมือชิงตัวระหว่างทางเป็นโอกาสที่ดีที่สุด เยียฉวนจึงจงใจออกคําสั่งให้เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อให้จินจื่อคุนเป็นกังวลและไม่มีเวลารวบรวมสติวางแผน นอกจากนั้นเขายังจงใจให้อาวุโสลําดับสองกลับไปก่อนเพื่อน ลอกล่อให้ปลาตัวใหญ่หลงมาฮุบเหยืออีกด้วย
เยี่ยฉวนวางเหยื่อแล้ว ตอนนี้เขากําลังเฝ้ารอให้ปลาตัวใหญ่มาฮุบเหยื่ออย่างเงียบเชียบ!
แม้จะรู้ว่าเป็นกับดัก ทว่าจินจื่อคุนก็จําเป็นต้องเดินตามแผนอยู่ดีหากไม่ต้องการให้ตัวตนถูกเปิดโปงและสูญเสียทุกสี่งไป!
ทุกสิ่งยังคงเรียบร้อยดีแม้พวกเขาจะเดินทางออกห่างจากผาปากอินทรีกว่าสิบลี้แล้ว
หลังจากเดินทางมากว่าร้อยล้ำจนมองเห็นสํานักหมอกเมฆาได้จากระยะไกลก็ยังไร้วี่แววของจินจื่อคุน
จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวนี้ดูท่าจะหนีไปยังสํานักหมอกเมฆาหลังตระหนักว่าแผนการล้มเหลวและถูกเปิดโปง
เยี่ยฉวนสงบสติอารมณ์และสั่งให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปพร้อมเร่งความเร็วขึ้น
แสงสีทองพลันปรากฏขึ้นและลอยล่องอยู่เหนือศีรษะขณะที่สํานักหมอกเมฆาอยู่ห่างออกไปเพียงสิบลี้
ราชันจักจั่นทองคําซึ่งออกสอดแนมตลอดทางกลับมาพร้อมข่าวดี ก่อนจะกระพือปีกบางเฉียบทั้งหกและหายไปสอดแนมอีกครั้งอย่างไร้ร่องรอย
หนานเทียนโตวและผู้อื่นบนหลังม้าก็คอยสอดแนมและคุ้มกันตลอดทางเช่นกัน แต่หูตาที่แท้จริงของเยี่ยฉวนคือราชันจักจั่นทองคําที่หายวับไปมาราวกับสายลม
กลุ่มคนและขบวนรถม้าเร่งรุดมาถึงปากทางเข้าหุบเขาแห่งหนึ่งในที่สุด
หุบเขานี้ขนาบข้างด้วยหน้าผาสูงชัน ทางเดินขรุขระ และแคบเสียจนม้าสามารถเดินเคียงคู่กันได้เพียงสองตัวเท่านั้น ที่แห่งนี้คือหุบเขาด่านหน้าสวรรค์อันเลื่องชื่อและอัน ตรายในบริเวณใกล้เคียงสํานักหมอกเมฆา เมื่อมองขึ้นไปเบื้องบนจะเห็นหน้าผาทั้งสองปกคลุมมืดทึบราวกับจะถล่มทับลงมาและมองเห็นเพียงแสงรําไรเท่านั้น ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ากี่ชีวิตที่ต้องจบลงอย่างโดดเดี่ยวที่นี่นับตั้งแต่สมัยโบราณ ฝีเท้าม้าชะลอลงกะทันหัน
“ทุกคนระวัง ใกล้ถึงสํานักของเราแล้ว”
หนานเทียนโตวดึงบังเหียนม้าให้หยุดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แม้ไม่มีหูตาว่องไวเหมือนราชันจักจันทองคําแต่ทันที่ที่มาถึงด่านหน้าสวรรค์ก็รู้สึกกระสับกระส่ายด้วยสัญชาตญาณ ชายหนุ่มพินิจดูช่องเขามืดทึบให้ถี่ถ้วนก่อนจะกระทั่ง ม้าของตนและพุ่งเข้าไปเป็นคนแรกโดยมีศิษย์สํานักหมอกเมฆาหลายคนตามหลังไปอย่างใกล้ชิด
ภายในช่องเขานั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงล้อรถและเสียงฝีเท้าของม้าให้ได้ยิน ทุกสิ่งดูปกติจนผู้คนค่อยๆ คลายกังวลหนานเทียนโตวผู้นําขบวนอยู่ข้างหน้าพุ่งออกจากหุบเขาเป็นคนแรก เขารู้สึกโล่งใจเมื่อเหลียวหลังไปพบว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ฉับพลันเกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น!
ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นมองเหนือศีรษะ หินก้อนมหึมาหลายก้อนกําลังกลิ้งลงมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว ‘โครม!’ หินก้อนแรกร่วงลงมาปิดปากทางเข้าหุบเขาเพื่อขวางกันหนานเทียนโตวและศิษย์คนอื่นๆ ภายนอกหุบเขา ก้อนที่สองตกลงมากระแทกรถม้าที่เยี่ยฉวนนั่งอย่างรุนแรงจนแตกเป็นเสี่ยง และก้อนที่สามร่วงลงมาขวางกั้นระหว่างจูซื้อเจีย และคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณรถม้าของนักโทษ
ร่างภายใต้หน้ากากกระโดดลงมาอยู่ข้างรถม้านักโทษราวกับก้อนหินจากยอดผา บรรดาศิษย์ที่คุ้มกันรถม้าร้องลั่นพลางชักกระบี่ออกมา แต่ลมกระโชกแรงส่งพวกเขาให้ลอยไป ในอากาศจนกระอักเลือดก่อนที่จะได้ฟาดฟันเสียอีก!
ปราณหยางเดือดพล่านในหุบเขาที่แคบและสูงชันจนเกิดแรงกดดันมหาศาล
ศิษย์สํานักเมฆาทั้งหมดถูกแรงภายในกดลงกับพื้นจนขยับเขยื้อนแทบไม่ได้ พวกเขาไม่อาจต้านทานได้เมื่อต้อง เผชิญหน้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญโดยไม่คาดคิด!
นี่มันปรมาจารย์!
พลังนี้คือขั้นซิวฉือระดับสูงสุดหรืออาจถึงขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าก็เป็นได้
หัวใจของบรรดาศิษย์สํานักหมอกเมฆาสั่นรัวและหายใจได้ลําบาก
ในที่สุดจินจื่อคุนเจ้าแห่งหอแปรธาตุก็เปิดฉากโจมตีหลังลอบสะกดรอยตามมาตลอดการเดินทาง!
จินจื่อคุนจู่โจมกะทันหันระหว่างทางดังที่เยี่ยฉวนคาดไว้ ชายชราไม่มีทางเลือกแม้จะรู้ดีว่าเป็นกับดัก! เขาสะกดรอยตามมาตลอดการเดินทางและลงมือโจมตีเมื่อใกล้ถึงสํานักหมอกเมฆา จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ทั้งเจ้าเล่ห์และใจกล้าบ้าบินยิ่งนักเขามีเพียงโอกาสสั้นๆ ให้ลงมือไม่เช่นนั้นหากโจมตีพลาดเหล่าปรมาจารย์จากสํานักหมอกเมฆาจะพากันรีบรุดมาทันที
“ซิ้ง!”
ช่องเขามืดทึบสว่างขึ้นด้วยประกายเย็นเยียบจากกระบี่
ขณะที่ศิษย์สํานักหมอกเมฆายังไม่ทันตั้งตัวนั้น หนานเทียนโตวกระโดดข้ามก้อนหินมหึมาและใช้กระบี่แทงไปที่กลางหัวใจของจินจื่อคุนทันที!
“ออกไป!”
จินจื่อคุนหันกลับมาพร้อมแววตาลุกโชนและปัดกระบี่ ของหนานเทียนโตวทิ้งด้วยมือเปล่า! หนานเทียนโตวกระเด็นออกไปไกล กระบี่ในมือมีควันขึ้นราวกับถูกเผา
เมื่อจอมยุทธ์ฝึกฝนเคล็ดวิชากายหยางอันศักดิ์สิทธิ์จนสําเร็จ ปราณหยางในกายจะบริสุทธิ์ไร้ขอบเขตเสียจนทุกกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวสามารถแผดเผาร่างกายและจิตวิญญาณของศัตรูได้ ช่างแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้!
จินจื่อคุนผู้อยู่ในขั้นซิวฉือระดับเจ็ดยังไม่บรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ก็จริง ทว่าความเชี่ยวชาญในการฝึกฝนร่างกาย ทําให้ไม่มีผู้ใดในขั้นซิวฉือที่สามารถต่อกรได้ หนานเทียนโตวจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาและถูกจัดการในกระบวนท่าเดียว!
“หึ อัจฉริยะแห่งสหัสวรรษงั้นหรือ เจ้ามันก็แค่นี้สินะ!”
จินจื่อคุนพ่นลมอย่างเย็นชาก่อนจะพุ่งไปทาบฝ่ามือ ลงบนรถม้าขนย้ายนักโทษ ราวเหล็กหนาและโซ่ตรวนที่ผนึกไว้ด้วยยันต์แตกออกเป็นเสี่ยง เขาคว้าอี้ตั๋วมาไว้ใต้วงแขนก่อนจะเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะดังก้อง
แผนการล้มเหลวแล้วก็ช่างปะไร แม้เยี่ยฉวนจะล่วงรู้ว่าเขาคือผู้บงการแต่จะทําอะไรเขาได้?
เมื่อไม่มีอี้สั่วก็ไม่มีพยานหรือหลักฐานมัดตัว อาวุโสสูงสุดจึงไม่อาจทําอะไรเขาได้ หลังกบดานระยะหนึ่งจินจื่อคุนจะกลับมาอีกครั้ง! แม้ครั้งนี้จะล้มเหลวแต่ครั้งหน้าย่อมมีโอกาสสังหารเยี่ยฉวนให้สําเร็จ ด้วยระดับขั้นการฝึกตนอันแข็งแกร่งแล้วไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้
จินจื่อคนหัวเราะสุดเสียงอย่างเป็นสุขกับความสําเร็จในครั้งนี้และทิ้งเหล่าศิษย์สํานักหมอกเมฆาไว้เบื้องหลังในชั่วพริบตา ฉับพลันเกิดความรู้สึกประหลาดเมื่อช่องว่างระหว่างดวงตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง ภายในจิตใจสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ไม่คาดคิด!
แล้วเยี่ยฉวนเล่า?
ไอ้สารเลวนั่นอยู่ที่ไหน? หรือมันจะโดนหินทับตายไปแล้ว?
ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com
จินจื่อคนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันใดเมื่อตระหนักได้ ว่าเยี่ยฉวนยังไม่ปรากฏตัวให้เห็นตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ มิหนํา ซ้ําการจู่โจมครั้งนี้ยังสําเร็จง่ายดายเกินไป ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติ!
คอมเม้นต์