แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 465 แย่งยังไงก็คายออกมายังงั้น / บทที่ 466 นี่ผลไม้แช่อิ่มของเขาไม่ใช่เหรอ

อ่านนิยายจีนเรื่อง แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี ตอนที่ 465 แย่งยังไงก็คายออกมายังงั้น / บทที่ 466 นี่ผลไม้แช่อิ่มของเขาไม่ใช่เหรอ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 465 แย่งยังไงก็คายออกมายังงั้น

ครั้งนี้เป็นการทดสอบหน้ากล้องแบบเปิด ต่อให้อู๋เจิ้งเฟยไปหานักลงทุนก็ไม่มีประโยชน์ ทีมผู้กำกับก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเสี่ยงต่อความคิดเห็นของมวลชนเปลี่ยนตัวกลางคันแบบนี้

“นายบอกว่าเปลี่ยนตัวแล้ว เปลี่ยนเป็นใคร?” เยี่ยหวันหวั่นอดกลั้นความสงสัยในใจไว้ เอ่ยถามเสียงเรียบ

ผู้ช่วยแววตาวาบไหว ไม่กล้าบอก ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้อย่างอ่อนแรง “นี่…นี่คือแฟกซ์ที่ทางทีมผู้กำกับส่งมาให้เมื่อกี้ พี่เยี่ยอ่านเองเถอะ รายชื่อของนักแสดงหลักหลายคนจะประกาศบ่ายนี้แล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นรับเอกสารแฟกซ์มา กวาดสายตามองดู วินาทีถัดมาก็เห็นว่าด้านหลังชื่อนักแสดงชายบทพระรองหลินลั่วเฉินมีชื่อของกงซวี่!

“กงซวี่?” หลังจากเห็นชื่อนั้นแล้ว เยี่ยหวันหวั่นยิ่งขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

เธอว่าแล้ว…ใครกันจะมีความสามารถขนาดนั้น เธอมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังทำให้ทีมผู้กำกับเปลี่ยนตัวนักแสดงได้

กงซวี่ทายาทเศรษฐีรุ่นสองคนนั้น แม้ว่าชื่อเสียงในวงการจะแย่มาก แต่เบื้องหลังไม่ธรรมดา ป้าของเขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท SA เอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการของประเทศ M ไม่ใช่คนที่ทายาทเศรษฐีทั่วไปจะเทียบได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำตัวแบบนั้นแต่ยังดังได้เหมือนเดิม

เธอเตรียมวางแผนมาตั้งนาน เสียกำลังสมองไปก็มาก สุดท้ายมาเจอการพลิกผันใหญ่ขนาดนี้!

เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตาลงเล็กน้อย นัยน์ตาคล้ายมีประกายบางอย่างวาบผ่าน เธอนวดขมับ กำลังจะเอ่ย เวลานี้เองที่หน้าประตูมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

โจวเหวินปินสวมชุดสูทโอต์ กูตูร์สีเทา ยืนสีหน้าสบายใจอยู่หน้าประตู ส่ายหน้าพลางมองทางเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนเสียใจ “โถๆ เด็กน้อยก็ยังอ่อนประสบการณ์เกิน ในฐานะคนที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วก็เป็นคนบริษัทเดียวกัน ฉันไม่เตือนผู้จัดการเยี่ยสักประโยคคงไม่ได้จริงๆ ‘มังกรผงาด2’ โปรดักชันใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่มีแค่เทคนิคการแสดงแล้วจะมีคุณสมบัติร่วมงานได้…”

เยี่ยหวันหวั่นมองโจวเหวินปินที่คุยโวโอ้อวดด้วยสายตาเย็นชา ไม่พูดอะไร

โจวเหวินปินมองท่าทางพ่ายแพ้ของเยี่ยหวันหวั่นอย่างได้ใจ แล้วหันไปพูดกับลั่วเฉิน “เสี่ยวเฉิน ฉันสอนนายแต่แรกแล้ว ในวงการบันเทิงนี้นะ แม้ว่าอาชีพของนายคือนักแสดง แต่ของพวกเทคนิคการแสดง ความจริงมันไร้ประโยชน์ที่สุด!”

โจวเหวินปินพูดพลางค่อยๆ ขยับเท้าไปตรงหน้าลั่วเฉิน ยื่นมือจับหัวไหล่ของเขา “เสี่ยวเฉิน ถ้าตอนนี้นายนึกเสียใจ…”

ก่อนที่นิ้วมือของโจวเหวินปินจะสัมผัสโดนลั่วเฉิน มีข้อมือขาวข้างหนึ่งล็อกเขาไว้แน่น

โจวเหวินปินหัวเราะอย่างไม่แยแส เก็บมือที่พยายามจะสัมผัสลั่วเฉินกลับมา ดวงตาขุ่นมัวมองพิจารณาเรือนร่างของชายหนุ่มอย่างเหิมเกริม เอ่ยเสียงเย็นว่า “ถ้าตอนนี้นายสำนึกเสียใจก็ยังทันอยู่…

ฉันโจวเหวินปินตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่ชอบของมือสองของคนอื่น ถ้านายอยากกลับมา คงต้องทำให้ฉันเห็นความจริงใจของนายแล้ว ฮ่าๆๆ…”

พูดจบก็หัวเราะพลางก้าวเท้าเดินจากไปอย่างมีชัย

หลังจากโจวเหวินปินจากไป บรรยากาศพลันเงียบจนวังเวง

ผ่านไปนาน ลั่วเฉินพยายามเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา เอ่ยว่า “พี่เยี่ย…ผมไม่เป็นไร…พี่ช่วยผมมามากพอแล้ว…เพราะผม…เพราะผมไม่มีประโยชน์เอง…”

หากตอนแรกคนที่พี่เยี่ยเลือกเป็นคนอื่น ไหนเลยจะต้องเปลืองความคิดขนาดนี้ จะโดนโจวเหวินปินพุ่งเป้าเล่นงานได้อย่างไร…

‘พี่เยี่ย พี่เลือก…คนอื่นเถอะ…’

ลั่วเฉินกำลังจะพูดประโยคนี้ มุมปากเยี่ยหวันหวั่นกลับโค้งยิ้มเย็นเยือกขึ้นมา กดไหล่ของเขาลงไป ให้นั่งลงบนโซฟา เอ่ยเน้นทีละคำว่า “นั่งลงดีๆ!”

“พี่เยี่ย?” ลั่วเฉินมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้างุนงง

เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นยืน กล่าวกลั้วหัวเราะเบาๆ “เหอะ ในเมื่อพวกเขาไม่ทำตามกติกา งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันใช้วิธีการพิเศษแล้วกัน!”

โจวเหวินปิน เขาแย่งบทไปอย่างไร เธอก็จะทำให้เขาคายออกมาอย่างนั้น!

พูดแล้วเยี่ยหวันหวั่นก็มองผู้ช่วยก่อนถาม “ตอนนี้กงซวี่อยู่ไหน?”

ผู้ช่วยตอบไปอย่างซื่อๆ “อยู่ที่บริษัท เมื่อกี้ยังเห็นเขาอยู่ในห้องแต่งหน้าบนตึก…”

เมื่อได้คำตอบแล้ว เยี่ยหวันหวั่นจัดการเสื้อผ้า เดินออกไปจากออฟฟิศอย่างฉับไว

“พี่เยี่ย!” ลั่วเฉินพึมพำพลางมองแผ่นหลังของเยี่ยหวันหวั่นจากไป ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แววตาเปี่ยมไปด้วยความกังวล

………………………………………………………..

บทที่ 466 นี่ผลไม้แช่อิ่มของเขาไม่ใช่เหรอ

ในห้องแต่งหน้าบนตึก

กงซวี่เอนตัวลงบนเบาะนั่งขนาดใหญ่ที่นุ่มสบาย ขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนขาอีกข้างหนึ่ง ในมือถือโทรศัพท์ กำลังเล่นเกมเสียงดังกระหึ่ม ด้านข้างมีช่างทำผม ช่างแต่งหน้า และสไตลิสต์ห้อมล้อมอยู่

ผู้ช่วยสองคนทางด้านข้างหนึ่งในนั้นประคองมะพร้าวลูกใหญ่ ยืนอยู่ด้านข้างอย่างระมัดระวัง ช่วงพักที่กงซวี่เล่นเสร็จไปหนึ่งเกม เขาก็ส่งมะพร้าวไปป้อนให้กงซวี่จิบอย่างเอาใจใส่

ส่วนอีกคนยืนห่างออกไปสองสามก้าว ลั่นชัตเตอร์ถ่ายรูปให้เขาไม่หยุด

“พี่ซวี่ ถ่ายเสร็จแล้วครับ พี่ว่าภาพพวกนี้ใช้ได้ไหม?” ผู้ช่วยเอากล้องไปขอคำชี้แนะด้วยความตื่นเต้น

กงซวี่ปรายตามองเล็กน้อย ทำหน้ารังเกียจ “ชิ ถ่ายความหล่อของฉันออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นด้วยซ้ำ!”

ผู้ช่วยรีบประจบ “เป็นไปได้ไง พี่ซวี่หล่อทั้งสามร้อยหกสิบห้าองศา ถ่ายยังไงก็หล่อ!”

กงซวี่ไม่รู้สึกอะไรกับคำชมไม่จริงใจประเภทนี้อยู่แล้ว จึงเลือกสองสามรูปมาอย่างหงุดหงิด “รูปนี้ รูปนี้ แล้วก็รูปนี้ ส่งเข้าโทรศัพท์ฉัน ฉันจะโพสต์ลงเวยป๋อ…”

“ครับ ส่งเดี๋ยวนี้!”

“อย่าลืมโฟโตช้อปลบสิวบนหน้าผากฉันด้วย!”

“ครับๆๆ!”

หลังจากรูปพร้อมแล้ว กงซวี่ก็โพสต์ข้อความลงเวยป๋อด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

เพิ่มรูปตัวเองเข้าไปก่อน แล้วใส่ข้อความบรรทัดหนึ่ง [วันที่สามของการได้พบเธอ ยังไม่ได้ข่าวคราว ผลไม้แช่อิ่มน้อย ผู้คนมีตั้งมากมาย ฉันควรไปตามหาเธอที่ไหน~]

ผู้ช่วยด้านข้างยืดคอ เห็นเต็มตาว่ากงซวี่โพสต์ข้อความนี้ออกไป หน้าก็เครียดโดยพลัน

ศิลปินของพวกเขาเริ่มฆ่าตัวตายอีกแล้ว เหนื่อยใจเหลือเกิน…

“เฮ้ย! เบาหน่อย! ผมเส้นหนึ่งของฉันมีค่ามากแค่ไหนรู้หรือเปล่า?”

“ขอโทษครับ ขอโทษ!” ช่างทำผมกล่าวขอโทษเป็นชุด

ช่วงนี้กงซวี่โมโหง่ายเป็นพิเศษ เอาใจยากกว่าเดิม คนอย่างพวกเขาก็ได้แต่ซวยไปตามๆ กัน…

คนทั้งห้องกำลังตัวสั่นงันงกหาทางปลอบพ่อคุณทูนหัวคนนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียง ‘ปัง’ ดังมาจากทางประตู ประตูห้องถูกคนถีบเข้ามาจากข้างนอก

เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าสบายๆ หลังจากกวาดตามองคนในห้องอย่างเกียจคร้านแล้ว สายตาเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มหยุดอยู่ที่กงซวี่

กงซวี่จ้องชายหนุ่มใจกล้าที่บังอาจมาเตะประตูห้องแต่งหน้าของเขา คิ้วขมวดไม่พอใจ “นายเป็นใคร?”

ผู้ช่วยข้างกายกงซวี่เห็นคนมาแล้ว ก็รีบกระซิบข้างหูกงซวี่ “พี่ซวี่ เขาคือเยี่ยไป๋คนที่ฉันเคยบอกพี่คราวก่อนไง…หมอนี่คงจะรู้ข่าวที่พี่ไปแย่งบทของลั่วเฉินมาแล้ว ก็เลยมาหาเรื่องพี่!”

“เขานี่เหรอเยี่ยไป๋…” กงซวี่คิ้วกระตุก

เมื่อล็อกเป้าหมายแล้ว เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดพร่ำทำเพลง หยักมุมปากสาวเท้าตรงไปยังกงซวี่ จากนั้นยกเท้าข้างหนึ่งถีบเก้าอี้ของเขา

ความรู้สึกกดดันรุนแรงปะทะเข้ามาหา กงซวี่หดตัวหลบไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ ตะโกนเสียงดังว่า “เฮ้ยๆๆ นายจะทำอะไร? ก่อกบฏเหรอ!”

“เยี่ยไป๋! นายคิดจะทำอะไร!” ผู้ช่วยสองคนร้อนใจแล้ว คนหนึ่งดุเสียงกร้าว อีกคนหนึ่งก็ตะโกนไปข้างนอก “รปภ.! รปภ.อยู่ไหน!”

เยี่ยหวันหวั่นเปิดรูปในโทรศัพท์อย่างไม่เร็วไม่ช้า แล้ววางลงตรงหน้ากงซวี่ให้เขาดู

กงซวี่ที่กำลังตะโกนร้องเห็นภาพนี้แล้ว ถึงกับตาค้างไปเลยทันที

เวรเอ๊ย!

นะ…นี่มันผลไม้แช่อิ่มน้อยของเขาไม่ใช่เหรอ!

ทำไมหมอนี่ถึงมีรูปถ่ายผลไม้แช่อิ่มน้อยของเขา?

………………………………………………………..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด