แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1317 ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อยๆ / บทที่ 1318 ก็ต้องฆ่าอยู่แล้ว
บทที่ 1317 ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อยๆ
เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้ามองชายชรา คนคนนี้ก็คือผู้อาวุโสสาม เขากลับมีหน้าตาที่ดูใจดีต่างจากที่คิด
“ไม่ทราบว่าวันนี้ทุกท่านมาหาฉันมีเรื่องอะไร” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเย็น แล้วถามขึ้น
“หลายวันนี้ พวกผมรู้ว่าท่านหัวหน้ากลับมาแล้ว แต่เพราะในแก๊งมีเรื่องเร่งด่วนให้จัดการมากมาย เลยทำให้ไม่มีเวลามาพบท่านหัวหน้า วันนี้มีเวลาพอดีเลยตั้งใจมาพบท่านหัวหน้า” ชายชราอีกคนที่ดูมีอายุแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ภายนอกดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติ แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับรู้ดี วันนี้…เธอจะยอมอ่อนข้อไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น อย่าว่าแต่เรื่องที่เธอเป็นหัวหน้าแก๊งตัวปลอมเลย ถึงจะเป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริงวันข้างหน้าก็ต้องลำบากแน่ๆ บางทีเธออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะตายยังไง
“หึ งั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นขยับมุมปากเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้ายอย่างอธิบายไม่ถูก
เป่ยโต่วกับคนอื่นๆ คอยยืนอยู่ไม่ไกลโดยไม่ปริปากซักคำ
ชีซิงกำลังสังเกตทุกการกระทำและคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น คล้ายต้องการมองหาช่องโหว่จากสิ่งเหล่านั้น
“ท่านหัวหน้า ผมอยากถามว่าหลายปีที่ผ่านมา ท่านหัวหน้าไปอยู่ที่ไหนมา?” จู่ๆ ผู้อาวุโสสามก็จ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วแค่นยิ้มเย็นชา
“หึ ผู้อาวุโสสามนี่เป็นห่วงฉันจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบอก
“แน่นอนอยู่แล้ว ท่านเป็นถึงหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเรา…” ผู้อาวุโสสามเอ่ย
แต่ทว่า ยังไม่ทันสิ้นเสียงของผู้อาวุโสสาม จู่ๆ สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนไป
เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นแล้วหยิบเอกสารชุดหนึ่งปาใส่หน้าผู้อาวุโสสามอย่างแรง
“ไอ้แก่ คงอยู่มานานจนเบื่อชีวิตแล้วสินะ!” เยี่ยหวันหวั่นตวาดเสียงเข้ม
จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนไป ทุกคนในห้องต่างตกตะลึง พวกชิวสุ่ยกับเป่ยโต่วอึ้งค้างไปทันที ส่วนชีซิงนั้นแววประหลาดใจปรากฏในดวงตา…
ตอนนี้อำนาจส่วนใหญ่ในพันธมิตรอู๋เว่ยล้วนอยู่ในกำมือของตาเฒ่าพวกนี้ เยี่ยหวันหวั่นทำอย่างงี้…หรือคิดจะแตกหักกับตาเฒ่าพวกนี้จริงๆ…
“ท่านหัวหน้า ทำอย่างงี้หมายความว่ายังไง!” ผู้อาวุโสสามจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น ประกายเย็นชาพาดผ่านนัยน์ตา
ไอสังหารในแววตาของผู้อาวุโสสามทำให้เยี่ยหวันหวั่นแอบกลัวหัวหดอยู่หน่อยๆ แต่ภายนอกเธอกลับยิ่งปั้นหน้าเย็นชาจนจับขั้วหัวใจ
“หลายปีมานี้ที่ฉันไม่อยู่ คุณดูปีกกล้าขาแข็งมาขึ้นเรื่อยๆ…” เยี่ยหวันหวั่นแค่นยิ้ม
“เหอะ ท่านหัวหน้า พูดอย่างงนี้หมายความว่ายังไง!” ผู้อาวุโสสามแค่นเสียงเย็น
“เมื่อคืน ลูกชายนอกสมรสคนนั้นของคุณทำอะไรไว้ คุณจะบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นจ้องหน้าผู้อาวุโสสาม
ผู้อาวุโสสามยักไหล่ “ท่านหัวหน้า กินอะไรก็กินได้ แต่จะพูดจาส่งเดชไม่ได้ ผมไม่มีลูกนอกสมรสอะไรทั้งนั้น”
“งั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “เป่ยโต่ว เอาตัวเข้ามา”
“ครับ…” เป่ยโต่วเดินออกจากห้องทำงานไป
เมื่อคืน เป่ยโต่วได้รับสายจากเยี่ยหวันหวั่น ให้แอบไปเอาตัวหลี่โม่เฉินออกมาจากโรงพยาบาลเงียบๆ ถึงแม้ไม่รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะทำอะไร แต่เป่ยโต่วก็ทำตามคำสั่งเธอเป็นอย่างดี
ไม่นาน สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยสองคนก็หามเปลเดินตามหลังเป่ยโต่วเข้ามาในห้อง
บนเปลหลังนั้น ก็คือหลี่โม่เฉินลูกนอกสมรสของผู้อาวุโสสามนั่นเอง
พอเห็นสภาพของหลี่โม่เฉินที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลพันทั้งตัว แววตาของผู้อาวุโสสามก็เปลี่ยนไปทันที
“หลี่ซือ ในเมื่อคุณบอกว่าไม่มีลูกนอกสมรส แล้วคุณรู้จักคนคนนั้นรึไม่” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเย็น
————————————————————————————-
บทที่ 1318 ก็ต้องฆ่าอยู่แล้ว
“ไม่รู้จัก!” หลี่ซือตอบอย่างหงุดหงิด
“อ้อ…ผู้อาวุโสสามไม่รู้จักจริงๆ เหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นทำหน้า “ประหลาดใจ”
ตาเฒ่านี่โกหกหน้าด้านๆ ใครบ้างไม่รู้ว่าหลี่โม่เฉินเป็นลูกนอกสมรสของเขาหลี่ซือ ตอนนี้เขากลับผลักความผิดออกจากตัว ไม่ยอมรับกระทั่งลูกชายของตัวเอง
“ท่านหัวหน้า ผมบอกว่าไม่รู้จักก็คือไม่รู้จัก” พูดจบ หลี่ซือก็หันไปพูดกับสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยสองคนที่หามเปลว่า “คนคนนี้เป็นใคร บาดเจ็บหนักขนาดนี้รีบส่งตัวไปโรงพยาบาลเร็วเข้า อย่าปล่อยให้มาตายที่นี่ จะซวยเอาได้”
“คือว่า…”
สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยสองคนนั้นลังเลเล็กน้อย หัวหน้าแก๊งยังไม่ได้บอกให้พวกเขาไป…
“เดี๋ยวก่อน” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบาง “เมื่อวานคนคนนี้ล่วงเกินฉันกับชิวสุ่ย แถมยังพูดจาอวดดีกับฉันด้วย…”
“หึหึ ท่านหัวหน้า ท่านเพิ่งกลับมาย่อมต้องมีพวกถั่วล่วงเกินบ้างอยู่แล้ว ผมว่า คนที่ควรปล่อยท่านหัวหน้าก็ปล่อยไปจะดีกว่า หรือท่านหัวหน้าว่ายังไง?” ผู้อาวุโสสามจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่นอย่างมีความหมายแฝง
“คนที่ควรปล่อยก็ปล่อย?” เยี่ยหวันหวั่นกระตุกมุมปากยิ้มเย็น “ตลอดชีวิตนี้ของฉันดูเหมือนจะไม่รู้จักคำนี้นะ”
ไม่รอให้ผู้อาวุโสสามพูดอะไร เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองเป่ยโต่ว “เป่ยโต่ว เมื่อก่อนถ้ามีเรื่องอย่างงี้เกิดขึ้น จะจัดการยังไง”
“ด่าทอสาปแช่วหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย ฆ่าล้างโคตร ไม่เคารพหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย ฆ่า!” เป่ยโต่วเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ดี หลี่ซือ ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองผู้อาวุโสสาม
“หึ…งั้นไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าจะจัดการคนคนนี้ยังไง” หลี่ซือสบกับสายตาเย็นชาของเยี่ยหวันหวั่นอย่างไร้ความกลัว
“ก็ต้องฆ่าอยู่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“เธอ…” ผู้อาวุโสสามหน้าเครียดทันที
“แน่นอน ถ้าผู้อาวุโสสามยอมรับว่าเขาเป็นลูก บางที ฉันอาจจะใจกว้างแล้วลืมๆ เรื่องนี้ไป” เยี่ยหวันหวั่นว่า
นาทีนี้ผู้อาวุโสสามหน้าเครียดถึงขีดสุด ถึงทุกคนจะรู้ว่าหลี่โม่เฉินเป็นลูกชายของเขา แต่ขอแค่เขาไม่ยอมรับก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ แต่ถ้าเขายอมรับ…
สมรู้ร่วมคิดกับลูกชายท้าทายอำนาจหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย ความผิดนี้ เขาต้องเป็นคนรับไว้ทั้งหมด!
“ท่านหัวหน้า ท่านล้อเล่นเกินไปแล้ว ไอ้เด็กจรจัดนี่จะเป็นลูกชายผมได้ยังไง” หลี่ซือกล่าว
“ดี งั้นก็ดี ในเมื่อไม่ใช่ลูกชายคุณ งั้นฉันก็คงต้องฆ่าเขา ไม่อย่างงั้นฉันที่เป็นถึงหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็น
ตาเฒ่าผู้อาวุโสสามนี่ไม่ได้เล่นงานได้ง่ายๆ จริงๆ ขอแค่เขายอมรับว่าหลี่โม่เฉินเป็นลูกชายเขา เยี่ยหวันหวั่นก็มีเหตุผลให้ลงโทษเขาแล้วแท้ๆ…
“เป่ยโต่ว ฉันยกเขาให้นาย…เอาไปทรมานช้าๆ ซะ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบอก
“ท่านหัวหน้า ไว้ใจผมได้เลยครับ ถึงไอ้หมอนี่จะลงนรกไปแล้ว ผมก็จะทำให้เขาทรมานจนต้องร้องขอความตาย” เป่ยโต่วพยักหน้า
“เลวระยำ!” ผู่อาวุโสสามตะโกนลั่น “เดรัจฉานอย่างเจ้านั่น กลับไม่เห็นท่านหัวหน้าอยู่ในสายตา ท่านหัวหน้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาใส่ใจ!”
ผู้อาวุโสสามมองหลี่โม่เฉินที่อยู่ในสภาพไร้สติบนเปล ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไร เขาง้างฝ่ามือแล้วสับลงไปบนกะโหลกของหลี่โม่เฉินอย่างแรง
พริบตาเดียว เสียงกะโหลกร้าวดังขึ้น เยี่ยหวันหวั่นเห็นเพียงเลือดไหลออกจากตา หู ปาก และจมูกของหลี่โม่เฉิน สภาพน่าสยดสยองมาก…
ฝ่ามือนี้ของผู้อาวุโสสามอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเยี่ยหวันหวั่นโดยสิ้นเชิง ใครจะไปคาดคิด ว่าผู้อาวุโสสามจะฆ่าลูกชายในไส้ด้วยมือตัวเอง…
ความตั้งใจเดิมของเยี่ยหวันหวั่นคือหาช่องโหว่ของผู้อาวุโสสาม บีบให้ผู้อาวุโสสามยอมรับว่าหลี่โม่เฉินเป็นลูกชายของเขา แล้วจากนั้นเธอก็จะลงโทษผู้อาวุโสสามโทษฐานมีเจตนาร้ายแอบแฝง หาโอกาสไล่เขาออกจากพันธมิตรอู๋เว่ย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสสามจะเลือดเย็นขนาดนี้!
โบราณว่าไว้ ราชสีห์ถึงดุร้ายแต่ก็ไม่กินลูกตัวเอง แม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังไม่ทำร้ายลูกตัวเอง แต่ผู้อาวุโสสามคนนี้…
ยามนี้เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด และกำลังเผชิญหน้ากับคนที่น่ากลัวขนาดไหน
คอมเม้นต์