แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 125 ทำไมไม่ออกไปเที่ยวเล่นบ้าง / บทที่ 126 บุกถึงที่
บทที่ 125 ทำไมไม่ออกไปเที่ยวเล่นบ้าง
“ฉันบอกเธอให้ เธอเคยคิดว่าต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น คิดว่าเขาเป็นโลกทั้งใบของเธอ ความจริงจะพิสูจน์ เธอก็แค่มองโลกแคบ! โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่ออกไปเที่ยวเล่นดูบ้าง ทำไมจะต้องมาแขวนคอตายอยู่ต้นซ่งจื่อหางต้นนี้ต้นเดียว?”
ฉู่เฟิงพื้นฐานครอบครัวดี การเรียนดี กีฬาเก่ง หน้าตาก็หล่ออีก ทิ้งห่างซ่งจื่อหางอยู่หลายช่วงตัว เอามาใช้ทรมานซ่งจื่อหางได้พอดี
แต่ด้านหนึ่งเธออยากจะทรมานซ่งจื่อหาง อีกด้านเธอก็เป็นห่วงเจียงเยียนหราน
ด้วยนิสัยเจียงเยียนหรานแล้ว ถึงแม้เธอจะคิดได้ไม่ฆ่าตัวตายแล้ว เรื่องครั้งนี้ต้องมีผลต่อจิตใจเธอมากอย่างแน่นอน ด้วยนิสัยที่ขี้ระแวงของเธอแล้ว ต่อจากนี้เป็นไปได้มากกว่าคงจะไม่เชื่อผู้ชายอีก
ถ้าเจียงเยียนหรานได้คบกับฉู่เฟิงก็ดี ไม่มีเรื่องที่เบี่ยงเบนความสนใจถือว่าเป็นเรื่องดี
ที่จริงคนมาจีบเจียงเยียนหรานไม่น้อยเลย เธอจำได้แค่ฉู่เฟิงคนเดียว เพราะชาติที่แล้วหลังเจียงเยียนหรานฆ่าตัวตาย ซ่งจื่อหางก็ลงทุนหนังฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งทันที เลือกให้เฉินเมิ่งฉีเป็นนางเอก ในวันที่เปิดตัวแถลงข่าวหนังเรื่องนี้ อยู่ๆ ฉู่เฟิงก็เหมือนคนบ้าพุ่งขึ้นไปบนเวทีชกซ่งจื่อหางเป็นชุด ตอนนั้นเรื่องราวใหญ่โตมาก มีคนพูดวิจารณ์กันไปทั่ว
ว่ากันว่าต่อมาซ่งจื่อหางดำเนินคดีฟ้องร้องเขา เป็นเพราะพื้นฐานครอบครัวของฉู่เฟิงแข็งแรง สุดท้ายเลยไกล่เกลี่ยกันจบ
จนถึงตอนนี้เธอยังจำสีหน้าโมโหเกรี้ยวกราดของฝ่ายชายในคลิปได้อยู่เลย…
ตอนนั้นเจียงเยียนหรานหย่ามาหลายปีแล้ว แต่นี่หลายปีแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังคงฝังใจกับเธอ
ดังนั้นเธอเลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่แย่เลย มีความจริงใจลองคบดูได้
ได้ยินคำพูดเยี่ยหวั่นหวัน เจียงเยียนหรานยิ้มประชดประชันด้วยความขมขื่น “ซ่งจื่อหางจะโกรธได้ยังไง…”
ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ว่าสุดท้ายเจียงเยียนหรานก็ทำตามที่เยี่ยหวั่นหวันว่า
บางทีเยี่ยหวั่นหวันอาจจะพูดถูก เธอควรจะกระโดดออกมาจากโลกแคบๆ ได้แล้ว
เห็นเจียงเยียนหรานส่งข้อความออกไปด้วยตาตัวเอง เยี่ยหวั่นหวันก็วางใจ หลังจากนั้นประเมินดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วขมวดคิ้ว “อย่าบอกฉันนะ ว่าวันนี้เธอจะใส่ชุดนี้ไป?”
“ทำไมล่ะ? นี่เป็นชุดที่สวยที่สุดของฉันแล้วนะ! วันนั้นฉันตั้งใจเลือกเป็นพิเศษ!” เจียงเยียนหรานบอก
เยี่ยหวั่นหวันถอนหายใจยาว ตกลงรสนิยมด้านความงามของเธอมีปัญหาใช่ไหม? รู้จักตัวจนที่แท้จริงของตัวเองหน่อยได้ไหม?
“ขาวซีดอ่อนปวกเปียกขนาดนี้ เหมือนผ้าขี้ริ้วเลย สวยตรงไหน?”
“แบบนี้ช่วงนี้กำลังฮิตอยู่…”
“นี่สไตล์โมริเกิร์ลสินะ?” เยี่ยหวั่นหวันมองบน ค้นหาเสื้อผ้าเจียงเยียนหรานในกล่อง แล้วเลือกเดรสกระโปรงพิมพ์ลายดอกไม้ออกมา “เปลี่ยนเป็นชุดนี้!”
ลายดอกไม้ดอกใหญ่เย็บแบบย้อนยุค โดดเด่นแต่ก็ไม่โอเวอร์เกินไป สีสันโดนเด่นและไม่สูญเสียความสดใสของวัยสาว เหมาะกับบุคลิกและอายุของเธอมาก
ถ้าเป็นคนอื่นใส่อาจจะดูบ้านนอกล้าสมัย แต่ถ้าเป็นเจียงเยียนหราน ต้องเอาอยู่แน่นอน!
เจียงเยียนหรานรู้สึกแปลกใจมองไปที่ชุดนั้น “เธอเลือกเก่งจริงๆ นี่เป็นชุดที่แพงที่สุดของฉันเลย แม่ฉันให้ตอนวันเกิด เป็นลิมิตเต็ดอิดิชั่นรุ่นไฮเอนด์ล่าสุดของร้าน C แต่ฉันรู้สึกว่าสีดูฉูดฉาดและแพรวพราวไป จึงไม่เคยใส่เลยสักครั้ง…”
“ไปลองไปลอง! ฉันอยากเห็น!” สองตาเยี่ยหวั่นหวันเป็นประกายจ้องมองเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เจียงเยียนหรานหลุดขำออกมา “ก็ได้!”
ตอนนั้นแม่เธอโน้มน้าวยังไงเธอก็ไม่ยอมลอง เธอไม่ยอมลองของทุกอย่างที่ซ่งจื่อหางอาจจะไม่ชอบ แต่กับเยี่ยหวั่นหวัน รู้อยู่ว่าไว้ใจเธอเรื่องนี้ไม่ได้ แต่กลับรู้สึกเชื่อใจเธออย่างประหลาด
บทที่ 126 บุกถึงที่
“เสร็จหรือยัง? ต้องการให้ช่วยไหม?”
เจียงเยียนหรานเข้าไปสิบนาทีแล้วยังไม่ออกมา เยี่ยหวั่นหวันทนไม่ไหวถามเร่งไป
ในห้องน้ำมีเสียงเคอะเขินของเจียงเยียนหรานดังขึ้นมา “หวั่นหวัน ฉันเปลี่ยนกลับดีกว่า รู้สึกว่ามันแปลกๆ!”
เยี่ยหวั่นหวันรอไม่ไหวแล้ว เปิดประตูเข้าไปเลย
เห็นเจียงเยียนหรานที่เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย เยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป
ถึงแม้จะรู้ว่าต้องเหมาะกับเจียงเยียนหรานแน่นอน แต่ก็ยังตกตะลึงอยู่ดี “สุดยอด! รู้ว่าเธอหุ่นดี! แต่คิดไม่ถึงว่าจะดีขนาดนี้!”
เวลาปกติเจียงเยียนหรานมักจะชอบใส่ชุดหลวมๆ สไตล์อาร์ต ดังนั้นเลยเห็นหุ่นไม่ชัด ส่วนการตัดเย็บชุดนี้สามารถโชว์สัดส่วนที่ดีของเจียงเยียนหรานออกมาได้หมดเลย
เยี่ยหวั่นหวันคิดว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่เจียงมอบให้ลูกสาวอายุครบสิบแปดนั้นเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
เจียงเยียนหรานมองในกระจก เยี่ยหวั่นหวันเด็กที่กำลังจะเป็นสาวเต็มตัว
“เธอล้อฉันเล่นอีกแล้ว!” เจียงเยียนหรานกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
เห็นท่าทางเขินอายของเจียงเยียนหรานแล้ว เยี่ยหวั่นหวันเผลอขำออกมา “ฉันพูดเรื่องจริงไม่ดีเหรอ?”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เจียงเยียนหรานยังอายุน้อย ยังเร็วเกินไปที่จะมีออร่าของราชินี แต่แบบในตอนนี้ก็เหมือนดอกไม้ตูมที่รอคอยวันเบ่งบาน ในขณะเดียวกันก็มีความสวยของผู้หญิงและความใสซื่อของสาวน้อยอยู่ ยิ่งมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก
“วางใจได้ เชื่อฉัน ไม่แปลกเลยสักนิด เพียงแต่ตัวเธอยังไม่ชินเท่านั้นเอง! ถ้าจะบอกว่าแปลกก็เป็นที่ทรงผมเธอไม่เข้ากับสไตล์และบุคลิกเธอจริงๆ ตอนนี้เก็บข้าวของเถอะ พวกเราเปลี่ยนสมรภูมิไปร้านทำผม!”
“เธอแน่ใจ?”
“มั่นใจแสนสองหมื่นเปอร์เซ็นต์ ต้องการให้ฉันเขียนชี้แจงอีกหนึ่งหมื่นคำไหม?”
“ก็ได้…”
“ไปเถอะไปเถอะ!”
หลังเก็บของอย่างรวดเร็วแล้ว เยี่ยหวั่นหวันรอไม่ไหวดึงเจียงเยียนหรานออกมาข้างนอก
เพราะตอนนี้เกือบทุกคนต่างรวมตัวกันอยู่ที่สนามบาสของโรงเรียนเตรียมดูการแข่งขัน ดังนั้นที่อื่นแทบจะไม่มีคนเลย
มาถึงร้านทำผม
เยี่ยหวั่นหวันกำชับให้ช่างทำผมช่วยทำผมให้เจียงเยียนหรานตามที่ตัวเองบอก
เดิมทีช่างทำผมยังรำคาญเยี่ยหวั่นหวันมาสั่งนู่นนี่ทำเหมือนรู้เรื่อง จนสุดท้ายเสร็จออกมาแล้ว ต่างพูดกันไม่ออกเลย
หญิงสาวในกระจกเปลี่ยนผมตรงยาวดำที่แข็งทื่อ เป็นสีชาน้ำผึ้งม้วนพองๆ เล็กน้อยทั้งศีรษะจนถึงไหปลาร้า ทำให้ตัวเธอดูสวยทันสมัยขึ้นมาในพริบตา
เดิมทีเขายังรู้สึกว่าความยาวถึงไหปลาร้าดูไม่ดีเท่าไร และไม่เข้าใจที่เยี่ยหวั่นหวั่นบอกว่า “ม้วนแบบเพิ่งตื่นนอน” หมายความว่ายังไง คิดไม่ถึงว่าหลังทำออกมาแล้วจะสวยขนาดนี้
เพียงแค่เปลี่ยนทรงผม ให้ทำให้หญิงสาวตรงหน้าดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ทำให้ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้
“สาวน้อย เธอเก่งมาก! ไปเห็นทรงนี้มาจากที่ไหน? สวยมากจริงๆ!” ช่างทำผมไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว แต่ที่ทำให้เขานึกไม่ถึงคือ รสนิยมหญิงสาวคนนี้ไม่แย่เลย ทำไมถึงแต่งตัวเองกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้นะ?
เวลานี้ เจียงเยียนหรานส่องกระจกมองตัวเอง มองอยู่นานก็ยังไม่รู้สึกตัวกลับมา
เธอไม่เคยมีความเชื่อมั่นในตัวเองมาก่อน หลังรู้เรื่องซ่งจื่อหางและเฉินเมิ่งฉี ก็ยิ่งจมอยู่ในก้นบึ้งของความน้อยเนื้อต่ำใจ มักจะคิดว่าเยี่ยหวั่นหวันกำลังปลอบใจตัวเอง เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าตัวเองก็สามารถมีด้านนี้ได้ด้วย…
“เป็นยังไง? สวยจนตัวเองอึ้งไปเลยหรือ?” เยี่ยหวั่นหวันยิ้ม
“สวยมาก” เจียงเยียนหรานพยักหน้าด้วยความสัตย์จริง ยังไงก็เป็นผู้หญิง เห็นตัวเองสวยขึ้น อารมณ์ก็ดีตามไปด้วย
“สวยจัดเลยใช่ไหม? ตอนนี้งานใหญ่สำเร็จแล้ว! พวกเราไปบุกสนามบาสฆ่าให้ตายไปเลย!” เยี่ยหวั่นหวันแอบถูมือด้วยความตื่นเต้น
คอมเม้นต์