Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 177 อัศจรรย์เหนือจินตนาการ
บทที่ 177 อัศจรรย์เหนือจินตนาการ
แสงสีฟ้าครามแล่นไปทั่วร่างของเยี่ยฉวน
ภูตทะเลไหลี่ลี่หายเข้าไปในโคมบงกชสีคราม บัดนี้ในถ้ําจึงเหลือเพียงเยี่ยฉวนที่ยืนนิ่งไม่ยอมจากไป
ชิ้นส่วนความทรงจํามากมายไหลย้อนเข้ามาในหัวระหว่างขัดเกลาภูตทะเลสาว พลังงานที่อธิบายไม่ได้หมุนเวียนอยู่ในร่างไม่กี่รอบ ก่อนหยุดลงที่จุดตันเถียนและแปรเปลี่ยนเป็นกระแสปราณวน ซึ่งเป็นสัญญาณการก่อรวมยันต์กลืนกินสวรรค์ใบที่สี่
กระแสพลังงานในกายพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระแสปราณวนขนาดใหญ่หลอมรวมบนน่านฟ้าเหนือยอดเขา มังกรสวรรค์อย่างรวดเร็วและดูดกลืนปราณแห่งจิตวิญญาณโลกในรัศมีสิบลี้เข้ามา ก่อนขยายออกเป็นยี่สิบลี้ สามสิบหมอกโลหิตในหุบเขามังกรปีศาจเดือดพล่านจนแทบทะลักราวกับต้องการกลืนกินเยี่ยฉวนเข้าไป
กระแสปราณวนที่จุดตันเถียนไหลเวียนอย่างรวดเร็ว และควบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มกลืนกินปราณแห่งจิตวิญญาณโลกรอบตัวราวกับหิวกระหาย
เยี่ยฉวนรู้ว่านี่คือโอกาสอันดีจึงนั่งลงเข้าสู่สมาธิทันที
จ้าวต้าจื่อผู้เศร้าโศกรีบรุดกลับไปแจ้งข่าวทันที ไม่นานนักปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งก็เดินทางมาเพื่ออารักขาที่หน้าปากถ้ํา
สีหน้าของนักรบพฤกษาแปรเปลี่ยนเมื่อสัมผัสถึงพลังงานในร่างของเยี่ยฉวน
ขั้นการฝึกตนของเยี่ยฉวนไม่สูงส่งนักแต่ความแข็งแกร่งของร่างกายและกระแสพลังงานกลับเหนือกว่าผู้ฝึกตนในขั้นเดียวกันมาก แม้แต่ศิษย์ชั้นเลิศขั้นซิวฉือระดับสูงสุดยังไม่อาจเทียบ นักรบพฤกษาทุกคนต่างมีทักษะชั้นยอดติดตัวมาแต่กําเนิด ถึงกระนั้นเถียนกู่ ก็ยอมรับว่าตัวเขาในยามที่อยู่ขั้นชิวฉือยังไม่ทรงพลังเท่าเยี่ยฉวนในยามนี้
“ศิษย์พี่ใหญ่รุ่นนี้มากฝีมือยิ่ง…. หรือสํานักหมอกเมฆาจะฟื้นคืนสู่ความรุ่งเรืองในยุคนี้จริงๆ?” เถียนพึมพํากับตนเอง
นักรบพฤกษาปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมของสํานักและทําตามพระบัญชาของราชีนีอสูรเกศาขาวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งแตกต่างจากหงจือเซียผู้ดื้อรั้นและหยิ่งผยอง แม้สตรีพรหมจรรย์จะจากไปแล้วแต่เขาไม่มีทางไปจากสํานักหมอกเมฆาโดยพลการหากไม่ได้รับพระบัญชาอื่นใดจากองค์ราชินี
ครั้งหนึ่งเขาเคยดูถูกสํานักหมอกเมฆาที่กําลังเสื่อมโทรมเช่นเดียวกับศิษย์สํานักอสูรเมฆาจํานวนมาก แต่เมื่อได้สัมผัสสํานักเก่าแก่นี้โดยละเอียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจึงพบว่า สํานักหมอกเมฆาเปรียบเสมือนภูเขาสูงตระหง่านที่ขาดสารอาหารหล่อเลี้ยงมานาน หลายปีจนค่อยๆเที่ยวเฉาและร่วงโรยไม่หลงเหลือสีเขียวแม้แต่น้อย ทว่าเพียงน้ําค้างหยดเดียวที่ร่วงหล่นจากสวรรค์อาจจุดประกายพลังชีวิตของมันขึ้นอีกครั้งได้ และดูเหมือนว่าเยี่ยฉวนคือน้ําค้างหยดนั้น!
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของพลังจิตวิญญาณโลกและการฝึกตนอย่างสันโดษของเยี่ยฉวนปลุกศิษย์ในสํานักทุกคนให้ตื่นตัว และเฝ้ารอสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ความขัดแย้งภายในสํานักหมอกเมฆาทิ้งรอยแผลที่ยังไม่อาจสมานเอาไว้ ผู้คนมากมายยังเป็นกังวลเรื่องการส่งส่วยให้จักรพรรดิ ต้าฉิน สํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์จับตามองพวกเขา ด้วยความโลภอาวุโสลําดับสองกลายเป็นผู้พิการ และอาวุโสสูงสุดก็ยังไม่กลับมาจากเมืองหลวง สํานักหมอกเมฆาจึงต้องการยอดฝีมือ ระดับสูงมาปกครองอย่างเร่งด่วน ถึงเยี่ยฉวนจะกล้าหาญและหลักแหลม แต่น่าเสียดายที่ขั้นการฝึกตนของเขายังไม่เพียงพอ
เพียงแค่เยี่ยฉวนบรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าก็จะสามารถขึ้นเป็นเจ้าสํานักได้อย่างเหมาะสม และเมื่อถึงเวลานั้นศิษย์ในสํานักจะได้มีเสาหลักที่แท้จริงให้ภูมิใจและยกย่องเสียที!
สามวันล่วงไปอย่างรวดเร็ว ทว่าภายในถ้ํายังคงไร้การเคลื่อน
ไหว…
ครึ่งเดือนล่วงไป แต่ภายในถ้ํายังคงเงียบสงัด…
กระแสปราณวนเหนือยอดเขามังกรสวรรค์ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นดูดกลืนปราณแห่งจิตวิญญาณโลกในสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์เข้าไปด้วย ผู้สอดแนมจากทั้งสองสํานักจึงเริ่มปรากฏตัวโดยรอบสํานักหมอกเมฆา
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาทั้งคาดหวังและเป็นกังวลในเวลาเดียวกัน
ในที่สุดการฝึกตนของเยี่ยฉวนก็สิ้นสุดลงหลังสามเดือนเต็มล่วงไป แต่แล้วผู้คนกลับต้องผิดหวังเมื่อเขาบรรลุเพียงขั้นซิวฉือระดับสามเท่านั้น การเคลื่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่ของเขาให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย ทว่าเยี่ยฉวนกลับเบิกบานใจเพราะมียันต์กลืนกินสวรรค์ รูปสายน้ําใบใหม่ปรากฏขึ้นภายในจุดตันเถียน! พลังของชายหนุ่มก้าวกระโดดจากห้าหมื่นสี่พันจินเป็นเจ็ดหมื่นสองพันจิน!
ยันต์กลืนกินสวรรค์เพียงใบเดียวสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาถึงหนึ่งหมื่นแปดพันจิน ฉะนั้นการก่อรวมยันต์กลืนกินสวรรค์ใบใหม่ย่อมดีกว่าบรรลุขั้นการฝึกตนเป็นไหนๆ
อดีตมหาปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์แห่งดินแดนรกร้างผู้นี้มีเส้นทางการฝึกตนที่ลึกซึ้งและแตกต่างจากผู้อื่น เขาไม่หลับหูหลับตาเร่งรีบฝึกตนหากแต่เพียรพยายามจนถึงจุดสูงสุดของทุกขั้น มีเพียงการก้าวหน้าอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคงเช่นนี้เท่านั้น ที่สามารถพาเขากลับคืนสู่จุดรุ่งโรจน์ในชาติที่แล้วได้ ยันต์กลืนกินสวรรค์รูปกระแสน้ําไม่เพียงมอบพลังมหาศาลแต่ยังทําให้เขาตกอยู่ในห้วงภวังค์ เยี่ยฉวนนึกสงสัยว่ายันต์ใบนี้มีความลับใดซุกซ่อนอยู่
“เคล็ดวิชาการฝึกตนที่ข้าค้นพบในสุสานเทพเจ้าช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง! การขัดเกลาภูตทะเลให้เชื่องมีประโยชน์เช่นนี้เอง… หากข้าขัดเกลานักรบพฤกษาหรือกระทั่งสตรีพรหมจรรย์ด้วยก็คง…”
เยี่ยฉวนครุ่นคิดเมื่อเหลือบไปเห็นนับรบพฤกษาเถียนกู้ยืนจังก้า ดุจภูเขาขนาดย่อมห่างออกไปไม่ไกลนัก
การขัดเกลาสัตว์อสุรกายให้เชื่องไม่เพียงเพิ่มจํานวนบริวารที่แข็งแกร่ง แต่ยังเพิ่มโอกาสในการสืบทอดพลังที่ติดตัวมาแต่กําเนิดของพวกเขาอีกด้วย หลังฝึกตนมาเป็นเวลานานจึงพบว่ายันต์ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์จากสุสานเทพเจ้านี้ มหัศจรรย์กว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก!
นักรบพฤกษาถือเป็นสัตว์อสูรชนิดพิเศษ อายุขัยของพวกเขายืนยาวกว่าสัตว์อสุรกายธรรมดาและมีทักษะติดตัวที่แตกต่าง เยี่ยฉวนมั่นใจว่าขั้นการฝึกตนของเขาจะทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วหากสามารถขัดเกลายักษ์ใหญ่ผู้นี้ได้ เขาคงคิดลงมือทันทีหากไม่ใช่เพราะยังเคลือบแคลงเรื่องสํานักอสูรเมฆาและราชินีอสูรเกศาขาวผู้อยู่เบี้องหลัง
ขั้นการฝึกตนของหงจือเซียเหนือกว่าเถียนกู่เล็กน้อยอีกทั้งยังมีบุญญาธิการสูงส่ง หากขัดเกลานางได้คงส่งผลดีไม่น้อย ส่วนการขัดเกลาราชินีอสูรเกศาขาวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เยี่ยฉวนที่เพิ่งออกมาจากถ้ําเงยหน้าขึ้นมองเทือกเขา หมอกเมฆาอันสลับซับซ้อนและเปล่งเสียงดังยาว
“ข้าขอรายงาน… ศิษย์พี่ใหญ่ขอรับ ท่าไม่ดีแล้วศิษย์พี่ใหญ่…”
เสียงของเยี่ยฉวนก้องกังวานไปทั้งฟ้าก่อนเสียงของจ้าวต้าลื่อจะดังแว่วมาแต่ไกล เจ้าอ้วนที่เลือดกําเดาไหลและใบหน้าฟกช้ําในชุดคลุมเบื้อนเลือดเหยียบกระบี่บินพุ่งตรงมา
“เกิดเหตุอันใดขึ้น? เจ้าอ้วน เจ้าแค่ไปอารักขาประตูสํานักไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงสะบักสะบอมถึงเพียงนี้?” เยี่ยฉวนอมยิ้ม สหายผู้นี้ช่างน่าเวทนา… ไม่ว่าจะไปที่ใดหรือเกิดเหตุอันใดก็มักจะมีเรื่องให้เจ็บตัวอยู่เสมอ
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
“ศิษย์พี่ใหญ่ แย่แล้ว… แย่มากๆ ศิษย์สํานักเบญจลักษณ์จํานวนมากพากันบุกรุกเข้ามา ศิษย์ของเราจะต้านไว้ไม่ไหวแล้วขอรับ” เจ้าอ้วนหอบหายใจขณะละล่ําละลักแจ้งข่าวอันน่าตกใจ
“อะไรนะ?!”
ศิษย์สํานักเครื่องนิลจากไปไม่ทันไร สํานักเบญจลักษณ์ก็มา เยือนอีกแล้วหรือ?
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาโดยรอบเผยสีหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว
“ไปดูกันเถอะ
สีหน้าของเยี่ยฉวนสลดลงพลางลากเจ้าอ้วนวิ่งออกไปราวกับติดปีก ความเร็วของเขาว่องไวกว่าเจ้าอ้วนยามเหยียบกระบี่บินนัก ด้านปีศาจเพลิงและปีศาจเขาโค้งนากู้ซื้อพร้อมด้วยศิษย์คนอื่นพากันตามหลังมาติดๆ
คอมเม้นต์