แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 243 ออกมาทรมานคนโสด ไม่ช้านานก็ต้องโดนเอาคืน / บทที่ 244 นายเสียสติไปแล้ว
บทที่ 243 ออกมาทรมานคนโสด ไม่ช้านานก็ต้องโดนเอาคืน
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาอ่านความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต ผู้คนเห็นเป็นเรื่องสนุกพากันกระพือเรื่องให้ใหญ่โต ส่วนใหญ่คนที่ผ่านไปมาจะไม่ถามหาความจริงเท็จ ด่าอย่างไร้สมอง ด่าว่าดาราโรคจิต ด่าวงการบันเทิงโสมม อย่างไรแล้วหนึ่งในนั้นจะต้องมีคนของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ฉวยโอกาศนี้เหยียบให้จมเท้าแน่นอน
ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงข่าวนี้ได้ขึ้นพาดหัวหนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิงของหลายสำนักและติดเทรนด์ยอดค้นหา
เยี่ยหวันหวั่นไตร่ตรอง “เว้นเสียแต่อีกฝ่ายยอมรับกับปากว่าตัวเองต้องการหลอกเอาเงินชดเชยจึงได้พูดโกหก ไม่อย่างนั้น…”
เจียงเยียนหรานหน้าซีด “หากพวกเขาจงใจใส่ร้ายจริงๆ จะยอมสารภาพได้อย่างไร?”
ใช่แล้ว ปัญหาอยู่ตรงนี้แหละ
จะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายยอมพูดความจริงออกมาเอง?
อย่างไรแล้วรออีกไม่กี่ปี เด็กผู้หญิงคนนั้นก็จะออกมาสารพภาพเอง แต่ถึงเวลานั้นคงจะสายเกินแก้แล้ว
“ลองงัดไม้แข็งมาใช้ ทำให้พวกเขาตกใจ? บีบให้พวกเขาพูดความจริงออกมา?” ฉู่เฟิงเสนอความคิดเห็น
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ตอนนี้หานเซี่ยนอวี่เป็นฝ่ายถูกกระทำ จะใช้วิธีการรุนแรงแบบนี้ได้อย่างไร อย่างไรแล้วค่ายหวงเทียนจะต้องเฝ้าจับตาดูอยู่ รอให้โลกโกลาหลไปเอง หากรู้ว่ามีการใช้ความรุนแรงขู่เข็ญ หานเซี่ยนอวี่จะยิ่งตกต่ำไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป”
ชาติก่อนตอนที่เธอติดตามเรื่องนี้ ก็เคยคิดถึงปัญหาข้อนี้ อีกทั้ง เธอยังคิดถึงวิธีแก้ปัญหาได้จริงๆ อีกด้วย
เพียงแต่ตอนนั้นเธอถูกจำกัดการเข้าออก จึงไม่สามารถช่วยคนแปลกหน้าได้
ฉู่เฟิงคิดตามก็เห็นด้วย จึงได้แต่กล่าวปลอบใจ “คนดีฟ้าคุ้มครอง ไม่แน่คดีอาจจะพลิกก็ได้?”
เจียงเยียนหรานพยักหน้าหงอยๆ “ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ สรุปคือก่อนที่จะมีหลักฐานแน่ชัดกว่านี้ ฉันจะไม่เป็นคนที่ใครพูดยังไงก็คล้อยตามเด็ดขาด ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา”
ฉู่เฟิงรีบเสริม “พวกเรามาให้กำลังใจเซี่ยนเซี่ยนกันเถอะ!”
เจียงเยียนหรานกอดฉู่เฟิงด้วยความซาบซึ้ง “ฉู่เฟิง ขอบคุณนายนะ…”
ฉู่เฟิงพลันตัวแข็งทื่อเป็นแท่งน้ำแข็ง สองแก้มแดงระเรื่อ หน้าตางุนงงพลางเอ่ย “ขอบ…ขอบคุณฉันทำไม ไอดอลของเธอก็คือไอดอลของฉัน!”
เยี่ยหวันหวั่นที่เป็นคนโสดโดนทรมานอยู่ข้างๆ นั้น “…”
เฮ้อ ออกมาทรมานคนโสด ไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องโดนเอาคืน
……
ณ ประตูคฤหาสน์หรูแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
บรรดานักข่าวกลุ่มใหญ่พากันห้อมล้อมหานเซี่ยนอวี่และผู้จัดการที่ลงมาจากรถเบนซ์ไว้ไม่ให้ผ่านไปได้
“หานเซี่ยนอวี่ ขอถามค่ะว่าข่าวดังของสามีภรรยาสกุลจ้าวมีมูลความจริงไหมคะ? คุณจะปฏิเสธไหมว่าไม่ได้ก่อเหตุลวนลามและล่วงละเมิดทางเพศลูกสาววัย 10 ขวบของพวกเขา?”
“หลายปีมานี้ทั้งหมดที่คุณเรียกว่าเป็นการกุศลและช่วยเหลือเด็กที่ป่วยหนัก เชิญพวกเขามาเป็นแขกที่คฤหาสน์ของคุณ ก็เพื่อสนองความใคร่ใช่ไหมครับ?”
“หานเซี่ยนอวี่ คุณเป็นโรคใคร่เด็กจริงไหม? ขอถามว่าคุณมีปัญหาด้านสุขภาพจิตหรือเปล่า?”
หานเซี่ยนอวี่ในชุดสีดำ สวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ ปิดบังกว่าครึ่งใบหน้า ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ยอมตอบอะไรทั้งนั้น มีบอร์ดี้การ์ดและผู้จัดการคุ้มกันพาเดินเข้าไปข้างใน
ผู้จัดการยื่นมือไปกั้นนักข่าวที่แทบจะยื่นไมโครโฟนมาโดนหน้าของหานเซี่ยนอวี่ ตะโกนเสียงดัง “หลีกทางหน่อยครับ! รบกวนทุกท่านช่วยหลีกทางให้ด้วย! มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง! คำถามของทุกท่านรอให้ตรวจสอบความจริงแล้ว จะจัดงานแถลงข่าวตอบคำถามให้กับทุกคนครับ!”
เวลานี้ หนึ่งในนักข่าวที่แค้นเคืองต่อความอยุติธรรมได้ล้วงภาพที่ซูมขยายมาใบหนึ่ง พูดอย่างเฉียบคม “มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้างงั้นเหรอ? แล้วรูปถ่ายพวกนี้คุณจะอธิบายยังไง? เด็กหลายคนในรูปถ่ายอยู่ในห้องนอนส่วนตัวของคุณและนอนอยู่บนเตียงกับคุณ พวกเราสามารถคาดเดาได้ไหมว่า เด็กที่ถูกคุณคุกคามและล่วงละเมิดไม่ได้มีแค่คนเดียว?”
ความจริงแล้วภาพที่นักข่าวหยิบยกมาก็ไม่ได้เป็นภาพส่วนตัวอะไร อีกทั้งยังเป็นภาพที่ทางบริษัทเป็นฝ่ายเปิดเผยต่อสื่อเมื่อก่อนหน้านี้เอง
…………………………………
บทที่ 244 นายเสียสติไปแล้ว
คฤหาสน์หนึ่งภายใต้ชื่อของหานเซี่ยนอวี่ได้ถูกเขาเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่น และจะเชิญเด็กที่เขาเคยช่วยเหลือและแฟนคลับตัวน้อยมาเล่นที่บ้าน
ตอนนั้นทางบริษัทได้ถ่ายภาพกิจกรรมร่วมกันระหว่างหานเซี่ยนอวี่และเด็กๆ ไว้จำนวนมาก ทั้งกิจกรรมสร้างเกม เล่นสนุกด้วยกัน เล่นกลิ้งไปกับพื้นหญ้าสร้างเสียงหัวเราะ และหนึ่งในภาพเหล่านั้นก็มีภาพที่นอนอยู่บนเตียงกับเด็กๆ ภาพนั้นด้วย
ในภาพเป็นรูปห้องนอนของหานเซี่ยนอวี่จริง เพราะเตียงในห้องนอนของเขาทำขึ้นมาเป็นรูปร่างของเรือโจรสลัด เด็กๆ ต่างก็ชื่นชอบ ดังนั้นจึงพากันไปเล่นบนเตียงของเขาอยู่บ่อยๆ
ตอนนี้กลับโดนสื่อหยิบยกขึ้นมาเดี่ยวๆ ย่อมต้องเป็นหลักฐานลวนลามทำอนาจารเด็กอยู่แล้ว
หานเซี่ยนอวี่ถอดแว่นกันแดดลง จ้องไปที่ภาพรูปนั้น ความโกรธปะทุขึ้นมา
และเมื่อบรรดานักข่าวหน้างานเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ก็พุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง “หานเซี่ยนอวี่! ตอนนี้คุณยังอยากจะปฏิเสธไหม? เด็กผู้หญิงคนนั้นยืนยันกับปากว่าคุณเป็นคนถอดเสื้อผ้าของเธอ สัมผัสจับส่วนลับของเธอ กระทั่งบังคับให้เธอร้องครางให้คุณ! ทำเรื่องแบบนี้กับเด็กตัวเล็กๆ ได้ คุณมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน!”
หานเซี่ยนอวี่ชะงักฝีเท้า มองจ้องนักข่าวคนนั้นเงียบๆ “พูดใหม่อีกครั้งสิ”
นักข่าวเห็นว่าหานเซี่ยนอวี่ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบแล้ว นัยน์ตาประกายความฮึกเหิม ต่างพากันเริ่มตั้งกล้องวิดีโอ
นักข่าวหน้าตาอัปลักษณ์คนนั้นพูดด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยการเสียดสีและเหยียดหยาม “ทำไม? กล้าทำแต่ไม่กล้ารับเหรอ? ไอดอลคุณภาพ ยอดนิยมของวงการบันเทิง มันก็แค่สุภาพบุรุษจอมปลอมที่น่าเกรงขามเท่านั้น! จิตวิปริตเลวทราม! อ้อใช่แล้ว ได้ยินว่าคุณมีน้องสาวคนหนึ่ง ป่วยตายไปตอนหกขวบ เฮอะๆ ตอนนี้มาคิดดูแล้ว…คงไม่ได้โดนคุณเล่นจนตายหรอกนะ!”
วินาทีที่นักข่าวพูดจบ ก็มีเสียงร้องครางเหมือนหมูโดนเชือดตามมา หานเซี่ยนอวี่ซัดกำปั้นใส่หน้าของเขาอย่างแรง…
“โอ๊ย”
เสียงอุทานกรีดร้องดังก้องไปทั่วที่เกิดเหตุ เกิดความโกลาหลขึ้นโดยพลัน
“ทำร้ายคน! หานเซี่ยนอวี่ทำร้ายคน!”
“ทำร้ายนักข่าวจริงๆ! โดนพูดแทงใจดำจนโมโหแล้วใช่ไหม!”
“ทำเกินไปแล้ว!”
“หยุดนะ! เซี่ยนอวี่! นายเสียสติไปแล้ว!” ผู้จัดการตื่นตระหนกใบหน้าสิ้นหวัง
แต่หานเซี่ยนอวี่ที่สติหลุดไปนานแล้ว ผู้จัดการและบอร์ดี้การ์ดก็ไม่มีใครฉุดเขาอยู่ เห็นเขากดนักข่าวคนนั้นติดกับพื้น ชกเข้าใส่หมัดแล้วหมัดเล่า
ทุกอย่างล้วนถูกนักข่าวบันทึกไว้อย่างชัดเจน…
สุดท้าย ผู้รักษาความปลอดภัยต้องออกโรงเคลียร์ ถึงจะสลายฝูงชนที่ก่อความวุ่นวายออกไปได้
นักข่าวคนนั้นใบหน้าบูดบึ้งเอามือปิดหน้าเขียวจมูกช้ำหน้าผากบวมของตัวเอง “หานเซี่ยนอวี่ นายรอก่อนเถอะ! ความยุติธรรมไม่มีทางบกพร่องแน่! ฉันจะต้องกระชากหน้ากากเผยธาตุแท้ของนายให้ได้!”
หลังจากความวุ่นวายจบลง ก็กลับมาถึงที่บ้านได้สักที
หานเซี่ยนอวี่นั่งอยู่ที่โซฟา รังสีอำมหิตจากการต่อยคนเมื่อครู่ยังหลงเหลืออยู่ในแววตา ส่วนเฟยหยางผู้จัดการกลับกำลังรับสายไม่หยุดในสภาพอึดอัดร้อนใจ
ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ถูกอัพลงโซเชี่ยลอย่างรวดเร็ว ทั้งภาพและคลิปวิดีโอ ข่าวแพร่สะพัดด้วยความเร็วสูง
ตอนนี้บนโลกออนไลน์ต่างก็พากันปกป้องสนับสนุนนักข่าวคนนั้น คำพูดของนักข่าวประโยคนั้น “ความยุติธรรมไม่มีทางบกพร่องแน่!” จุดชนวนให้ความคิดเห็นของประชาชนที่ต่อต้านพวกเขาอยู่แล้ว ยิ่งขยายวงกว้างขึ้น…
เฟยหยางถูกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโทรเข้ามาด่าเละเทะ กดวางสายไปด้วยใบหน้าพ่ายแพ้ มองมาทางหานเซี่ยนอวี่แล้วพูดว่า “เซี่ยนอวี่ คุณใจร้อนเกินไป! ผมกำชับคุณเป็นหมื่นเป็นพันรอบแล้วว่าต้องใจเย็นไว้! นักข่าวพวกนั้นแค่อยากจะได้ข่าวใหญ่ ตั้งใจพูดยั่วโมโหคุณ แต่ละคนต่างก็อยากจะเห็นคุณสติหลุดทำอะไรออกมา! คุณกลับเป็นฝ่ายยื่นมีดให้พวกเขาเอง!”
เฟยหยางโมโหมาก เดิมทีอยากจะพูดต่อ แต่เห็นหานเซี่ยนอวี่นั่งเงียบไม่ตอบโต้อยู่ที่โซฟา ดูรูปของน้องสาวในมือถือ สุดท้ายก็ถอนหายใจ ไม่พูดอะไรอีก
วันนี้คำพูดของนักข่าวคนนั้นเกินไปจริงๆ ทว่าคนบนโลกโซเชี่ยลพวกนั้นไม่มีทางคิดในมุมของหานเซี่ยนอวี่ คงจะคิดตามคำพูดของนักข่าวคนนั้นแล้วปะติดปะต่อส่วนที่สกปรกและน่ารังเกียจกันไปต่างๆ นาๆ
เฟยหยางกำลังคิดว่าจะกอบกู้ภาพลักษณ์ได้อย่างไร เวลานี้เอง มือถือของหานเซี่ยนอวี่ก็ดังขึ้น เป็นหมายเลขที่คุ้นมาก
พ่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นโทรมา
เฟยหยางแววตาเป็นประกาย กลัวว่าหานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ในสภาพสติหลุดแบบนี้จะพูดสิ่งที่ไม่ควรออกมา จึงรีบกล่าวว่า “เอามือถือมา ให้ผมคุยกับเขาเอง!”
…………………………………
คอมเม้นต์