แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 503 พบผู้ชายหรือผู้หญิง / บทที่ 504 จับตอนแล้วโยนให้เป็ดกิน
บทที่ 503 พบผู้ชายหรือผู้หญิง
เยี่ยหวันหวั่นพิงเบาะหลังหลับตาลงพักสมอง หลิวอิ่งหน้าเคร่งขรึมนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ คนที่กำลังขับรถก็คือซ่งจิ้งลูกน้องในทีมของหลิวอิ่ง
เบาะด้านหน้า ซ่งจิ้งแอบชำเลืองมองข้างหลังผ่านกระจกมองหลัง แล้วกระซิบเสียงเบากล่าวว่า “เฮ้ หัวหน้า คุณอย่าโมโหไปเลย BOSS ชอบเธอ พวกเราจะทำอะไรได้?”
“หุบปาก!” หลิวอิ่งเวลานี้อารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
ตกต่ำถึงขนาดต้องมาคอยปกป้องรับส่งผู้หญิงคนนี้ สำหรับเขาแล้วช่างเป็นเรื่องน่าอัปยศจริงๆ
“อ้อ…” ซ่งจิ้งเงียบลงไปทันที
ขับรถไปได้สักพักหนึ่ง ซ่งจิ้งก็เอ่ยขึ้นเหมือนไม่อยากเหงา “ความจริงนะหัวหน้า แม้ว่าผมก็รู้สึกว่านางฟ้ารั่วซีมีคุณสมบัติเป็นนายหญิงของตระกูลของพวกเรามากที่สุด แต่ความจริงเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้แย่อย่างที่คุณจินตนาการไว้ขนาดนั้นไหม?
เรื่องหน้าตาขอไม่พูดถึงแล้วกัน ผู้หญิงไง จะออดอ้อนก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรให้พูดเหมือนกัน! อีกอย่าง ดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นที่ประเทศ B ถึงจะเป็นวิธีการที่สายลับสอนเธอ แต่เธอแสดงได้เหมือนจริงขนาดนั้น ก็ถือว่ามีความสามารถนะ! ตอนนั้นขนาดพวกเรายังถูกเธอหลอกกันหมดเลย!”
ไม่ว่าจะอย่างไร โชคดีที่ครั้งนั้นได้เยี่ยหวันหวั่นยื่นมือเข้ามาช่วยชีวิตตนไว้ ซ่งจิ้งรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ
ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะเธอส่งเสียงขึ้นกะทันหันบอกจุดอ่อนของยูจีนริปเปอร์ เขาคงตายแน่
หลิวอิ่งแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา ไม่เก็บเสียงเลยสักนิด ตั้งใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยี่ยหวันหวั่นสามารถได้ยิน “เฮอะ แสดงเก่ง ก็ไปเป็นนักแสดงเลยเลยสิ”
ที่เบาะหลัง เยี่ยหวันหวั่นกำลังคิดเรื่องของเจียงเยียนหรานกับฉู่เฟิง ได้ยินคำเสียดสีของหลิวอิ่ง ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถได้จอดลงที่หน้าประตูสการ์เล็ตบาร์
เยี่ยหวันหวั่นรีบผลักประตูเปิดแล้วลงจากรถ เดินฉับไวตรงเข้าไปข้างในบาร์
“คุณหนูเยี่ยดึกขนาดนี้แล้วไปบาร์ทำไม? ไปเจอผู้ชายหรือผู้หญิง?” ซ่งจิ้งพึมพำพลางจอดรถเข้าที่ไปพลาง
หลิวอิ่งสองแขนกอดอก สีหน้าไม่อยากจะสนใจ
ข้างในบาร์ แสงไฟสลัวน่าหลงใหล เสียงเพลงดังกระหึ่ม
เยี่ยหวันหวั่นแหวกทางจากฝูงชนที่เบียดเสียด ไม่ง่ายเลยที่ในที่สุดก็หาเจียงเยียนหรานที่ฟุบอยู่กับโต๊ะตัวหนึ่งในนั้นจนพบ
“เยียนหราน!”
ในที่สุดก็หาตัวพบแล้ว เยี่ยหวันหวั่นพลันโล่งอก
เจียงเยียนหรานได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา มองคนที่มาอย่างงุนงง
แทบจะวินาทีที่ได้เห็นคนที่มา หญิงสาวขอบตาแดงก่ำ เอ่ยแย้มยิ้ม “หวันหวั่น เธอมาแล้ว…”
ได้เห็นท่าทางฝืนยิ้มเป็นแข็งแกร่ง เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วย่น เดินตรงเข้าไปหาหญิงสาว
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไรทั้งนั้น สวมกอดเธอแล้วตบแผ่นหลังของเธอเบาๆ
เจียงเยียนหรานกับน้ำตาที่เก็บกลั้นพลันไหลรินลงมา ร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
เวลานี้ ซ่งจิ้งและหลิวอิ่งก็ตามมานั่งอยู่ที่โต๊ะห่างไปไม่ไกล
“ที่แท้ก็มาพบผู้หญิงนี่เอง…ถึงว่า…” ซ่งจิ้งพึมพำ
รอกระทั่งเจียงเยียนหรานอารมณ์ผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว เยี่ยหวันหวั่นจึงเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เจียงเยียนหรานกุมหน้าผากพลางตอบ “ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ…”
เยี่ยหวันหวั่น “ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ญาติของฉู่เฟิงจริงเหรอ? แบบเป็นลูกพี่ลูกน้องทำนองนี้?”
เจียงเยียนหรานส่ายหน้า “ยืนยันมาแล้ว ไม่ใช่…”
“มีรูปของผู้หญิงคนนั้นไหม?” เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง
เจียงเยียนหรานหยิบโทรศัพท์ให้ “วันนั้นตอนที่เห็นพวกเขา ฉันแอบถ่ายมาได้รูปหนึ่ง…”
พูดจบก็ไถหน้าจอโทรศัพท์ กดเลือกภาพหนึ่งในอัลบั้มรูป
เยี่ยหวันหวั่นรีบรับโทรศัพท์ของเจียงเยียนหรานมาดู เห็นเพียงภาพพื้นหลังในรูปคือห้างสรรพสินค้า
วัยรุ่นสาวคนหนึ่งกำลังช้อปปิ้ง ส่วนฉู่เฟิงหอบหิ้วถุงเล็กถุงใหญ่ตามอยู่ข้างหลัง…
………………………………………………………..
บทที่ 504 จับตอนแล้วโยนให้เป็ดกิน
ดูจากรูปถ่ายแล้ว คนทั้งสองดูคลุมเคลือมากจริงๆ
เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นสังเกตก็คือ ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นหน้าจัง?
เยี่ยหวันหวั่นซูมภาพขยายใหญ่อีกครั้ง ผลที่ได้คือ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน และก็น่าจะเคยเจอเมื่อไม่นานมานี้ด้วย…
น่าแปลก เป็นใครกันนะ?
เยี่ยหวันหวั่นขบคิดพลางกล่าว “ดูจากรูปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ว่าไปอายุน่าจะยี่สิบกว่าๆ ต้องโตกว่าฉู่เฟิง อีกอย่างดูแล้วไม่เหมือนสเปคที่ฉู่เฟิงชอบ?”
“ใครจะไปรู้…” เจียงเยียนหรานหน้าซีดขาวกล่าวพึมพำ ดื่มเครื่องดื่มในมือหมดแก้ว
หลังจากผ่านเรื่องของซ่งจื่อหังมา เจียงเยียนหรานเดิมทีก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว หากฉู่เฟิงก็…
อีกอย่างฉู่เฟิงกับเจียงเยียนหรานก็เพราะตนเองเป็นคนช่วยจับคู่ให้
สมควรตาย!
ฉู่เฟิงไอ้เด็กนี่ เสียแรงที่เธอช่วยเขาขนาดนี้ หากเขากล้านอกใจจริงๆ เธอจะจับตอนแล้วโยนให้เป็ดกิน!
เจียงเยียนหรานรินเหล้าใส่แก้วตรงหน้าตัวเองและเยี่ยหวันหวั่นจนเต็ม พลางกล่าว “ดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วนะ?”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว เอ่ยเตือน “เยียนหราน เลิกดื่มเถอะ! อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปก่อนที่เรื่องอะไรๆ ยังไม่ชัดเจน กลับไปหาเวลานัดเขาออกมาเจอ แล้วคุยกันอย่างเปิดอกสักครั้ง!”
เจียงเยียนหรานหลับตาลง กล่าวว่า “แต่ว่า…หวันหวั่น…ฉันไม่อยาก…ไม่อยากคุย…”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ รู้ว่าเจียงเยียนหรานไม่ใช่ไม่อยากคุย แต่ไม่กล้า
“โย่ๆๆ” เสียงร้องกรีดโหยหวนดังอึกทึกข้างในบาร์
บนเวทีตรงกลาง มีผู้หญิงกำลังเต้นถอดเสื้อผ้า สเกลใหญ่มากๆ ไม่อาจทนดูต่อไปได้
ห่างไปไม่ไกล ซ่งจิ้งมองอย่างไม่อาจละสายตา คิดไม่ถึงเลยว่าออกมารอบหนึ่งจะโชคดีขนาดนี้
หลิวอิ่งกลับมีสีหน้าอมทุกข์ ได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังคุยอยู่กับเจียงเยียนหราน สีหน้าก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาในสถานที่แบบนี้กลางดึก เรียกได้ว่าคุณธรรมเสื่อมทราม…
ในบาร์ที่วุ่นวายเน่าเฟะ เยี่ยหวันหวั่นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ ไม่เข้ากันกับสถานที่เป็นอย่างมาก
เห็นชัดว่าเป็นการแต่งกายแบบธรรมดาขั้นสุด ใบหน้าไร้การแต่งแต้ม ทว่าหญิงสาวดวงตากลมสวย ผิวพรรณขาวใส ดุจดั่งแหล่งกำเนิดแสงขนาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่วินาทีนั้นที่เหยียบเข้ามาในบาร์ ก็ได้ดึงดูดสายตาคนจำนวนไม่น้อย
เวลานี้ ด้านในห้องกระจก VIP บนตึก
“แม่เจ้า! คุณชายเฉิน มี…มีของดี!” มีคนมองจ้องตาไม่กระพริบมายังทิศทางด้างล่างตึก
ด้านข้างมีคุณชายแต่งตัวไฮคลาสดูแพงถือแก้วเหล้า เตะเข้าไปขาหนึ่ง “น่ารำคาญ! ของดีอะไร?”
“ทางนั้น ทางนั้นไง…”
คุณชายมองไปทางเจียงเยียนหราน สีหน้าดูแคลนพลางกล่าว “ก็แค่สาวเมาเพราะอกหักคนหนึ่ง? นายไม่เคยเห็นผู้หญิงเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาไม่เลวก็จริง เพียงแต่เขาเคยชิมสาวงามนับไม่ถ้วนทั่วเมืองหลวงแล้ว แบบนี้ไม่ถูกตานานแล้ว
ลูกน้องด้านข้างรีบกล่าว “ไม่ใช่! ไม่ใช่เธอ! หมายถึงสาวคนนั้นที่สวมเชิ้ตขาว อยู่ข้างๆ คนชุดแดงนั่นต่างหาก!”
“คนข้างๆ?” คุณชายเลื่อนสายตาไปสองสามนิ้ว ก็มองเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามสาวน้อยชุดแดง
หลังจากได้เห็นสาวน้อยชัดเจนแล้ว ท่วงท่าการดื่มเหล้าของคุณชายพลันแข็งทื่อ สายตาไม่อาจละไปทางอื่นได้…
แม่เจ้า! เป็นของดีจริงด้วย!
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอของหายากในสการ์เล็ตบาร์แบบนี้…
ด้านล่างตึก เยี่ยหวันหวั่นพยายามประคองเจียงเยียนหรานลุกขึ้น “เยียนหราน เด็กดี เลิกดื่มเถอะนะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเรากลับบ้านก่อนเถอะ วันหลังฉันจะไปหาฉู่เฟิงเป็นเพื่อนเธอ…”
เจียงเยียนหรานเมื่อครู่นี้ดื่มไปมากแล้ว เยี่ยหวันหวั่นใช้พลังอยู่นานกว่าจะประคองเธอให้ลุกขึ้นมาได้ในที่สุด
……………………………………………………….
คอมเม้นต์