แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 223 หลักฐานของเคราะห์กรรมที่ไม่อาจเรียกคืน / บทที่ 224 ยังรู้จักกลับมาด้วยเหรอ!
บทที่ 223 หลักฐานของเคราะห์กรรมที่ไม่อาจเรียกคืน
แต่เวลานั้นเยี่ยเส่าอันยืนกรานเด็ดเดี่ยว แม้แต่เหลียงเหม่ยเซวียนก็แสดงตัวว่ายินดีที่จะแต่งงานกับเยี่ยเส่าอันเพื่อลูก
ผู้ใหญ่ทั้งสองบีบให้พ่อตัดสินใจ ว่าจะแต่งงานกับเหลียงเหม่ยเซวียนหรือไม่ หากเขาไม่ยอมแต่ง ก็ให้เยี่ยเส่าอันแต่ง
ภายใต้ความขมขื่นของพ่อ ท้ายที่สุดก็ยังปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเหลียงเหม่ยเซวียน
เด็กอยู่ในท้องของเหลียงเหม่ยเซวียน เขาเองไม่อาจบีบบังคับให้เธอทำแท้งได้ เหลียงเหม่ยเซวียนอยากจะแต่งกับใคร ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะไปควบคุมได้เช่นกัน
แบบนี้เอง เยี่ยอีอีพี่สาวพ่อเดียวกันต่างแม่ของเธอ จึงได้กลับกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ
หลังจากเยี่ยอีอีคลอดออกมา แม้ว่าจะเป็นแค่เด็กผู้หญิง แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองดีกับสองแม่ลูกเยี่ยอีอีเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะสงสารที่หลานสาวได้รับความอยุติธรรม และยิ่งไม่ชอบแม่ที่เป็นแม่ไก่ไม่ออกไข่ตัวนี้มากขึ้น
คืนวันของแม่ที่ตระกูลเยี่ยทุกข์ทรมานมากขึ้นทุกวัน มองเห็นเหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยอีอีที่บ้านทุกวัน ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ ขอหย่ากับพ่อหลายครั้ง พ่อเองก็เจ็บปวดเสียจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นาน แม่กลับตั้งท้องอย่างไม่คาดคิด ทั้งยังท้องเด็กผู้ชายอีกด้วย
สามปีให้หลัง แม่ก็ท้องเธอ
อคติของปู่ย่าที่มีต่อแม่ถึงได้เบาบางลง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาปู่ไม่เคยมองอารองเยี่ยเส่าอันในทางที่ดีเลย เรื่องราวในบริษัทล้วนเป็นพ่อที่คอยควบคุมจัดการ หลายปีนี้อารองอาศัยว่าตัวเองช่วยพ่อเลี้ยงลูกสาว อาศัยที่พ่อติดหนี้น้ำใจเขาครั้งใหญ่แบบนี้ จึงได้ใจได้คืบจะเอาศอก ก่อเรื่องที่บริษัทจนเละเทะ ให้พ่อจัดการตามแก้ปัญหา
จนกระทั่ง เยี่ยเส่าอันเล่นแรงมากขึ้นทุกที ในที่สุดก็ทำผิดข้อห้ามของตระกูลเยี่ย ช่วยเหลือผู้มีอำนาจนอกวงการฟอกเงิน เพราะแพ้พนันที่ลาสเวกัสเป็นเงินก้อนใหญ่ แล้วยังยักยอกเงินบริษัทก้อนใหญ่อีก
หลังจากที่พ่อตรวจสอบเจอเรื่องพวกนี้ก็โกรธจัด ตัดสินใจว่าครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมเขาอีก
แต่ขณะที่พ่อเตรียมจะนำหลักฐานทั้งหมดให้ทางคุณปู่นั้น เยี่ยเส่าอันก็ได้นำคลิปวีดีโอที่เธอเสพยามาข่มขู่พ่อ
ในเมื่อเยี่ยอีอีลูกสาวคนนี้ส่งผลอะไรต่อเขาไม่ได้อีกแล้ว ไม่เป็นไร ยังมีเยี่ยหวันหวั่นลูกสาวสุดที่รักของเขาอีกคน!
เป็นไปตามคาด ทันทีที่พ่อเห็นของเหล่านั้นก็ยอมแพ้ทันที
เรื่องราวเหล่านั้นที่เยี่ยเส่าอันเป็นคนทำ ถูกโยนความผิดให้พ่อของเธอทั้งหมด
ปู่โกรธจัดจนไล่พ่อออกจากบริษัท
ชาติที่แล้ว เธอถูกเยี่ยอีอีล่อไปที่บาร์ก่อน ตามด้วยถูกคนกลุ่มหนึ่งล่อลวงให้เธอเสพยา เวลานั้นในห้องเต็มไปด้วยชายหญิงที่กำลังเสพยา สถานการณ์นั้นสำมะเลเทเมาอย่างผิดปกติ และภาพเหล่านั้นถูกเยี่ยอีอีแอบถ่ายเอาไว้ทั้งหมด กลายเป็นหลักฐานของเคราะห์กรรมที่ไม่อาจเรียกคืนของบ้านพวกเขา
หากไม่ใช่เพราะกังวลว่าหากทำเกินไปจะทำให้พ่อโมโหจนได้ผลตรงกันข้ามกับที่หวังเอาไว้ เกรงว่าเยี่ยอีอีคงไม่ยอมรามือส่งคนไปทำลายความบริสุทธิ์ของเธอด้วยแล้ว
หลังจากที่เธอสร่างเมาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ยังนั่งเสียใจว่าทำไมกู้เยว่เจ๋อถึงผิดนัดเธอไม่ยอมมา
จากนั้น เธอก็ถูกพ่อที่โกรธจัดจับกลับไปหาคนตรวจเลือดอย่างลับๆ
ผลการตรวจเลือดออกมาว่าเธอเสพยาจริงตามคาด อีกทั้งยาที่เสพยังเป็นประเภทที่เสพเพียงครั้งเดียวก็จะติดอย่างรุนแรงชั่วชีวิต
ต่อมาเธอถูกพ่อส่งไปยังสถานที่ปลอดภัยเพื่อเลิกยา พ่อทิ้งเงินไว้ให้เธอก้อนหนึ่ง จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอ
เธอไม่รู้เลยว่าเพื่อที่จะปกป้องเธอให้ปลอดภัย พ่อถูกศัตรูล้อมทั้งสี่ด้านแล้ว ยังจะต่อว่าพ่อว่าเหตุใดถึงไม่เชื่อใจตัวเอง ทำไมต้องส่งตัวเองไปสถานที่น่ากลัวแบบนั้นตามลำพัง
ต่อมา คุณหมอที่พ่อหามารอให้อาการอยากยาของเธอกำเริบขึ้นอยู่หนึ่งเดือนเต็มๆ ก็ยังไม่กำเริบ
เวลาสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณหมอยืนยันอย่างประหลาดใจว่าเธอไม่ได้ติดยาจริงๆ วิจัยอยู่กว่าครึ่งเดือนก็ยังไม่อาจหาคำตอบได้ จึงทำได้เพียงคาดเดาว่าสารเสพติดชนิดนั้นได้เพิ่มส่วนประกอบอะไรเข้าไป เป็นการเปลี่ยนสารประเภทหนึ่ง ทำให้ไม่ถึงกับเสพติด?
……………………………………….
บทที่ 224 ยังรู้จักกลับมาด้วยเหรอ!
เยี่ยหวันหวั่นไม่เชื่อว่าตัวเองเสพยาตั้งแต่แรกแล้ว เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เธอรู้เพียงว่าในที่สุดตัวเองก็เป็นอิสระ
หลังจากออกไป สิ่งแรกที่เธออยากจะทำก็คือไปหากู้เยว่เจ๋อ แต่สิ่งที่รอเธออยู่นั้น กลับเป็นโลกภายนอกที่กลับตาลปัตรไปหมด…
พ่อถูกไล่ออกจากบริษัท ห้องในบ้านและรถล้วนสูญสิ้น เธอเปลี่ยนจากคุณหนูผู้ร่ำรวยกลายเป็นหงส์ขนร่วงที่ใครๆ ต่างก็หัวเราะเยาะในเวลาเพียงข้ามคืน ส่วนคู่หมั้นที่เธอรักนักหนา กลายเป็นแฟนหนุ่มของเยี่ยอีอี…
ในชาติก่อนหลังจากที่เธอรู้ความจริงเหล่านี้ เคยวางแผนที่จะฉีกหน้ากากเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเยี่ยอีอี น่าเสียดายที่ฝ่ายตรงข้ามเสแสร้งเก่งเกินไป เธอทำอะไรไม่ได้เลย
เพียงแต่ เธอกลับค้นพบความลับอันน่าตกใจโดยบังเอิญ…
ภาพความทรงจำมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของเธอ ศีรษะของเยี่ยหวันหวั่นปวดร้าวราวมีเข็มทิ่มแทง พิงขอบโซฟา จมลึกสู่ความมืดมิดของฝันร้าย
คงจะเป็นเพราะฝนที่ตกกระหน่ำทำให้อุณหภูมิลดต่ำ ร่างกายของเธอจึงหนาวสั่น อึดอัดที่หน้าอกราวกับถูกตะกั่วกรอกปาก หายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ
“โฮก!”
ข้างหูเหมือนจะได้ยินเสียงคำรามต่ำดุดันน่ากลัวจากสัตว์ร้ายลอยมา ดวงตาที่ปิดแน่นสนิทของเยี่ยหวันหวั่นขยุกขยิก อยากจะตื่นขึ้น แต่สติกลับจมอยู่ในโคลน ไม่อาจผละตัวออกมาได้
พยัคฆ์ขาวที่เดิมทีหลบเยี่ยหวันหวั่นอยู่ไกลๆ คำรามต่ำค่อยๆ เดินไปทางเยี่ยหวันหวั่นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
เห็นหญิงสาวนอนฟุบอยู่กับพรม แก้มทั้งสองร้อนแดง หอบหายใจ พยัคฆ์ขาวคล้ายว่าจะร้อนใจขึ้นมา เดินวนรอบเธอไปมาช้าๆ อยู่หลายรอบ
“โฮก!”
แล้วคำรามอีกครั้ง หญิงสาวยังคงไร้ปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนเดิม
คนรับใช้ในบ้านหากไม่ถูกเรียกล้วนมักจะอยู่แต่ในห้องคนรับใช้ ไม่ออกมาเดินเพ่นพ่าน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ในห้องรับแขกยังมีต้าไป๋ที่คำรามอย่างดุดันเช่นนี้ ยิ่งไม่มีทางมีใครกล้าวิ่งไปหาที่ตายแน่นอน
พยัคฆ์ขาวคำรามอยู่หลายครั้ง แล้วเดินวนรอบหญิงสาวอยู่นาน สุดท้าย ค่อยๆ เดินเข้าใกล้ข้างกายหญิงสาว ร่างของสัตว์ขนาดใหญ่ลงนอนแนบชิดกับหญิงสาว โอบหญิงสาวไว้ในขนสีขาวอันอบอุ่น หางเสือยาวทับอยู่บนขาเล็กที่เปลือยโผล่อยู่ด้านนอก
ท่ามกลางพายุฝนในยามราตรี รถยนต์สีดำแล่นไปอย่างรวดเร็ว
มองผ่านกระจกมองหลัง สวี่อี้มองชายหนุ่มเบาะหลังที่ซุกซ่อนอารมณ์ไว้เป็นอย่างดีด้วยความกังวลใจ
เขายังหลงคิดว่าวันนี้เจ้านายจะไม่กลับไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอถึงสองทุ่มก็ยังออกจากงานเลี้ยงมื้อค่ำอย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่าสิ่งที่เจ้านายเกลียดที่สุดคือการสูญเสียการควบคุม
และเยี่ยหวันหวั่นในตอนนี้กลับทำให้คนเดาไม่ออกมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอทำ หรือตัวเธอ
หากเธอเชื่อฟังสงบเสงี่ยมจริงๆ ก็ดี แต่แม้แต่เขายังดูออก เยี่ยหวันหวั่นกำลังค่อยๆ ทดสอบขีดจำกัดของเจ้านาย
เมื่อใดที่แตะถูกเส้นขีดจำกัดนี้ ต่อให้เยี่ยหวันหวั่นจะเสแสร้งเก่งมากแค่ไหนก็เกรงว่าจะไม่มีประโยชน์
ในที่สุดรถก็แล่นมาถึงสวนจิ่นหยวนอย่างรวดเร็ว
ในห้องรับแขกเงียบเสียจนผิดปกติ เจ้านายจงใจทิ้งสลูตสค์ไว้ที่บ้าน ตามลักษณะนิสัยของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว น่าจะส่งเสียงโหวกเหวกด้วยความตื่นเต้นทั้งคืน แต่ว่าในเวลานี้ ด้านในกลับไม่มีเสียงใดๆ
สวี่อี้รับเสื้อคลุมจากมือของซือเยี่ยหาน จากนั้นเดินตามเข้าไปในห้องรับแขกด้วยความสนเท่ห์
เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในห้องรับแขก ก็ได้เห็นพื้นด้านหน้าโซฟาที่พิมพ์ลายโทเท็มโบราณมีก้อนกลมสีขาว และเวลาเดียวกันนี้เยี่ยหวันหวั่นกลับกำลังขดตัวพิงร่างของสลูตสค์อยู่ สองมือจับเท้าของมันแน่น ปากพึมพำ “แม่…”
“โฮก!” ได้ยินเสียงฝีเท้า สลูตสค์ที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นขย้ำขนกอดเท้าเพ้อถึงแม่รีบคำรามเสียงต่ำ
เจ้ามนุษย์โง่เง่า! ยังรู้จักกลับมาด้วยเหรอ! เมียนายยังจะเอาอยู่ไหม!
……………………………………………..
คอมเม้นต์