Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 239 อาณาจักรสวรรค์ย่อส่วน
บทที่ 239 อาณาจักรสวรรค์ย่อส่วน
“เจ้าเป็นใครในตระกูลหลง? ชื่อแซ่ใด?”
เยี่ยฉวนมองดูชายชุดคลุมสีดําที่กําลังกระวนก ระวายด้วยสายตาเย็นชาพร้อมเข้าประเด็นทันที “บอกมาว่าผู้ใดเป็นคนส่งทูตแห่งโลกันตร์ไปยังตระกูลหลงเพื่อก่อเรื่อง? ใครคือนายของเจ้า? มีเป้าหมายใดกันแน่?”
เสียงของเยี่ยฉวนแผ่วลงกะทันหันราวกับดังแว่วมาจากเส้นขอบฟ้าไกล สีหน้าของชายชุดคลุมสีดําแลดูมึนงงและแววตากลับกลายเป็นว่างเปล่า
เคล็ดวิชาเสียงปีศาจ!
เยี่ยฉวนใช้เคล็ดวิชาเพื่อสอบสวนตัวตนของชายผู้นี้โดยไม่สนว่าจะไปกระตุ้นอาณาเขตของครรลองมังกรปีศาจหรือดึงดูดมังกรขนาดใหญ่ให้เข้ามาโจมตีหรือไม่
หากทูตแห่งโลกันตร์แทรกซึมเข้าไปในตระกูลหลงได้จริง เป้าหมายของเขาเมื่อคํานึงถึงสถานการณ์ของสํานักหมอกเมฆาก็มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการล้มล้างตระกูลหลงไปพร้อมๆกับควบคุมตระกูลขุนนางที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลเช่นตระกูลมู่หรง ยังไม่รวมถึงการยื่นมือเข้าไปในสํานักฝึกตนใหญ่ๆ หลายสํานักเพื่อพยายามควบคุมทุกสิ่ง แสดงให้เห็นว่าผู้อยู่เบื้องหลังทูตแห่งโลกันตร์นั้นยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเกินคาด
เยี่ยฉวนไม่อาจเปิดทางให้อีกฝ่ายได้เมื่อล่วงรู้ว่ามีอํานาจใต้ดินอันน่าเกรงขามเช่นนี้ อย่างน้อยก็จะไม่ยอมปล่อยให้ทูตแห่งโลกันตร์กลับมาเป็นภัยคุกคามสํานักหมอกเมฆาได้อีก ยามที่ราชาโอสถหัตถ์วิญญาณก่อตั้งสํานักหมอกเมฆา เยี่ยฉวนได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจมหาศาลจนแทบจะกล่าวได้ว่าเขาคือผู้สร้างสํานักแห่งนี้ขึ้นมาด้วยตนเอง จึงทนเห็นสํานักหมอกเมฆาตกไปเป็นหุ่นเชิดของผู้อื่นอย่างไร้ทางสู้ไม่ได้
“ข้า…ข้ามีนามว่าหลงอู่ เป็นข้ารับใช้ชั้นนอกของตระกูลหลงหู…”
ชายชุดดําหวาดผวาจากการข่มขวัญของเยี่ยฉวนอีกทั้งยังสับสนจากการโดนเคล็ดวิชาเสียงปีศาจเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัวจึงเผลอเอ่ยนามของตนออกมา แต่เมื่อจะปริปากบอกชื่อของผู้ที่ส่งเขามายังตระกูลหลงกลับฟื้นคืนสติขึ้น จิตใต้สํานึกอันแรงกล้ากระตุ้นให้เขาต่อต้านเสียงปีศาจของเยี่ยฉวนตามสัญชาตญาณ!
เยี่ยฉวนย่อตัวลงและเหวี่ยงกําปั้นใส่อกข้างซ้ายของอีกฝ่ายทันใด!
พลังของหมัดไม่หนักไม่เบาทว่ารุนแรงพอจะทําให้อวัยวะภายในแตกจนกระอักเลือด พลังปราณในร่างแตกซ่านและปั่นป่วนจนเขาไม่อาจต้านทานเสียงปีศาจได้อีกต่อไป หากเยี่ยฉวนออกแรงมากกว่านี้เพียงนิดร่างของเขาคงระเบิดออกและตายคาที่ และหากออกแรงน้อยกว่านี้เพียงนิดก็คงไม่บรรลุผลตามต้องการ
“คายออกมา! หูอะไร? ใครส่งเจ้ามายังตระกูลหลง?” เยี่ยฉวนจับจ้องชายชุดดํานามหลงอู่พลางรีบตีเหล็กตอนยังร้อน
สายตาของหลงอู่กลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง ปากของเขาขยับอ้าโดยไม่รู้ตัว ทว่าเมื่อจะเอ่ยนามของผู้บงการออกมากลับยกมือขึ้นกุมศีรษะและกรีดร้องลั่น ใบหน้าบิดเบี้ยวและแขนขาชักกระตุกอย่างรุนแรง!
ไม่สิ!
เคล็ดวิชาเสียงปีศาจไม่มีผลข้างเคียงเช่นนี้!
เยี่ยฉวนรีบพุ่งเข้าไปผลักร่างของชายชุดดําที่กําลังชักดิ้นชักงอให้นอนลง เขาอยากช่วยชีวิตหลงคู่ไว้แต่กลับไม่ทันการณ์…
แขนขาของหลงคู่ยังคงกระตุกเกร็ง…ทว่าเขาไม่หายใจอีกต่อไป ชายผู้นี้ตายตกไปพร้อมดวงจิตที่แหลกสลายในชั่วพริบตา!
อาณาเขต!
นี่คืออาณาเขตควบคุมดวงจิตที่ทรงพลังยิ่ง เมื่อผู้ที่มีอาณาเขตชนิดนี้เอ่ยปากเผยความลับจะถูกพลังกําจัดทันที!
เยี่ยฉวนเผยสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อเกิดความรู้สึกหนักอึ้งในจิตใจ
เขาเคยรับมือกับอาณาเขตชนิดนี้มาก่อน ในยามที่เขายังเป็นมหาปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์ ชายหนุ่มใช้มันเพื่อควบคุมจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย แม้พลังของอาณาเขตนี้จะอัศจรรย์ยิ่งหากแต่ต้องสูญเสียพลังชีวิตมหาศาลทุกครั้ง
ผู้อยู่เบื้องหลังทูตแห่งโลกันตร์เป็นมือฉมังขั้นมหาปราชญ์ฝึกหัดหรือขั้นมหาปราชญ์หรืออย่างไร?!
เยี่ยฉวนตกตะลึงเมื่อรู้ว่าเขาประเมินอํานาจที่อยู่เบื้องหลังทูตแห่งโลกันตร์ต่ําไป ศัตรูที่มองไม่เห็นผู้นี้แข็งแกร่งกว่าเฟิงเหรินและอาวุโสลําดับสามไปเยี่ยนหูมาก แม้แต่ราชินีอสูรเกศาขาวแห่งสํานักอสูรเมฆาอาจยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ําสมเนื้อ!
“หลงอู่…”
“ไม่นะ ท่านพี่อู่…”
บรรดายอดฝีมือตระกูลหลงที่กําลังต่อสู้อย่างสุดกําลังเหลือบมาเห็นเหตุการณ์ข้างหลัง และพุ่งเข้ามาพร้อมกันอย่างดุดันพร้อมจิตสังหารพุ่งสูง หมายจะสังหารเยี่ยฉวน วินาทีนี้แม้แต่ฝูงมังกรมหึมาก็ไม่อาจขวางพวกเขาได้!
ในตอนแรกไม่มีผู้ใดสนใจเด็กหนุ่มขั้นซิวฉือระดับเจ็ดผู้ต่ําต้อยที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา จนกระทั่งความตายของหลงอู่ทําให้พวกเขาตกตะลึงและโกรธจัด
“พี่ใหญ่เยี่ยฉวน…”
หลงเอ๋อร์ร้องด้วยความหวาดกลัว เด็กน้อยเผยสีหน้าซีดเผือดและตัวสั่นระริกเมื่อยอดฝีมือตระกูลหลงกว่าสิบคนกําลังพุ่งตรงเข้ามา!
บรรดายอดฝีมือตระกูลหลงแข็งแกร่งเสียจนเหล่ามังกรดุร้ายก็ไม่อาจขวางกั้น ต่อให้มีเยี่ยฉวนสักสิบคนก็หยุดพวกเขาไว้ไม่ได้… หากเยี่ยฉวนตาย หลงเอ๋อร์ก็ไม่พ้นต้องตายตกไปตามกัน หรืออาจถูกทรมานอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป!
เด็กน้อยไม่เกรงกลัวอาณาเขตของอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้หากแต่เกรงกลัวเหล่าผู้เดินทางที่บุกรุกเข้ามา เพราะมนุษย์คือสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด!
“วิ่ง!”
เยี่ยฉวนตะโกนลั่นพร้อมอุ้มหลงเอ๋อร์ขึ้นหันหลังหนีโดยไม่ลืมคว้าผลึกศิลามังกรจากอกของชายชุดดํามาด้วย
“ฟื้ว!” เสียงแสบแก้วหูดังแหวกอากาศขึ้น ราวกับมีลูกศรพุ่งตรงมากลางหลังของเยี่ยฉวน
ยอดฝีมือตระกูลหลงผู้หนึ่งน้าวศรยิงตรงมา… คันธนูของเขามีชื่อของปรมาจารย์ขัดเกลาศาสตรา เหมิงฮั่น” สลักอยู่ ส่วนลูกธนูนั้นขึ้นชื่อด้านความแหลมคมจนสามารถเจาะทะลุได้แม้แต่หัวของมังกรด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง มันพุ่งไปถึงหลังของเยี่ยฉวนในชั่วพริบตา!
คอของเยี่ยฉวนยุบลงด้วยกระแสลมแรงจากข้างหลัง
“พี่ใหญ่ระวัง!”
หลงเอ่อร์กรีดร้องเมื่อหันไปเห็นลูกธนูอันน่าเกรงขามแต่ไกล
ฉับพลันเยี่ยฉวนออกแรงที่ปลายเท้าและพุ่งตัวไปยังหมอกพิษสองข้างครรลองมังกรปีศาจ! เสียงกรีดร้องดังตามมาจากเบื้องหลัง เหล่ายอดฝีมือตระกูลหลงที่ไล่ตามพากันชะงักฝีเท้าอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
เมื่อสัมผัสหมอกพิษ เลือดเนื้อของพวกเขาจะถูกกัดกร่อนจนเหลือเพียงโครงกระดูก จะมีผู้ใดกล้าพุ่งเข้าไปในหมอกพิษเช่นนี้ต่อให้ไร้ซึ่งหนทางหนีก็ตาม?!
เยี่ยฉวนคือผู้กล้าคนนั้น… เขาหายไปท่ามกลางม่านหมอกพิษอย่างรวดเร็ว
“ไอ้บ้านั่น!”
“บ้าจริง! ไอ้หมอนั่นมันมาจากไหน? หลงอู่เองก็ประมาทเกินไป เป็นโชคร้ายของเขาจริงๆ ที่ต้องต่อกรกับคนบ้าเช่นนี้!
เหล่ายอดฝีมือพากันสาปแช่งอย่างขุ่นเคือง พวกเขาฝังร่างของหลงอ่อย่างเร่งรีบก่อนมุ่งหน้าไปยังจุดสิ้นสุดครรลองมังกรปีศาจต่อไป
ครู่หนึ่งต่อมาเยี่ยฉวนจึงแบกหลงเอ๋อร์ออกมาจากม่านหมอกพิษพลุ่งพล่านและซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่ หลงเอ๋อร์ไม่ได้รับผลกระทบใดในขณะที่เยี่ยฉวนรู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งร่าง อีกทั้งยังเกิดรอยแดงเล็กๆ ที่ทําให้คันขึ้นเต็มตัว เคราะห์ดีที่อาการเหล่านี้ไม่รุนแรงมากนัก ร่างกายของเขาทนทานต่อฤทธิ์กัดกร่อนของหมอกโลหิตหลังการขัดเกลาแหวนมังกรปีศาจ
“ตระกูลหลงแห่งเมืองหลวง…”
เยี่ยฉวนพึมพําขณะเฝ้ามองเหล่ายอดฝีมือตระกูลหลงจากไปก่อนเปลวเพลิงสูงสามฟุตจะปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ ชายหนุ่มหยดโลหิตลงไป เพื่อขัดเกลาผลึกศิลามังกร แสงสีฟ้าพลันส่องเรืองรองรอบรูปปั้นมังกรมีปีกตัวเล็กก่อนที่มันจะมีเลือดเนื้อขึ้นมาเสมือนมีชีวิตและกระพือปีกบินวนเป็นวงกลมเหนือศีรษะของเขา จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นดวงแสงสีฟ้าลอยเข้าไปในร่างของเยี่ยฉวน… ก่อเกิดภาพมังกรมีปีกตัวเล็กบนยันต์มังกรปีศาจ
“เอ๊ะ… ยันต์มังกรปีศาจกลืนกินมันเข้าไปงั้นรึ? หรือการฝึกเคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์จะไม่เพียงสร้างยันต์กลืนกินสวรรค์จําลอง แต่ยังสร้างอาณาจักรสวรรค์ที่มีโลกอีกใบอยู่ภายในด้วย? ยันต์กลืนกินสวรรค์ใบล่าสุดคืออาณาจักรสวรรค์ย่อส่วนหรือนี่?”
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น..
เขาจะสามารถก่อรวมยันต์กลืนกินสวรรค์ได้ถึงหนึ่งแสนแปดพันใบหลังการฝึกตนสิ้นสุด หากการคาดเดาถูกต้อง ชายหนุ่มจะมีแบบจําลองถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นและอาณาจักรสวรรค์อีกหนึ่งแสนแปดหมื่น!
ยิ่งพยายามหาคําตอบก็ยิ่งพบว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย เคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์ จากสุสานเทพเจ้านั้นลึกลับซับซ้อนกว่าที่คาดไว้ แม้จะมีประสบการณ์จากชาติที่แล้วและการฝึกตนขั้นซิวฉือระดับเจ็ดก็ยังรู้เพียงปลายยอดภูเขาน้ําแข็งเท่านั้น…
คอมเม้นต์