แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 479 ตัดใจไม่ได้ / บทที่ 480 รางวัลใหญ่หนึ่งรายการ
บทที่ 479 ตัดใจไม่ได้
เห็นซือเซี่ยนั่งนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น เยี่ยหวันหวั่นกล่าวทวงอย่างชอบธรรม “สามสิบหยวนไม่ใช่เงินหรือไง? อาเก้าของนายนาทีหลายร้อยล้านไม่เห็นจะพูดอะไร! รีบพับเร็ว!”
พูดจบก็ส่งหนึ่งในกองกระดาษพับดาวสีฟ้าไปให้
ซือเซี่ยมองกระดาษพับดาวสีชมพูวาววับในมือของเยี่ยหวันหวั่น สูดลมหายใจลึกแล้วรับมาอย่างช้าๆ
สรุปว่าเขามาทำอะไรเนี่ย…
คนที่พับได้ดีที่สุดคือซือเยี่ยหาน ทุกมุมของดาวดวงน้อยสมบูรณ์แบบราวกับงานศิลปะ ถัดมาคือเยี่ยหวันหวั่นระดับคนธรรมดา อันดับสุดท้ายคือดาวที่ซือเซี่ยพับ ขรุขระเป็นหลุม หลุดหลวมกระจัดกระจาย…
ซือเยี่ยหานใช้กระดาษพับดาวสีชมพู ซือเซี่ยใช้สีฟ้า เยี่ยหวันหวั่นใช้สีเหลือง คนทั้งสามแบ่งงานช่วยกันทำ กระทั่งพับดาวกระดาษครบหนึ่งร้อยห้าสิบดวงแล้ว เยี่ยหวันหวั่นดีใจรีบเรียกพนักงานมา
“พับเสร็จแล้ว!”
“คุณลูกค้า พวกคุณพับได้ดูดีจริงๆ!” พนักงานเห็นดาวกระดาษสองถุงสีชมพูและสีเหลืองนั้น อดจะกล่าวชมไม่ได้ เพียงแต่เมื่อเห็นถุงของซือเซี่ยสีหน้าพลันชะงักค้างอย่างเห็นได้ชัด
เยี่ยหวันหวั่นเองความจริงเห็นแล้วก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน เอ่ยถาม “ดาวที่พับสีฟ้าถุงนี้ค่อนข้างแย่ จะใช้ได้ไหม?”
ซือเซี่ยกำลังนั่งนวดนิ้วมือที่ปวดเมื่อย ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นหน้าดำเครียดขึ้นมา มารังเกียจว่าที่เขาพับนั้นแย่เหรอ!
พนักงานกระแอมเสียงเอ่ยตอบ “เอ่อ ไม่เป็นไร ล้วนใช้กระดาษทำ จำนวนครบก็ใช้ได้แล้วค่ะ”
ได้ยินพนักงานพูดเช่นนี้ สีหน้าของซือเซี่ยจึงดูดีขึ้นมาหลายส่วน
กว่าจะพับได้มากขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายหากว่ายังใช้ไม่ได้ เขาจะรื้อร้านนี้ทิ้งไปเลยจริงๆ
พนักงานพูดแล้ว ก็จะเก็บดาวกระดาษสามถุงไป เยี่ยหวันหวั่นดึงเก็บกลับมาอย่างลังเล “เดี๋ยวก่อน!”
“คุณหนู ยังมีอะไรไหม?” พนักงานถาม
เยี่ยหวันหวั่นคิดแล้วก็เอ่ยว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบดวงใช้ได้สามสิบหยวน งั้นห้าสิบดวงก็ใช้เงินสิบหยวนได้ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“อ้อ งั้นเอาแบบนี้…” เยี่ยหวันหวั่นเก็บถุงดาวกระดาษสีชมพูที่ซือเยี่ยหานพับไว้ มองพนักงานพลางกล่าว “ถุงนี้ไม่แลกแล้ว ใช้แค่สองถุงนั้น แลกให้ฉันยี่สิบหยวนก็พอ!”
“ตกลง!” พนักงานเก็บถุงดาวกระดาษไปแค่สองถุงตามที่บอก
หลังจากพนักงานไปแล้ว ซือเยี่ยหานมองเยี่ยหวันหวั่นพลันเอ่ย “ทำไมไม่ใช้ถุงนี้ล่ะ?”
เยี่ยหวันหวั่นประคองดาวกระดาษสีชมพูถุงนั้นแล้ว ยิ้มเริงร่าเป็นดอกไม้บานพลางกล่าว “นี่คือดาวกระดาษที่ประธานบริหารซือกรุ๊ป หัวหน้าตระกูลซือพับด้วยตัวเองเลยนะ! จู่ๆ ก็ตัดใจขายไม่ลง! ฉันจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก!”
ดาวกระดาษที่ปีศาจร้ายพับ มันหายากมากเลยนะจะบอกให้
ซือเซี่ยหมดคำจะพูด
งั้นของที่ฉันพับก็ขายได้ตามสบายสินะ?
กระทั่งวนมาถึงโต๊ะของพวกเขาแล้ว ซือเซี่ยแทบจะถูกทารุณตายอยู่แล้ว
ในร้านคนจองเต็มทุกโต๊ะ บรรยากาศด้านในอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอาหาร บนโต๊ะประดับประดาด้วยดอกไม้สด กลางร้านยังมีคนกำลังเล่นเปียโน บรรยากาศไม่เลวเลย
เวลานี้ บนเวทีพิธีกรหญิงหนึ่งคนและสามีภรรยาหนึ่งคู่ ดูคล้ายกำลังเล่นเกมกันอยู่
เยี่ยหวันหวั่นสั่งอาหารเสร็จอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังรออาหาร ก็เอามือเท้าคางมองไปบนเวที “นี่คือเกมอะไรเหรอ?”
พนักงานด้านข้างที่กำลังรินน้ำให้พวกเขาอยู่จึงอธิบาย “เกมนี้เรียกว่าเกมทายใจค่ะ กติกาก็คือพิธีกรสุ่มเลือกกลุ่มสิ่งของ 10 ชุดด้วยคอมพิวเตอร์ ทุกกลุ่มอย่างละสองรายการ แสดงบนหน้าจอใหญ่ ฝ่ายหญิงจะเลือกหนึ่งในสองรายกาย แล้วให้ฝ่ายชายเดาว่าฝ่ายหญิงเลือกอะไร มีโอกาสทั้งสิ้นสิบครั้ง คู่ที่ได้คะแนนมากที่สุดในคืนนี้จะได้รางวัลไป!”
………………………………………………………..
บทที่ 480 รางวัลใหญ่หนึ่งรายการ
เยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกาย “น่าสนุกจังเลย!”
ซือเซี่ยมองไปบนเวทีอย่างไม่สนใจ “น่าเบื่อ!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจซือเซี่ย มองพนักงานพลางเอ่ยถาม “รางวัลคืออะไรเหรอคะ?”
พนักงานตอบ “แขกผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดจะได้รับแล็บท็อปหนึ่งเครื่อง หากการจัดอันดับเสมอกันจะมีการจัดแข่งขันพิเศษ เพราะกิจกรรมประเภทนี้ต่อให้ทั้งสองฝ่ายจะเข้าใจกันและกัน แต่ก็ไม่มีคู่ที่ได้คะแนนเต็ม ร้านของพวกเรามีคนทำคะแนนสูงสุดไว้ที่แปดคะแนน ดังนั้นทางร้านจึงมีกติกา หากมีคนได้คะแนนเต็ม จะได้รับรางวัลใหญ่!”
“รางวัลใหญ่คืออะไร?” เยี่ยหวันหวั่นรีบถาม
พนักงาน “เงินสดสามหมื่นหยวน”
ที่แท้ก็มอบเงินโดยตรง…
เป็นสิ่งที่เธอชอบมากจริงๆ!
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินใจก็หวั่นไหวขึ้นมา อยากจะขึ้นไปลองสักครั้ง
เพียงแต่ ความคิดนี้เกิดขึ้นมาเพียงแวบเดียวเท่านั้น ซือเยี่ยหานไม่ชอบปรากฏตัวในวงสังคม เมื่อครู่ให้เขาพับดาวกระดาษด้วยกันยังพอเป็นเรื่องสนุกได้ แต่จะลากเขาขึ้นเวทีเล่นเกมเด็กน้อยแบบนี้ ออกจะเกินไปหน่อย
“คุณผู้หญิง พวกคุณลองขึ้นไปเสี่ยงโชคได้นะคะ!” พนักงานเอ่ยชวน
“ขอบคุณ แต่ช่างเถอะ ฉันไม่มีโชคแน่ๆ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวยิ้มๆ
เวลานี้เอง ซือเซี่ยที่กำลังหมดอาลัยตายอยากจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “เฮ้ ต้องเป็นคู่รักเท่านั้นเหรอถึงจะขึ้นไปได้?”
พนักงานกล่าว “วันนี้ทางร้านของเรามีแผนกิจกรรมพิเศษสำหรับคู่รัก เพียงแต่พวกคุณมาช้าเกินไป กิจกรรมสองสามอย่างก่อนหน้านี้สำหรับคู่รักได้จบลงแล้ว ตอนนี้เป็นรายการสำหรับแขกทุกท่าน ขอเพียงจับกลุ่มสองคนก็สามารถขึ้นไปเล่นได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อนหรือญาติ ก็สามารถขึ้นไปเล่นได้ค่ะ!”
ซือเซี่ยเอียงหน้าผากทแยงมุมมองไปทางเยี่ยหวันหวั่น “อาสะใภ้เก้า…”
“ทำไม?” เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที
“ฉันอยากเล่น ไปเป็นเพื่อนหน่อย!” ซือเซี่ยเอ่ยเด็ดขาด
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าจนใจ “เมื่อกี้นายเพิ่งจะบอกว่าน่าเบื่อไม่ใช่เหรอ?”
ซือเซี่ยกระตุกหัวคิ้ว “ตอนนี้ไม่เบื่อแล้ว ฉันอยากได้เงินสามหมื่นหยวน ช่วงนี้เงินในกระเป๋าไม่พอใช้”
“…” ฟังเขาสิ กำลังพล่ามอะไรเนี่ย!
ซือเซี่ยดวงตาหรี่เล็ก “เธอเป็นคนพาฉันมา หรือว่าจะทิ้งฉันไม่สนใจอย่างนั้นเหรอ? ในฐานะผู้ใหญ่ แค่ฉันขอเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้เหรอไง?”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด ทำเหมือนเธอยินดีให้เขามาด้วยเสียอย่างนั้น
“อีกอย่าง..เห็นๆ กันอยู่เธอก็อยากเล่นมาก!” ซือเซี่ยเอ่ยเสียงเย็น
เยี่ยหวันหวั่นรีบปฏิเสธ “ใครบอก ฉันไม่ได้อยากเล่นเลยสักนิด!”
“เธอแน่ใจไหม? สามหมื่นหยวนเลยนะ!”
เมื่อครู่สามสิบหยวนยังไม่ยอมปล่อย ตอนนี้สามหมื่นหยวนเธอจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร
ซือเซี่ยแน่ใจมากว่าซือเยี่ยหานไม่มีทางเล่นของแบบนี้เป็นเพื่อนเธอ ดังนั้นจึงจงใจยั่วยุอยู่ข้างๆ มาตลอด
แน่นอนว่าเยี่ยหวันหวั่นรู้เจตนาของเด็กแสบคนนี้ดี จึงถลึงตาจ้องเขม็งใส่เขา “บอกไม่เล่นก็ไม่เล่นสิ!”
ซือเยี่ยหานจิบชาอยู่ข้างๆ ใบหน้าเหมือนจะไม่มีสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นก็วางถ้วยชาลง แล้วหันมองเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยว่า “ไปเล่นเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน พลันตกตะลึงมองไปทางซือเยี่ยหานกะพริบตาปริบๆ
โห…ดูท่าวันนี้ซือเยี่ยหานจะอารมณ์ดีมากเลย ถึงได้พูดจาดีขนาดนี้ ยอมให้เธอขึ้นไปเล่นเกมกับซือเซี่ยได้?
ซือเซี่ยรีบเอ่ย “ไปตอนนี้เลย อาเก้าอนุญาตแล้ว!”
พูดจบไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอะไร ก็พูดกับพนักงานอย่างอดใจรอไม่ไหว “รบกวนช่วยลงชื่อให้พวกเราสองคนด้วยครับ!”
รอถึงตอนที่เยี่ยหวันหวั่นเรียกสติกลับคืนมาได้ พนักงานก็ลงรายชื่อเรียบร้อยแล้ว ในเวลาเดียวกันนี้ คู่บนเวทีก็เล่นจบพอดี ถึงตาพวกเขาขึ้นเวทีแล้ว…
………………………………………………………..
คอมเม้นต์