Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 219 บุกทะลวง
บทที่ 219 บุกทะลวง
เยี่ยฉวนสูดหายใจเข้าลึกและพยายามสงบสติอารมณ์เขาหลับตาลงก่อนภาพกระดานหมากรุก ทั้งหมดจะปรากฏขึ้นในหัว ชายหนุ่มคํานวณการเคลื่อนไหวในตาต่อไปของอสรพิษครึ่งคนอย่าง รวดเร็วโดยคํานึงถึงทุกความเป็นไปได้ของตัวหมากทุกตัว
จอบันทึกแต้มเบื้องบนพลันสว่างวาบก่อนเส้นสีแดงจะปรากฏขึ้นเส้นสีแดงเหล่านี้เคลื่อนไปหยุดตรงจุดที่เยี่ยฉวนคิดจะเดินหมากในตาถัดไป
เส้นสีแดงปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อมต่อกันราวกับใยแมงมุม แนวการป้องกันถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นหนาล้อมรอบตัวขุนของเยี่ยฉวนที่อยู่ตรงกลางโดยมีหัวหอกชี้ไปทางตัวขุนของฝั่งสีดํา
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาเฝ้าดูด้วยความประหลาดใจ เส้นสีแดงหนาทึบบนจอบันทึกแต้มทําให้ รู้สึกหลอมรวมเข้ากับอสรพิษครึ่งคนที่อยู่เบื้องล่าง ทั้งหมดกลายเป็นตัวหมากรุกและชีวิตของพวก เขาล้วนตกอยู่ในกํามือของศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนอย่างแท้จริงเมื่อเยี่ยฉวนหันไปมองหมากตัวใดศิษย์ที่ควบคุมหมากตัวนั้นจะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากอสรพิษครึ่งคนเบื้องล่าง
เช่นตอนนี้ที่อสรพิษครึ่งคนเบื้องล่างจซื้อเจียสั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน…
หลังคํานวณความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนและวิเคราะห์ตัวหมากทุกตัวจนถึงตาที่เจ็ดแล้ว ตัวเลือกในการเดินหมากที่ดีที่สุดในรอบนี้คือจซื้อเจีย…
ครู่หนึ่งผ่านไปเยี่ยฉวนจึงลืมตาขึ้นมองจซื้อเจียด้วยสายตามั่นคงทว่ายังมีร่องรอยของความเป็นห่วงและฝืนใจแฝงอยู่
จซื้อเจียสังเกตเห็นและเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นจึงกล่าวออก “ศิษย์พี่ใหญ่เดินหมากเสียรอบนี้ข้าจะฆ่าตัวหมากสีดําให้หมดเอง!”
“เจียเจีย เจ้าไม่กลัวบ้างหรือ? ไม่กลัวว่าศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าจะคํานวณพลาดหรือไร?” เยี่ยฉวน เอ่ยถาม
“หากข้าตายไม่ใช่ว่าเจ้าจะได้สมใจปรารถนาหรอกหรือ? เจ้าจะได้ไปหานกน้อยโท่วป่าเซียงเนีย วผู้เป็นที่รัก… หรือจะไปเล่นสนุกกับนังแพศยาหลิวหงนั่น?” จซื้อเจียตอบคําถามด้วยอีกคําถามที่ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
“จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร?” เยี่ยฉวนสั่นศีรษะพลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นกังวล
“หากข้าตาย ข้าหวังว่าเจ้าจะไปหาโท่วป่าเซียงเนียวไม่ใช่หญิงอื่นเดินหมากซะ! อย่าคิดเล็กคิดน้อยเป็นหญิงแก่ไปหน่อยเลยไม่เช่นนั้นข้าจะดูถูกเจ้า!”ซื้อเจียเชิดหน้าขึ้นอย่างแน่วแน่ไม่กลัวตายนางหลับตาลงสกัดกั้นหยาดน้ําใสที่เอ่อ คลออยู่ภายใน
ก่อนหน้านี้จซื้อเจียไม่เคยสนใจว่าจะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปบ้างหลังนางตายจากโลกนี้ไป แต่ตอนนี้นางกลับหวังให้มีใครสักคนมาแทนที่นางเพื่อดูแลเยี่ยฉวน และโท่วป่าเซียงเพียวผู้ อ่อนโยนเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดแม้จะไม่อยากยอมรับก็ตาม
โท่วป่าเซียงเพียวเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเยี่ยฉวนแม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากผู้เป็นบิดาและอาวุโสเฟิงเหรินแม้เหตุการณ์นั้นจะทําให้จซื้อเจียหึง หวงและขุ่นเคือง แต่นางก็รู้สึกประทับใจเช่นกัน
“เจียเจีย ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตาย”
เยี่ยฉวนตอบก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้งเขาเหยียดนิ้วออกไปยังจุดแดงบนกระดานบันทึก แต้มอย่างเชื่องช้าอสรพิษครึ่งคนสีแดงของจูซื้อเจียเคลื่อนที่ข้ามแม่น้ําไปอย่างรวดเร็วและกลืนกินอสรพิษครึ่งคนสีดําก่อนพุ่งเข้าไปในค่าย ฝั่งสีดําเพื่อจู่โจมตัวขุนของศัตรู!
จุดสีดําเคลื่อนที่บนกระดานบันทึกแต้ม… อสรพิษครึ่งคนสีดําพร้อมลงมือแล้ว!
ศิษย์สํานักหมอกเมฆากลัดกลุ้มขึ้นมาทันใดหัวใจของพวกเขาแทบหลุดออกมาจากอกขณะ จ้องมองตาไม่กะพริบ
อสรพิษสีดําพุ่งมาหยุดหน้าแนวป้องกันโดยไม่ได้กลืนกินหรือฆ่าจซื้อเจีย หากฆ่าอีกฝ่ายในตอนนี้จะเป็นการเผยจุดอ่อนอันใหญ่หลวงให้เยี่ยฉวนเห็นไม่ว่าจะขยับไปทางใดก็ตาม
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นเดียวกับเยี่ยฉวน เขาปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้น บนหน้าผากและออกคําสั่งอย่างใจเย็นฝูงอสรพิษครึ่งคนสีแดงเลื้อยไปข้างหน้า หมากกระ ดานนี้ไม่มีการฆ่าฟันกันซึ่งๆ หน้าเหมือนกระดานที่แล้วหากแต่กดดันเสียยิ่งกว่า ศิษย์สํานักหมอก เมฆาที่กลัวว่าจะถูกสวาปามเข้าไปในตอนแรกค่อยๆมีความกล้าขึ้นมาทีละน้อย
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
เส้นสีแดงบนกระดานบันทึกแต้มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆเมื่อฝั่งสีแดงรุกคืบไปข้างหน้าอย่างหนัก จนฝั่งสีดําถูกบีบเข้าไปเป็นวงแคบ
อันที่จริงหลักการเล่นหมากรุกราชาปีศาจนั้น เหมือนการเล่นหมากรุกทั่วไปเมื่อเอาชนะความ กลัวในจิตใจได้แล้วก็วัดกันที่ทักษะการเดินหมากเท่านั้นคนธรรมดาคงไม่อาจข้ามผ่านความกลัวหรืออาจชํานาญหมากรุกไม่มากพอจนไม่สามารถฝ่าฟันไปถึงตาสุดท้ายได้
ถือเป็นโชคดีที่เยี่ยฉวนเชี่ยวชาญทั้งสองสิ่ง!
การเอาชนะความกลัวไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเยี่ยฉวนเมื่อชาติที่แล้วยามที่เขาเป็นมหา ปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์ ชายหนุ่มมีฝีมือในการเล่น หมากรุกมากเขาเดินหมากหนึ่งตาแต่คิดล่วงห น้าไปถึงเจ็ดตาและต้อนฝั่งสีดําให้จนมุม!หลังหนึ่งชั่วยามล่วงไปฝั่งสีดําก็เผยจุดอ่อนร้ายแรงอ อกมาในที่สุด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะขยับไปทางใดก็พบ แต่ทางตัน!
“ตู้ม!” เสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งกระดานหมากเมื่อร่างของเหล่าอสรพิษครึ่งคนสีดําระเบิดกลายเป็นผุยผงภาพฉายบนหัวส่องแสงจ้าขณะที่กระดาน หมากรุกเริ่มเลือนหายไป แสงสีขาวสาดส่องลงมาอีกครั้งซ้ํายังเจิดจ้ากว่าเดิมราวกับแม่น้ําสีขาวที่ไหลหลั่งจากสวรรค์
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาล้วนปีติยินดียิ่งและผ่อนคลายลงเพื่อดูดซับพลังจากแสงนี้ เสียงก้อง กังวานดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อขั้นการฝึกตนของพวกเขาก้าวหน้าพร้อมๆ กัน
เยี่ยฉวนกางแขนออกให้แสงสีขาวอาบไล้ร่างกายพลางเงยหน้าอ้าปากสูดลมหายใจเข้า แสงที่สาดส่องลงมากว่าครึ่งหลั่งไหลเข้าไปในปากและ ค่อยๆ ก่อรวมขึ้นในร่างจนควบแน่นเป็นหยาดของ เหลวสีขาวหมดจดประดุจหยก
โลหิตมังกรปีศาจ!
โลหิตมังกรปีศาจอีกหยดหนึ่ง!เยี่ยฉวนตื่นเต้นและรีบดูดซับแสงสีขาวที่สาด ส่องลงมาอย่างหิวกระหายร่างของเขาสั่นสะท้านเมื่อพลังงานมหาศาลแผ่กระจายออกมา
“บรรลุขั้นซิวฉือระดับห้าให้ข้าที!”
เยี่ยฉวนเงยหน้าขึ้นกู่ร้องก่อนใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์บุกทะลวงสภาวะตีบตันกายสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อเขาก้าวข้ามสภาวะตีบตันไปสู่ขั้นซิวฉือระดับห้าอย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นยังปรากฏภาพชัดเจนของยันต์กลีนกินสวรรค์ใบที่หกที่สมบูรณ์เต็มใบยันต์รูปมังกรปีศาจโคจรอย่างเงียบเชียบภายในจุดตันเถียนโดยมียันต์รูปมังกรยันต์รูปกะโหลกยันต์พระโพธิสัตว์ยันต์สายน้ําและยันต์อสรพิษครึ่งคนสั่นไหและหมุนวนอยู่โดยรอบ
ยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งหกใบมอบพลังถึงหนึ่ง แสนแปดพันจิน!
เยี่ยฉวนเชิดหน้าเปล่งเสียงคํารามกึกก้องอย่าง ฮึกเหิมและมีพลังยันต์กลืนกินสวรรค์หนึ่งใบให้ พลังหนึ่งหมื่นแปดพันจิน เมื่อสะสมได้หกใบจึงให้พลังถึงหนึ่งแสนแปดพันจน!ตอนนี้จะมีผู้ใดต้านทานพลังหมัดของเขาได้อีก?
เยี่ยฉวนใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลนกินสวรรค์จนพลังงานในร่างค่อยๆสูงขึ้นจน แทบบรรลุขั้นซิวฉือระดับหกแต่แล้วกระดูกและผิวหนังของเขากลับแตกร้าวพร้อมเสียงดังลั่น!กายหยาบของชายหนุ่มไม่อาจต้านทานพลังรุนแรงเช่นนี้ได้และจวนเจียนจะระเบิดทว่าแสงสีขาวที่สาดส่องลงมาช่วยรักษาผิวหนังของเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะแตกร้าวอีกซ้ําแล้วซ้ําเล่า
ศิษย์สํานักหมอกเมฆาถอยร่นไปด้านหนึ่งและเฝ้าดูการกลายร่างของเยี่ยฉวนด้วยความตกตะ ถึง ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการอาบแสงสีขาวหากแต่พลังงานที่มองไม่เห็นปะทุออกมาจากร่างของเยี่ยฉวนและผลักพวกเขาออกมาจนไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย!
คอมเม้นต์