Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 249 บรรยากาศคุกคาม
บทที่ 249 บรรยากาศคุกคาม
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทําให้เยี่ยฉวนไม่มีเวลา ลอบโจมตีจากในม่านหมอกพิษข้างครรลองมังกรปีศาจอีกต่อไปและตัดสินใจเผยตัวออกมา แม้ขั้น การฝึกตนของเขาจะไม่สูงนักแต่กลับให้ความรู้สึกคุกคามอย่างไม่มีเหตุผล
ผู้คนสัมผัสได้ถึงออร่าอันตรายที่แผ่ออกมาจาก ยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งหกภายในร่างของเยี่ยฉวนทุกคนที่ฝ่าฟันมาถึงที่นี่ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่มี ประสาทสัมผัสและสัญชาตญาณดีเยี่ยม
“คุณชายเยี่ย…”
ปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งร้องขึ้นพร้อมกัน แววตาทอประกายด้วยความตื่นเต้น
ทั้งสองคิดว่าครั้งนี้คงต้องตายเสียแล้วเมื่อเห ล่านักเดินทางที่มุงดูอยู่ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยแม้แต่น้อยทว่าเยี่ยฉวนที่หายตัวไปไม่ทราบข่าวคราว ตั้งแต่เข้ามายังอาณาจักรสวรรค์กลับปรากฏกายขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ!
เยี่ยฉวนเดินมาข้างหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง ฝีเท้า ของเขามั่นคงทุกย่างก้าว
ชายหนุ่มได้ข่มพลังงานและออร่าจากยันต์กล นกินสวรรค์เอาไว้ แต่ท่าทีไม่เกรงกลัวต่อภัยนตรายใดและจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาโดยไม่รู้ตัว ยังคงทําให้ผู้คนหวั่นกลัว โดยเฉพาะโท่วป่าเซียงที่กําลังเฝ้ามองเยี่ยฉวนอย่างใกล้ชิด เขาตกตะ ลึงเมื่อพบว่าความรู้สึกที่ได้รับจากเยี่ยฉวนแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งที่พบกัน
ในการเผชิญหน้ากันครั้งแรกเมื่อเขานําศิษย์ สํานักเครื่องนิลกลุ่มใหญ่ไปเพื่อประกาศศักดาเยี่ยฉวนเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นอเจอที่ไร้ค่าและยัง ไม่บรรลุขั้นซิวฉือ ในยามนั้นโท่วป่าเซียงสามารถบดขยี้อีกฝ่ายให้ตายด้วยปลายนิ้วอย่างง่ายดาย จากนั้นเยี่ยฉวนจึงค่อยๆ แสดงทักษะชั้นยอดออกมาในการประลองครั้งยิ่งใหญ่ แต่ถึงกระนั้นขั้น การฝึกตนของเขาก็ยังไม่โดดเด่นนัก บัดนี้แม้เขายังไม่บรรลุถึงขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋แต่ไม่รู้ว่า เมื่อใดที่เด็กหนุ่มให้ความรู้สึกลึกล้ําเกินคาดเดาและยากจะเอาชนะได้อีกทั้งขั้นการฝึกตนที่ก้าว หน้าอย่างรวดเร็วของเขา.. มันไม่เร็วเกินไป หน่อยหรือ?!
โท่วป่าเซียงไม่เอ่ยคําใดเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกไร้พลัง อํานาจ ไม่ใช่เพราะการฝึกตนของเยี่ยฉวนก้าว หน้าเร็วเกินไปหากแต่เป็นเพราะเยี่ยฉวนเยาว์วัย กว่าเขามาก ชายชราไม่อาจหมุนตามการเปลี่ยนแปลงของดินแดนรกร้างได้ทัน
“ไอ้หนู เจ้าคือศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนแห่งสํานัก หมอกเมฆาใช่หรือไม่?”
องค์รัชทายาทคาดเดาตัวตนของเยี่ยฉวนทันที ออร่าอันตรายที่แผ่ออกมาจากเยี่ยฉวนทําให้เขารู้สึกสับสนด้วยไม่รู้ว่าสัมผัสนี้มาจากที่ใด ถึงกระนั้ นก็ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าที่ดูถูกเหยียดหยาม
องค์ชายรัชทายาทกังวลเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายอาจ มีกําลังคนมากมายติดตามมาด้วย เมื่อเยี่ยฉวนมา หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเพียงลําพังจึงคลายความวิตก ไปได้
ต่อให้เยี่ยฉวนจะมีทักษะพิเศษเฉพาะตัว แต่ ศิษย์รุ่นเยาว์ขั้นซิวฉือระดับเจ็ดจะแข็งแกร่งได้สักเท่าใดกันเชียว? ปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งผู้
บรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ยังไม่อาจต้านทาน เขาได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว แล้วผู้ฝึกตนขั้นซิวฉือผู้ต่ําต้อยจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร?
องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันยกยิ้มเย็นเยียบพลาง ทอดมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาโหดเหี้ยม
เยี่ยฉวนมาได้จังหวะเหมาะ เขาจะได้จัดการทั้ง หมดให้สิ้นซากในคราเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายภาคหน้า องค์รัชทายาทออกแรงที่มือทั้ง สองข้างเพื่อสังหารปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งโดยไม่รอฟังคําตอบจากเยี่ยฉวน “ฮ่าๆๆ มาถูกเวลาพอดีเลยไอ้หนูเจ้าทั้งสามจะได้ตายตกไปตามกันโดยไม่รบกวนเวลาอันมีค่าขององค์รัช ทายาทไปมากกว่านี้ ฮ่าๆ”
ฉับพลันร่างของเยี่ยฉวนพร่าเลือนและหายวับ ไปต่อหน้าต่อตาทุกคน วินาทีต่อมาจึงผ่านทหารอารักขาไปปรากฏกายตรงหน้าองค์รัชทายา ทด้วยเคล็ดวิชาไร้เทียมทานและเหวี่ยงกําปั้นเข้าใส่อย่างรุนแรง
หมัดนี้แลดูธรรมดาและพละกําลังไม่รุนแรงเห มือนหมัดจักรพรรดิขององค์รัชทายาท แต่แล้วม่านตาของทุกคนที่เฝ้าดูอยู่พลันต้องหดตัวด้วย ความตกตะลึง…
ฝูงมังกรเจ็ดถึงแปดตัวปรากฏกายขึ้นในอากาศ และพุ่งเข้าใส่องค์รัชทายาทแห่งต้าฉินพร้อม เสียงคํารามก๊กก้อง!หมัดของเยี่ยฉวนพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึงจนเหล่ายอดฝีมือที่ห้อมล้อมพระองค์อยู่เตรียมตั้งรับไม่ทันการณ์ขึ้นเขาพยายามฆ่าปีศาจทั้งสองต่อไปคงได้รับบาดเจ็บเป็นแน่
องค์รัชทายาทเผยสีหน้าเย็นเยียบ เขาไม่มีทาง เลือกนอกจากต้องปล่อยปีศาจเพลิงและปีศาจ เขาโค้งไปก่อนก้าวไปข้างหน้าพร้อมออกหมัด สวนเต็มแรง ตาต่อตาฟันต่อฟัน!
หมัดทั้งสองปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมส่ง คลื่นกระแทกออกมาจนฝูงชนไม่อาจลืมตาได้
ร่างวิญญาณมังกรในอากาศพลันหายวับไป เยี่ยฉวนส่งเสียงครวญครางแผ่วเบา โลหิตไหลริ นออกจากมุมปากเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์รัชทายาทแห่งต้าฉินในการประลองตัวต่อตัวจริงๆ ยอดฝีมือฝั่งองค์รัชทายาทพุ่งเข้ามาหมายจะฉวยโอกาสจับเป็นเยี่ยฉวนแต่ต้องประหลาดใจเมื่อชาย หนุ่มหายตัวไปโผล่หลังองค์รัชทายาทพร้อมปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งที่บาดเจ็บต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีกครั้ง
องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันหันกลับไปประจันห น้าเยี่ยฉวนด้วยสายตาเยือกเย็น “ไม่เลวนี่… ถึงขั้ นการฝึกตนของเจ้าจะไม่เอาไหนแต่เคล็ดวิชาไร้เทียมทานของเจ้าช่างสมบูรณ์แบบสมกับเป็น ศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาแต่ฝีมือเพียงเท่านี้ก็ยังห่างไกลจากการเป็นคู่ต่อสู้ขององค์รัช ทายาทนัก จงให้รางวัลตัวเองด้วยการยืดอกยอมรับความตายแต่โดยดีฮ่าๆๆ”
องค์ชายรัชทายาทแห่งต้าฉินระเบิดหัวเราะลั่น ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเหี้ยมเกรียมมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อครู่เขาไม่ทันตั้งตัวจึงเปิดโอกาสให้เยี่ยฉวน ใช้เคล็ดวิชาไร้เทียมทานจู่โจมได้ แต่ตอนนี้เขา ตื่นตัวอย่างมากทําให้สถานการณ์พลิกผัน ลําพัง ตัวเขาสามารถสังหารเยี่ยฉวนและพรรคพวกอีก สองได้อย่างง่ายดายโดยเหล่ายอดฝีมือแห่งวังห ลวงที่ห้อมล้อมอยู่ไม่จําเป็นต้องลงมือด้วยซ้ํา
ทันใดนั้นแสงสีครามส่องประกายแวววาวขึ้นต่อ หน้าฝูงชน
ฝูงอสรพิษครึ่งคนพลันปรากฏขึ้น! สองตัว… สามตัว.. มีอสรพิษครึ่งคนท่าทางดุร้ายและน่า สะพรึงกลัวอยู่เคียงข้างเยี่ยฉวนถึงสิบสองตัว!ออร่าของพวกมันไม่รุนแรงเท่าออร่าจากรูปปั้นมังกรบนครรลองมังกรปีศาจหากแต่แปลกประหลาดเสียยิ่งกว่าเพียงลําตัวที่เลื้อยไปมาก็ทําให้ผู้คน ขวัญผวา
นี่… ไม่ใช่ฝูงอสรพิษครึ่งคนจากกระดานหมาก ราชาปีศาจหรอกหรือ? พวกมันมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่พร้อมรับฟังคําสั่งของเยี่ยฉวนได้อย่างไร?!
กลุ่มผู้เดินทางที่ผ่านกระดานหมากราชาปีศา จมาก่อนต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเช่น เดียวกับโท่วป่าเซียง
เสียงหัวเราะขององค์รัชทายาทเงียบลง กะทันหัน เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงจา กอสรพิษครึ่งคนทั้งสิบสองตัวการสังหารเยี่ยน วนและบริวารทั้งสองด้วยความช่วยเหลือจากบร รดายอดฝีมือแห่งวังหลวงนั้นง่ายดายยิ่งแต่การองเผชิญกับการโต้กลับอย่างจนตรอกของเยี่ยนวนอาจทําให้เขาเจ็บหนักได้
การสูญเสียยอดฝีมือจํานวนมากในอาณาจักรส วรรค์ที่อันตรายและพิศวงเกินคาดเดานี้ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่
องค์รัชทายาทแห่งต้าฉันเริ่มลังเลใจ เป้าหมาย ของเขาคือหอคอยจอี้หลงในมือของปีศาจเพลิงการกําจัดทั้งปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งคงเป็น หนทางที่ดีที่สุด แต่การต้องจ่ายราคาสูงถึงเพียงนี้ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย
เยี่ยฉวนเป็นใครกันแน่จึงได้มององค์รัชทายาทแห่งต้าฉันทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แวบแรกเช่นนี้? “ฝ่าบาทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้สถานการณ์ในสํานักหมอกเมฆาของข้าไม่สู้ดีนักและย่อมไม่อาจเทียบชั้นกับจักรวรรดิต้าฉินของพระองค์ได้ทว่าแม้แต่กระต่ายก็ยังโต้กลับในยามคับขันฉะนั้นโปรดอย่าต้อนผู้อื่นจนมุมมากเกินไปเรามาลืมเรื่องนี้ไปเสียและไม่มาข้องเกี่ยวกันอีกไม่ดีกว่า หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ลืมไปเสียงั้นรึ?” องค์ชายรัชทายาทเลิกคิ้ว จิตสังหารพลันพุ่งสูงขึ้น
“โชคดีที่ข้าได้รับสมบัติมากมายจากอาณาจักร สวรรค์แห่งนี้ ข้าจะขอถวายทั้งหมดให้พระองค์ทั้งหมด” เยี่ยฉวนหยิบก้อนผลึกมังกรหลายก้อน ที่ยังไม่ได้ขัดเกลาออกมาและก้าวถอยหลังเพื่อเป็นการยอมศิโรราบ
แววตาของเหล่านักเดินทางเป็นประกาย นมาทันใด หลังจากฝ่าฟันมาจนถึงจุดนี้จะมีผู้ใด ไม่ล่วงรู้ถึงคุณค่าและความหายากของก้อนผลึก มังกรบ้าง?
ปีศาจเพลิงเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล “คุณชาย เยี่ยหนีไปเถิด ปล่อยให้พวกข้า…”
ปีศาจเพลิงต้องการพูดบางสิ่งแต่เยี่ยฉวน โบกมือห้ามปรามไว้พลางมองดูองค์รัชทายาทผู้ หยิ่งผยองอย่างเงียบเชียบต่อไปอีกฝ่ายมองดู ก้อนผลึกมังกรในมือของเขาด้วยสายตาละโมบ และก้าวเท้ามาข้างหน้า พลังปราณและจิตสังหารแรงกล้าเข้าปกคลุมเพื่อกดดันเยี่ยฉวน
“ไม่ง่ายไปหน่อยรึไอ้หนู? ข้าต้องการก้อนผล กมังกรเหล่านี้รวมถึงหอคอยจวหลงและชีวิตของเจ้าทั้งสามด้วย! ฮ่าๆๆ”
องค์ชายรัชทายาทหัวเราะลั่น เมื่อชั่งน้ําหนัก ข้อได้เปรียบและเสียเปรียบแล้วจึงตัดสินใจนําเหล่ายอดฝีมือแห่งวังหลวงรุกหน้าเข้าหาเยี่ยฉวน!
การต่อสู้ระทึกขวัญกําลังจะปะทุขึ้น!
ฝูงชนโดยรอบพากันถอยร่นออกไปเฝ้าสังเกตการณ์จากระยะไกล พวกเขาต่างตั้งตารอการต่อสู้ที่เข้มข้นและดุเดือดตาไม่กะพริบขณะที่สตรีพรหมจรรย์หงจือเซียไม่ปริปากเอ่ยคําใดและไม่มีท่าที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยแม้แต่น้อย
คอมเม้นต์