แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1775 เคยหมั้นหมายกัน / บทที่ 1776 รับประกันว่าไม่ตีนายตาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี ตอนที่ 1775 เคยหมั้นหมายกัน / บทที่ 1776 รับประกันว่าไม่ตีนายตาย อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 1775 เคยหมั้นหมายกัน

“ผะ…ผู้นำ!?” ฟู่หมิงซีจ้องเยี่ยหวันหวั่นดวงตาพลันส่องแสงสีทอง สีหน้าเปี่ยมความไม่อยากเชื่อ “คะ…คุณก็คือไป๋เฟิง…ผู้นำไป๋! คุณคือท่านผู้นำจริงๆ!”

ฟู่หมิงซีพลันถลันมาตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น แต่ยังไม่ทันจะเข้าใกล้มากเกินไปก็ถูกชีซิงขวางไว้ก่อน “ต่อหน้าผู้นำห้ามเสียมารยาท”

ฟู่หมิงซีขมวดคิ้วถลึงตาใส่ชีซิง “นายก็คือชีซิง? จะใช้อำนาจระรานกันเกินไปแล้วมั้ง ผู้นำก็ไม่ใช่ของนายคนเดียวสักหน่อย! ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับผู้นำ ก็ไม่ใช่อะไรที่นายจะเปรียบเทียบได้”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นพลันหัวใจกระตุกหนึ่งที

คำพูดนี้ฟังดูแปลกๆ ยังไงพิกล เธอกับฟู่หมิงซีนี่มีความสัมพันธ์อะไรกัน

ฟู่หมิงซีจ้องเยี่ยหวันหวั่นอย่างตาเป็นประกายต่อ เขาเผยท่าทางเขินอายบางส่วน จากนั้นก็เอ่ยกับชีซิงด้วยสีหน้าทะนง “ฉันกับผู้นำ มีสัญญาหมั้นหมายกัน!”

เยี่ยหวันหวั่นฟังจบ ก็เกือบพ่นน้ำชาที่เพิ่งดื่มเข้าไปหนึ่งอึกเมื่อกี้ออกมา

ว่าไงนะ

เธอมีสัญญาหมั้นหมายกับฟู่หมิงซี?

ไป๋เฟิงนี่ ทำไมถึงได้มีสัญญาหมั้นหมายไปทั่วเลยเนี่ย

“หมั้น?” เยี่ยหวันหวั่นหันมองฟู่หมิงซีโดยไม่รู้ตัว

ฟู่หมิงซีพลันพูดอย่างตื่นเต้นกังวล “ผู้นำจำไม่ได้เหรอครับ ห้าปีก่อน คุณปู่ผมหมั้นหมายผมกับคุณแล้ว! ถึงเพราะผมสุขภาพไม่ดีเลยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีนตลอด แต่ตอนนั้นคุณปู่เคยให้ผู้นำดูรูปของผม ตอนนั้นผู้นำ…เห็นด้วยแล้ว…”

ผู้อาวุโสรองในวิดีโอคอลก็กล่าวยืนยัน “ถูกต้อง หมิงซีเป็นคนของผู้นำนานแล้วจริงๆ แต่เพราะหลายปีมานี้ผู้นำไม่ได้อยู่ในรัฐอิสระ การแต่งงานเลยเลื่อนมาตลอด”

เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน

อะไรเรียกว่าเป็นคนของเธอแล้ว อะไรเรียกว่าหมั้นหมายให้เธอ พูดจาอย่าน่ากลัวขนาดนี้จะได้ไหม

เธอแค่มาสำรวจนิดหน่อยเท่านั้น ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีคู่หมั้นเพิ่มมาอีกคนได้

ผู้อาวุโสรองยังเอ่ยต่อ “ผู้นำวางใจได้ครับ ช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่ หมิงซีว่านอนสอนง่าย รักษาความบริสุทธิ์ตัวเองมาตลอด ไม่มีทางดูดซับพฤติกรรมชั่วในวงการมาแน่นอน รอแค่ผู้นำกลับมาก็พร้อมแต่งงานได้

“ก่อนหน้านี้ผู้นำเพิ่งกลับมาในพันธมิตร งานการล้นมือ ยุ่งเกินไปเลยไม่มีโอกาสพูดถึง ตอนนั้นก็ถึงเวลาแล้วครับ”

ฟู่หมิงซีพยักหน้าแล้วว่าอย่างตื่นเต้น “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว นอกจากผู้นำยังไม่มีผู้หญิงคนไหนมีคุณสมบัติทำให้ผมมองได้สักแวบเดียว การติดตามผู้นำเป็นความฝันหนึ่งเดียวชั่วชีวิตนี้ของผม ชาตินี้ผมเป็นคนของผู้นำ!”

“ฮ่าๆๆๆ หมิงซี ตอนนี้ผู้นำยังโสดอยู่ ถ้าหลานโชคดีได้แต่งให้ผู้นำได้ งั้นหลังจากนี้ทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยก็เป็นของหลานแล้ว” ที่อีกฝั่งวิดีโอ ผู้อาวุโสรองหัวเราะร่าเอ่ย

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ผู้อาวุโสรองนี่ตรงไปแล้วหรือเปล่า

เป่ยโต่วเท้าสะเอว “ถุย! ผู้อาวุโสรอง หลานนายนอกจากจะหน้าตาดีนิดหน่อย ฉันก็คิดว่าไม่มีอะไรควรค่าให้พูดถึงแล้ว ยังอยากจะแต่งให้พี่เฟิง ฉันไม่เห็นด้วยกับการแต่งนี้! แต่งกับหลานนาย งั้นไม่สู้แต่งกับเหล่าชีดีกว่า!”

ชีซิงนิ่งเงียบ

เวลานี้ในที่สุดผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามก็เริ่มตอบสนองว่าไม่ถูกแล้ว

ผู้อาวุโสสามพลันออกแรงตบโต๊ะทันที “ผู้อาวุโสรอง นี่ก็หน้าไม่อายเกินไปแล้วมั้ง!”

ขายหลานหาความเจริญนี่จริงๆ เลย!

เกินเลยเกินไปจริงๆ!

ทำไมเขาถึงคิดไม่ออกนะ!

ลูกชายไม่เอาอ่าวพวกนั้นของเขารู้จักแต่ล่วงเกินผู้นำ ก็เลยถูกผู้อาวุโสชิงโอกาสไปก่อนแล้วเสียได้

ถ้าฟู่หมิงซีกลายเป็นคนของผู้นำจริงๆ งั้นทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยจะไม่กลายเป็นอาณาจักรของผู้อาวุโสรองเหรอ นั่นจะได้ยังไง!

———————————————————————————————–

บทที่ 1776 รับประกันว่าไม่ตีนายตาย

เอาเป็นว่า ห้ามผู้อาวุโสรองแย่งโอกาสสำคัญเด็ดขาด

หึ ตาแก่นี่คิดว่ามีแค่เขาที่มีหลานชายเหรอ

ผู้อาวุโสสามผุดความคิด รีบเสนอคนของตัวเองบ้าง “ผู้นำ หลานชายคนโตของผมหลี่เหวินเย่าก็เป็นคนมีพรสวรรค์ เหวินเย่าบ้านผมผู้นำก็เคยเจอมาก่อน หน้าตาก็ดีมากเลยนะครับ! ไม่งั้น ลูกชายคนเล็กของผมหลี่เจ๋ออวี่ผู้นำคิดว่ายังไง เจ๋ออวี่ก็หน้าตาหล่อเหลา อายุมากกว่าผู้นำแค่ไม่กี่ปี…”

ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ด้านข้างโกรธจนหน้าแข็งทื่อ เจ้าแก่สองคนนี่! ถึงกับใช้วิธีไม่เข้าชั้นอย่างนี้มาแย่งความโปรดปรานต่อหน้าผู้นำ!

รังแกเขาที่เป็นหมาโสดไม่มีลูกชายนี่?

เขาเสียเปรียบใครก็ได้แต่ห้ามเสียเปรียบตาแก่สองคนนี่!

ดังนั้นผู้นำจึงรีบเอ่ย “ผู้นำ ถ้าผู้นำอยากเลือกคนในพันธมิตรจริงๆ ละก็ ผมขอแนะนำเจี้ยนเจียงลี่ ถึงแม้หน้าตาของเจียงลี่ไม่ได้หล่อเหลามากขนาดนั้น แต่ฝีมือเขา…”

เจียงลี่คือลูกชายบุญธรรมของผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสรองเบียดผู้อาวุโสใหญ่ออกไปในทันที “หน้าตาไม่ดีดูแกพูดเข้าสิ! แม้แต่ความชอบของผู้นำยังไม่เข้าใจดี ก็อย่ามาเป็นพ่อสื่อมั่วๆ!”

พูดถึงหน้าตา ฟู่หมิงซีมีความมั่นใจกว่าหลายส่วนอย่างเห็นได้ชัด “ผู้นำ ผมรู้ว่าคุณชอบผู้ชายหน้าตาดี ถ้าพูดถึงหน้าตา สำรวจทั่วทั้งวงการบันเทิง ก็มีไม่กี่คนที่เหนือกว่าผม”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด

พวกนายพอได้แล้วโว้ย!

ทำไมประเด็นยิ่งคุยยิ่งเพี้ยนเนี่ย

แต่ละคนมองเธอเป็นอะไรหา!

เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พอแล้ว ฉันมาสังเกตการณ์ ไม่ได้มารับสนม! ฉันเหมือนทรราชที่ถูกคนงามซื้อได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ”

สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วส่ายหน้ารัว “แน่นอนว่าไม่เหมือน พี่เฟิงใช่เลยต่างหาก! ถ้าไม่ใช่ละก็ งั้นรับรองว่าเพราะยังงามไม่พอ!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

นายมานี่ ฉันรับประกันว่าจะไม่ตีนายตาย!

เยี่ยหวันหวั่นตัดบทสนทนาอย่างเหลือทน “หุบปาก พูดธุระ”

ในวิดีโอ ผู้อาวุโสรองรีบหันไปย้ำเตือนกรรมการผู้จัดการโจว “โจวเทา คำพูดที่ผู้นำพูดก็คือคำพูดของฉัน ช่วงที่ผู้นำอยู่ประเทศจีน ทั้งบริษัทซิงเฉินจะกลับคืนสู่ผู้นำ ห้ามต่อต้าน”

โจวเทาพยักหน้ารัวด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เป็นอย่างนั้นครับๆ ผมเข้าใจ…ขอบคุณกรรมการฟู่ที่เชื่อใจ ขอบคุณความเชื่อใจของท่านผู้นำครับ!”

จากนั้นโจวเทากับพวกผู้อาวุโสรองก็เปิดการประชุมอย่างง่าย รายงานสถานการณ์ให้เยี่ยหวันหวั่นฟังเล็กน้อย

หลังจบวิดีโอคอล โจวเทาก็จัดมื้อเที่ยงต้อนรับที่ระดับสูงที่สุดในซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ และมีฟู่หมิงซีร่วมด้วยทุกขั้นตอนไม่ยอมไปไหน

ผู้อาวุโสรองแอบโทรหาหลานชายลับๆ ย้ำเตือนซ้ำๆ ว่าให้อาศัยโอกาสตอนที่ผู้นำอยู่ประเทศจีนต้องเอาชนะใจของผู้นำให้จงได้

“ผู้นำ ผมคุ้นเคยกับประเทศจีนดี ถ้าผู้นำมีอะไรอยากกินมีที่ไหนอยากเล่นเอ่ยมาได้เต็มที ผมจะจัดเตรียมให้อย่างดี!” ฟู่หมิงซีบริการดูแลอย่างสุดแสนสุภาพ

เป่ยโต่วเปิดโปงอย่างไม่ลังเล “ฉันว่านะเจ้าเด็กน้อย ประจบให้น้อยๆ หน่อย ไม่ใช่แกทำเพื่อให้ได้พันธมิตรอู๋เว่ยรึไง!”

ฟู่หมิงซีได้ยินดังนั้นก็พลันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันจงรักภักดีต่อผู้นำฟ้าดินเป็นพยาน ถ้าฉันแต่งงานกับผู้นำแล้ว งั้นฉันก็เป็นคนของผู้นำ พันธมิตรอู๋เว่ยจะเป็นของใครมีอะไรต่างกัน!

“อีกอย่างนะ ตอนนี้ผู้นำโดนกู่พิศวาส ก่อนจะหายาถอนพิษเจอ ก็อาจต้องมีคนบรรเทาพิษทุกเมื่อ ใช้พวกคนสั่วๆ ที่ข้างนอกนั้นจะไปวางใจได้ยังไง แต่ฉันทำเพื่อแบ่งเบาความทุกข์ผู้นำล้วน!”

พูดถึงกู่พิศวาสก็นึกถึงบางคน เยี่ยหวันหวั่นยิ่งหงุดหงิดใจ เธอนวดหัวคิ้วเอ่ยว่า “เงียบให้ฉันสักเดี๋ยว”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด