Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 345 ธงชัยโลหิตกล้า

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 345 ธงชัยโลหิตกล้า อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 345 ธงชัยโลหิตกล้า

เยี่ยฉวนฟื้นคืนสติหลังสามวันล่วงไป

หนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสพลังฝ่ามือของบรมครูเจียงเฉินเชิงแทบระเบิดอวัยวะภายในของเขาจนหมดสิ้น แม้แต่กายากิ่งมังกรก็ไม่อาจต้านทาน เคราะห์ดีที่สุดท้ายเขายังรอดชีวิตมาได้

เยี่ยฉวนลูกออกจากเตียงไปยังยอดเขาพลางทอดสายตามองแผ่นดินใหญ่เบื้องล่างโดยมีจะซื้อเจียช่วยประคอง

สายลมอ่อนๆ พัดโชยแผ่วเบาพอให้รู้สึกเย็นสบาย บรรยากาศโดยรอบแลดูสดชื่นและมีแสงอาทิตย์สาดส่อง บรรดาสาวกกําลังทํางานกันอย่างขะมักเขม้นทั้งภายในและภายนอกสํานักสมรภูมิรบถูกเก็บกวาดเรียบร้อย ร่างของทหารทั้งสองฝ่ายก็ถูกนําไปฝังแล้ว บัดนี้ศิษย์สํานัก หมอกเมฆากําลังง่วนอยู่กับการสร้างประตูทางเข้าและหอคอยพลังงานขึ้นมาใหม่

จักรวรรดิตฉันถอนกําลังไปในที่สุด พายุร้ายผ่านพ้นไปแล้ว…

“เจียเจีย จักรวรรดิต้าฉันล่าถอยไปแล้วจริงหรือ?” เยี่ยฉวนถามขึ้น

ขณะนี้เขาไม่เห็นวี่แววของทหารต้าฉันนอกประตูรั้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สบายใจ หากบรมครูเจียงเดินเชิงหวนกลับมาในเวลานี้ สํานักหมอกเมฆาคงถูกกวาดล้างในคราเดียวจนไม่มีผู้ใดเหลือรอด

“ใช่ ข้าเห็นพวกเขาถอนกําลังไปกับตา ทหารทั้งหมดจากไปแล้ว ค่ายที่สํานักพิงหยวนก็ถูกรื้อถอนแล้วเช่นกัน” จซื้อเจียเอ่ยตอบ

อาการบาดเจ็บรุนแรงของเยี่ยฉวนทําให้เขาไม่ได้สติเป็นเวลาสามวัน จซื้อเจียจึงต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการออกลาดตระเวนยามกลางวันและดูแลเยียฉวนยามกลางคืนจนไม่มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ นางจัดยาตามอาการบาดเจ็บของเขาด้วยตนเองแม่เรือนร่างของนางจะยังบอบบางและสง่างาม ทว่าใบหน้ากลับซูบผอมและซีดเซียวกว่าแต่ก่อน

“แล้วสํานักอสูรเมฆาเล่า? มีความเคลื่อนไหวใดหรือไม่?” เยี่ยฉวนเอ่ยถามอีกครั้ง

จักรวรรดิต้าฉันถอนกําลังออกไปแล้ว แต่ภยันตรายทั้งมวลของสํานักหมอกเมฆายังไม่ผ่านพ้นไป สํานักอสูรเมฆาอาจรับมือได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับจักรวรรดิต้าฉัน พวกเขาคงเปิดฉากจู่โจมด้วยการนําทัพเหล่ายอดฝีมือมาเป็นกอง

“ไม่ พวกเขากล่าวว่า…”

จซื้อเจียลังเลครูหนึ่งก่อนกล่าวออก “ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ หลังราชินีอสูรเกศาขาวจ้าวเทียนปีพาสตรีพรหมจรรย์หงจือเซียกลับไปยังสํานักอสูรเมฆา นางประกาศว่าจะเข้าสู่การฝึกตนอย่างสันโดษจนกว่าจะบรรลสู่ขั้นมหาปราชญ์และสั่งห้ามศิษย์ทุกคนไม่ให้ออกจากสํานักโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด”

“ถ้าเช่นนั้นปัญหาเรื่องเตาหลอมระดับสวรรค์ก็คลี่คลายลงแล้ว หรืออย่างน้อยก็คงไม่มีภัยคุกคามจากสํานักอสูรเมฆาไปอีกระยะหนึ่งสินะ” เยี่ยฉวนประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อครุ่นคิดดูก็พบว่าสมเหตุสมผลแล้ว หงจือเซียอาจใช้ความรู้สึกส่วนตัวโน้มน้าวราชินีอสูรเกศาขาวได้สําเร็จ

“อม ทุกอย่างจบลงแล้ว”

จซื้อเจียกล่าวตอบแผ่วเบาพลางเผยสีหน้าซับซ้อน นางก้มหน้าลงต่ําด้วยไม่กล้าสบตากับเยี่ยฉวน

จซื้อเจียสั่งให้ทุกคนปิดเรื่องที่ราชินีอสูรเกศาขาวผนึกขั้นการฝึกตนของสตรีพรหมจรรย์และกักขังนางไว้ใต้ยอดเขาอสูรเมฆาเป็นความลับ ไม่มีผู้ใดกล่าปริปากบอกเยี่ยฉวนไม่เช่นนั้นด้วย นิสัยของเขาแล้วคงเร่งรุดไปยังสํานักอสูรเมฆาทันที แต่ตอนนี้ร่างกายของเขายังอ่อนแออยู่มาก และต่อให้อยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่ต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

“ดี ดีแล้ว ในที่สุดพายุร้ายก็พัดผ่านไปเสียที”

เยี่ยฉวนถอนหายใจ “ถึงกระนั้นเราก็ยังประมาทไม่ได้ ต้องคอยเฝ้าระวังการกลับมาของจักรวรรดิต้าฉันและเหตุการณ์ในสํานักอสูรเมฆาให้ดี ต่อไปนี้เราจําเป็นต้องจับตาดูสองยักษ์ใหญ่อย่างใกล้ชิด”

“ศิษย์พี่ใหญ่วางใจเถิด ข้าเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ช่วงนี้เจ้าควรสนใจรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าให้หายดีเสียก่อนจริงสิ! เราพบของดีจํานวนหนึ่งระหว่างเก็บกวาดสมรภูมิเจ้าลองดูเสียสิ” จซื้อเจียปุ๋ยใบก่อนออกไปพร้อมจ้าวต้าจอและกลับมาพร้อมสมบัติมากมายทั้งกระบีบนคมกริบชุดเกราะโลหิตกล้าอันแข็งแกร่ง และสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเยี่ยฉวนมากที่สุด… ธงชัยโลหิตกล้า

บรมครูเจียงเฉินเชิงได้ทิ้งอาวุธสังหารอันทรงพลังของเขาเอาไว้ เยี่ยฉวนไม่รู้ว่าเป็นเพราะชายชราไม่ต้องการมันอีกแล้วหรือเพราะตกตะลึงที่ได้พบราชินีอสูรเกศาขาวเสียจนหลงลืมมันไป

ธงผืนนี้ทั้งใหญ่และหนัก ศิษย์สํานักหมอกเมฆากว่าสิบคนต้องช่วยกันแบกมันมาอย่างยากลำบาก เพียงแค่น้ําหนักก็ทําให้มันเป็นอาวุธสังหารที่ร้ายกาจที่สุดแล้ว

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านมีพลังเหนือมนุษย์โดยกําเนิดและเป็นถึงปรมาจารย์แห่งเต่ระดับสอง ทั้งยังนําทัพเหล่าสาวกต่อกรกับกองทัพทหารกว่าสองแสนนายจากจักรวรรดิต้าฉิน ผู้ที่คู่ควรกับอาวุธสังหารทรงพลังเช่นนี้มีแต่ท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้น!”

หนานเทียนโตวในร่างมนุษย์เดินเข้ามาพร้อมกล่าวออก

บัดนี้ขั้นการฝึกตนของหนานเทียนโตวเหนือกว่าเยี่ยฉวนหลังหลอมรวมเข้ากับมังกรปีศาจเฟิงเอ๋และก้าวสู่ขันถึงปราญ่ไปแล้วครึ่งขา คําว่า มีพลังเหนือมนุษย์โดยกําเนิด เห็นทีจะเหมาะกับเขาเสียมากกว่า ทว่ายอดอัจฉริยะหาตัวจับยากที่ฟื้นคืนชีพจากหายนะผู้นี้กลับเคารพนับถือเยี่ยฉวนเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะซาบซึ้งในบุญคุณที่อีกฝ่ายช่วยเขาจากกันบึงหุบเหวมังกรปีศาจ แต่อีกส่วนเป็นเพราะเขายกย่องเยี่ยฉวนจากใจจริง

แม้เยี่ยฉวนจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งล่าสุด หากแต่เป็นการพ่ายแพ้ที่มีเกียรติ

การพ่ายแพ้ต่อบรมครูเจียงเดินเชิงขั้นกึ่งปราชญ์ไม่ถือว่าน่าอับอาย ที่ผ่านมาเขาได้สู้รบกับยอดฝีมือที่มีขั้นการฝึกตนสูงส่งกว่ามามากมายนับไม่ถ้วนและกําราบทหารต้าฉินกว่าสองแสนนายนี่ต่างหากคือความสามารถที่แท้จริง! หากเป็นผู้อื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันคงยอมแพ้และปล่อยให้ราชวงศ์ต้าฉินเหยียบย่าสมใจหรืออาจถึงขั้นละทิ้งสํานักหมอกเมฆาเพื่อเอาชีวิตรอดแต่เพียงผู้เดียว

หนานเทียนโตวผู้หยิ่งทะนงและแทบไม่เคยชื่นชมผู้ใดกลับเคารพและให้เกียรติเยี่ยฉวนมาโดยตลอด และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้ขั้นการฝึกตนของเขาจะล้ําหน้าอีกฝ่ายไปแล้วก็ตาม

ศิษย์พี่ใหญ่ก็ยังคงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ สิ่งที่ทําให้เขาชนะใจผู้คนไม่ใช่ขั้นการฝึกตนหากแต่เป็นความกล้าหาญ ความฉลาดหลักแหลม และการกระทํา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอํานาจที่แท้จริง!

“ศิษย์พี่ใหญ่ผู้ประเสริฐ!”

“คารวะศิษย์พี่ใหญ่…”

บรรดาศิษย์ร่วมสานักทยอยเข้ามาที่ละกลุ่มเพื่อแสดงความเคารพต่อเยี่ยฉวนที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาและส่งเสียงโห่ร้องยินดีพร้อมเพรียงกัน

หากการที่เยี่ยฉวนเข้าร่วมการประลองครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสามสํานักปราบกบฏภายใน รวมถึงยึดอํานาจสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ทําให้เขากลายเป็นเสาหลักของสํานักหมอกเมฆาแล้ว การที่ชายหนุ่มขับไล่กองทัพกว่าสองแสนจากจักรวรรดิต้าฉันจึงทําให้เขาพิชิตใจเหล่าสาวกได้อย่างสมบูรณ์ บัดนี้เขามีอํานาจเบ็ดเสร็จและมียศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่งกว่าอาวุโสสูงสุดเสียอีก

ต่อให้ไม่ใช่เจ้าสํานักก็ใกล้เคียง… หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ํา!

นี่คือตําแหน่งของเยี่ยฉวนภายในจิตใจของศิษย์ทุกคน

ทันใดนั้นเยี่ยฉวนเอื้อมมือออกไปคว้าธงชัยโลหิตกล้าและโบกสะบัดไปมา

เยี่ยฉวนเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและยังไม่หายสนิท ร่างกายของเขาจึงอ่อนแอมาก ทว่าชายหนุ่มกลับยกธงชัยโลหิตกล้าที่ต้องอาศัยศิษย์มากกว่าสิบคนแบกมาอย่างยากลําบากด้วยตัวคนเดียวพร้อมจิตสังหารแผ่ซ่าน ชั่วขณะหนึ่งที่ร่างของเขาแผ่ความรู้สึกกดดันคล้ายคลึงกับบรมครูเจียงเฉินเชิง!

ในภพชาติก่อนเยี่ยฉวนได้ศึกษาเคล็ดวิชามากมายบนโลกอย่างลึกซึ้ง อาวุธสังหารมหึมาเช่นนี้จึงไม่เป็นปัญหาสําหรับเขา เขารู้แม้กระทั่งเคล็ดวิชาการควงศาสตราวุธประเภทธงที่สาบสูญไปนาน นอกจากพลังงานและแรงกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาแล้วธงผืนนี้ยังมีความลับอื่นซุกซ่อน อยู่ยามแกว่งไกว เคล็ดวิชาที่ชายหนุ่มครอบครองดีกว่าเคล็ดวิชาของบรมครูเจียงเฉินเชิงทั้งยังถูกคิดค้นขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะธงชัยโลหิตกล้าในมือทําให้ปราณยุทธ์ของเยี่ยฉวนทะลักทลายจนจซื้อเจียเป็นกังวลว่าบาดแผลของเขาจะเปิดออกอีกครั้ง!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด