Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 267 ทายาทมังกรปีศาจ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 267 ทายาทมังกรปีศาจ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 267 ทายาทมังกรปีศาจ

ตัวเลขข้างจอผลึกแก้วลดลงถึงเลขเจ็ดการนับถอยหลังครั้งสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

สตรีพรหมจรรย์ยังคงหลั่งน้ําตาไม่หยุดขณะที่เยี่ยฉวนหลับตารออย่างเงียบเชียบ ผู้ฝึกตนขั้นมหาปราชญ์ฝึกหัดขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถรอดพ้น จากสถานการณ์นี้ได้ เช่นนั้นแล้วประสบการณ์ล้นหลามของเขาก็ไร้ประโยชน์และไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก

หลังการฟื้นคืนชีพ เยี่ยฉวนได้ใช้ประสบการณ์ความเยือกเย็นและสารพัดเคล็ดวิชาเพื่อผ่านพ้นปัญหาและความขัดแย้งมามากมายนับไม่ถ้วนเขาใช้ทักษะชั้นเลิศรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นอย่างง่ายดายเคราะห์ร้ายที่ขั้นการฝึกตนของ เขายังคงเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดที่ผ่านมาเขาสามารถหาวิธีอื่นมาทดแทนได้เมื่อต้องเผชิญกับอันตรายแต่บัดนี้จุดอ่อนของเขาถูกเล่นงานจนไม่เหลือช่องให้หลบหนี

หากเขาทุ่มเทให้กับการฝึกตนเพียงอย่างเดียวภายหลังการฟื้นคืนชีพจะบรรลุถึงขั้นมหาปราชญ์ฝึกหัดและแก้ไขปัญหาตรงหน้าในตอนนี้ได้หรือ

ไม่?

ความคิดนั้นพลันผุดขึ้นในหัวของเยี่ยฉวนบัดนี้เขาปรารถนาความแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใดน่าเสียดายที่ไม่มีโอสถใดสามารถแก้ไขสิ่งที่ผ่านไป แล้วได้ มันสายเกินกว่าจะทําอะไรได้แล้ว…

“โฮก!” แว่วเสียงมังกรคํารามดังกึกก้องมาจากที่ไกลๆ

เยี่ยฉวนลืมตาขึ้นจึงเห็นร่างแข็งแกร่งกําลังพุ่งเข้ามากระแทกโลงศพหินอย่างรุนแรงโดยไม่สนใจอาณาเขตห้องโถงมังกรปีศาจแต่อย่างใด“ตึง!” หนึ่ง… สอง…ร่างนั้นพุ่งเข้าปะทะกับโลงหินครั้งแล้วครั้งเล่าจนทั้งห้องโถงสั่นสะเทือน

“นั่นมัน… มังกรปีศาจน้อยงั้นหรือ?!”

เยี่ยฉวนแทบไม่อยากเชื่อสายตา

ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย มังกรปีศาจน้อยกลับมาโดยไม่ทราบสาเหตุและพุ่งชนโลงหินที่สุดโถงทางเดินโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยของตนเอง

สตรีพรหมจรรย์งุนงงเช่นกัน นางไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นในขณะนี้

ตัวเลขนับถอยหลังข้างจอผลึกแก้วลดลงเรื่อยๆจนแทบแตะเลขศูนย์ เมื่อถึงตอนนั้นเยี่ยฉวนจะถูกกงล้อสะบั้นมังกรนั่นหน้าตามรอยองค์รัชทายาท หลีก่วงซ่านไปอย่างแน่นอน มังกรปีศาจน้อยพุ่งเข้าชนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมคํารามดุร้ายส่วนหัวของมันเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ําแรง กระแทกทุกครั้งทําให้ทั้งห้องโถงมังกรปีศาจสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนกระทั่งโลงหินเกิดรอยร้าวขึ้น

ตัวเลขนับถอยหลังข้างจอผลึกแก้วถึงศูนย์พอดี…

“ไม่นะ…”

สตรีพรหมจรรย์กรีดร้องอย่างใจสลายพลางหลับตาแน่นไม่กล้ามอง

ทว่าเสียงกงล้อสะบั้นมังกรอันเป็นสัญญาณแห่งความตายกลับไม่ดังขึ้นเช่นเดียวกับเสียงกรีด ร้องของเยี่ยฉวนครู่หนึ่งผ่านไปสตรีพรหมจรรย์จึงลืมตาขึ้นด้วยความสับสนและพบว่าเยี่ยฉวนยังคงนอนอยู่บนพื้นอย่างปลอดภัยกงล้อเหนือร่างของเขาไม่ขยับเขยื่อนแม้แต่น้อย

“เยี่ยฉวน เจ้ายังไม่ตาย…”

หยาดน้ําตาของหงจือเซียไหลรินอีกครั้งหากแต่ครั้งนี้เป็นน้ําตาแห่งความยินดี

“ใช่ ข้ายังไม่ตาย ฮ่าๆๆ!”

เยี่ยฉวนหัวเราะสุดเสียง เขารู้สึกราวกับฝันไปเช่นเดียวกับสตรีพรหมจรรย์ที่แทบไม่เชื่อสาย ตาตัวเอง

“โอ้… ว่าแต่เจ้ามังกรปีศาจน้อยล่ะ?

เยี่ยฉวนกวาดสายตามองหาร่องรอยของมังกรปีศาจน้อยเขารู้ได้โดยไม่ต้องคาดเดาว่ามันยอม บาดเจ็บเพื่อทําลายอาณาเขตห้องโถงมังกรปีศาจและช่วยชีวิตเขาเอาไว้

แว่วเสียงเคลื่อนไหวดังใกล้เข้ามา

มังกรปีศาจน้อยบินตรงมาจากสุดห้องโถงทั้งหัวและลําตัวชุ่มโชกไปด้วยเลือด ฉับพลันมันกลับกลายเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กเมื่อมาถึงข้างกายเยี่ยฉวน “พี่ใหญ่ปลอดภัยดีหรือไม่ขอรับ?”

“หลงเอ๋อร์น้อย… นั่นเจ้าหรือ?!”

เยี่ยฉวนมองไม่เห็นหน้าตาของเด็กน้อยผู้นี้แต่เขาจําเสียงของหลงเอ๋อร์น้อยที่ตกลงไปในหมอกพิษพร้อมกับราชามังกรทองได้ดี

“ใช่ขอรับ! ข้าเองพี่ใหญ่ ข้าเอง!”

หลงเอ๋อร์ก้มลงคว้าโซ่ตรวนรอบกายเยี่ยฉวนเข้าปากก่อนกดลงไป“แกร็ง!” เครื่องพันธนาการที่สตรีพรหมจรรย์และองค์รัชทายาทต้าฉันไม่อาจทําลายได้แม้จะพยายามสุดกําลังกลับถูกกัดขาดอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ยอดเยี่ยม! ฮ่าๆๆ น้องชายข้าช่างเป็นเด็กดีเสียจริง!!”

เยี่ยฉวนลุกขึ้นยืนด้วยความพึงพอใจที่รอดพ้นจากหายนะเสี่ยงตายอย่างหวุดหวิดเขาอุ้มหลงเอ่อร์น้อยขึ้นเพื่อตรวจดูรอยแผลบนศีรษะบาดแผลเหล่านั้นทําให้เขารู้สึกแสบจมูกขึ้นมาด้วยความตื้นตันชายหนุ่มฉีกเสื้อคลุมของตนออกมา ทําแผลให้เด็กน้อยทันที
ในที่สุดเขาก็ได้กลับมาพบกับน้องชายอีกครั้งหลังรอดพ้นจากกงล้อสะบั้นมังกรมาได้

ในยามที่พบกับหลงเอ๋อร์เป็นครั้งแรกเยี่ยฉวนไม่เคยคาดคิดว่าสุดท้ายแล้วเด็กคนนี้จะช่วยชีวิตเขาเอาไว้

หลังช่วยสตรีพรหมจรรย์เรียบร้อยแล้วทั้งสามนั่งลงด้วยกันก่อนที่เยี่ยฉวนจะพยายามทําความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ผลปรากฏว่าหลงเอ่อร์น้อยตกลงไปในหมอกพิษพร้อมกับราชามังกรทองโดยบังเอิญแม้แต่ร่างกายแข็งแกร่งของราชามังกรทองก็ไม่อาจต้านทานฤทธิ์กัดกร่อนของหมอกพิษได้และค่อยๆแข็งที่อเป็นรูปปั้นในที่สุดทว่ามันได้ใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายคํารามเรียกมังกรปีศาจน้อยที่ซ่อนอยู่ในห้องโถงมังกรปีศาจออกมาเพื่อช่วยหลงเอ๋อร์หนึ่งคนหนึ่งมังกรรวมร่างกันในสายหมอกอย่างไม่คาดฝันสายเลือดของหลงเอ๋อร์ได้ถูกปลุกขึ้นและกลายร่างเป็นมังกรปีศาจเพียงคนเดียวในดินแดนรกร้าง

“หลงเอ๋อร์น้อย เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ชาติก่อนเจ้าได้ทิ้งอาณาจักรมังกรปีศาจสวรรค์ในตํานานเอาไว้หรือว่า…”

เยี่ยฉวนขมวดคิ้ว ยิ่งพยายามทําความเข้าใจยิ่งค้นพบว่ายังมีสิ่งที่เขาไม่รู้อีกมาก

“ข้าเองก็ไม่รู้อะไรมากนักขอรับ มีเศษเสี้ยวความทรงจํามากมายผสมปนเปกันในหัวข้าแต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจคือข้าไม่ใช่ผู้ครอบครองอาณาจัก รมังกรปีศาจสวรรค์แห่งนี้แต่เป็นทายาทมังกรปีศาจ เจ้าของอาณาจักรที่แท้จริงได้ตายตกไปแล้วร่างของนางอยู่ในโลงหินนั้นก่อนตายนาง พบว่าตนเองตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจทว่าร่างกายของนางอ่อนแอเกินกว่าจะให้กําเนิดข้าได้ มิหนําซ้ําอาณาจักรมังกรปีศาจสวรรค์ยังขาดแคลนพลังงานที่ข้าจําเป็นต้องใช้ในการเติบโตนางจึงใช้ยอดเคล็ดวิชากักเก็บโลหิตแห่งดวงจิตของข้าไว้และขับไล่ออกจากอาณาจักรส่วนกายหยาบของข้าถูกเก็บรักษาและเติบโตขึ้นที่นี่” หลงเอ๋อร์กล่าวตอบ

“หมายความว่าผู้ครอบครองอาณาจักรมังกรปีศาจสวรรค์คือมารดาของเจ้างั้นหรือ?” เยี่ยฉวนเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นโดยคร่าวแม้จะเหลีอสิ่งที่ยังสงสัยอีกมากท่าทางของหลงเอ๋อร์ทําให้เขาสับสนและจําเป็นต้องสืบเสาะเรื่องราวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ใช่ ท่านแม่ของข้าเป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้อากู้ซื้อไก่ลี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่ามังกรปีศาจ”

หลงเอ๋อร์น้อยลุกขึ้นยืนพร้อมน้ําตาไหลอาบแก้มเขาค่อยๆเดินไปทางโลงหินที่สุดโถงทางเดินและเปิดฝาโลงอันหนักอึ้งออก

เยี่ยฉวนและสตรีพรหมจรรย์เดินตามหลังไปจึงเห็นหญิงงามนอนนิ่งอยู่ในโลงหินร่างไร้วิญญาณของนางไม่เน่าเปื่อยแม้จะผ่านไปเป็นเวลาหลายล้านปีแล้วผิวพรรณเรียบเนียนและเปล่งปลั่งดุจกลีบกุหลาบริมฝีปากยกยิ้มอ่อนหวานและสงบแลดูเหมือนนางเพียงแค่หลับใหลไปและอาจตื่นขึ้นได้ทุกเมื่อเรือนร่างของนางอ่อนช้อยและสง่างามไม่ด้อยไปกว่าหงจือเซีย โชคร้ายที่กลางหน้าอกมีบาดแผลขนาดใหญ่จนน่าตกใจราวกับหัวใจของนางถูกควักออกมาพวกเขาแทบไม่อยากจินตนาการว่านางต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ดุเดือดเพียงใดยามที่มีชีวิตอยู่

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด