Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 218เศษเสี้ยวแดนสวรรค์
บทที่218เศษเสี้ยวแดนสวรรค์
เยี่ยฉวนและบรรดาศิษย์สํานักหมอกเมฆารวมสิบห้าคนที่รอดชีวิตกางแขนอาบแสงนวลอบอุ่นที่ส่องสว่างลงมาอย่างกระตือรือร้นร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งพลังปราณภายในยังไหลเวียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วูบ…กระแสลมลึกลับหมุนวนรอบกายจซื้อเจียจากนั้นแสงสีขาวจึงกระเพื่อมไหวเมื่อการฝึกตนจากเดิมที่บรรลุขั้นซิวฉือระดับที่สองพุ่งทะยานขึ้นสู่ระดับที่สาม…ระดับที่สี่…กระทั่งสิ้นสุดในระดับที่ห้า!จากนั้นความแปรปรวนของพลังงานในร่างจึงค่อยๆเสถียร
หลังจากพวกเขาผ่านสถานการณ์เฉียดตายมาได้ความทุกข์จึงแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสันต์ขั้นการฝึกตนของแต่ละคนมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดแม้แต่จ้าวต้าจอก็พัฒนาจากขั้นซิวฉือระดับที่สองสู่ระดับที่สามทว่าเยี่ยฉวนกลับแตกต่างขั้นการฝึกตนของเขายังคงเป็นขั้นชิวฉือระดับที่สี่เช่นเดิมโดยปราศจากการเปลี่ยนแปลงแต่ระบบไหลเวียนโลหิตรวมถึงความแข็งแกร่งของร่างกายควบแน่นขึ้นแขนขาและกระดูกทั้งหมดมีแสงสีขาวไหลเวียนอยู่โดยรอบส่วนยันต์กลืนกินสวรรค์ใบที่หกภายในจุดตันเถียนซึ่งเป็นรูปมังกรปีศาจถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์
ชายหนุ่มกางแขนทั้งสองข้างออกเพื่อดูดซับแสงสีขาวซึ่งส่องลงมาจากฟากฟ้าด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจประหนึ่งวาฬกลืนน้ําทะเลเขาไม่ใส่ใจระดับการฝึกตนนักทว่าสนใจความแข็งแกร่งของร่างกายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า!
การสร้างความก้าวหน้าและเสริมพลังให้เพิ่มพูนล้วนเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายในทุกกรณีเพราะสิ่งนั้นสําคัญกว่าระดับขั้นการฝึกตนหลายเท่าหากบุคคลตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน…สัญชาตญาณเท่านั้นที่จะช่วยให้ตนรอดชีวิตไม่ใช่เคล็ดวิชาหรือสมบัติล้ําค่าบาง
ชิ้น
แสงสีขาวซึ่งส่องลงมาตรงจุดที่เยี่ยฉวนยืนอยู่สว่างจ้าที่สุดแต่แล้วจึงจางลงอย่างรวดเร็วเมื่อแสงอีกครึ่งไหลซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา
เจ้าอ้วนและคนอื่นๆต่างพูดคุยกันอย่างออกรสด้วยพลังใจที่เต็มเปี่ยมหลังระดับขั้นการฝึกตนบรรลุในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่วนเยี่ยนวนกลับหลับตาลงและดําดิ่งสู่ห้วงแห่งการฝึกตนที่พบได้ยากยิ่งบนโลกภายนอกโดยไม่ปริปากเอ่ยคําใด
แสงนวลละเอียดที่ส่องลงมามีลักษณะคล้ายกับหยดเลือดมังกรปีศาจซึ่งส่งผลให้ร่างกายของเขาบิดเบี้ยวอีกครั้งหากใช้สายตามองเพียงปราดเดียวจะเห็นเหมือนกล้ามเนื้อทุกส่วนไร้การพัฒนาแท้จริงแล้วพวกมันค่อนข้างสมดุลทั้งยังเปี่ยมไปด้วยพลังที่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงผิวพรรณขาวกระจ่างขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้าแสงสีขาวเลือนรางที่ไหลเวียนอยู่รอบกายเขารูปร่างคล้ายกับมังกรปีศาจในป่าหินที่มีลําตัวเป็นสีหยกขาวบริสุทธิ์ไม่มีผิดเพี้ยน
ไม่นานนักลําแสงระยิบระยับดังกล่าวจึงค่อยๆหรี่ลงเหลือเพียงละอองที่ปกคลุมเหนือร่างของพวกเขาทันใดนั้นแสงสีแดงพลันสว่างวาบพร้อมกับร่างของทุกคนที่หายวับไปจากที่นี่
ครั้นได้สติพวกเขากลับรู้สึกราวกับโลกทั้งใบหมุนวนโดยเร็วอย่างต่อเนื่องไม่กี่อึดใจทุกคนจึงย้ายมาปรากฏตัวขึ้นในโลกอีกใบหนึ่งที่มีค่ายกลหมากรุกเช่นเดียวกับด่านแรก
บนพื้นดินปรากฏหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านเป็นแนวของกระดานหมากรุกเหนือศีรษะมีม่านบังแสงเช่นเคยทว่าคราวนี้ตัวหมากเปลี่ยนจากรูปปั้นหินที่เย็นเยือกเป็นอสรพิษครึ่งคนสีแดงและสีดําโดยแบ่งจํานวนเป็นฝั่งละสิบห้าตัวซึ่งเป็นจํานวนเดียวกับคนของสํานักหมอกเมฆาที่รอดชีวิตจากค่ายกลก่อนหน้า!
ฟอ…อสรพิษครึ่งคนส่งเสียงขู่ลําตัวเลื้อยบิดไปมาอย่างต้องการโจมตี
เส้นผมบนศีรษะและเส้นขนตามร่างกายของทุกคนลุกซู่จซื้อเจียกรีดร้องเสียงดังและก้าวไปหลบอยู่หลังเยี่ยฉวนทันที!ตลอดชีวิตนางไม่เคยหวั่นเกรงเรื่องใดแม้แต่สวรรค์ยันโลกมนุษย์ทั้งยังกระตือรือร้นในการดําเนินงานต่างๆอยู่เสมอแต่สิ่งที่นางหวาดกลัวที่สุดในชีวิตก็คืออสรพิษทุกประเภท!
อสรพิษครึ่งคนเบื้องหน้าแตกต่างจากฝูงที่เยี่ยฉวนพบพานในป่าหินพวกมันในที่นี้ไม่ใช่อสูรหินซึ่งมีร่างกายแข็งกระด้างและเย็นเยือกแต่มีเลือดเนื้ออย่างแท้จริง!รูปร่างมีขนาดใหญ่มหึมาและมีเขาคู่หนึ่งประดับอยู่บนหัวเยี่ยฉวนไม่รู้แน่ชัดว่าพวกมันชีวิตอยู่บนโลกมานานเพียงใดทว่าคาดคะเนว่าพวกมันอาจมีตัวตนมาตั้งแต่สมัยที่อาณาจักรสวรรค์แห่งนี้ก่อกําเนิดขึ้น
เขายื่นมือไปด้านหน้าก่อนชะงักค้างอยู่กลางอากาศขณะพยายามสัมผัสอสรพิษครึ่งคนตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ทันใดนั้นเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น!ยันต์อสรพิษครึ่งคนที่อยู่ในจุดตันเถียนฟื้นคืนชีพพร้อมแผ่พละกําลังมหาศาลเหล่าอสรพิษสีแดงต่างเลื้อยไปหาเยี่ยฉวนอย่างนอบน้อมรอรับคําสั่งทว่าอสรพิษสีดําซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งยังคงเกรี้ยวกราดเช่นเดิมลําตัวที่ขดอยู่กับพื้นบิดเร่าปลายหางสะบัดไปมาราวเตรียมพร้อมพุ่งฉกได้ทุกเมื่อ
ขณะนั้นพื้นดินสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมกับอักษรจีนสามคําที่ส่องแสงสว่างจ้าความว่าเศษเสี้ยวแดนสวรรค์ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ!
ค่ายกลหมากรุกด่านแรกมีนามว่าโลกาวิกลส่วนด่านนี้มีนามว่าเศษเสี้ยวแดนสวรรค์ซึ่งมีความหมายไปในเชิงเดียวกันคือไม่สมบูรณ์กระดานหมากรุกตรงหน้าเต็มไปด้วยอันตรายถึงแก่ชีวิตการฝ่าฟันกระดานหมากราชาปีศาจในครั้งนี้อาจมีผู้สูญเสียจํานวนมากขึ้น!
ความหวั่นวิตกก่อตัวขึ้นในจิตใจบรรดาศิษย์สํานักหมอกเมฆาร่างกายของพวกเขาชุ่มโชกไปด้วยหยดเหงื่อ
“พวกเราต้องขึ้นขอสรพิษครึ่งคนเหล่านี้ผสานร่างกับมันจนกลายเป็นหมากรุกงใช้ตบะบําเพ็ญตนท้าทายสวรรค์นึกถึงระดับขั้นการฝึกตนที่เพิ่มพูนขึ้นและความสุขที่เกิดขึ้นเมื่อครู่หลังรอดพ้นจากภยันตรายเข้าไว้หากเจ้าไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่จงแสดงความกล้าหาญให้เป็นที่ประจักษ์!”
เสียงของศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนดังก้องในโสตประสาทของพวกเขาอีกครั้ง
จากนั้นทุกคนรวมถึงจชื่อเจียผู้หวาดกลัวอสรพิษที่สุดในชีวิตขบกรามแน่นฝืนข่มความกลัวก่อนขึ้นขี่บนลําตัวของอสรพิษครึ่งคนอย่างทุลักทุเลสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดเพื่อแสวงหาโชคลาภในภายหน้าทําให้ทุกคนเอาชนะความกลัวได้โดยไม่ยากเย็น
คราวนี้ไม่มีผู้ใดรีรออย่างลังเลอีกต่อไปหลังเรียนรู้จากประสบการณ์ที่พบพานในค่ายกลหมากรุกครั้งก่อน
พื้นดินสั่นสะเทือนโดยแรงอย่างฉับพลัน!อสรพิษหน้าคนเคลื่อนไหวด้วยลําตัวตั้งตรงราวอสูรหินเพื่อสับเปลี่ยนตําแหน่งตอนนี้ทุกคนอยู่ในตําแหน่งที่ไร้ระเบียบแบบแผนเยี่ยฉวนลอบประสานความช่วยเหลือให้จ้าวต้าจอและจซื้อเจียทันทีที่การเดินหมากเริ่มต้นขึ้น!
ฟอ…เสียงขู่แหลมเล็กเสียดโสตประสาทดังสนั่นลําตัวอสรพิษหน้าคนฝั่งสีดําบิดไปมาขณะเลื้อยไปด้านหน้าพวกมันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
พื้นดินยังคงสั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อนศิษย์คนแรกตื่นตระหนกไม่หายเมื่อพยายามบังคับอสรพิษที่เขาขอยู่ให้ไปในทิศทางที่ต้องการทว่าลําตัวของมันกลับแข็งที่อทันทีที่การเดินหมากเริ่มต้นขึ้นเขาจึงไม่สามารถบังคับมันตามอําเภอใจในที่สุดจึงถูกพลังที่มองไม่เห็นตรึงร่างให้นิ่งค้างไว้อย่างนั้นและมองอสรพิษครึ่งคนสีดําซึ่งพุ่งตรงมาทางตนโดยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
เสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าสยดสยองดังก้องอยู่ในหูของทุกคนอย่างไม่อาจลบ
ศิษย์ผู้เคราะห์ร้ายถูกอสรพิษครึ่งคนสีดําอ้าปากกลืนเข้าไปทั้งตัวพร้อมกับอสรพิษสีแดงที่เขาขี่อยู่จนไม่เหลือซากร่างกายจ้าวต้าจ่อซึ่งอยู่ในตําแหน่งด้านหลังชาวาบไปครึ่งซีกเนื้อที่มีไขมันแทรกสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนกยิ่ง!เขาพยายามใช้แรงทั้งหมดเพื่อบังคับอสรพิษซึ่งอยู่ใต้ร่างให้ขยับไปตามต้องการทว่ามันกลับแข็งที่อไม่เขยื้อนแต่อย่างใดกลไกของมันแตกต่างจากค่ายกลหมากรุกด่านแรกโดยสิ้นเชิง!
แสงสว่างเหนือศีรษะฉายภาพบันทึกแต้มของกระดานหมากรุกนี้ดุจจอขนาดใหญ่โดยมีตัวหมากสีดําและแดงปรากฏอยู่บนนั้น
“ศิษย์พี่ใหญ่!ช่วยข้าด้วยขอรับ!ได้โปรดช่วยข้า…”เจ้าอ้วนหวาดผวาจนร้องคร่ําครวญไม่เป็นภาษาเวลานี้ไม่เพียงแต่อสรพิษครึ่งคนซึ่งอยู่ใต้ร่างที่แข็งที่อแต่ร่างกายส่วนล่างของเขาก็อ่อนแรงราวถูกตรึงอยู่กับที่และไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปหากปราศจากความช่วยเหลือจากใครสักคนเห็นที่เขาคงเป็นผู้ที่ถูกอสรพิษสีดํากลืนกินเป็นรายต่อไปอย่างแน่นอน!
เยี่ยฉวนเงยหน้าขึ้นมองภาพกระดานหมากรุกที่ส่องสว่างสายตามองเห็นจุดสีแดงที่กะพริบถี่จึงยื่นนิ้วออกและกดลงตรงช่องว่างที่อยู่ห่างออกไปทันใดนั้นอสรพิษครึ่งคนสีแดงจึงค่อยๆเลื้อยไปบนขอบข้ามแม่น้ําก่อนอ้าปากกลืนอสรพิษสีดําฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่กลืนร่างของศิษย์ผู้เคราะห์ร้ายเมื่อครู่ทันที!
บนค่ายกลหมากรุกครั้งก่อนเยี่ยฉวนอยู่ในตําแหน่งขุนแถวหน้าเพียงทุกคนออกคําสั่งพวกมันก็สามารถเคลื่อนที่โดยง่ายทว่าค่ายกลหมากรุกกระดานนี้เขากลายเป็นผู้สวมบทบาทเป็นนักเล่นหมากรุกเสียเอง!ดังนั้นชีวิตของทุกคนในที่นี้จึงผูกติดอยู่กับการตัดสินใจของเขาเพียงผู้เดียว!ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นํามาซึ่งอันตรายที่ใหญ่ยิ่ง!
รอบแรกทั้งสองฝ่ายพ่ายแพ้คนละหนึ่งครั้งดังนั้นฝ่ายแดงและฝ่ายดําจึงมีแต้มเสมอในรอบที่สองนี้เขาต้องคิดหาวิธีที่จะล้มกระดานด้วยการโจมตีจุดอ่อนของฝ่ายดําเพื่อให้การเดินหมากจบลงโดยเร็วที่สุด!
เยี่ยฉวนยื่นนิ้วออกไปอีกครั้งแต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจกดนิ้วลงไปบนอากาศก็หยุดชะงักอย่างกะทันหันเมื่อตระหนักถึงบางอย่าง…
คราวนี้ตัวหมากที่ต้องเดินไปด้านหน้าเป็นตําแหน่งของจซื้อเจียเพราะหากตัวหมากของนางข้ามแม่น้ําไปยังอีกฝั่งจะคุกคามตําแหน่งขุนของฝ่ายดําได้โดยตรงแต่นั่นหมายความว่านางจะต้องเผชิญกับการถูกตัวหมากฝ่ายดําล้อมเช่นกันหากเขาตัดสินใจผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทําให้นางมีอันตรายถึงชีวิต!
ห้วงความคิดของชายหนุ่มสับสนและยุ่งเหยิงเยี่ยฉวนผู้รักษาท่าที่นิ่งสงบอยู่เป็นนิจรู้สึกกระสับกระส่ายเสียจนไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ของตนได้!
คอมเม้นต์