Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 280 อวดอ้าง
บทที่ 280 อวดอ้าง
เมื่อชายชราพุ่งตัวออกมาและเรียกใช้ศาสตร์จารึกสองฤดูอย่างกะทันหัน เยี่ยฉวนจึงไม่เร่งร้อนเผยตัวตนเพื่อช่วยเหลือ เขาเร้นกายอยู่ในมุมมืด และคอยสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง ส่วนหลงเอ๋อร์ที่พบว่าเด็กหญิงผมเปียยังมีชีวิตอยู่จึงผ่อนลมหายใจออกพลางข่มกลั้นสภาวะมังกรภายในให้สงบลง ไม่นานเด็กชายที่อยู่ภายใต้การกํากับดูแลของเยี่ยฉวนจึงยับยั้งอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ได้สําเร็จ
หลงเอ๋อร์ระงับโทสะได้แล้ว ทว่าอีกฝั่งหนึ่งการต่อสู้ดุเดือดยังคงดําเนินต่อไปโดยทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ชายชราอาจตระหนักความสามารถของตนดีว่า คงใช้ชีวิตต่อไปบนโลกนี้ได้อีกไม่นานนัก จึงยอมเสี่ยงเสียสละตนเองเพื่ออุทิศให้การต่อสู้ครั้งนี้ ทุกกระบวนท่าล้วนเดือดดาลหาใดเปรียบ กระทั่งแรงกายเริ่มแผ่วลงเขาจึงกัดลิ้นตนเองเพื่อกระตุ้นเคล็ดวิชาลับที่มีให้ตื่นฟัน ทันใดนั้นพลังปราณพลันเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล! ทว่าชายชราเคลื่อนไหวได้เพียงสิบกระบวนท่าเท่านั้น ความแข็งแกร่งทั้งมวลกลับลดฮวบลงอย่างน่าตระหนก…ปากกาวิเศษในมือหนักอึ้งจนไม่อาจยกไหว ความเร็วในการขีดเขียนอักขระบนอากาศถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง
“ฮิๆๆ ตาเฒ่า! ใคร่พลีโลหิตอันโอชะและปราณหยางในร่างให้ข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ?! ดี! ข้าชอบปราณหยางในตัวผู้บรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าเป็นที่สุด!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินระเบิดเสียงหัวเราะลั่น ครั้นเห็นอีกฝ่ายอ่อนแรงลงจึงฉวยโอกาสนี้โจมตีโดยไม่รอช้า มันเหยียดแขนออกจนสุด เถาวัลย์เส้นยาวพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือตรงเข้าฟาดฟันอีกฝ่ายอย่างดุเดือด! ชายชราซึ่งพลาดท่าเสียที่ยืนซวนเซพร้อมกระอักเลือดออกมาอย่างไม่อาจทานทน ครั้งนี้เขาใกล้ถึงวาระสุดท้ายเต็มที่!
“ท่านพ่อ!”
ปูซานรีบวิ่งไปด้านหน้าด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อเห็นอาการของผู้เป็นบิดาไม่สู้ดี เขาใช้หมัดระดมชกต่อยเข้าที่หน้าอกของปีศาจเฒ่าโดยไม่ยั้งแรง ทว่ามันกลับหัวเราะอย่างเย้ยหยัน และยืดอกให้อีกฝ่ายทําร้ายโดยไม่หลบเลี่ยง กําปั้นที่ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าจากปูซานไม่ต่างอะไรจากก้อนหินที่ชนเข้ากับต้นไม้หนา พริบตาเดียวมันจึงออกแรงจู่โจมกลับจนชายร่างใหญ่กระเด็นลอยไปไกล ข้อมือของเขาหักจนใช้การไม่ได้เสียแล้ว!
“ไอ้เจ้าลูกโง่! ใช้แผ่นอักขระแห่งเผ่ามู่โจมตีสิ!”
ชายชราพุ่งตัวไปด้านหน้าอีกครั้งพลางรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายกัดลิ้นตนเองโดยแรง สองมือกวัดแกว่งปากกายักษ์ไปทางปีศาจเฒ่าอย่างยากลําบาก
วันนี้หากเขาสังหารปีศาจร้ายตนนี้ไม่สําเร็จ ทั้งเขาและลูกชายอาจตายตกไปเสียที่นี่ และผู้คนในตระกูลที่ไร้การคุ้มครองก็ไม่อาจรอดชีวิตจากหายนะดังกล่าว ทุกคนในหมู่บ้านจะถูกปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินกวาดล้างจนสิ้นซาก!
ปีศาจเฒ่าแค่นเสียงคํารามขู่ก่อนหันหลังกลับโดยเร็ว พลางสลัดความคิดที่จะโจมตีมูซานซ้ํา มันอ้าปากที่ฉีกกว้างถึงใบหูออกเพื่อเรียกโครงกระดูกจํานวนมหาศาลให้พัดไปตามกระแสลมเย็นรุนแรงพุ่งเข้าหาชายชราอย่างต่อเนื่อง สภาพของชายชราในยามนี้เสมือนตะเกียงน้ํามันที่ปราศจากเชื้อไฟ พลังชีวิตทั้งหมดได้รับความเสียหาย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อปีศาจร้ายโจมตีอีกครั้งจึงได้แต่ตัวสั่นเทิ้มยืนนิ่งค้างรอคอยแล้โครงกระดูกที่พุ่งตรงมาอย่างจนปัญญา
เพียะ! สิ้นเสียงหวดรุนแรงของแส้โครงกระดูกชายชราจึงล้มลงกองกับพื้นทันที!
“เฒ่ามู่! ผู้เฒ่ามู่…”
“ผองพี่น้องทั้งหลาย! ตอนนี้สถานการณ์ย่ําแย่ลงทุกขณะ เราทนเห็นคนตายอีกไม่ได้แล้ว! ออกไปจัดการมันซะ!”
เหล่านักรบแนวหน้าของเผ่ามู่ตะโกนลั่นก่อนวิ่งกรูกันเข้าไปยังพื้นที่ต่อสู้ บางคนถือหอก…บางคนถือโล่ จํานวนชายฉกรรจ์มีประมาณสิบสองคน เท่านั้น
ตามแผนการเดิมของผู้เฒ่ามู่แล้ว พวกเขาจะต้องหลบซ่อนคอยสถานการณ์ในที่ลับตาเพื่อขัดขวางการหลบหนีของปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยิน ทันใดที่มันล่าถอยพวกเขาต้องรวมพลังเพื่อโจมตีอย่างเต็มที่ โชคไม่ดีที่วิญญาณร้ายเก่าแก่ตนนี้ทรงพลังเกินควบคุม แม้มันถูกแผ่นยันต์อักขระกดทับบริเวณระหว่างคิ้วแต่ยังสามารถพลิกผัน การโจมตีจนมีชัยเหนือกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายยิ่ง! ครั้นเห็นผู้เฒ่าของเผ่า และลูกชายของเขาตกที่นั่งลําบาก ทุกคนจึงวิ่งออกจากที่ซ่อนเพื่อช่วยเหลือโดยด่วน!
“ฮิๆๆ พวกเจ้ามาถูกที่ถูกทางแล้ว! ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามดูดกลืนพลังชีวิตเจ้าทีละคน ฮิๆๆ!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินระเบิดเสียงหัวเราะอย่างปรีดาอีกครั้ง! เถาวัลย์หลายเส้นพุ่ง ออกมาจากร่างกายก่อนตวัดฟาดฟันนักรบแถวหน้าทุกคนที่ปราดเข้ามา แม้ทุกคนสวมใส่ชุดเกราะโลหะแข็งแกร่งที่หนาทึบจนผู้ฝึกตนขั้นซิวฉือไม่อาจทําอันตรายใดๆ ได้ ทว่าวิญญาณร้ายตนนี้กลับโจมตีชุดเกราะทั้งหลายจนสิ้นสภาพ!
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินยังคงระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่งอย่างต่อเนื่อง เมื่อขาดผู้แข็งแกร่งไปสองคนในเวลาเดียวกัน ตอนนี้มันไม่หวั่นเกรงใดๆอีกต่อไป…ความตั้งใจจะกวาดล้างเผ่ามู่เพื่อดูดกลืนพลังชีวิตยิ่งแรงกล้า
ทันใดนั้นร่างสูงกําย่าของมูซานพลันทะยานขึ้นจากพื้นดินไปยังด้านหน้าของวิญญาณร้ายตนนี้ เขาใช้แผ่นยันต์อักขระหยางแห่งเผ่ามู่ทุบเข้าที่หน้าอกของมันเต็มแรง!
ปูซานที่แสร้งถูกโจมตีจนตายฉวยโอกาส ขณะที่ปีศาจเฒ่าเบนความสนใจไปที่อื่นเพื่อทําการโจมตีอย่างรุนแรง เสียงหัวเราะลั่นอย่างสาแก่ใจของมันเงียบลง พลังของอักขระใบนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าหมัดของปูซานจริงอย่างที่บิดาเคยกล่าวไว้ ควันดําโขมงพวยพุ่งออกมาจากร่างของวิญญาณร้าย…บริเวณอกเกิดรูกลวงฉีกขาดเนื่องจากการเผาไหม้ แม้อักขระหยางดูธรรมดาสามัญสําหรับมนุษย์แต่กลับเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อบรรดาภูตผีปีศาจ!
“อ๊าก… ไอ้มนุษย์สามานย์น่ารังเกียจ!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินเอี้ยวตัวไปคว้าลําคอของปูซาน ร่างกายปล่อยเถาวัลย์จํานวนมหาศาลออกมารัดร่างกํายําของอีกฝ่ายไว้อย่างแน่นหนา หากปล่อยไว้ช้ากว่านี้เห็นทีเขาอาจถูกบีบรัดจนอวัยวะภายในล้นทะลักและขาดอากาศหายใจ! ผิวหนังปูซานแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่คลายมือจากการกดแผ่นยันต์ลงบนร่างปีศาจเฒ่า ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปอย่างน้อยขอเพียงได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับมันก็ยังดี!
“หลงเอ่อร์!”
เยี่ยฉวนที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดเห็นสถานการณ์เริ่มเลวร้ายจึงหันไปทางเด็กชายพร้อมตะโกนออกคําสั่ง
“โฮก…”
หลงเอ๋อร์ที่ไม่อาจทนระงับสภาวะมังกรในร่างได้อีกต่อไปเงยหน้าร้องคํารามลั่นขณะกลายร่างเป็นมังกรปีศาจโดยสมบูรณ์ เขาใช้พละกําลังทั้งหมดทําลายกําแพงหนาจนพังราบคาบก่อนพุ่งตัวเข้าชนแผ่นหลังของปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินอย่างดุเดือด!
“อ๊าก!”
ปีศาจเฒ่าแผดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าสยดสยอง แรงปะทะจากมังกรน้อยหลงเอ๋อร์ทรงพลังกว่าหมัดหนักๆของมูซาน หลายเท่า! ทันทีที่มันถูกกระแทกโดยแรงข้อต่อทุกชิ้นในร่างกลับสั่นสะเทือนราวจะแยกออกเป็นหลายส่วน!
หากมันไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจากพลังทําลายล้างของยันต์อักขระหยาง ด้วยพลังแข็งแกร่งและศักดิ์ศรีของวิญญาณร้ายที่อาศัยบนโลกนี้มาหลายชั่วอายุคน มันอาจหมุนกายกลับไปประจันหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ ทว่าครั้งนี้มันได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการต่อสู้ก่อนหน้าจนไม่อาจฝืนทนต่อไปได้ หากประมาทอีกเพียงเล็กน้อย เห็นทีมันคงถึงแก่ชีวิตเป็นแน่!
“โฮก…” เสียงคํารามอย่างเดือดดาลของมังกรปีศาจน้อยดังขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อหลงเอ๋อร์แปลงกายเป็นมังกรปีศาจพลังมหาศาลในร่างจึงปะทุขึ้นจนแกร่งกล้า เขาเริ่มทําการโจมตีอย่างไม่เว้นช่วงจังหวะ อาศัยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่ามนุษย์และสัตว์อสุรกายทั่วไปพุ่งตัวเข้าจู่โจมในระยะประชิด อิทธิฤทธิ์ร้ายแรงของมังกรปีศาจถูกสําแดงออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว! ส่วนปีศาจเฒ่าเร่งโจมตีโต้กลับทันที ทว่าเถาวัลย์ทุกเส้นที่พุ่งออกจากร่างกลับไร้ประโยชน์ในการเข้ารัดตัวอีกฝ่าย มันจึงใช้พลังแปรเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นเชือกปอขนาดใหญ่ ถึงกระนั้นผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังล้มเหลว…เชือกปอสามารถพุ่งตรงเข้ารัดร่างมังกรปีศาจได้ แต่พลังมหาศาลของหลงเอ๋อร์กลับดึงทิ้งจนเชือกขาดออกนับครั้งไม่ถ้วน
“ให้ตายสิ! มังกรบัดซบตัวนี้โผล่มาจากไหนกัน?!”
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินประหลาดใจและโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด มันสบถสาปแช่งก่อนขบกรามแน่นพร้อมหันหลังหนี ค่ําคืนนี้มันซุ่มโจมตีโดยประมาทเกินไป! หากประสบปัญหาและตัวรั้งรออยู่ที่นี่เห็นทีคงเพลี่ยงพล้ําเข้าสักคราเป็นแน่! มู่ซานตัวใหญ่ที่มีพละกําลังข่มเหงราวเสือโคร่งตะครุบเหยื่อและบิดาของเขายืนหยัดขึ้น ผนึกกําลังกันใช้ศาสตร์จารึกสองฤดูโจมตีตน เมื่อไรถึงเวลานั้น ต้องเอาชีวิตรอดลําบากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย!
มังกรน้อยหลงเอ๋อร์โน้มคอลงพลางพุ่งตัวไปด้านหน้าอีกครั้งหมายโจมตีปีศาจร้าย ทว่าเขาปะทะเข้ากับมวลอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น!
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินปรากฏตัวอย่างลึกลับ และหายวับไปโดยไร้สุ่มเสียง มันควบคุมกระแสลมลอยหลบหนีไปยังบริเวณสวนหย่อมด้านหน้าก่อนทิ้งท้ายไว้อย่างเคียดแค้น “วันนี้ข้าจะยอมไว้ชีวิตพวกเจ้า! จงใช้ชีวิตที่เหลือให้สําราญเสีย! คืนพรุ่งนี้ข้าจะกลับมาอีกครั้งและกินเลือดดูดปราณหยางของพวกเจ้าจนหมดสิ้น! ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจมีชีวิตรอดไปได้ ฮิๆๆ!”
กระแสลมแรงคล้ายพายุหมุนปรากฏขึ้นอีกครั้ง ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นอยู่เต็มพื้นหญ้าม้วนตัวขึ้นปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านทันใด!
ปีศาจเฒ่าควบคุมกระแสลมจากไปแล้วคงเหลือเพียงเสียงหัวเราะที่ลอยแว่วมาตามลม ในที่สุดมันจึงยอมล่าถอย ผู้คนในหมู่บ้านเผ่ามู่ต่างผ่อนคลายความระทึกในจิตใจลง ทว่าไม่นานกลับแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นซีดเผือดอีกครั้ง! วันนี้พวกเขายังมีชีวิตรอด แต่วันพรุ่งนี้เล่า?!
คําขู่น่าสะพรึงที่ถูกทิ้งท้ายไว้โดยปีศาจเฒ่า เสมือนเงาแห่งความตายที่ตามติดจนไม่อาจหลุดพ้น ร่างทุกคนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ปูซานร่างสูงใหญ่ยังรู้สึกกระสับกระส่ายยิ่ง!
“ปีศาจเฒ่า! ครู่นี้เจ้ากล่าวว่าคืนวันพรุ่งนี้เจ้าจะกลับมา…แต่คืนวันนี้เจ้าจะมีโอกาสหลบหนีออกไปหรือไม่?!”
ทันใดนั้นน้ําเสียงราบเรียบเย็นเยือกพลันดังขึ้นทําลายความเงียบ..
ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินที่กําลังควบคุมกระแสลมหลบหนีออกจากบริเวณหมู่บ้านหยุดชะงักโดยพลัน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจึงพบชายหนุ่มวัยแรกรุ่นคนหนึ่งยืนอยู่บนกําแพงเพื่อขัดขวางทางไม่ให้มันจากไป
เยี่ยฉวนรั้งรอกระทั่งปีศาจเฒ่ากระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วจึงออกโรงด้วยตนเอง เขายืนขวางทางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายถอยหนีไปได้โดยราบรื่น
ดวงตาของชายชราที่หม่นแสงด้วยความหดหู่ถึงโชคชะตาที่ย่ําแย่ในคืนวันพรุ่งนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความหวัง หัวใจพลันรู้สึกตื่นเต้นกับการกระทําอันกล้าหาญของเด็กหนุ่มผู้นี้!
คอมเม้นต์