แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1293 พวกไร้ประโยชน์ / บทที่ 1294 ที่แท้ก็ไร้ยางอายขนาดนี้
บทที่ 1293 พวกไร้ประโยชน์
ชีซิงได้ยินดังนั้นก็ชำเลืองมองเป๋ยโต่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็แค่นหัวเราะ ไม่สนใจอีกฝ่ายอีก หันตัวจากไป
“ชีซิง แกกล้าเมินฉันเรอะ!” เป๋ยโต่วตั้งท่าก็ไล่ตามไป
…
เวลานี้ หลังเยี่ยหวันหวั่นมองชีซิงกับเป๋ยโต่วจากไปจึงค่อยถอนหายใจโล่งอกในที่สุด
ยังดีที่ก็ไม่ได้รับมือยากขนาดนั้นทุกคน
มองสภาพการณ์ตอนนี้ เป๋ยโต่วไม่จำเป็นต้องกังวล หลักๆ ก็คือชีซิง แน่นอนว่านอกจากชีซิง เกรงว่ายังมีคนอื่นอีก
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร ประตูห้องประชุมก็ถูกเคาะ
เยี่ยหวันหวั่นยืดตัวตรง เอ่ยปากเสียงเรียบ “เข้ามา”
เมื่อสิ้นเสียงเยี่ยหวันหวั่น ก็มีคนสิบกว่าคนเดินเข้ามาในโถงประชุมจากข้างนอก
“พบผู้นำพันธมิตรครับ!”
หลังทุกคนของพันธมิตรอู๋เว่ยเห็นเยี่ยหวันหวั่น ต่างคนต่างมีสีหน้า จากนั้นก็ทำความเคารพเยี่ยหวันหวั่น
“อืม” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้านิ่งๆ นับว่าสื่อเป็นนัย
คนสิบกว่าคนนี้เกรงว่าคงล้วนเป็นระดับสูงของพันธมิตรอู๋เว่ย สามารถมาเยี่ยมคารวะแบดเจอร์ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยได้ ตำแหน่งในพันธมิตรอู๋เว่ยจะต่ำต้อยได้ยังไง
“ผู้นำพันธมิตร ท่านกลับมาแล้ว ค่อยยังชั่วจริงๆ ครับ…หลายปีมานี้ผู้นำพันธมิตรหายตัวไป…แต่ละขั้วอำนาจใหญ่ต่างไม่มองพันธมิตรอู๋เว่ยในสายตาขึ้นทุกที โดยเฉพาะช่วงสองสามปีมานี้ เพราะผู้นำพันธมิตรไม่อยู่ พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเรามีสาขาไม่น้อยทรยศ ทำให้อำนาจของพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อน…ผู้นำพันธมิตรคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไงกันดีครับ”
ชายวัยกลางคนสวมสูทผู้หนึ่งมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยปาก
ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นไม่เปลี่ยนสีหน้า นี่เกรงว่าคงเป็นชีซิงจงใจให้คนมาหยั่งเชิงตัวเองอีกแล้ว
ถ้าเป็นแบดเจอร์ตัวจริงย่อมมีวิธีแก้ไขของตัวเอง ถ้าเป็นตัวปลอม ความไม่ระวังเดียวก็อาจเผยพิรุธออกมา
เยี่ยหวันหวั่นพินิจมองชายวัยกลางคนด้วยแววตาเย็นชาทันที “เจ้าพวกไร้ประโยชน์!”
ตามด้วยคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนจากพันธมิตรอู๋เว่ยในที่นั้นต่างชะงัก
“ฉันไปข้างนอกแค่ไม่กี่ปี พันธมิตรอู๋เว่ยกลับถูกพวกแกทำจนลำบากยุ่งเหยิงแบบนี้ แล้วตอนนี้ยังมีหน้ามาถามฉันว่าควรทำยังไงดีอีก!” เยี่ยหวันหวั่นตะคอกเสียงเย็นชา ฝ่ามือฟาดไปที่โต๊ะเก้าอี้อย่างแรง
“ผู้นำพันธมิตรยกโทษให้ด้วยครับ! ลูกน้องไร้ความสามารถ!” เวลานี้หน้าผากชายวัยกลางคนผุดเหงื่อเย็นหนึ่งสาย ไม่กล้าพูดมากอีก
“ผู้นำพันธมิตร…นี่ก็โทษเขาไม่ได้นะครับ ยังไงเสีย…ผู้นำพันธมิตรก็หายตัวไปนานขนาดนี้…ขั้วอำนาจฝ่ายศัตรูเห็นผู้นำไม่อยู่ เลยคิดแผนร้ายต่อพันธมิตรอู๋เว่ย ยังมีสาขาที่ทรยศพวกนั้น…พวกเราก็หมดหนทางทางจริงๆ ครับ” ชายชราคนหนึ่งเอ่ยเสียงเย็นชา
“ทำไม นี่คือผลักความผิดใส่ฉัน เพราะปัญหาของฉันเลยสร้างความตกต่ำให้พันธมิตรอู๋เว่ย ใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นมองชายชราที่พูด
“ลูกน้องไม่กล้าครับ และก็ไม่ได้มีเจตนากล่าวโทษผู้นำพันธมิตรด้วย…แค่พูดความจริงเท่านั้นครับ” ชายชราเอ่ย
“หึหึ…” เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากน้อยๆ วาดโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชา “อย่าเอาความสามัญกับไร้ความสามารถของตัวเองมาหาข้ออ้าง เข้าใจหรือยัง”
ได้ยินดังนั้น ชายชรามุมปากกระตุกน้อยๆ แต่ท้ายที่สุดก็พยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ”
“ดี เอาสาขาที่ทรยศพวกนั้น แล้วก็ขั้วอำนาจที่สองสามปีมานี้กล้ามาแหย่พันธมิตรอู๋เว่ยฉันทำเป็นรายชื่อส่งมาให้ฉัน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็น
“ผู้นำพันธมิตรตั้งใจจะกำราบสาขาที่ทรยศกับขั้วอำนาจศัตรูพวกนั้นเหรอครับ” เป๋ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น
“ฉันมีแผน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็นชา
————————————————————————————————-
บทที่ 1294 ที่แท้ก็ไร้ยางอายขนาดนี้
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นพอเข้าใจคร่าวๆ เกี่ยวกับพันธมิตรอู๋เว่ยและสิ่งมีชีวิตอย่างแบดเจอร์นี้แล้ว
เหตุผลที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยถูกเรียกว่าแบดเจอร์ นั่นต้องเป็นเพราะความเย่อหยิ่งเผด็จการสุดขั้วแน่ๆ หลังกลับมา ถ้าพบว่าสาขาที่เดิมเคยเป็นของพันธมิตรอู๋เว่ยหักหลัง รวมถึงมีการยั่วยุจากขั้วอำนาจศัตรู ไหนเลยจะทนอยู่ได้ จะต้องทำการกวาดล้างครั้งใหญ่และปราบด้วยกำลังแน่นอน
“มีเรื่องอะไรอีกค่อยว่ากันพรุ่งนี้ ออกไปให้หมด” เยี่ยหวันหวั่นเห็นยังมีคนคิดเอ่ยปากจึงโบกมืออย่างติดรำคาญ
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนมองหน้าสบตากัน ในเมื่อเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากแล้ว พวกเขาพูดมากไปก็ไม่ดี ได้แต่ต้องขอตัวออกไป
ผ่านไปชั่วครู่ โถงประชุมที่โอ่อ่าก็เหลือแค่เป๋ยโต่วคนเดียว
“พี่เฟิง ผมมีเรื่องจะรายงานพี่หนึ่งเรื่อง” เป๋ยโต่วนั่งลงข้างเยี่ยหวันหวั่นอย่างเป็นธรรมชาติมาก
“เรื่องอะไร” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“พี่เฟิง ตอนก่อนที่พี่ยังไม่ไปจากพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่ใช่ว่าให้ผมตามหาเจ้าสวะหมามาตลอดเหรอ…” เป๋ยโต่วยิ้มเอ่ย
ได้ยินแบบนั้น เยี่ยหวันหวั่นชะงัก ชื่อนี้มีเอกลักษณ์จริงๆ …
“พี่เฟิง ผมว่าช่างเรื่องนี้เถอะนะ…พวกเราเสียเปรียบหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก…” เป๋ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นดูราวกับครุ่นคิด อย่าบอกนะว่า แบดเจอร์ตอนนั้น เสียเปรียบใต้น้ำมือของเจ้าสวะหมานั่น?
ถ้าเป็นแบบนั้น ตามนิสัยของแบดเจอร์ น่าจะไม่ยอมเลิกรา…
“ว่ามา” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“พี่เฟิง…เจ้าสวะหมานั่นมันเป็นคนบ้า…ตอนนั้นพี่ยืนกรานจะแหย่เขา…ผลคือถูกเขาอัดหมอบในท่าเดียว…สองปีก่อน ผมได้ข่าวของเจ้าสวะหมา เลยพาคนไปแก้แค้นเขา…เจ้าบ้านั่นเกือบฆ่าพวกเราเรียบ โชคดีว่าผมวิ่งไว…
“พี่เฟิง พี่พูดเองว่าต่อให้อาจารย์พี่มาก็ไม่แน่ว่าเอาชนะเขาได้…แล้วก็ ก่อนหน้านี้เจ้าสวะหมานั่น ตัวคนเดียวเกือบทำลายตระกูลวิทยายุทธเก่าแก่ในโลกลับตระกูลหนึ่งราบคาบ…” ทุกครั้งที่พูดถึงเจ้าสวะหมา เป๋ยโต่วจะหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เป๋ยโต่วเอ่ยอีกว่า “พี่เฟิง…พี่บอกว่าสู้ชนะเจ้าสวะหมาไม่ได้เลยยังไม่ยอมแพ้…ไม่รู้ชื่อแซ่คนเขา ก็เรียกเขาว่าเจ้าสวะหมา…พี่ว่า ถ้าเจ้าสวะหมารู้ว่าพี่ตั้งชื่อเล่นให้เขา เขาจะมาทำลายแก๊งอู๋เว่ยของพวกเราหรือเปล่า…” เป๋ยโต่วสีหน้าเคร่งเครียด
เวลานี้แม้เยี่ยหวันหวั่นจะมีสีหน้าสงบนิ่ง แต่ในใจกลัวเกิดคลื่นพายุพัดโหม
กระบวนท่าเดียวอัดแบดเจอร์หมอบกับพื้น เกือบฆ่าพวกเป๋ยโต่วเรียบ…ตัวคนเดียวเกือบทำลายตระกูลเก่าแก่ของรัฐอิสระย่อยยับ…
เจ้าสวะหมานี่เป็นตัวอะไร เป็นบอสเหรอ! พวกสุดยอดประเภทนั้น?
“นั่นแล้วยังไง” เยี่ยหวันหวั่นให้ตายก็ยังปากแข็ง
เธอไม่ใช่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยสักหน่อย ถึงตอนนั้นเจ้าสวะหมามาหาเรื่อง เรื่องนั้นก็มาไม่ถึงเธอ
“เฮ้อ…ผมคิดว่า รัฐอิสระของพวกเรา ยังไม่มีใครเอาชนะเจ้าสวะหมาได้…พี่เฟิง ผ่านไปตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว ก็ช่างๆ มันเถอะนะ ไม่งั้น ถึงตอนนั้นถูกเจ้าสวะหมากดอัดลงกับพื้นอีก พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราจะเสียหน้า…” เป๋ยโต่วจนใจเล็กน้อย
“เหอะ เรื่องของฉันกับเจ้าสวะหมา ช่างไปแบบนี้ไม่ได้หรอก” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเย็น
“โอ้…งั้นก็ได้ สองสามวันก่อนพวกผมค้นเจอข่าวคราวของเจ้าสวะหมาพอดี เขาก็อยู่ที่รัฐอิสระ เอาแบบนี้แล้วกัน ผมเรียกคนให้ไปนัดเจ้าสวะหมามาดวลเดี่ยวกับพี่เฟิง…
“พี่เฟิง พวกเราจะเป็นเหมือนตอนนั้นไม่ได้แล้วนะ พี่ดวลเดี่ยวเอาชนะไม่ได้ ให้คนซุ่มรุมโจมตี…ยังดีที่ซุ่มโจมตีสำเร็จ แต่ประเด็นคือคนที่พี่เฟิงจัดไปล้วนถูกอัดหมอบทุกคน…น่าขายหน้าเกินไป…” เป๋ยโต่วเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ดูไม่ออกเลยว่า ที่แท้แบดเจอร์ก็ไร้อายขนาดนี้…
ดวลตัวต่อตัวเอาชนะไม่ได้ ถึงกับยังส่งพันธมิตรอู๋เว่ยไปโจมตีหมู่…ที่น่ากลัวที่สุดคือ ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกเจ้าสวะหมาคนนั้นอัดจนเข่าทรุด…
“พี่เฟิง ผมให้คนไปนัดเจ้าสวะหมาแล้ว” พูดจบเป๋ยโต่วก็กำลังจะจากไป
“เดี๋ยวก่อน!” เยี่ยหวันหวั่นดึงข้อมือเป๋ยโต่วไว้ ลากเขากลับมานั่งบนโซฟาใหม่อีกครั้ง
“ฉันเพิ่งกลับมา พันธมิตรอู๋เว่ยยังมีเรื่องต้องจัดการอีกมาก ช่วงนี้ไม่มีเวลาเท่าไร…ค่อยว่ากันหลังจากนี้ดีกว่า” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เจ้าเป๋ยโต่วนี้สมองมีน้ำหรือเปล่า รู้ทั้งรู้ว่าแบดเจอร์เอาชนะเจ้าสวะหมาไม่ได้ยังจะไปนัด นัดน้องสาวแกสิยะ!
แบดเจอร์สู้ชนะไม่ได้ นับประสาอะไรกับเธอ…
ต้องให้เป๋ยโต่วถอนนัดนี้ให้จงได้…
แบบนั้นโคตรแย่เลยไม่ใช่หรือไง!
คอมเม้นต์