แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1395 นี่ก็บ้าระห่ำเกินไป / บทที่ 1396 หนังสือรับรองหนี้
บทที่ 1395 นี่ก็บ้าระห่ำเกินไป
“ความจริง…คืออย่างนี้…” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะแหะๆ กับเนี่ยอู๋หมิง “สามวันหลังจากนี้ว่างหรือเปล่า…ช่วยฉันไปจัดการอาชูร่าหน่อยสิ…”
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดแบบนี้ เนี่ยอู๋หมิงกับนักพรตใจบริสุทธิ์ตะลึงงัน จัดการกับอาชูร่า…นี่มันสถานการณ์อะไร…
ด้วยความจนใจเยี่ยหวันหวั่นได้แต่ต้องเล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้เนี่ยอู๋หมิงฟัง
เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยปิดบังกับพวกเนี่ยอู๋หมิง และก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พวกเขาล้วนเป็นสหายพี่น้องที่เธอสนิทด้วยที่สุด หลังมารัฐอิสระเยี่ยหวันหวั่นก็ก็มองเนี่ยอู๋หมิงเป็นญาติมิตรสหาย
และหลังได้ฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เยี่ยหวันหวั่นทำหลังจากมาถึงรัฐอิสระ เนี่ยอู๋หมิงกับนักพรตใจบริสุทธิ์ก็อดหมดคำพูดไม่ได้ นี่แม่ง…ก็บ้าระห่ำเกินไปแล้ว!
“แม้แต่ผู้นำพันธมิตรยังจำผิดได้…พันธมิตรอู๋เว่ยตอนนี้โง่กันหมดแล้วเหรอ” นักพรตใจบริสุทธิ์ไม่อยากเชื่อ
“ต้องมีเป้าหมายแน่อยู่แล้ว…น้องโหย่วหมิง ฉันแนะนำให้น้องโหย่วหมิงรีบออกไปจากรัฐอิสระเดี๋ยวนี้เลย อย่ายุ่งกับน้ำขุ่นนี่” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยแนะนำอย่างจริงใจ
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นอดกลอกตาใส่เนี่ยอู๋หมิงไม่ได้ เธอน่ะอยากถอนตัว แต่ยิ่งจมยิ่งลงลึก ไหนเลยจะจากไปได้ง่ายดายขนาดนั้น
“เถ้าแก่โหย่วหมิง…อาชูร่ากับพวกเราตระกูลเนี่ยมีการติดต่อทางธุรกิจกันอยู่บ้าง แล้วก็ยังไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน ถ้าพวกเราช่วยเถ้าแก่จัดการอาชูร่า ในรัฐอิสระจะถือว่าเป็นตัวแทนของทั้งตระกูลเนี่ย…นี่ไม่เหมาะสม” เนี่ยอู๋หมิงส่ายหน้า
ไม่ใช่เขาไม่เต็มใจช่วยเยี่ยหวันหวั่นแต่เขาช่วยไม่ได้
อาชูร่าไม่เคยยั่วยุพวกเขาตระกูลเนี่ย อยู่ดีๆ ตระกูลเนี่ยจะไปตบอาชูร่า…นี่…ไม่เหมาะสุดๆ
เยี่ยหวันหวั่นอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา เธออยากไปตระกูลเนี่ยถูไถเบบี๋ถังถังของเธอ ไม่อยากไปเป็นผู้นำพันธมิตรอะไรนั่นอีกแล้ว…
แต่เนี่ยอู๋หมิงไม่ช่วยเยี่ยหวันหวั่นก็เข้าใจได้ ยังไงเนี่ยอู๋หมิงก็เป็นตัวแทนของทั้งตระกูลเนี่ย ไม่ใช่ตัวเขาเอง
“ฉันก็พูดไปงั้นแหละ…เอางี้ดีกว่า รอฉันเข้าร่วมงานประชุมอาชูร่าในอีกสามวันให้หลังเสร็จก่อน…ก็จะไปเยี่ยมตระกูลเนี่ยไปหาถังถัง…” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ย
“ไม่มีปัญหา น้องโหย่วหมิง ตระกูลเนี่ยต้อนรับน้องโหย่วหมิงทุกเมื่อ” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณ…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไรต่อ เนี่ยอู๋หมิงก็เอ่ยอีก “ถึงฉันไปช่วยน้องโหย่วหมิงไม่ได้…แต่ฉันให้กองทหารรับจ้างกองหนึ่งที่อยู่ใต้อาณัติฉันไปช่วยน้องโหย่วหมิงได้นะ”
“กองทหารรับจ้าง?” ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นชะงักเล็กน้อย
“ถูกต้อง…กองทหารรับจ้างนี้…ช่างเถอะ ถึงตอนนั้นเดี๋ยวน้องโหย่วหมิงก็รู้เอง” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย
ถึงสงสัยในกองกำลังทหารรับจ้างที่เนี่ยอู๋หมิงพูดถึง แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับยังไม่คิดมากมาย
หลังพูดคุยกับเนี่ยอู๋หมิงหนึ่งรอบ เยี่ยหวันหวั่นก็ลุกขึ้นจากไปเตรียมงานประชุมแลกเปลี่ยนอาชูร่าในอีกสามวันข้างหน้า
ช่วงเวลาสามวันนี้ส่วนใหญ่เยี่ยหวันหวั่นยุ่งเรื่องของเดธโรส หลังจากนั้นก็ถกรายละเอียดการไปก่อเรื่องที่งานประชุมกับเป๋ยโต่วและชีซิง…
…
สามวันผ่านไป
เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ในห้องทำงานพันธมิตรอู๋เว่ย มือหนึ่งลูบบีรุส อีกมือหนึ่งลูบต้าไป๋ ในใจคิดว่าถ้าถึงเวลาไม่ได้จริงๆ ก็พาต้าไป๋กับบีรุสไปข่มขวัญงานประชุมดู…
เวลานี้ห่างจากงานประชุมอาชูร่าอีกไม่กี่ชั่วโมง
ตอนนี้เองประตูห้องทำงานก็พลันถูกเคาะ
“เข้ามา” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
วินาทีถัดมา ผู้ชายสามคนก็สะท้อนอยู่ในสายตาของเยี่ยหวันหวั่น
หนึ่งในนั้นสวมแว่นตาขอบทอง สวมสูทจีน ใบหน้าข้าวซีดเห็นชัดว่าอยู่ในสภาพป่วย
อีกสองคนคนหนึ่งผมยาวหน้าตาโดดเด่น อีกคนก็พิเศษหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กอายุราวสิบสองขวบ เพียงแต่ในดวงตาของเด็กคนนี้กลับเต็มไปด้วยความฉลาดเฉลียว
“พบพี่เฟิง”
สามคนเดินมาถึงข้างตัวเยี่ยหวันหวั่นก่อนเอ่ยปากอย่างพร้อมเพรียง
———————————————————————————————-
บทที่ 1396 หนังสือรับรองหนี้
เวลานี้ในห้องทำงานสำนักงานใหญ่พันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวันหวั่นกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พิจารณาสามคนตรงหน้า สีหน้าเจือความสงสัยเล็กน้อย
สามคนนี้มองการแต่งตัวไม่เหมือนคนของพันธมิตรอู๋เว่ย แถมเด็กคนนี้ยังอะไรกันอีก…
เยี่ยหวันหวั่นไม่รีบร้อนเอ่ยปากแต่รอคำพูดของคนพวกนี้
ไม่นานชายผมหยักศกก็เดินขึ้นหน้ามา สะบัดผมยาวแล้วยกมุมปากเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “พี่เฟิง บุ่มบ่ามรบกวนแล้ว พวกเราคือกองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์ครับ”
“กองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์…” ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็มีสีหน้าตกใจ
หลังมาถึงรัฐอิสระ เยี่ยหวันหวั่นย่อมต้องได้ยินเกี่ยวกับกองกำลังทหารรับจ้างจำนวนหนึ่งของรัฐอิสระมาบ้าง
กองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์ ในรัฐอิสระถึงขนาดว่าในทั่วทั้งโซนยุโรปจัดเป็นกองกำลังทหารรับจ้างในตำนาน ว่ากันว่าภารกิจที่กองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์รับยังไม่เคยล้มเหลวมาก่อน อัตราการทำภารกิจสำเร็จคือหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์…
“พวกคุณคือกองกำลังทหารใต้อาณัติของเนี่ยอู๋หมิง…?” เยี่ยหวันหวั่นมีท่าทีครุ่นคิด
“ใช่ครับ พวกเรากองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์ก็คือทีมทหารรับจ้าง T2 ใต้อาณัติของนายท่านเนี่ยครับ” ชายผมยาวพยักหน้ากล่าว
ทีมทหารรับจ้าง T2 ที่ว่าคือในบรรดาทหารรับจ้างมากมายในมือของเนี่ยอู๋หมิง พวกเขาจัดเป็นขั้นที่สอง ยังไม่ถึงระดับสุดยอด
กองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์ไม่เพียงเป็นของเนี่ยอู๋หมิง ในมือของเนี่ยอู๋หมิง…ไม่น่าเชื่อว่ายังเป็นแค่ทีมทหารขั้นสอง…นี่ก็ออกจะเวอร์วังไปหน่อยแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าบอกไม่ถูก หรือว่าเธอประเมินเนี่ยอู๋หมิงต่ำไปจริงๆ…
“พี่เฟิง นายท่านเนี่ยบอกว่าครั้งนี้ให้พวกเรามาช่วยเหลือพี่เฟิง” ชายผมหยักศหยิ้มพูดต่อ
ยังไม่รอเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก ชายผมหยักศกก็พูดอีก “ถ้าพี่เยี่ยจ้างพวกเราแน่นอนแล้ว…งั้นจ่ายเงินมัดจำก่อนดีกว่าครับ…ไม่งั้นนายท่านเนี่ยถามหาเงินจากพวกเรา พวกเราจะไม่สะดวกอธิบายเอา”
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นพลันมีสีหน้าดำคล้ำ ในหัวเนี่ยอู๋หมิงมีแต่เงินจริงๆ ด้วย…
“นายท่านเนี่ยยังพูดว่าถ้าพี่เฟิงไม่มีเงินสำรองมากในตอนนี้ งั้นจะทำหนังสือรับรองหนี้ก็ได้เหมือนกัน” ชายผมหยักศกเอ่ย
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ก่อนทำหนังสือรับรองหนี้ต่อหน้าทั้งสามคน…
“เด็กคนนี้คือยังไง…ก็เป็นสมาชิกของกองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์เหมือนกันเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นพินิจมองเด็กชายอายุราวสิบสองขวบตรงหน้าด้วยสีหน้าแปลกๆ
เด็กชายสวมชุดลำลองน่ารัก สวมหมวกเด็กทารก ใบหน้าไร้เดียงสา ดูน่ารักอยู่หน่อยจริงๆ ดูยังไงก็ไม่เหมือนทหารรับจ้าง
แต่ชายที่สวมชุดสูทจีนในสามคนนี้ใช้นิ้วชี้ดันแว่นตาก่อนเอ่ยอธิบายเสียงเรียบ “เขาชื่อฝูเซิง ไม่ใช่เด็ก ร่างกายเขามีปัญหาเลยไม่โตก็เท่านั้นครับ”
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิด สภาพอย่างนี้เมื่อก่อนตอนอยู่ประเทศจีนเธอก็เคยได้ยินมาก่อน ผู้ใหญ่อายุยี่สิบสามสิบปีจำนวนหนึ่งดูเหมือนเด็ก แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเองกับตา
“ดีมาก” ผ่านไปสักพักเยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ แล้วยิ้มเอ่ยปาก “เนี่ยอู๋หมิงน่าจะเล่ากับทุกท่านแล้ว พวกคุณต้องกล้าก่อเรื่องในงานประชุมอาชูร่า”
ชายผมหยักศกเดินมาถึงข้างตัวเยี่ยหวันหวั่น ยิ้มเอ่ยด้วยสีหน้ามั่นใจ “พี่เฟิง พวกเราคือทีมทหารรับจ้าง อย่าว่าแต่อาชูร่า ไม่ว่าใครหรือกองกำลังไหน ไม่มีเรื่องที่กองกำลังทหารรับจ้างไม่กล้าทำ…แน่นอนว่ารางวัล…”
พูดถึงตรงนี้ ชายผมหยักศกมองตัวเลขบนหนังสือรับรองหนี้ในมือ ทอดถอนใจจนปัญญา รางวัลที่ผู้หญิงคนนี้ให้มาไม่เห็นเท่าไรเลยจริงๆ…
คอมเม้นต์