บทที่ 553 พ่ายแพ้ชื่อเสียงยับเยิน

เฉียวเข่อซินกะพริบตา คล้องแขนเยี่ยหวันหวั่นเอาไว้ “น้องชาย นายว่าใช่ไหม?”

เยี่ยหวันหวั่นไม่อาจฉีกหน้าเฉียวเข่อซินต่อหน้าผู้คน ทำได้เพียงกระแอมเบาๆ เอ่ยว่า “อื้อ”

ชาติก่อนเธอดูพิธีประกาศรางวัลจินหลานตั้งแต่ต้นจนจบผ่านอินเตอร์เน็ต จำได้แม่นยำว่าพอดูจบไม่นาน บนหน้าเว็บไซต์ก็มีข่าวซุบซิบเรื่องฉีเหม่ยหลินเปิดวงปาร์ตี้มั่วเซ็กส์ ทั้งยังมั่วสุมเสพยาเด้งขึ้นมา

ข่าวเสียหายหนักหน่วงเช่นนี้ สามารถทำลายภาพนางฟ้าในอุดมคติที่ฉีเหม่ยหลินสร้างขึ้นต่อหน้าแฟนคลับ และภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบในวงการบันเทิงจนไม่เหลือชิ้นดี

ได้ฟังบทสนทนาของทั้งสอง ท่าทางของฉีเหม่ยหลินเต็มไปด้วยความดูแคลน ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย “เฉียวเข่อซิน เธอนี่สุดยอดไปเลย อายุอานามขนาดนี้แล้ว ยังเอาแต่ทำตัวเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน มัวขลุกอยู่แต่กับหนุ่มๆ! ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ หลงซะจนสมองไปหมดแล้วล่ะมั้ง เคราะห์หนักเหรอ? ฉันจะดูซิว่าฉันจะไปมีเคราะห์หนักอะไรได้!”

 ต่อให้ไม่ได้รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมของจินหลาน ตอนนี้เธอก็เหมือนดวงตะวันกลางท้องฟ้า อีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่อย่างเยี่ยกรุ๊ปเป็นที่พึ่งพิง จะมีอะไรที่จัดการไม่ได้

กู้เยว่เจ๋อที่อยู่ด้านข้างจัดแจงเสื้อผ้า ลุกยืนขึ้นอย่างจองหอง มองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความเย็นชา “ศิลปินของบริษัทเรา ขอไม่รบกวนคุณดีกว่าครับ”

ความรู้สึกที่เยี่ยหวันหวั่นมีต่อกู้เยว่เจ๋อ ตอนนี้กลับมาคิดดูแล้ว แม้ว่าจะโง่ถึงขั้นอยากตบตัวเองให้ตาย แต่ในเมื่อก็นับว่าเจ็บลึกฝักกระดูก ทุกครั้งที่เจอกู้เยว่เจ๋อ ความเกลียดในร่างกายพลุ่งพล่านจนไม่อาจควบคุมได้

เห็นท่าทางสูงส่งของกู้เยว่เจ๋อ เยี่ยหวันหวั่นก็แย้มริมฝีปากยิ้ม เอ่ยอย่างไม่เร็วไม่ช้าว่า “ประธานกู้ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ อย่างประธานกู้ไหนเลยจะต้องให้คนต่ำต้อยอยากผมเป็นห่วง หวงเทียนมีคนตั้งมากมาย หายไปคนสองคน ย่อมไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว”

ท่าทางที่เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากยิ้ม ยิ่งเหมือนกับท่าทางของเยี่ยหวันหวั่นที่พูดจาเยาะเย้ยเขาในคืนนั้น ทำให้กู้เยว่เจ๋อยิ่งไม่สบอารมณ์

กำลังจะพูด เสียงเตือนข้อความของโทรศัพท์กลับดังไม่ยอมหยุด ขัดจังหวะความคิดของเขา

กู้เยว่เจ๋อข่มอารมณ์ลง แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู

ผลคือไม่รู้ว่าเห็นอะไร สีหน้าของกู้เยว่เจ๋อเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเต็มไปด้วยพายุฝนที่กำลังจะมา ส่งสายตาแหลมคมดั่งมีดไปทางฉีเหม่ยหลิน

“เยว่เจ๋อ เป็นอะไรไป?” เยี่ยอีอีเอ่ยถามอย่างห่วงใย

ฉีเหม่ยหลินเองก็เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ประธานกู้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?”

เมื่อกี้สายตากู้เยว่เจ๋อที่มองตน เยียบเย็นอย่างที่สุดจนทำให้เธอหวั่นใจอย่างประหลาด

คงไม่ใช่…เรื่องราวพวกนั้นของเธอถูกเปิดโปงออกมาแล้ว!

ไม่มีทาง…เธอปิดมันเป็นความลับสุดยอดขนาดนั้นทุกครั้ง…

จากนั้นวินาทีต่อมา กู้เยว่เจ๋อที่กำลังโมโหปามือถือใส่หน้าฉีเหม่ยหลิน

“โอ๊ย”

ฉีเหม่ยหลินร้องอุทานเพราะความเจ็บ จากนั้นมือสั่นระริกหยิบมือถือขึ้นมา

เมื่อเห็นรูปแรกบนมือถือ สีหน้าของฉีเหม่ยหลินพลันซีดขาว

บนมือถือคือ รูปภาพที่ไม่น่ามองของเธอกับกลุ่มผู้ชายอยู่ด้วยกัน!

และนี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้น ด้านหลังแม้แต่รูปเธอเสพยาก็ยังถ่ายออกมาได้ชัดเจน…

ใบหน้างดงามของฉีเหม่ยหลินซีดขาว เริ่มทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เอ่ยปากมือสั่น “ประ…ประธานกู้ช่วยฉันด้วย! หัวหน้าเยี่ยช่วยฉันด้วยนะคะ!”

แทบจะในพริบตาที่ฉีเหม่ยหลินเอ่ยขอความช่วยเหลือ เสียงฮือฮารอบด้านพลันดังขึ้น

“โอ้โห สุดยอด! พวกเธอรีบดูสิ! ข่าวใหญ่มากเลยนะ!”

“คนในรูปภาพ…คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฉีเหม่ยหลินเจ้าแห่งดรุณีหยก!”

“เซ็กส์หมู่กับเสพยา! นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!”

…………………………………………………..

บทที่ 554 น้องชายเก่งสุดยอดไปเลย

เฉียวเข่อซินกับหานเซี่ยนอวี่เห็นดังนั้นก็มองหน้ากันไปมา

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทั้งสองกับคนรอบด้านที่ยังไม่รู้เรื่องราว รีบหยิบมือถือขึ้นมาดู เมื่อได้รู้ว่ามีเกิดอะไรขึ้น สีหน้ามีแต่ความตกใจ

เยี่ยหวันหวั่นยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ไม่มีความรู้สึกใดบนใบหน้า

ฉีเหม่ยหลินยังคงเว้าวอนราวกับคนบ้า “หัวหน้าเยี่ย รีบส่งคนไปลบข่าวพวกนี้เร็ว…”

สีหน้าเยี่ยอีอีมีแต่ความเคร่งเครียด “ไม่ทันแล้ว…”

ความรวดเร็วในการแพร่ข่าวแบบนี้นั้นไวเกินไป เมื่อครู่เป็นเพราะทุกคนกำลังมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่รางวัลจินหลาน ตอนนี้การประกาศรางวัลสิ้นสุดแล้ว เรื่องของฉีเหม่ยหลินจึงดังระเบิดขึ้นมา

เป็นไปตามคาด เธอเพิ่งจะกดเปิดเว็บไซต์ดังต่างๆ และเวยป๋อก็ได้เห็นคีย์เวิร์ด ‘ฉีเหม่ยหลินเซ็กส์หมู่’ ‘ฉีเหม่ยหลินเสพยา’ เป็นกระแสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น ในงานปาร์ตี้ไม่ได้มีแค่ฉีเหม่ยหลินเพียงคนเดียว ยังมีศิลปินในบริษัทหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์อีกหลายคน ตอนนี้ทิศทางของคำวิจารณ์ค่อยๆ เปลี่ยนไปสงสัยว่าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นแหล่งซ่องสุมหรือเปล่า

ทุกคนในงานเลี้ยงก็ค่อยๆ รู้ถึงข่าวใหญ่นี้ ต่างก็ซุบซิบมองไปทางฉีเหม่ยหลิน

“คิดมาตลอดเลยว่าเฉียวเข่อซินน่าจะเป็นคนที่ชีวิตส่วนตัวเละเทะที่สุด ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเข่อซินกลับเป็นคนได้รางวัลราชินีภาพยนตร์จินหลาน ส่วนฉีเหม่ยหลินมีชีวิตส่วนตัวเละเทะขนาดนี้!”

“มีอะไรน่าแปลกใจ ในวงการบันเทิงแยกแยะจริงเท็จยากอยู่แล้ว เธอที่เชื่อทุกอย่างที่เห็นก็ไร้เดียงสาเกินไป!”

“เรื่องชีวิตสุดเหวี่ยงของฉีเหม่ยหลิน เขาลือกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ? ได้ยินว่าระดับสูงในหวงเทียนเคยเตือนเธออย่างจริงจังว่าอย่าสุดเหวี่ยงเกินไป เสียเงินปิดข่าวให้เธอไปตั้งมากมาย ก่อนหน้านี้ก็เลยไม่เคยเป็นข่าว ช่วยไม่ได้คนมันรนหาที่เอง!”

“ครั้งนี้จบเห่แน่ เงินของหวงเทียนลงทุนไปเสียเปล่าแล้ว แล้วยังลากนักแสดงเบอร์หนึ่งลงน้ำไปด้วย! ตั้งแต่เยี่ยกรุ๊ปเปลี่ยนผู้บริหาร นับวันก็ยิ่งเละเทะขึ้นเรื่อยๆ เฮอะๆ…”

ฉีเหม่ยหลินรู้สึกว่าสายตาเหล่านั้นทิ่มแทงเธอจนแสบร้อน เมื่อคิดถึงว่าสถานะในวงการของเธอตอนนี้กำลังจะสบายหายไป ทันใดนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวา “ประธานกู้ หัวหน้าเยี่ย ครั้งนี้พวกคุณต้องช่วยฉันนะ! รีบให้แผนกปิดข่าวลบรูปพวกนี้ออกไปให้หมด! ลบไปให้หมดเลย!”

“หุบปาก!” กู้เยว่เจ๋อตะคอกด้วยความดุดัน

ข่าวเน่าๆ แบบนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดอีกต่อไป

เรื่องถูกเผยออกมาแล้ว ทุกคนจะต้องมีบันทึกเก็บไว้ส่วนตัวแน่ การลบโพสต์ออกไปนั้นไม่มีประโยชน์ คำว่าสำส่อนนี้ทำลายภาพลักษณ์และคาแรคเตอร์ของเธอไปแล้ว การเสพยานี้ยิ่งเพียงพอจะทำลายอาชีพนักแสดงในวงการบันเทิง

ฉีเหม่ยหลิน จบสิ้นแล้ว

พวกเขาลงทุนลงแรงกับเธอไปตั้งมากมาย ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ ยังต้องจ่ายค่าผิดสัญญาจำนวนมหาศาลให้กับบริษัทโฆษณาและตัวแทนต่างๆ ด้วย

ได้ยินประโยคที่ว่า “ตั้งแต่เยี่ยกรุ๊ปเปลี่ยนผู้บริหาร นับวันก็ยิ่งเละเทะขึ้นเรื่อยๆ” เพราะถูกแทงใจดำทำให้เยี่ยอีอีโมโหจนลืมตัว กดเสียงต่ำเอ่ยตำหนิ “พอได้แล้ว เลิกพูดตรงนี้สักนี้ กลับเดี๋ยวนี้ ยังขายหน้าไม่พอหรือไง?”

คนทั้งคณะหลีกฝูงชนและนักข่าวที่มารอออกจากงานไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนออกไป สายตาเยียบเย็นของกู้เยว่เจ๋อหยุดมองเยี่ยหวันหวั่นอยู่แวบหนึ่ง

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มตอบอย่างไม่ยี่หระ แฝงนัยยั่วยุเต็มเปี่ยม

นัยน์ตาของกู้เยว่เจ๋อหดตัวลง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ผู้ชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ดีมาก…

ราวกับเจอผีอย่างไรอย่างนั้น เรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ทุกอย่างถูกเขาทายทักออกมาอย่างแม่นยำ ทำให้เขารู้สึกว่าคำพูดที่ชายหนุ่มพูดก่อนหน้านี้เป็นคำทำนาย “โชคของเขาไม่ได้ดีขนาดนั้น” ทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

ทางด้านเฉียวเข่อซินและหานเซี่ยนอวี่ เห็นเยี่ยหวันหวั่นทายทักถูกต้องอีกครั้งเต็มๆ ตา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ…

“นี่…แบบนี้ได้ด้วยเหรอ? น้องชายเก่งสุดยอดไปเลย นายคงไม่ได้…ดูดวงเป็นจริงๆ หรอกใช่ไหม?”

……………………………………………………………..