แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1107 แฟนฉันไม่หล่อ / บทที่ 1108 โดนตบหน้าจนบวมแล้ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี ตอนที่ 1107 แฟนฉันไม่หล่อ / บทที่ 1108 โดนตบหน้าจนบวมแล้ว อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 1107 แฟนฉันไม่หล่อ

หลี่เหยียนยิ้มแย้ม “เด็กคนนี้นี่ ข้ามขั้นทีเดียวเอาเสียจบการศึกษาเลย มหาวิทยาลัยนิเทศเมืองหลวงก่อตั้งมาเกือบหนึ่งร้อยปีแล้ว มีทั้งหมดสามคนเท่านั้นที่ทำได้ เขาลือกันทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง?

เมื่อวานตอนกินข้าวกับปู่ของหนูแล้วก็เพื่อนๆ ยังพูดถึงกันอยู่เลย ปู่หนูถึงจะไม่พูด แต่ก็ดูออกว่าดีใจจนแทบลอยขึ้นฟ้าแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินอย่างนั้นก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เธอต้องขอบคุณศาสตราจารย์หลี่เหยียนจริงๆ ที่มักพูดถึงเธอต่อหน้าคุณปู่ ทำให้คุณปู่รู้สึกดีกับเธอขึ้นไม่น้อย

“หวันหวั่นเอ๋ย ตอนนี้หนูก็สอบเสร็จแล้ว น่าจะไม่ยุ่งแล้วใช่ไหม?” ศาสตราจารย์หลี่ทักทายเธอพอเป็นพิธี จากนั้นจู่ๆ ก็ถามขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินคำถามนี้หัวใจก็เต้นระรัว สังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ

ศาสตราจารย์หลี่เอ่ยด้วยสีหน้าคาดหวัง “หวันหวั่น วันไหนพอมีเวลา ฉันจะนัดคุณปู่กับคุณย่าของหนู พวกเราสองครอบครัวมากินข้าวด้วยกันสักมื้อ เจ้าเด็กเหลือขอของฉันก็กลับมาพอดี!”

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ

ศาสตราจารย์ยังไม่ลืมเรื่องนี้อีก…

กินข้าวอะไรกัน…นี่มันงานเลี้ยงดูตัวล่ะไม่ว่า…

ไม่ได้การ เธอต้องรีบพูดให้ชัดเจนแล้วล่ะ

เยี่ยหวันหวั่นเกาหัว ทำหน้าลำบากใจแล้วพูดว่า “ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ ศาสตราจารย์หลี่ พักก่อนหนูมัวยุ่งอยู่กับการเรียนแล้วก็เขียนวิทยานิพนธ์ ทำให้ไม่มีเวลาว่างเลย ตอนนี้อุตส่าห์มีเวลาว่างแล้ว หนูก็เลยนัดแฟนไปเที่ยวกันน่ะค่ะ ช่วงนี้หนูอาจไม่มีเวลาเลย…”

ศาสตราจารย์หลี่ได้ยินก็ชะงักไป “หวันหวั่น หนูมีแฟนแล้วเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

ศาสตราจารย์หลี่ทำหน้าเหมือนเห็นดอกไม้ที่ตัวเองหมายตาถูกคนอื่นเด็ดไปต่อหน้าต่อหน้า พอครุ่นคิดดู จู่ๆ ก็รู้สึกตงิดใจเล็กน้อย “เดี๋ยวนะ…เด็กคนนี้นี่ คงไม่ได้หลอกฉันหรอกใช่ไหม! ฉันเคยหลอกถามปู่หนูแล้ว เขาบอกว่าหนูไม่มีแฟนนะ!”

เยี่ยหวันหวั่นรีบอธิบาย “คือว่า ศาสตราจารย์หลี่คะ ศาสตราจารย์เองก็น่าจะรู้สถานการณ์ในครอบครัวหนู ปกติหนูไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอคุณปู่คุณย่าบ่อยนัก พวกท่านยังไม่รู้เรื่องที่หนูมีแฟนเลยค่ะ!”

“หนูไม่หลอกฉันจริงๆ ใช่ไหม?”

“เป็นเรื่องจริงแน่นอนค่ะ หนูจะหลอกคุณได้ยังไงล่ะค่ะ!”

“หวันหวั่นเอ๋ย ฉันรู้ว่าคนหนุ่มสาวอย่างพวกหนูค่อนข้างจะต่อต้านการแต่งงานที่เกิดจากการดูตัวหรือคลุมถุงชน แต่ฉันไม่ได้คุยนะ ลูกชายฉันหล่อมาก ต้องเหมาะสมกับหนูมากแน่ๆ!” ศาสตราจารย์หลี่คิดว่า “มีแฟนแล้ว” ของเยี่ยหวันหวั่นคือการบ่ายเบี่ยงและบอกปัด ฉะนั้นจึงเริ่มรุกหนักขึ้นอีก

เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ “เอ่อ คือว่า…ศาสตราจารย์หลี่คะ หนูคิดว่าเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกไม่สำคัญ คนสองคนจะคบกันได้สำคัญที่ความรู้สึก…”

ศาสตราจารย์หลี่ได้ยินก็รีบพูดเสริม “อะไรกัน เด็กคนนี้นี่ ไม่เชื่องั้นเหรอ ไม่เชื่อเดี๋ยวฉันจะเอารูปให้ดู!”

เพื่อทำให้ศาสตราจารย์หลี่ยอมแพ้ เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงรีบโบกมือแล้วบอกว่า “ไม่ใช่ๆ หนูไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์จริงๆ ค่ะ ความจริงหนูชอบคนที่ขี้เหร่หน่อยน่ะค่ะ คบด้วยแล้วรู้สึกสบายใจดี…”

เยี่ยหวันหวั่นกำลังพยายามพูดให้ศาสตราจารย์หลี่ยอมแพ้ จู่ๆ เสียงฝีเท้าเหยียบใบไม้แห้งก็ดังสวบสาบมาจากข้างหลัง

เยี่ยหวันหวั่นหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณ เธอชะงักไปก่อน ไม่นานก็เบิกตากว้าง

เห็นเพียงซือเยี่ยหานสวมชุดสูทมีฟ้าอมเทา ในมือถือช่อดอกไม้ กำลังเดินมาหาเธอ…

วันนี้ซือเยี่ยหานใส่เสื้อผ้าสีอื่นนอกจากสีดำอย่างหาดูได้ยาก บวกกับดอกไม้ช่อใหญ่ในอ้อมแขน ยิ่งขับเน้นให้ใบหน้านั้นโดดเด่นสะดุดตา

เยี่ยหวันหวั่นแทบตะลึงในความงาม เธอมองหน้าชายหนุ่มอย่างงงงัน “เอ่อ…คุณเก้า…คุณ…คุณมาได้ยังไง!”

……………………………….

บทที่ 1108 โดนตบหน้าจนบวมแล้ว

ศาสตราจารย์หลี่จ้องหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะค่อยๆ เก็บรูปลูกชายตัวเองกลับไปเงียบๆ จากนั้นก็มองหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วถามอย่างลังเลว่า “หวันหวั่น คุณคนนี้คือ?”

เยี่ยหวันหวั่นยกมือปิดหน้า ทำได้เพียงตอบตามความจริง “อะแฮ่ม คือว่า…ศาสตราจารย์หลี่ นะ…นี่แฟนฉันค่ะ…”

ศาสตราจารย์หลี่เงียบ

ไหนบอกว่าชอบคนขี้เหร่?

หรือว่าเขาแก่เกินไป เลยตามเทรนความงามของคนสมัยนี้ไม่ทัน?

วินาทีนี้ เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงเงียบ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสายตาของศาสตราจารย์หลี่

เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า! เธอเพิ่งจะพูดว่าตัวเองชอบคนขี้เหร่ ซือเยี่ยหานก็โผล่มาทันที

เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนบวมไปหมดแล้ว…

“คือว่า ศาสตราจารย์หลี่คะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกหนูขอตัวก่อนนะคะ!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็รีบดึงแขนซือเยี่ยหานวิ่งออกไป

พอวิ่งออกมาไกลหน่อย จนมองไม่เห็นศาสตราจารย์หลี่ เยี่ยหวันหวั่นก็ถอนหายใจโล่งอก

แต่ว่า เพิ่งจะโล่งอกได้ไม่นาน จู่ๆ เธอก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

เสียงทุ้มต่ำของซือเยี่ยหานดังขึ้นที่ข้างหูเธอ “ชอบคนขี้เหร่?”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก “เอ่อ…”

ซือเยี่ยหานเอ่ยต่อ “รู้สึกสบายใจกว่า?”

เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลาย แล้วรีบโต้แย้งทันที “จะเป็นไปได้ไง!!! นั่นเพราะศาสตราจารย์หลี่เขาจะจับคูฉันกับลูกชายเขาให้ได้ แล้วยังบอกว่าลูกชายเขาหล่อมาก ฉันบอกว่ามีแฟนแล้วเขาก็ไม่เชื่ออีก ฉันเลยไม่มีทางเลือก เลยทำได้แค่บอกปัดไปว่าฉันชอบคนขี้เหร่!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็รีบเปิดกล้องเซลฟี่ทันที จากนั้นก็ยื่นกล้องไปตรงหน้าซือเยี่ยหาน “คุณดูหน้าตัวเองก็น่าจะรู้ว่าเมื่อกี้ที่ฉันพูดอย่างนั้นก็เพื่อจงใจปฏิเสธศาสตราจารย์หลี่น่ะ! ฉันเพิ่งจะพูดออกไป คุณก็โผล่มาแล้ว ทำเอาฉันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนบวมหมดแล้ว!”

มุมปากของซือเยี่ยหานในกล้องเซลฟี่กระตุกเล็กน้อย…

พอเห็นสีหน้าซือเยี่ยหานอ่อนลง เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที “อ๊ะ ใช่สิ ทำไมจู่ๆ คุณก็มาได้ล่ะคะ?”

ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวแวบหนึ่ง แล้วยื่นกุหลาบช่อใหญ่ให้เธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “ยินดีด้วย”

“หา…” เยี่ยหวันหวั่นมองดอกไม้ในมือซือเยี่ยหานอย่างอึ้งๆ รู้สึกประหลาดใจกับการเซอร์ไพรส์ของเขา “ดะ…ดอกไม้นี่ให้ฉันเหรอคะ?”

ซือเยี่ยหานเหลือบมองเธอ “ไม่อย่างนั้นจะให้ใครล่ะ?”

เยี่ยหวันหวั่นกระพริบตาปริบๆ รีบรับดอกไม้ช่อนั้นมากอด “ของฉัน ของฉันนี่แหละค่ะ!”

เธอก็แค่ประหลาดใจเท่านั้นเอง นึกไม่ถึงว่าอีคิวของซือเยี่ยหานจะพัฒนาขึ้นขนาดนี้!

“นี่คุณ…ตั้งใจมา…เพราะฉันเรียนจบวันนี้เหรอคะ?” เยี่ยหวันหวั่นถามหยั่งเชิง

สีหน้าของซือเยี่ยหานดูเหมือนเคอะเขินเล็กน้อย เขาหลบสายตาเธอ แล้วตอบว่า “อืม”

เยี่ยหวันหวั่นกอดดอกไม้ช่อนั้นไว้ ความรู้สึกหดหู่ที่เรียนจบเพียงลำพังก่อนหน้า กลับถูกเติมเต็มทันที “ฉันก็นึกว่าต้องเรียนจบไปคนเดียวซะแล้ว… คุณเก้า ขอบคุณนะคะ…”

ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวที่กอดดอกไม้ไว้ในอ้อมแขน แล้วยิ้มอย่างสดใสเหมือนแสงอาทิตย์อันอบอุ่น แล้วเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง…

เยี่ยหวันหวั่นเดินตามซือเยี่ยหานไปที่รถอย่างมีความสุข

ซือเยี่ยหานเปิดประตูรถ เยี่ยหวันหวั่นก็เห็นถังถังนั่งอยู่ที่เบาะหลัง สีหน้ายิ่งดูดีใจกว่าเดิม “เบบี๋ถังถัง!!!”

ถังถังถือเค้กก้อนโตไว้ในมือ พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็ดีอกดีใจ “แม่ครับ! ยินดีด้วยนะครับ!”

เด็กน้อยพูดจบก็พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเยี่ยหวันหวั่น ซือเยี่ยหานเอ่ยเตือนเสียงเบา “ระวังเค้ก”

เด็กน้อยจึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังถือเค้กอยู่ จึงทำได้เพียงกลับไปนั่งอย่างว่าง่าย

เสียดายที่เลือกถือเค้ก แทนที่จะเลือกถือดอกกุหลาบ…

…………………………..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด