Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 291 แผนร้าย
บทที่ 291 แผนร้าย
เยี่ยฉวนรีบอุ้มโท่วป่าเซียงเพียวเข้าไปในสํานักและชิงพูดขึ้นก่อนที่จซื้อเจียจะตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจียเจีย เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เซียงเพียวกระโดดหน้าผาปลิดชีพตัวเองช่วยทําแผลให้นางที”
เยี่ยฉวนส่งร่างของโท่วป่าเซียงเพียวให้จซื้อเจียพลางลอบส่งสายตาซื้อเจียผู้ฉลาดเป็นกรดเข้าใจสถานการณ์ทันทีนางเรียกศิษย์หญิงจํานวนหนึ่งมาและรีบพาตัวโท่วป่าเซียงเพียวไปการรักษาบาดแผลและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้โท่วป่าเซียงเนียวก็เป็นเรื่องหนึ่งแต่สิ่งที่สําคัญกว่าคือต้องเข้าใจว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นกับนาง
เค้าลางพายุร้ายกําลังใกล้เข้ามาในยามนี้พวกเขาไม่ควรมีช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย!
โดยปกติแล้วจซื้อเจียเป็นคนอารมณ์ร้ายแต่นางรู้ดีว่าสิ่งใดที่สําคัญและเข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดบัญชีกับเยี่ยฉวน
“เจ้าอ้วน ส่งคนไปสอดแนมความเคลื่อนไหวของสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์หากมีเหตุอันใดให้รายงานกลับมาทันที”เยี่ยฉวนออกคําสั่งก่อนรีบเร่งจากไปพร้อมกับหลงเอ่อร์น้อยเขาไม่ได้กลับไปเข้าสมาธิบนยอดเขามังกรปีศาจหากแต่ตรงไปยังห้องโถงใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาเพื่อรอฟังข่าวจากจซื้อเจีย
จซื้อเจียไม่ทําให้ผิดหวังนางใช้เวลาทําความเข้าใจตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ไม่นานนักและ มาพบเยี่ยฉวนที่ห้องโถงหมอกเมฆาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“มีอะไรเจียเจีย? เซียงเพียวไม่ยอมพูดหรือ?” เยี่ยฉวนเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้ากลัดกลุ่มของหญิงสาว
“นางพูด” จซื้อเจียเอ่ยตอบห้วนสั้นราวกับไม่ต้องการเอื้อนเอ่ยสิ่งใดอีกแม้แต่คําเดียว
“ไม่สะดวกใจจะบอกข้าหรือ? ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะไม่ถาม ไปกันเถอะหลงเอ๋อร์น้อย”เยี่ยฉวนแสร้งทําที่จากไปเพื่อหลอกล่อให้จซื้อเจียยอมปริปาก
“โท่วป่าเซียงเพียวถูกบิดาขับออกจากสํานัก”จซื้อเจียกล่าวออกอย่างยากล่าบาก
“เพราะเหตุใด?”
“หึ! ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าไม่ใช่รี?!”
จซื้อเจียพ่นลม “สํานักเครื่องนิลและสํานักเบจลักษณ์ต่างเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่หลังการสํารวจอาณาจักรสวรรค์โดยเฉพาะสํานักเครื่องนิลที่เสียศิษย์ชั้นเลิศไปมากกว่าเจ็ดในสิบสํานักจึงตกอยู่ในความสับสนอลหม่านและอารมณ์ของเจ้าสํานักโท่วป่าเซียงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเขาต้องการหมายหมั่นโท่วป่าเซียงเพียวกับศิษย์สายตรงของตนเพราะอยากเกี่ยวดองกับยอดฝีมือแต่โทวป่าเซียงเพียวไม่ยินยอมนางลั่นวาจาว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเจ้าโท่วป่าเซียงจึงขับไล่ นางออกจากสํานักด้วยโทสะและบอกว่าหากรักเจ้านักก็ไปแต่งงานกับเจ้าเสียโท่วป่าเซียงเพียวจึงออกเร่ร่อนไปในเทือกเขาไร้ที่พํานักแม้จะรอนแรมมาถึงบริเวณสํานักหมอกเมฆาก็ไม่มีหน้าไปพบเจ้าสุดท้ายนางจึงตัดสินใจปลิดชีพตนเองด้วยการกระโดดลงจากหน้าผา”
เรื่องสตร์ลึกลับในห้องของเยี่ยฉวนก่อนหน้ายังไม่ทันได้สะสางโท่วป่าเซียงเพียวผู้บอบบางและมีเสน่ห์ราวกับนกน้อยยังมาปรากฏกายขึ้นเช่นนี้อีก ไฟโทสะสมทรวงจนจซื้อเจียรู้สึกคับข้องในอกแต่ถึงกระนั้นนางก็ยังต้องระงับอารมณ์และจัดการกับเรื่องต่างๆให้ได้
“อ้อ เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยฉวนพยักหน้า
อาณาจักรมังกรปีศาจสวรรค์มีอาณาเขตมากมายหลายชั้น มีเพียงไม่กี่คนที่โชคดีรอดชีวิตกลับมาได้ ทั้งป่าหมื่นอสูรพระราชวังจ้าวเทียนและครรลองมังกรปีศาจ…มีที่ใดไม่อันตรายบ้าง? แม้แต่สํานักหมอกเมฆาก็สูญเสียไปไม่น้อย แล้วสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ที่ยกขบวนศิษย์ออกมาแทบทั้งรั้งจะสูญเสียมากมายเพียงใด? ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าสํานักโท่วป่าเซียงผู้โหดเหี้ยมและบ้าอํานาจจะบันดาลโทสะเมื่อต้องเผชิญปัญหารุมเร้าทั้งภายในและภายนอก!
“ฮ… เยี่ยฉวน คราวนี้โท่วป่าเซียงยกบุตรสาวให้เจ้าแล้วจริงๆ พอใจเจ้าแล้วหรือยัง?!” ซื้อเจียทั้งโกรธทั้งเศร้า
หญิงสาวท้อแท้สิ้นหวังเหลือเกินเมื่อเยี่ยฉวนสาบสูญไปในอาณาจักรสวรรค์เป็นเวลาสามเดือนนางถึงขั้นกล้อนผมและพํานักอย่างสันโดษดุจชีพราหมณ์บนภูเขาเคียงข้างอนุสาวรีย์ของเยี่ยฉวนพลางภาวนาทั้งวันทั้งคืนให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง เยี่ยฉวนกลับ ออกมาจากอาณาจักรสวรรค์อย่างปลอดภัยทว่าบัดนี้เขากําลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวที่ไม่ใช่นางจซื้อเจียมักแสดงท่าที่เข้มแข็งและให้ความสําคัญกับผลประโยชน์ของส่วนรวมก่อนตนเองเสมอหากแต่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้ความทุกข์โศกภายในจิตใจของนาง
“เข้าใจผิดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องตลกมาตั้งแต่ต้น เจียเจียเจ้าเชื่ออย่างนั้นจริงๆน่ะหรือ?” เยี่ยฉวนส่ายศีรษะพลางเผยรอยยิ้มขมขื่นเขาก้าวเข้าไปกอดจซื้อเจียไว้แนบอก
“เจ้าพูดจริงหรือ?” หัวใจของจซื้อเจียสั่นไหว
“จริงส์ ต่อให้โท่วป่าเซียงเนียวพูดความจริง แต่ข้าไม่มีวันแต่งงานในชาตินี้และไม่เคยห้ามนางแต่งงานกับผู้อื่น”
เยี่ยฉวนชะงักไปครู่หนึ่ง น้ําเสียงของเขาแปรเปลี่ยนไป “เจียเจีย เจ้าไม่สังเกตหรือว่ามีบางสิ่ง ไม่ชอบมาพากล? ต่อให้โท่วป่าเซียงจะโหดเหี้ยมเพียงใดแต่โท่วป่าเซียงเพียวก็เป็นบุตรสาวคนเดียวของเขาจะเนรเทศนางออกจากสํานักและปล่อยให้เร่ร่อนในป่าเขาเพียงลําพังได้อย่างไร? นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วนับตั้งแต่การสํารวจอาณาจักรสวรรค์เหตุใดเรื่องนี้จึงไม่เกิดขึ้นก่อนหน้าแต่บังเอิญมาเกิดในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้เจ้าไม่คิดว่ามันจงใจไปหน่อยหรือ?”
“เยี่ยฉวน เจ้าหมายความว่าโท่วป่าเซียงเพียวพูดปดงั้นหรือ?”จซื้อเจียหน้าเสีย
แม้นางจะโกรธจัดและเศร้าเสียใจเพียงใด แต่สภาพน่าเห็นใจของโท่วป่าเซียงเพียวก็ทําให้นางขับไล่อีกฝ่ายไม่ลง ทว่าหากทุกสิ่งเป็นเพียงการจัดฉาก… หากคําพูดของโท่วป่าเซียงเพียวเป็นเรื่องโกหกจริงๆ…จากนี้ก็อย่าโทษนางว่าโหดเหี้ยมอํามหิตเกินไปแล้วกัน!
“ไม่ โท่วป่าเซียงเพียวไม่ได้พูดปด แต่เป็นโท่วป่าเซียงบิดาของนาง!”
เยี่ยฉวนยึดตัวตรงพลางกล่าวออกเสียงต่ํา “ต้องมีแผนร้ายซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆความแข็งแกร่งของสามสํานักใหญ่กลับตาลปัตรไปหลังสูญเสียบรรดาศิษย์และบริวารชั้นเลิศจํานวนมากในอาณาจักรสวรรค์ สํานักหมอกเมฆาของเราที่ยังคงรักษาอานาจส่วนใหญ่ไว้ได้จึงกลับมาอยู่เหนืออีกสองสํานักในชั่วข้ามคืนหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะไม่มีผู้ใดขัดขวางการฟื้นฟูสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้งของสํานักหมอกเมฆาได้ที่เหลือเป็นเรื่องของเวลา โท่วป่าเซียงไม่อยากรอเวลาให้เราแข็งแกร่งไปมากกว่านี้จึงเริ่มลงมือทันที”
อดีตมหาปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์เป็นผู้มองการณ์ไกล เรื่องเล็กน้อยเช่นการปรากฏกายฉับพลันของโท่วป่าเซียงเนียวทําให้เขาอนุมานได้อีกหลายสิ่ง
จซื้อเจียสูดหายใจเข้าลึกด้วยความประหม่า “เยี่ยฉวน เจ้าจะบอกว่าโท่วป่าเซียงหมายจะเปิดฉากจู่โจมสานักหมอกเมฆากะทันหันและแย่งชิงสมบัติของเราก่อนจักรวรรดิต้าฉันและสํานักอสูรเมฆาจะมาเยือนงั้นหรือ?พวกเขาคิดจะเล่นงานเราโดยไม่ทันตั้งตัวใช่หรือไม่?”
ในช่วงนี้สํานักหมอกเมฆากําลังเตรียมการรับมือศึกสงคราม ค่ายกลซ่อนเร้นสวรรค์และค่ายกลอสุรกายประจัญบานถูกจัดวางเรียบร้อยแล้ว ทว่ายังเหลืออีกหลายแห่งที่ต้องเสริมให้สมบูรณ์ พวกเขายังไม่พร้อมเต็มที่ บริวารของทูตแห่งโลกันตร์เริ่มแทรกซึมเข้ามาบริเวณสํานักหมอกเมฆา เพื่อสอดแนมและเข่นฆ่าผู้คนแล้วเห็นได้ชัดว่าแนวการป้องกันของสํานักจําเป็นต้องปรับปรุงให้แข็งแกร่งมากกว่านี้
หากสํานักเครื่องนิลหรือสํานักเบญจลักษณ์เข้าจู่โจมฉับพลันยามที่พวกเขาใช้พลังงานไปกับการตั้งรับจักรวรรดิต้าฉันและสํานักอสูรเมฆาอาจเกิดหายนะร้ายแรงขึ้นได้
“อาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องป้องกันไว้ก่อน โท่วป่าเซียงย่อมมีแผนการบางอย่างแน่ แต่ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมีร้ายนั่นทั้งอวดดีและบ้าอ่านาจ มันไม่ถนัดเรื่องการลอบวางอุบายในเงามืดหากจู่ๆ กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นนี้อาจมีผู้คอยบงการและยุยงอยู่เบื้องหลังเจีย เจียขาส่งเจ้าอ้วนไปสอดแนมสถานการณ์ในสํานักทั้งสองแล้วแต่เขายังขาดประสบการณ์และความกล้าหากเจ้ารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยตนเองจะได้หรือไม่? สถานการณ์เป็นอย่างไรให้รีบมารายงานข้า!”
เยี่ยฉวนสั่งการเสียงต่ําก่อนหลับตาลงเพื่อเข้าสู่การฝึกตน
จักรวรรดิต้าฉันและสํานักอสูรเมฆายังมาไม่ถึงแต่สํานักเครื่องนิลกลับก่อปัญหาเสียแล้วสถานการณ์พลันซับซ้อนขึ้นโดยไม่คาดคิด
เยี่ยฉวนต้องฝึกตนและสงบสติอารมณ์เพื่อคาดเดาความเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างใจเย็นจซื้อเจียและหลงเอ๋อร์เหลือบมองชายหนุ่มก่อนแยกย้ายไปปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
คอมเม้นต์