Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 220 ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 220 ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 220 ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย

 

เยี่ยฉวนยืนอาบไล้แสงสีขาวที่สาดส่องลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วร่างกายของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

แสงสีขาวกําลังหายไปพร้อมกับความผันผวน ของพลังงานที่รุนแรงในร่างกายของเยี่ยฉวนก็ค่อยๆ ลดลงเช่นกัน หลังจากนั้นการฝึกตนของ เขาเข้าสู่ขั้นซิวฉือระดับห้าเขาไม่ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับหกแต่ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังกลับรู้สึกว่ากําลังเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋อย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้ผิวหนังชั้นนอกของเยี่ยฉวนส่องแสงเรืองรองออกมาราวกับถูกเคลือบไว้ด้วยพลังบางอย่างความขาวใสของสีผิวสามารถเทียบขั้นกับหญิงงามได้อย่างง่ายดายมันไม่มีแม้ริ้วรอยให้รู้สึกระคายตาด้วยซ้ํา

 

หลังจากที่แสงสีขาวจางหายไป เส้นแสงสีแดงพลันปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งและมันระเบิดออก

 

“ดูดซับมัน!”

 

เยี่ยฉวนลืมตาขึ้นพร้อมคํารามเสียงดัง เขาใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์ดูดซับพลังของอสรพิษครึ่งคนตรงหน้าทั้งสิบสองตัวและกระชากพวกมันเข้าสู่โคมบงกชสีครามทั้งหมดนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพปี ศาจของตน

 

แม้ว่าอสรพิษครึ่งคนจะมีไม่มากแต่ว่าพลังของพวกมันไม่อ่อนด้อยอย่างน้อยพวกมันหนึ่งตัวแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับหนึ่ง เช่นนี้หากมีอสรพิษครึ่งคนเป็นพวกพ้องก็เท่ากับว่าเขาจะมีผู้ฝึกตนขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ ระดับหนึ่งถึงสิบสองคน!หากจัดกระบวนทัพเพื่อต่อสู้ แม้แต่โท่วป่าเชียงหรือเฟิงเหรินก็ไม่อาจบุกเข้ามาได้แม้เพียงครึ่งก้าว!

 

กระดานหมากรุกเศษเสี้ยวแดนสวรรค์นั้นอันตรายมากก็จริงแต่ผลตอบแทนของมันก็น่าเหลือเชื่อด้วยเช่นกัน

 

ทันทีที่โยนอสรพิษครึ่งคนทั้งสิบสองตัวเข้าไปในโคมบงกชสีครามเยี่ยฉวนรับรู้ได้ถึงพลัง ของยันต์อสรพิษครึ่งคนที่กระตือรือร้นขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา แต่ก่อนที่จะได้ตรวจสอบมันอย่างละเอียดแสงสีแดงพลันปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับคนทั้งกลุ่มหายวับไปในพริบตาพวกเขามาหยุดยนอยู่ที่โลกของกระดานหมากรุกอีกแห่งหนึ่ง

 

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นกระดานหมากรุกที่คุ้นเคยดี หน้าจอก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาเคยพบเห็นมาก่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน

 

ในกระดานหมากรุกที่สอง สํานักหมอกเมฆาเสียศิษย์ไปสามคนดังนั้นตอนนี้พวกเขาเหลือ เพียงสิบสองคนเท่านั้น ในกระดานหมากรุกที่สามทั้งสิบสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายโดยแต่ละฝ่ายจะมีผู้เล่นหกคนยืนอยู่ตรงข้ามกัน… ทั้งหมดถูกจับแยกออกจากกันด้วยแม่น้ําอาณาเขต

 

ในกระดานหมากรุกตัวแรก ตัวหมากทั้งหมดเป็นรูปปั้นในกระดานหมากรุกที่สอง ตัวหมากทั้ง หมดเป็นอสรพิษที่มีชีวิตดั่งเช่นมนุษย์แต่ในกระดานหมากรุกที่สาม… ไม่มีรูปปั้นไม่มีสัตว์ปีศาจมีเพียงศิษย์แห่งสํานักหมอกเมฆาเท่านั้นที่จะต้องฆ่ากันเอง! ถ้าหากต้องการเอาชนะและผ่านพ้น ไปนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องสังหารอีกฝ่ายให้จบสิ้นเพื่อนพี่น้องที่เคยหยอกล้อและร่วมทุกข์สุขกันมาตลอดทางในเวลานี้กลับกลายเป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์แล้ว!

 

ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ

 

ทุกคนปิดปากสนิท ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยแม้แต่คำเดียวบรรยากาศตึงเครียดขึ้นทุกขณะมันเงียบเสียจนทุกคนเริ่มได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน 

 

ส่วนเยี่ยฉวนก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กันสติของเขาดิ่งวูบเข้าสู่ภวังค์ไร้ทางออก

 

เจ้าอ้วนยังยืนอยู่เคียงข้างเขาแต่จซื้อเจียกลับอยู่ฝั่งตรงข้าม ยิ่งไปกว่านั้นนางยังยืนอยู่ในตําแหน่งขุนอีกด้วยคราวนี้หากเขาต้องการที่จะผ่านพ้นไป เขาจะต้องกําจัดฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดหกคนแล้วเขาจะสามารถสังหารนางได้อย่างไร?

 

ความตึงเครียดเกาะกุมหัวใจของจซื้อเจียเช่นกันเมื่อเห็นเยี่ยฉวนที่ยืนอยู่ไกลๆนางรู้สึกพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

 

พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อยก่อนจะมีกระดานขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเหนือศีรษะของทุกคนหมากรุกสีแดงและดําเด่นชัดอยู่บนนั้น นอก จากนี้ยังมีจอคริสตัลขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างอีกด้วยบนจอมีการนับเวลาถอยหลัง ห้าสิบ… สี่สิบ เก้า…สี่สิบแปด ด้านข้างของมันมีอักษรสีแดงเด่นเช่นเป็นพิเศษคือคําว่าความโศกเศร้าของมนุษย์!

 

กระดานหมากรุกแรกชื่อว่าโลกาวิกลกระดานหมากรุกที่สองชื่อว่าเศษเสี้ยวแดนสวรรค์กระดานหมากรุกที่สามความโศกเศร้าของมนุษย์!

 

มันถูกเปิดการใช้งานแล้ว ทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้นแต่ยังไม่มีฝ่ายใดยอมขยับเขยื้อน

 

ในตอนนี้ฝ่ายสีดําต้องเริ่มเดินก่อน แต่จซื้อเจียยังคงหยุดนิ่งเพียงเหม่อมองจอเหนือศีรษะตัวเองด้วยความลังเลส่วนฝ่ายสีแดงด้านศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาล้วนแต่ตกอยู่ในความหวาดหวั่นร่างกายของพวกเขาชุ่มโชกด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ ด่านนี้เป็นเช่นเดียวกันกับทั้งสองด่านก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สามารถตัดสินใจเองได้ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือตายตกล้วนแต่ขึ้นอยู่ในมือของจูซื้อเจียและเยี่ยฉวนเท่านั้น

 

ติ้ง! เสียงใสดังก้องเมื่อเลขบนหน้าจอนับถอยหลังถึงศูนย์

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากฝั่งของหมากรุกสีดําศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาคนหนึ่งร้องตะโกนออกก่อนที่ร่างกายจะระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงเป็นที่ประจักษ์ว่าหากถึงเวลาแล้วไม่ยอมต่อสู้ก็จะต้องเสียหมากไปหนึ่งตัวนั่นหมายถึงชีวิตของหมากตัวนั้น

 

ในตอนนี้ทั้งฝั่งแดงและดําศิษย์แห่งสํานักหมอกเมฆาล้วนหลั่งเหงื่อออกอย่างไม่อาจควบคุม

 

กระดานหมากรุกนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของเหล่าศิษย์แห่งสํานักหมอกเมฆาทั้งหมด และยังมีเวลาที่จํากัดอีกด้วย

 

เยี่ยฉวนเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดตอนนี้ถึงคราวที่เขาต้องเดินหมากแล้ว

 

“ศิษย์พี่… ศิษย์พี่ใหญ่…”

 

ในฝั่งของหมากสีแดง ศิษย์ทุกคนล้วนแต่เร่งเร้าต้องการที่จะสังหารพวกพ้องร่วมสํานักอย่างไม่ลังเลหากไม่ทําเช่นนั้นพวกเขาทุกคนต้องตายและไม่มีใครอยากยอมรับชะตากรรมนั้น!

 

เวลาเริ่มนับถอยหลังจากห้าสิบอีกครั้งแต่ตัวเลขกลับรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อเห็นอย่างนั้นทุกคนต่างรู้สึกกังวลและเริ่มวิตกราวกับหัวใจถูกผู้อื่นถือครองเอาไว้ชีวิตของพวกเขากําลังแขวนอยู่บนเส้นดายบางๆ เท่านั้น

 

เมื่อตัวเลขนับถอยหลังถึงเก้า เยี่ยฉวนก็เริ่มเคลื่อนไหวเขากดช่องว่างเพื่อเดินหมากศิษย์ของสํานักหมอกเมฆากําลังข้ามแม่น้ําอาณาเขตมาเพื่อปะทะกับอีกฝ่ายในทันใดนั้นเองหมากสีแดงระเบิดออกกลายเป็นผุยผงอย่างไม่เต็มใจ 

 

“ไม่! ข้าไม่ได้ต้องการข้าเจ้า… เหลียวจอ… ข้าไม่ได้ตั้งใจอย่าได้กล่าวโทษข้าเลย… ข้าไม่ตั้งใจ…”

 

ศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาฝ่ายสีดําถึงกับหลั่งน้ําตาออกเหลียวซื้อที่ตายตกไปคือพี่ชายที่แสนดีของเขาทั้งสองเข้าสํานักมาพร้อมกันและต่อสู้ เคียงบ่าเคียงไหล่ภายในอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้แต่สุดท้ายแล้วเขากลับไม่ได้ตายตกด้วยฝีมือของสัตว์ปีศาจแต่กลับตายด้วยน้ํามือของพี่น้องร่วมสาบาน แม้ว่าจะไม่ตั้งใจแต่ร่างกายของเหลียวชื่อที่แตกสลายไปต่อหน้าต่อตาทําให้จิตใจของเขาไม่อาจแบกรับความรู้สึกผิด ความ สิ้นหวังฉายขึ้นในแววตาอย่างชัดเจนร่างกายสั่นสะท้านพร้อมกับทรุดลงบนพื้นแต่หลังจากนั้นไม่ นานเขาก็ถูกหมากฝ่ายสีแดงสังหารไปอย่างรวด

เร็ว

 

จซื้อเจียเองก็เริ่มด้านหมากแล้วเช่นกัน

 

แม้ว่ากระดานหมากรุกที่หนึ่งและสองจะเป็นสิ่งที่พร้อมจะพรากชีวิตของทุกคนไปแต่คู่ต่อสู้เป็นเพียงรูปปั้นหรืออสรพิษครึ่งคนเท่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะตายตกแต่ก็ไม่ใช่ในน้ํามือของพวกพ้อง แต่ตอนนี้ศิษย์ในสํานักเดียวกันต้องทําฟันกันเองไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะแต่คนที่ตายตกคือมิตรสหาย…

 

ท้ายที่สุดแล้วความน่าสะพรึงและโหดเหี้ยมของกระดานหมากราชาปีศาจก็ปรากฎออก

 

โลกาวิกล เศษเสี้ยวแดนสวรรค์ ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย…ทั้งหมดล้วนคือความหมายของความโศกเศร้าของมนุษย์ตอนนี้ทุกคนเริ่มสัมผัสได้ถึง ความหมายของมันแล้ว

 

ศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาเริ่มล้มลงที่ละคนในที่สุดก็เหลือเพียงสี่คนเท่านั้นบนกระดานหมา กรุกขนาดใหญ่นี้ทางเยี่ยฉวนเหลือเจ้าอ้วนส่วนจซื้อเจียเหลือเพียงศิษย์ทั่วไปของสํานัก

ถึงศึกคราวนี้จะไม่มีผู้ชนะ แต่สุดท้ายแล้วก็จะมี เพียงหนึ่งคนที่อยู่รอดได้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ…เขาคนนั้นก็ไม่อาจมีความสุขกับพรที่ได้รับ

 

“ศิษย์พี่ใหญ่… ข้าไม่อยากตาย ได้โปรดเถิดศิษย์พี่ใหญ่…”

 

เจ้าอ้วนเริ่มคร่ําครวญพร้อมกับร่างกายที่สั้นสะท้านเหล่าศิษย์ที่ตายแล้วก็จบสิ้นไป แต่สําห รับศิษย์ที่ยังไม่ตายและต้องเห็นพวกพ้องตายตกไปทีละคน มันยิ่งทรมานและเจ็บปวดกว่าหลายเท่าอีกทั้งยังต้องทุกข์ทนกับความตายของตัวเองที่กําลังจะมาถึงด้วย…

 

กางเกงของเจ้าอ้วนเปียกแฉะและขาทรุดลงกับพื้นเขาคร่ําครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงได้สติว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดบนกระดานและเขาก็ยังไม่ตาย เช่ นนี้จึงเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเยี่ยฉวนข้ามแม่น้ําอาณาเขตไปแล้วสําหรับเยี่ยฉวนแล้วมันไม่ยาก เลยที่จะส่งเจ้าอ้วนไปต่อสู้แต่เขากลับไม่ทําเช่นนั้นเขาเลือกที่จะต่อสู้แทนเจ้าอ้วนและสังหารศิษย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างจซื้อเจียและจากนั้นเขาจึงยืนรอคอยจุดจบเช่นเดียวกับศิษย์คนอื่นๆ

 

“ไม่! ศิษย์พี่ใหญ่อย่าเข้ามา อย่า…”

 

จซื้อเจียหลั่งน้ําตาออกเมื่อเห็นว่าเยี่ยฉวนยิ่ง มายิ่งใกล้น้ําตายิ่งทะลักออกเมื่อคิดถึงวันวานที่ เคยอยู่ร่วมกันทั้งการที่เขาคอยหยอกล้อทั้งเรื่องที่เขาทําให้นางโกรธจนตัวสั่นทั้งการตีก้น… นางจดจําได้ทุกสิ่ง

 

เมื่อก่อนนางคิดว่าคงไม่อาจรักผู้ใดเพราะตั้งแต่เด็กนางไม่เคยมีหัวใจให้กับใครมาก่อนนางเป็นเพียงหญิงสาวที่เต็มไปด้วยพลังและ ความดื้อรั้น ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่นและสนุกกับการเป็นอิสระและยังคิดว่าจะอยู่คนเดียวไปจนตราบสิ้นลมหายใจ

 

แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าสิ่งที่คิดทั้งหมดผิดมหันต์นางคิดว่าภายในใจมีเพียงท่านปู่คนเดียวแต่ท้ายที่สุดเยี่ยฉวนกลับถือครองไว้ได้แม้ว่าจะไม่มีคํา สัญญาหรือสารภาพใดระหว่างทั้งสองคนแต่นางก็เข้าใจอย่างท่องแท้ในตอนนี้ว่าหลงรักเยี่ยฉวนแล้วหมดหัวใจ

 

ดวงใจข้า… แล้วเช่นนี้ข้าจะสังหารท่านได้อย่างไร?

 

จซื้อเจียจับจ้องเยี่ยฉวนพร้อมกับน้ําตาที่หลั่งนอง

 

โลกาวิกล เศษเสี้ยวแดนสวรรค์ ไม่ข้าก็เจ้าที่ตาย… กระดานหมากรุกที่สามคือไม่ใช่ความโศกเศร้าของมนุษย์แต่เป็นความไม่สมหวังในรักต่างหาก!

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด