Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 155 โทสะแผดเผา สวรรค์

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 155 โทสะแผดเผา สวรรค์ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 155 โทสะแผดเผา สวรรค์

แสงสีแดงสว่างวาบก่อนร่างของเยี่ยฉวนและพรรคพวกจะถูกส่งกลับไปยังสํานักหมอกเมฆาที่อยู่ไกลออกไปกว่าร้อยล้าน

 

“พวกเรากลับมาแล้ว! ในที่สุดก็กลับมาจนได้เ”

 

เจ้าอ้วนเข่าทรุดลงกับพื้นตั้งแต่วินาทีที่มาถึงสํานักหมอกเมฆา

 

ขาของเขาสันไม่หยุดตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไปในสํานักอสูรเมฆาและหวาดผวาอย่างมากหลังสิ้นสุดการเดินทาง เจ้าอ้วนลอบสาบานกับตนเองว่านับแต่นี้ไปจะไม่ออกไปไหนกับศิษย์พี่ใหญ่อีกเป็นอันขาด การที่เยี่ยฉวนอาจหาญโต้เถียงกับอาวุโสเถียนชิงหรือแม้แต่ราชินีเผ่าอสูรผู้สันโดษและเย็นชานั้นทรมานผู้ร่วมทางเช่นเจ้าอ้วนอย่างมาก จิตใจของเขาไม่แกร่งพอจะเผชิญหน้ากับความตายอย่างกะทันหันเช่นนั้น ต่อให้มีผู้ที่จิตใจแข็งแกร่งกว่าต้องมาตกที่นั่งเดียวกับเขาก็อาจกลัวหัวหดไม่แพ้กัน!

 

แม้จะหวาดกลัวแต่จ้าวต้าจ๋อก็นับถือศิษย์พี่ใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้

 

เป็นที่รู้กันดีว่าเตาหลอมระดับสวรรค์คือสมบัติล้ำค่าของสํานักอสูรเมฆา อย่าว่าแต่สามยอดฝีมือแห่งสํานักอสูรเมฆาแม้แต่ราชินีเผ่าอสูรผู้ฝึกตนอย่างสันโดษมาหลายพันปียังต้องออกมาเพื่อปกป้องสมบัติชิ้นนี้ ทว่าสุดท้ายเยี่ยฉวนก็นํามันกลับมาได้สําเร็จ ช่างมีฝีมือเสียจริง! 

 

เยี่ยฉวนทําให้เจ้าสํานักโท่วปาเซียงอับอายขายหน้า นําเหล่าศิษย์คว้าชัยชนะในการประลองครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสามสํานัก อีกทั้งยังยืมเตาหลอมระดับสวรรค์จากสํานักอสูรเมฆาได้สําเร็จ เขากระทําการเหนือความคาดหมายครั้งแล้วครั้งเล่าและลบเลือนความเคลือบแคลงใจของผู้คนออกไป

 

“เรากลับมาแล้ว ต้องขอบคุณเยี่ยฉวนที่ทําให้เรากลับมาได้อย่างปลอดภัย ศิษย์พี่ใหญ่ช่างประเสริฐโดยแท้” ผู้พิทักษ์หยางพึมพํากับตนเอง แม้ดวงตาจะบอดสนิทแต่เขาไม่ได้คิดโทษผู้ใดและรู้สึกโล่งใจอย่างมาก “เตาหลอมระดับสวรรค์จะช่วยให้เราปรุงยาทุกชนิดได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องเกรงกลัวจักรพรรดิต้าฉินอีกต่อไป สํานักของเราจะผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น”

 

ผู้พิทักษ์หยางที่แทบเอาชีวิตไม่รอดคิดเช่นเดียวกับเจ้าอ้วน

 

การไปเยือนสํานักอสูรเมฆาในครั้งนี้อันตรายกว่าที่คาดไว้มาก เขาเป็นถึงผู้พิทักษ์และเป็นตัวแทนของสํานักอสูรเมฆา แต่กลับไม่มีโอกาสได้พบอาวุโสเถียนชิงเสียด้วยซ้ำ โชคดีที่เยี่ยฉวนทั้งกล้าหาญและหลักแหลม ชายหนุ่มไม่เพียงช่วยให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยแต่ยังยืมเตาหลอมระดับสวรรค์มาได้สําเร็จอีกด้วย!

 

แม้จะซื่อสัตย์ไว้เล่ห์กลอีกทั้งยังไม่ถนัดเรื่องการ เข้าสังคมหรือการแสดงอารมณ์เท่าใดนัก แต่หยางเทียนกวงเป็นคนฉลาด บัดนี้ไม่อาจมีผู้ใดสั่นคลอนตําแหน่งศิษย์พี่ใหญ่ได้ด้วยความสามารถของเยี่ยฉวน ยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจเป็นใหญ่ถึงขั้นเจ้าสํานักได้หากฝึกตนอีกเพียงไม่กี่ปี

 

เดิมที่หยางเทียนกวงไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเยี่ยฉวนมากนัก แต่ตอนนี้เขาคงต้องทบทวนเสียใหม่

 

เยี่ยฉวนต้องรวบรวมอํานาจหากต้องการขึ้นเป็นศิษย์พี่ใหญ่ เขาจําเป็นต้องมีบริวารที่ภักดีและมีฝีมือทั้งยังต้องเหนือกว่าผู้ใดในสํานักเพื่อให้เหล่าศิษย์เลือกพึ่งพาเขาในทุกสถานการณ์ หากหยางเทียนกวงฉวยโอกาสเข้าร่วมกับเยี่ยฉวนแต่เนิ่นๆ แม้จะมีความเสี่ยงสูงแต่ผลลัพธ์ในอนาคตอาจยิ่งใหญ่กว่าที่คิด!

 

หยางเทียนกวงไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลังจึงหาทางไต่เต้าไปสู่ตําแหน่งที่สูงขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น เพราะการเป็นคนซื่อสัตย์และไร้เล่ห์เหลี่ยมไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมอยู่เฉย!

 

“ผู้พิทักษ์หยาง ครั้งนี้เจ้าต้องสูญเสียอย่างใหญ่หลวงในสํานักอสูรเมฆา แต่อย่ากังวลไปเลย ข้าจะรักษาดวงตาและทําให้เจ้ากลับมามองเห็นอีกครั้งให้จงได้” เยี่ยฉวนตบบ่าของผู้พิทักษ์หยาง เขารู้ทันความคิดในหัวของหยางเทียนกวงจึงฉวยโอกาสซื้อใจอีกฝ่าย

 

ยาเม็ดธรรมดาไม่อาจเยียวยาดวงตาของหยางเทียนกวงที่ถูกฮั่วชานแทงได้ แต่อดีตมหาปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์อย่างเยี่ยฉวนย่อมมีหนทางรักษา

 

“ขอบคุณคุณชายเยี่ย”

 

ผู้พิทักษ์หยางปิติยินดีจนเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกเยี่ยฉวนโดยไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเกิดความเชื่อมั่นในตัวเยี่ยฉวนที่ไม่สามารถอธิบายได้เช่นเดียวกับเจ้าอ้วน เขาเชื่อมั่นว่าเยี่ยฉวนจะรักษาดวงตาของเขาได้เป็นแน่!

 

“ไปกันเถิด เราไม่ควรปล่อยให้อาวุโสลําดับสองและคนอื่นๆ รอนาน”

 

เยี่ยฉวนยิ้มพลางเดินนําคนทั้งสองออกจากเครื่องเคลื่อนย้าย

 

จิตใจที่ร้อนรนของผู้พิทักษ์หยางและเจ้าอ้วนสงบลงทันทีที่ย่างเท้าเข้าสู่เขตแดนของสํานักหมอกเมฆา แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็แทบชนเข้ากับเยี่ยฉวนเต็มๆ

 

เยี่ยฉวนที่เดินนําหน้าชะงักฝีเท้ากะทันหัน

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ เกิดเหตุอันใดหรือ?” เจ้าอ้วนถาม

 

“เราเจอปัญหาแล้ว!”

 

เยี่ยฉวนลดเสียงลง ทั้งร่างตึงเครียด เขากดไหล่ลงและเกร็งกล้ามเนื้อประหนึ่งเผชิญหน้ากับศัตรูอันน่าเกรงขาม

 

“ปัญหา?!”

 

จ้าวต้าจื่อกวาดตามองโดยรอบก่อนเอ่ยถามด้วยความงุนงง “แต่ในสํานักของเรามีทั้งปรมาจารย์ยอดฝีมือและอาณาเขตป้องกันมากมาย ต่อให้เป็นจอมมารผู้ไร้เทียมทานก็มาถึงที่นี่ไม่ได้ แล้วจะมีปัญหาอะไรหรือขอรับ?”

 

“เจ้าอ้วน เรามีปัญหาภายในต่างหาก”

 

น้ำเสียงของเยี่ยฉวนเย็นชาระคนโศกเศร้า “เราเดินมานานแล้ว เจ้าไม่รู้สึกหรือว่ามันเงียบเกินไป?”

 

สายลมเย็นเฉียบพัดผ่านใบไม้แห้งดังกรอบแกรบ

 

หัวใจของเจ้าอ้วนและผู้พิทักษ์หยางสั่นระรัวเมื่อได้ยินดังนั้น พวกเขาพบว่าตลอดทางนั้นเงียบเกินไป เงียบจนผิดปกติ… ศิษย์ในสํานักและคนงานที่สัญจรไปมาบนเส้นทางนี้ไปอยู่แห่งหนใดกัน?

 

“ฮ่าๆๆ สายตาของศิษย์พี่ใหญ่ผู้ทรงพลังช่างเฉียบแหลมยิ่ง!”

 

เสียงหัวเราะดังลั่นจากในป่าทึบก่อนกองกําลังพร้อมอาวุธครบมือจะก้าวออกมา หัวหน้าร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะหนักอึ้งสูงกว่าคนธรรมดาเกือบหนึ่งช่วงหัว แขนของเขาหนาพอๆ กับต้นขาของคนทั่วไป ในมือถือค้อนหนักแปดร้อยจินและทุกย่างก้าวจะทิ้งรอยเท้าลึกไว้บนแผ่นดิน แลดูทรงพลังน่าเกรงขามยิ่งนัก!

 

“เขาคือไป๋เซิงสุ่ยหรือไป๋ที่สอง ผู้ใต้บังคับบัญชาลําดับสองของไปเยี่ยนหู นับว่าโหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อถือได้ของอาวุโสลําดับสาม คุณชายระวังตัวด้วยขอรับ”

 

ผู้พิทักษ์หยางกระซิบเตือนเยี่ยฉวนเสียงต่ำ

 

หยางเทียนกวงอยู่ในสํานักหมอกเมฆามานานกว่าเยี่ยฉวนและจ้าวต้าจ๋อจึงรู้จักบริวารทั้งหลายของอาวุโสลําดับสามเป็นอย่างดีแม้มองไม่เห็น

 

“ฮ่าๆๆ ถูกต้อง! ข้าคือไป๋ที่สองผู้โหดเหี้ยม ข้าสังหารได้ในชั่วพริบตาและชอบตัดคอคนด้วยดาบทื่อๆ ว่าอย่างไร? กลัวข้าล่ะสิ! ฮ่าๆๆ”

 

ไป๋ที่สองระเบิดหัวเราะเมื่อได้ยินคําพูดของผู้พิทักษ์หยาง ทหารอารักขาภายใต้การนําของเขาจ้องเขม็งด้วยสายตาดุดัน พวกเขาจัดทหารราบให้เฝ้าดูเครื่องเคลื่อนย้ายทั้งวันทั้งคืนเพื่อรอคอยการกลับมาของเยี่ยฉวนและพรรคพวก

 

เพียงทั้งสามก้าวเข้าสู่สํานักหมอกเมฆาก็โดนซุ่มโจมตีทันที! หนีจากถ้ำเสืออย่างสํานักอสูรเมฆาได้ไม่ทันไรก็ถูกโยนเข้าถ้ำหมาป่าเสียแล้ว!

 

“ในที่สุดอาวุโสลําดับสามก็เคลื่อนไหวแล้วหรือ?”

 

เยี่ยฉวนเผยสีหน้าเย็นชาขณะยืนนิ่งไม่ไหวติง “อาวุโสลําดับสองอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

 

“วางใจเถิด เขายังไม่ตาย แค่ถูกตัดขาเท่านั้น! ถึงท่อนล่างจะสิ้นแล้วแต่ท่อนบนยังอยู่ดี! ฮ่าๆๆ!”

 

ไป๋ที่สองระเบิดหัวเราะก่อนกล่าวต่อด้วยจิตสังหารพลุ่งพล่าน “ตาแก่นั่นดีแต่ปลูกสมุนไพร ไม่คู่ควรกับตําแหน่งผู้อาวุโสมาตั้งแต่แรกแล้ว หากชอบสมุนไพรนักก็มาเป็นหมอยาคอยทดสอบยาพิษในสํานักเสียสิ! ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านกลับมาได้ทันเวลาพอดี หากท่านอยากชื่นชมความงามของศิษย์น้องหญิงของท่านต่อไปก็จงโน้มน้าวอาวุโสลําดับสองให้ยอมรับชะตากรรมเสีย ไม่เช่นนั้นนางจะต้องร่วมหอกับท่านเจ้าสํานักไปเยี่ยนหูคืนนี้เพื่อลิ้มรสความสุขเนื้อแนบเนื้อฉันท์คู่รัก ต่อจากนี้แม่สาวน้อยคงต้องกลายเป็นสาวที่ออกเรือนเสียแล้ว ฮ่าๆๆ…”

 

ไป๋ที่สองแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างที่นกระหายเมื่อนึกถึงความสง่างามและผิวขาวเนียนราวหิมะของจูซือเจีย นางเป็นสาวงามที่หัวรั้นและอารมณ์ร้ายทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา หากได้ร่วมหอลงโรงกับนางในค่ำคืนนี้คงคึกคักตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งสางเป็นแน่ น่าเสียดายที่ตัวเอกในเรื่องนี้ไม่ใช่เขาหากแต่เป็นอาวุโสไปเยี่ยนหูที่จะทําลายความบริสุทธิ์ของนางด้วยตนเอง!

 

“ไอ้หมูสกปรก!”

 

เยี่ยฉวนโกรธจัดจนเส้นเลือดปูดโปนบนใบหน้า!

 

การก่อกบฏนั้นยังพอรับได้ แต่ตัดขาผู้อาวุโสหนานกงเหรินทั้งเป็นและย่ำยีเกียรติของศิษย์น้องหญิงจูซือเจียในที่แจ้ง…. ไม่เหลือความเป็นมนุษย์เลยหรือถึงได้ปฏิบัติต่อคนในสํานักอย่างโหดร้ายและไร้ยางอายเพียงนี้!

 

เขาโกรธมาก มากเสียจนอยากแผดเผาทั้งสรวงสวรรค์ให้มอดไหม้ เปลวเพลิงแห่งโทสะพวยพุ่งสู่ดินแดนอันชั่วช้าแห่งนี้!

 

โทสะแผดเผาสวรรค์

 

เยี่ยฉวนเกรี้ยวกราดจนพลังงานในร่างพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่อง!

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด