แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1637 คนตายแล้ว มีอะไรเผากระดาษเงินกระดาษทอง / บทที่ 1638 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
บทที่ 1637 คนตายแล้ว มีอะไรเผากระดาษเงินกระดาษทอง
เมื่อคิดดูอย่างละเอียด ตัวเธอจากประเทศจีนมารัฐอิสระได้ระยะหนึ่งแล้ว และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐอิสระก็ดุจฝันดั่งภาพลวงตา ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่ความจริง
เธอคุณหนูตระกูลเยี่ยธรรมดาจากประเทศจีน กระโดดกลายมาเป็นบอสใหญ่นางปีศาจที่ทำให้คนได้ยินเป็นต้องฉี่ราดของรัฐอิสระ…
กระทั่งว่ายังค้นพบว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนที่รัฐอิสระ กลับเปลี่ยนแปลงวงโคจรชีวิตทั้งหมดของเธอ…
โดยเฉพาะหลังรู้ว่าตัวเองคือคุณหนูรองตระกูลเนี่ยเนี่ยอู๋โยว เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ่งอยากค้นหาความทรงจำที่หายไปของตัวเองอย่างเร่งด่วน ถ้าหากเธอหาความทรงจำกลับมาได้ ปริศนาทั้งหมดก็คงคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย
ปีนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมตัวเธอถึงละทิ้งถังถัง ละทิ้งพ่อแม่ ละทิ้งตระกูลเนี่ยแล้วออกจากรัฐอิสระ แล้วถังถังเป็นลูกของเธอกับใครอีก ตอนนี้ยังมีปริศนาอีกมากมาย ความทรงจำส่วนนี้ในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในตัวเธอ จึงไม่อาจค้นหาคำตอบที่ต้องการได้
อีกอย่างคุณตาที่ปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเรื่องอะไรกันแน่อีก ทำไมคุณตาของเธอต้องโกหกว่าพ่อแม่เธอตายไปแล้วด้วย
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังขบคิด หางตาก็เผอิญเหลือบเห็นบันทึกอารมณ์ของชายผมเงิน
‘เฮ้อ เสี่ยวอู๋โยว ศิษย์แสนดีของฉันไปตายอยู่ที่ไหนแล้วกันแน่ วันคืนที่ไม่มีศิษย์อยู่ข้างกายช่างน่าเบื่อจริงๆ…’
ประกายตาของเยี่ยหวันหวั่นกระเพื่อมเล็กน้อย เธอจำชายผมเงินผู้นี้ได้รางๆ
ตอนนั้นที่ประเทศจีน ถ้าไม่ใช่เพราะชายผมเงิน จุดจบของเธอต้องเลวร้ายจนไม่กล้าคิดแน่นอน
“เสี่ยวอู๋โยว…”
เยี่ยหวันหวั่นพึมพำในลำคอ เสี่ยวอู๋โยวที่ชายผมเงินว่าจะใช่เนี่ยอู๋โยวหรือเปล่า…
ด้วยฝีมือของชายผมเงินแล้ว เขาต้องไม่ใช่คนจีนแน่นอน ถ้าบอกว่าเป็นชาวรัฐอิสระจึงน่าจะถูก
เวลานั้นเยี่ยหวันหวั่นฉุกคิดขึ้นมาได้ เธอส่งข้อความไปหาชายผมเงิน ‘อยู่ไหม’
โดดเดี่ยวแสวงพ่าย ‘คนตายแล้ว มีอะไรเผากระดาษเงินกระดาษทอง ถ้าไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง เข้าห้องน้ำขอให้ไม่มีกระดาษชำระ’
เยี่ยหวันหวั่น: ‘???’
โดดเดี่ยวแสวงพ่าย ‘คนตายแล้ว มีอะไรเผากระดาษเงินกระดาษทอง ถ้าไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง เข้าห้องน้ำขอให้ไม่มีกระดาษชำระ’
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดอยู่บ้าง อย่าบอกนะว่าเจ้าหมอนี่เป็นอาจารย์เธอจริงๆ…ต้องน่ากลัวขนาดนี้เหรอ
เยี่ยหวันหวั่นส่งไปอีกหลายสิบข้อความ แต่ชายผมเงินไม่ตอบกลับสักครั้ง เหมือนตั้งค่าตอบกลับข้อความอัตโนมัติไว้
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ตัดใจภายใต้ความจนปัญญา รอหลังชายผมเงินเห็นข้อความจึงน่าจะตอบกลับได้
“พี่เฟิง!”
ทันใดนั้นเป่ยโต่วก็วิ่งเข้ามาในห้องทำงาน
เยี่ยหวันหวั่นวางมือถือลงก่อนชำเลืองมองเป่ยโต่ว “มีอะไร”
“พี่เฟิง ผมได้ยินว่าพี่นัดผู้นำอาชูร่าไปบาร์ตอนกลางคืนเหรอ” เป่ยโต่วมีสีหน้าลึกลับ
“นายรู้ได้ยังไง” เยี่ยหวันหวั่นสงสัยเล็กน้อย
“ต้องรู้อยู่แล้ว ตอนนี้เจียงเหยียนนั่นป่าวประกาศไปทั่วว่าพี่เป็นนางปีศาจ ล่อลวงผู้นำอาชูร่า กระทั่งว่าใช้ชีวิตของผู้นำอาชูร่ามาข่มขู่เขาจนเขา จนไม่มีทางเลือกแล้วเขาจึงตอบรับ” เป่ยโต่วเอ่ยปาก
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
นึกไม่ถึงเลยสักนิดว่า เจียงเหยียนคนนั้นก็เป็นพวกปากโป้ง
“พี่เฟิง ช่างมันดีกว่าไหม ผู้นำอาชูร่ายุแหย่ไม่ง่ายนะ อีกอย่าง คนเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงสักหน่อย ผู้นำอาชูร่ากับจี้หวงนั้นรักเดียวใจเดียวกัน รักแข็งยิ่งกว่าทอง พวกเราก็ช่วยเหลือผู้นำอาชูร่ากับจี้หวงเถอะ อย่าให้ถึงตอนล่วงเกินทั้งสองฝ่ายแล้ว พวกเขาเลยร่วมมือกันจัดการพันธมิตรอู๋เว่ยพวกเรา พันธมิตรอู๋เว่ยพวกเราจะทนบาดเจ็บไม่ไหวนะ!” เป่ยโต่วกล่อมเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าจริงจัง
————————————————————————————————-
บทที่ 1638 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เป่ยโต่วก็พูดอีก “จริงสิ ผมนึกเรื่องใหญ่ขึ้นได้อีก เพิ่งสอบถามมาเลย!”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด นายแม่งเป็นระบบโทรศัพท์ไร้สายแบบพกพาหรือไงยะ…
“เรื่องอะไร” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากถาม
เป่ยโต่วมีสีหน้าลึกลับ เดินเข้าไปใกล้เยี่ยหวันหวั่นก่อนเอ่ยกระซิบ “พี่เฟิง ผมได้ยินมาว่า วันนี้คุณนายกับผู้นำตระกูลเนี่ยโกรธเหมือนฟ้าผ่า ด่าเนี่ยอู๋หมิงซะดุเดือด!”
ได้ยินคำพูดนี้เยี่ยหวันหวั่นงุนงงเล็กน้อย นี่นับเป็นเรื่องอะไร สำหรับเนี่ยอู๋หมิงไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นปกติเหรอ
วันไหนบ้างที่เนี่ยอู๋หมิงไม่ถูกผู้นำตระกูลเนี่ยกับคุณนายเนี่ยด่าจนเละ
“นายคงเข้าใจคำว่าเรื่องใหญ่ผิดแล้วละ อีกอย่างนะ นายจะไปสอบถามเรื่องของคนอื่นเพื่อ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“พี่เฟิง ไม่สอบถามข้อมูลแล้วผมจะทำอะไร ภายใต้การดูแลของพี่พันธมิตรอู๋เว่ยค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ผมก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำสักหน่อย…แล้วก็นะ ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ผมได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลเนี่ยเกือบลงมืออัดเนี่ยอู๋หมิง เหมือนจะยังเกี่ยวกับคุณหนูรองตระกูลเนี่ย…” เป่ยโต่วครุ่นคิดชั่วครู่แล้วจึงเอ่ย
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย คุณหนูรองตระกูลเนี่ย ‘เนี่ยอู๋โยว’ ตัวปลอมคนนั้น
“พี่เฟิง พี่ว่าพวกเขาทะเลาะกันเพราะสมบัติตระกูลเนี่ยหรือเปล่า…” เป่ยโต่วพึมพำในลำคอ
คนพูดไม่ใส่ใจ แต่คนฟังกลับสนใจ
คำพูดลอยๆ ไร้ตรรกะประโยคนี้ของเป่ยโต่วเข้าสู่หูของเยี่ยหวันหวั่นกลับเปลี่ยนไปมีรสชาตินิดหน่อยแล้ว
ทะเลาะแย่งสมบัติตระกูล นี่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าเพื่อแย่งสิทธิ์สืบทอดตระกูลเนี่ยหลังจากนี้ละก็…
นึกถึงตรงนี้ ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นวาบประกาย
ตัวปลอมนั่นเป็นคนที่เนี่ยหลิงหลงหามา ดังนั้นจะต้องเชื่อฟังติดตามเนี่ยหลิงหลงแน่
เนี่ยหลิงหลงหาตัวปลอมมาเข้าตระกูลเนี่ยไม่มีทางไร้จุดประสงค์แน่…แต่ถ้ามีจุดประสงค์ จะเป็นเรื่องที่บอกใครไม่ได้แบบไหนกันแน่
เนี่ยหลิงหลงไม่มีสายเลือดของตระกูลเนี่ยแม้แต่น้อย ดังนั้นสิทธิ์ผู้สืบทอดตระกูลเนี่ยวันข้างหน้าก็ไม่มีทางเกี่ยวใดๆ กับเนี่ยหลิงหลง
เมื่อเป็นแบบนี้คนที่สามารถครอบครองสิทธิ์ผู้สืบทอด ก็มีแค่คุณหนูรองเนี่ยอู๋โยวกับเนี่ยอู๋หมิง
ส่วนถังถังยังอายุน้อยเกินไปจึงไม่นำมาคิด…
นึกถึงตรงนี้เยี่ยหวันหวั่นก็พลันตัวสั่นเล็กน้อย
เนี่ยหลิงหลงที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่อาจสืบทอดตระกูลเนี่ย แต่ถ้าเธอ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ตัวปลอมที่เชื่อฟังตัวเอง…งั้นก็ต่างโดยสิ้นเชิงแล้ว
ตอนนี้คนที่สามารถได้รับสิทธิ์สืบทอดตระกูลเนี่ยมีแค่ ‘เนี่ยอู๋โยว’ กับเนี่ยอู๋หมิง
แต่ตราบใดที่เนี่ยอู๋หมิงยังอยู่ตระกูลเนี่ย เขาก็จะเป็นตัวแปรที่ไม่แน่นอนถึงขีดสุดตลอดต้นจนจบ ยังไงเสียเนี่ยอู๋หมิงก็ยังคงเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเนี่ย สิทธิ์สืบทอดวันข้างหน้าเก้าในสิบก็มีโอกาสตกอยู่ที่ตัวของเนี่ยอู๋หมิง
เรื่องแบบนี้เกรงว่าเนี่ยหลิงหลงคงไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น…
ดังนั้นขอแค่เนี่ยอู๋หมิงถูกถอดชื่อ งั้นแล้ว…ในอนาคตสิทธิ์สืบทอดของตระกูลเนี่ยก็มีแต่ต้องตกอยู่ในมือของ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ตัวปลอม
ตัวปลอมได้ตระกูลเนี่ยมาไว้ในมือแล้วก็เท่ากับเนี่ยหลิงหลงควบคุมตระกูลเนี่ยได้แล้ว!
“เนี่ยหลิงหลง…”
ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นวาบประกายเย็นชา ถ้าเป็นแบบนั้นอย่างที่เธอคิดจริง ด้วยนิสัยของเนี่ยอู๋หมิง เนี่ยหลิงหลงอยากไล่เนี่ยอู๋หมิงไป หรือถึงขั้นถูกตระกูลเนี่ยถอดชื่อ นั่นก็เป็นเรื่องง่ายดายจริงๆ…
เยี่ยหวันหวั่นย่อมไม่กังขาค่าพลังต่อสู้ของเนี่ยอู๋หมิง แต่ถ้าพูดถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบาย อย่าว่าแต่เนี่ยหลิงหลง ต่อให้เทียบกับ ‘เนี่ยอู๋โยว’ ตัวปลอมนั้น ก็เกรงว่ายังนับเป็นแม้แต่เด็กประถมไม่ได้ อย่างมากก็ได้แค่ระดับอนุบาลเท่านั้น
คอมเม้นต์