Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 307 เห็ดราวิญญาณโลหิต
บทที่ 307 เห็ดราวิญญาณโลหิต
ไม่นานมนุษย์และมังกรก็มาถึงก้นบึงหุบเหวมังกรปีศาจ หลงเอ๋อร์น้อยบินไปข้างหน้าอย่าง เชื่องช้า
ตอนยืนอยู่บนปากเหว พวกเขาได้ยินสรรพเสียงแปลกประหลาดทั้งเสียงคํารามเกรี้ยวกราด เสียงกรีดร้องโหยหวนน่าสยดสยองและเสียงคล้ายโซ่ตรวนลากถไปกับพื้น ทว่าน่าแปลกที่ก้นเหวกลับเงียบสงัดไร้สุ่มเสียง เขาสัมผัสได้ถึงหมอกโลหิตที่เพิ่มขึ้นและลดลงเป็นระยะ แต่เมื่อเดินไปได้ครู่หนึ่งกลับไม่พบความผิดปกติใด
“น่าแปลกนัก หรือนี่จะเป็นกับดักมายา?”
เยี่ยฉวนขมวดคิ้วพลางใช้จิตสัมผัสอย่างระแวดระวัง แต่ไม่ปรากฏร่องรอยของภาพมายาเช่นกัน
หนึ่งคนหนึ่งมังกรเดินหน้าต่อไปจนถึงถ้ําใกล้เคียง เมื่อมองแวบแรกอาจไม่แตกต่างจากคราวที่แล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับสัมผัสถึงอันตรายที่ไม่อาจบรรยายได้ขึ้นมาทันใด
“พี่ใหญ่เยี่ยฉวนดูนั่น! นั่นมันอะไรกัน?” หลงเอ๋อร์น้อยเร่งความเร็วและหยุดลงห่างจากปากถ้ําเพียงร้อยเมตร
ก่อนหน้านี้หมอกโลหิตหนาทึบได้บดบังการมองเห็นจนหมดสิ้น เยี่ยฉวนจึงเพิ่งสังเกตดอกไม้สีแดงเข้มที่มีกลีบรูปครึ่งวงกลมสลับซับซ้อนบนกําแพงถ้ํา มันมีอายุอย่างน้อยหนึ่งหมื่นปีและเจริญเติบโตบนหินแลดูหายากและแปลกตา แม้จะอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรแต่กลิ่นหอมหวนกลับซึมซาบเข้าสู่หัวใจของพวกเขาอย่างชัดเจน
เยี่ยฉวนขุดคุ้ยความทรงจําในภพชาติก่อนกระทั่งชื่อหนึ่งผุดขึ้นในหัวอย่างรวดเร็ว “เห็ดราวิญญาณโลหิต… หลงเอ๋อร์น้อย นี่คือเห็ดราวิญญาณโลหิตอายุหนึ่งหมื่นปี”
สมบัติโลกมักกําเนิดขึ้นในบริเวณที่มีปราณแห่งจิตวิญญาณโลกหนาแน่นเป็นพิเศษ และหุบเขามังกรปีศาจก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ในการสํารวจครั้งที่แล้วอาจเป็นเพราะเขาอยู่ไกลเกินไปหรือหมอกโลหิตหนาแน่นเกินไปจึงไม่ทันได้สังเกต แต่ครั้งนี้กลับได้จังหวะประจวบเหมาะ เพียงแค่สูดดมกลิ่นหอมก็รู้ว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเห็ดราวิญญาณโลหิตพอดิบพอดี
“พี่ใหญ่เยี่ยฉวน ท่านคอยระวังหลังอยู่ตรงนี้ ข้าจะไปเก็บมันมาให้ท่านเอง”
หลงเอ่อร์น้อยโน้มกายเตรียมเคลื่อนไหว
“ระวังตัวด้วยล่ะหลงเอ๋อร์” เยี่ยฉวนกระโดดลงจากหลังของมังกรน้อยพร้อมถือห่วงโซ่มังกรไว้ในมืออย่างระมัดระวัง
ถ้ํามืด ณ ก้นบึงหุบเขามังกรปีศาจตรงหน้าเป็นหนทางไปสู่โลกใต้พิภพ ผู้ใดจะล่วงรู้ว่ามีดินแดนและวิญญาณร้ายประเภทใดซุกซ่อนอยู่เบื้องล่าง?
เยี่ยฉวนไม่กล้าเข้าใกล้ถ้ํานี้ตลอดการสํารวจครั้งที่แล้วเพราะหัวใจของเขาสันระรัวทุกครั้งที่เฉียดกรายเข้าใกล้แม้เพียงนิด จนบัดนี้แม้จะบรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับหนึ่งและขัดเกลากา
ยากิ่งมังกรจนความแข็งแกร่งทวีคูณขึ้นแล้วก็ยังไม่กล้าทุ่มบ่ามเข้าไป ความรู้สึกอันตรายกดดันเขาจนรู้สึกหนักอึ้ง
หลงเอ่อร์น้อยโน้มตัวลงและพุ่งไปข้างหน้ากว่าร้อยเมตรทันที!
“พี่บ!” ทันใดนั้นหางใหญ่หนาพุ่งออกมาจากถ้ําใต้พิภพและตวัดมาทางหลงเอ่อร์! มันเป็นสีเทาดจขี้เถ้าคล้ายหางอสรพิษหรือมังกรที่ถูกกัดกร่อนไปตามเวลา และมีความหนาเป็นห้าเท่าของร่างมังกรน้อย
“ระวัง!”
เยี่ยฉวนตะโกนขึ้นพลางเตรียมพุ่งตัวเข้าไป
“โฮก!” เสียงมังกรคํารามต่ําดังกึกก้องขึ้น หลงเอ๋อร์น้อยสําแดงพลังที่แท้จริงของมังกรปีศาจออกมาในยามคับขัน เขาเร่งความเร็วเข้าไปเก็บเห็ดราวิญญาณโลหิตจากหน้าผาโดยไม่แยแส หางอันน่าสะพรึงกลัวก่อนบินกลับมาข้างกายเยี่ยฉวน “ได้มาแล้วพี่ใหญ่ ไปจากที่นี่กันเถอะ!”
หนึ่งคนและหนึ่งมังกรล่าถอยทันที
“ฟอ!” อสรพิษยักษ์โผล่ออกมาจากถ้ําใต้พิภพในที่สุด มันชูคอแผ่แม่เบี้ยพลางพ่นหมอกพิษจนทุกสิ่งเบื้องหน้ากลับกลายเป็นความว่างเปล่า ทั้งตอไม้ โขดหินบนพื้น และแม้แต่หมอกโลหิตที่ปกคลุมอยู่โดยทั่วถูกกัดกร่อนและระเหยเป็นไอ พื้นดินตรงหน้ากลับราบเรียบและมีฟองอากาศผุดขึ้นนับไม่ถ้วน
ช่างเป็นพิษงูที่มีฤทธิ์รุนแรงเสียจริง!
เยี่ยฉวนและหลงเอ๋อร์น้อยหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อสรพิษสีแดงเลือดขนาดมหึมาเลื้อยออกจากถ้ําทีละน้อยเผยให้เห็นล่าตัวท่อนบนยาวกว่าร้อยเมตรโดยไม่รู้ว่ายังเหลือส่วนที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในอีกเท่าใด เพียงแค่ขนาดของมันก็ทําให้ผู้คนหวาดกลัวหน้าดําหน้าแดงได้
เยี่ยฉวนหวนนึกถึงสุภาพสตรีผิวขาวที่เขาปล่อยลงในทะเลสาบมังกรนิทราแห่งสํานักอสูรเมฆาขึ้นมา…
ต่อให้สุภาพสตรีผิวขาวอยู่ที่นี่ก็ยากจะบอกว่าอสรพิษตนใดแข็งแกร่งมากกว่ากัน!
งูยักษ์ขู่ฟออีกครั้งเมื่อลําตัวขนาดใหญ่โผล่พ้นปากถ้ําจนหมด ดวงตาใหญ่โตราวตะเกียงจับจ้องเยี่ยฉวนพร้อมจิตสังหารแรงกล้าจนรู้สึกกดดัน แม้แต่หลงเอ๋อร์ในร่างมังกรยังสั่นสะท้านเล็กน้อย แรงกดดันนี้ไม่ได้มาจากภายในหากแต่มาจากพลังงานมหาศาล ความแข็งแกร่งของอสรพิษร้ายตรงหน้าเทียบเท่าปรมาจารย์แห่งเต๋าระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อยทั้งยังสิงสู่อยู่ในก้นบึงหุบเขามังกรปีศาจมาไม่รู้กี่ปี
ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมขยับเขยื้อนขณะที่หมอกโลหิตโดยรอบก่าลังเดือดพล่าน
เยี่ยฉวนและหลงเอ๋อร์น้อยไม่กล้าหันหลังหนีไปด้วยเกรงว่างูยักษ์จะพ่นพิษร้ายออกมาหากพวกเขาเคลื่อนไหว ขณะที่อสรพิษยักษ์ก็ไม่ได้ผลีผลามโจมตีเช่นกัน มันพินิจุดเยี่ยฉวนและหลงเอ๋อร์น้อยราวกับรู้ว่าทั้งสองไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่รับมือได้โดยง่าย สถานการณ์คุมเชิงเช่นนี้ไม่ส่งผลใดต่อเจ้างูร้ายแต่กลับเป็นปัญหาสําหรับเยี่ยฉวน หลงเอ๋อร์น้อยสามารถต้านทานฤทธิ์ของหมอกโลหิตขณะที่เยี่ยฉวนคงอยู่ได้ในเวลาจํากัด เขาจึงจําเป็นต้องเริ่มลงมือในไม่ช้า
“หลงเอ่อร์น้อย เจ้ากลัวหรือไม่?” เยี่ยฉวนถามขึ้นขณะโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ภายในร่าง
“มีพี่ใหญ่อยู่ด้วยก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าต้องกลัวขอรับ”
หลงเอ๋อร์น้อยตอบอย่างเข้าใจในทันที เขาโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อเตรียมจู่โจมเช่นกัน
“ดีมาก ส่งเห็ดราวิญญาณโลหิตมาให้ข้าที่”
เยี่ยฉวนรับเห็ดราวิญญาณโลหิตมาก่อนพุ่งเข้าใส่อสรพิษยักษ์พร้อมกล่าวออก “ข้าจะมัดมันไว้ ส่วนเจ้าโจมตีจุดสําคัญของมันซะ เร็วเข้า!”
อสรพิษตนนี้ไม่ได้ต้องการสังหารคนทั้งสองหากแต่ต้องการชิงเห็ดราวิญญาณโลหิตที่มันปกป้องมานับหมื่นปีกลับคืน เยี่ยฉวนเสี่ยงชีวิตพุ่งไปยังร้ายเพื่อเปิดฉากโจมตีดุดัน อากาศไหวกระเพื่อมและหมอกโลหิตโดยรอบพวยพุ่งอย่างรุนแรง เม็ดทรายและก้อนหินน้อยใหญ่ปลิวว่อน
เยี่ยฉวนยังไม่ได้ก่อรวมยันต์กลืนกินสวรรค์ใบใหม่หลังบรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขาจึงยังเป็นหนึ่งแสนแปดพันจินดังเดิม ทว่าพลังการปะทุกลับเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล ชายหนุ่มระเบิดพลังรุนแรงออกทันใด!
อสรพิษยักษ์เริ่มโจมตีเช่นกัน ท้องของมันพองขึ้นและยุบลงก่อนจะอ้าปากพ่นพิษล้อมรอบเยี่ยฉวนในระยะหนึ่งร้อยเมตร เยี่ยฉวนกลัวว่าเขาจะไม่เหลือแม้แต่โครงกระดูกหากเผลอสัมผัสพิษงูแม้เพียงนิด เนื่องจากฤทธิ์ของมันร้ายแรงกว่าหมอกโลหิตที่แพร่กระจายไปในอากาศเสียอีก ซ้ําร้ายมันยังเลื้อยตรงมาพร้อมปากอ้ากว้างหมายจะกลืนกินเยี่ยฉวนเข้าไปทั้งตัว!
“พี่ใหญ่ระวัง!”
ร่างมังกรปีศาจอันทนทานของหลงเอ๋อร์น้อยพุ่งเข้าไป และพยายามกัดเนื้อด้านหลังของงูยักษ์อย่างเต็มที่…
แต่อสรพิษร้ายกลับหลบหลีกการโจมตีของหลงเอ๋อร์ราวกับล่วงรู้พลังของมังกรปีศาจเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเยี่ยฉวนก็ใช้เคล็ดวิชาไร้เทียมทานหลบหลีกพลางกระโจนเข้าใส่มันเพื่อจู่โจมอย่างรวดเร็วและรุนแรง!
หนึ่งมนุษย์ หนึ่งมังกร และหนึ่งอสรพิษน้ํานั่นกันสุดกําลังที่กันบึงหุบเขามังกรปีศาจพร้อมเสียงคํารามดังกึกก้อง ภูตทะเลไหลี่ลีที่อยู่เบื้องบนเผยสีหน้าซีดเผือดด้วยไม่รู้ว่าเกิดเหตุร้ายอันใดขึ้นข้างล่าง จซื้อเจีย ปีศาจเพลิง และคนอื่นๆที่รีบรุดตามมาเมื่อทราบข่าวต่างเป็นกังวลเช่นกัน พวกเขาอยากลงไปช่วยใจแทบขาดหากแต่ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ กายหยาบของพวกเขาไม่ อาจต้านทานหมอกโลหิตได้แม่อึดใจเดียว มีเพียงอาวุโสลําดับเจ็ดที่ยังคงมีท่าที่สงบไร้อารมณ์ ชายชราผู้ลึกลับเพียงแต่นั่งขัดสมาธิบนปากเหวมังกรปีศาจอย่างเงียบเชียบเท่านั้น
คอมเม้นต์