แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1795 เยี่ยหวันหวั่นบอสใหญ่ของซิงเฉิน / บทที่ 1796 ล้อเล่นอะไรกัน
ในงานเลี้ยงฉลอง พวกของเยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเรียบเฉย ผู้หญิงคนนี้ทำบ้าอะไร หรือว่าคิดจะใช้วิธีนี้ดึงดูดความสนใจของบอสใหญ่แห่งซิงเฉิน?
“น่าเศร้าจริงๆ ” กู้เยว่เจ๋อหัวเราะเสียงเย็น
“ดูท่า เธอจะบ้าไปจริงๆ แล้ว” เยี่ยอีอีเอ่ยเสียงเย็นชา
ทั้งเบื้องบนและศิลปินของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ส่วนหนึ่งก็มองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย
บนที่นั่งของแขกกิตติมศักดิ์ ผู้จัดการของฟู่หมิงซีมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าโง่งม “นี่ทำอะไรน่ะ หมิงซี แฟนนายบ้าไปแล้วเหรอ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่หมิงซีก็เหล่มองผู้จัดการตรงหน้าแวบหนึ่ง แต่ก็คร้านจะสนใจ
ที่ด้านหลัง กงซวี่ขยี้สองตามองลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้าง “เฮ้ย…นั่นพี่เยี่ยทำอะไรน่ะ!”
ลั่วเฉินขมวดหัวคิ้วน้อยๆ ส่ายหัวพลางเอ่ยว่า “ฉันจะไปรู้ได้ไง…”
รวมถึงหานเซี่ยนอวี่ ในใจของเขาก็เอ่อล้นด้วยลางสังหรณ์ที่ไม่ดีสายหนึ่ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากว่ากันตามหลักการและเหตุผลแล้ว เยี่ยไป๋ที่เขารู้จักไม่มีทางทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน ยิ่งไม่มีทางเชื่อได้เลยว่าเยี่ยไป๋จะทำเพื่อดึงดูดความสนใจของบอสใหญ่แห่งซิงเฉินและเพื่อเอาใจคนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันจริงๆ …
บนฟอรัมใหญ่ต่างๆ ของประเทศจีน
อดีตไหลไปตามลม: [นังแพศยานั่น…บ้าไปแล้วเหรอ! คนเขาเชิญบอสใหญ่ของซิงเฉินขึ้นเวที เธอจะขึ้นมาก่อเรื่องอะไรเนี่ย!]
เสื้อหน้าหนาวน้อยของพ่อ: [หึๆ …คงไม่ใช่คิดว่าขาของฟู่หมิงซีไม่ใหญ่พอ เลยคิดจะใช้วิธีอย่างนี้ดึงดูดความสนใจของบอสใหญ่ซิงเฉินหรอกนะ…]
BBQ: [เธอเนี่ยนะ? ยังคิดจะดึงดูดความสนใจของบอสใหญ่ซิงเฉิน รู้ว่าเถ้าแก่ของบริษัทซิงเฉินมีแนวคิดยังไง ผู้หญิงแบบไหนไม่เคยเห็นบ้าง จะยังถูกใจนังแพศยานี่เหรอ!]
ฉันรักเส้าเหิง : [ไสหัวลงมา ไสหัวลงมา!]
…
ภายในงานเลี้ยงฉลองประจำปี บนที่นั่งของแขกกิตติมศักดิ์ เยี่ยหงเหวยโกรธจนหน้าแดง ร่างกายสั่นเทิ้มพลางหันไปมองเยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อ “พวกแกไม่ต้องพานังคนหน้าด้านนั่นกลับมาหาฉันนะ นังหลานทรพีนี่อยากให้ตระกูลเยี่ยของเราอับอายขายขี้หน้ามากนักเหรอ! ถ้าถูกบอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉินต่อว่า ตระกูลเยี่ยของพวกเราจนถึงหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์จะแบกรับยังไงไหว!”
เมื่อสิ้นเสียงของเยี่ยหงเหวย เยี่ยหวันหวั่นก็เดินขึ้นไปถึงบนเวทีแล้ว
“เซี่ยเจ๋อจือ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
บนเวทีเยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆพลางจ้องมองเซี่ยเจ๋อจือ แล้วเอ่ยทักทาย
“คุณหนูเยี่ย ไม่เจอกันนานจริงๆ ครั้งก่อนที่เราได้กินข้าวพูดคุยกัน รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องเมื่อชาติที่แล้วเลย” กู้เยว่เจ๋อเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
เยี่ยหวันหวั่นมีท่าทางครุ่นคิด รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องเมื่อชาติที่แล้วจริงๆ …
“ผู้หญิงคนนั้นกับเซี่ยเจ๋อจือรู้จักกันเหรอ!? ไม่สิ…ควรพูดว่า เซี่ยเจ๋อจือรู้จักกับเธอได้ไง!? ”
“เป็นไปไม่ได้มั้ง คนอย่างเซี่ยเจ๋อจือจะรู้จักกับเยี่ยไป๋ด้วยเหรอ! ทั้งสองเหมือนยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันด้วย!”
ศิลปินในวงการบางส่วนเผยสีหน้าตกใจออกมา
“รบกวนทุกคนช่วยเงียบหน่อยได้ไหมคะ”
เวลานั้นเยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเอ่ยอย่างติดรำคาญอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น ศิลปินไม่น้อยก็เผยสีหน้าประหลาดออกมา เยี่ยไป๋นี่เป็นใครกัน ถึงกล้ามาสั่งให้พวกเขาเงียบเนี่ยนะ!
“ฮ่าๆ บอสอย่าโกรธสิครับ ทุกคนก็เพิ่งเคยเห็นบอสเป็นครั้งแรก ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา การที่บอสมาร่วมงานเลี้ยงประจำปีของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้นับว่าเป็นเกียรติของพวกเราทุกคนครับ!”
ทันใดนั้น กรรมการผู้จัดการโจวที่ยืนอยู่บนเวทีก็แย้มยิ้มพลางพูดกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าประจบประแจง
—————————————————-
บทที่ 1796 ล้อเล่นอะไรกัน
กรรมการผู้จัดการโจวยืนอยู่ข้างๆ เยี่ยหวันหวั่น พลางกวาดสายตามองคนทั้งงาน ด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนพลางเอ่ยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ผมเชื่อว่าสหายในงานคงคุ้นหน้าเธอดี…ชื่อของเธอคือเยี่ยไป๋…เป็นผู้ก่อตั้งจูเสินสือไต้ด้วยมือของตัวเอง…แต่ ประธานเยี่ยยังมีอีกหนึ่งสถานะ ผมเชื่อว่าทุกคนไม่มีทางรู้ว่า ประธานเยี่ยนอกจากจะเป็นคนก่อตั้งจูเสินสือไต้แล้วยังเป็นบอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉินของพวกเราอีกด้วย…ฟังดีๆ นะครับ ไม่ใช่ซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ประธานเยี่ยเป็นบอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉิน”
“หึๆๆ ผมต้องขอขอบคุณกรรมการผู้จัดการโจวที่พยายามเชื้อเชิญหลายครั้ง ประธานเยี่ยจึงยอมตอบรับที่จะมาร่วมงานเลี้ยงฉลองประจำปีของซิงเฉินครั้งนี้ ที่นี่ผมเป็นตัวแทนของพนักงานและศิลปินทั้งหมดในสังกัดซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ขอขอบคุณประธานเยี่ยที่ให้เกียรติมาในวันนี้ครับ!” เวลานั้นกรรมการผู้จัดการหลี่ชายชราผมขาวโพลนก็รีบกล่าวต่อ
และเมื่อสิ้นเสียงของกรรมการผู้จัดการโจวและกรรมการผู้จัดการหลี่ สายตาของคนทั้งงานก็ตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนในงานเบิกตาอ้าปากค้าง บ้างก็มีสีหน้าเหมือนเห็นผีก็ไม่ปาน
ความเงียบ หลังจากที่กรรมการผู้จัดการโจวและกรรมการผู้จัดการหลี่กล่าวจบ ทั่วทั้งงานก็เงียบกริบราวกับสุสาน ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตก
กรรมการผู้จัดการโจวและกรรมการผู้จัดการหลี่สองคนนี้คือเบื้องบนสูงสุดของสาขาซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในประเทศจีน ทั้งสามสาขาใหญ่ กรรมการผู้จัดการหลี่และกรรมการผู้จัดการโจวคือผู้รับผิดชอบหลักของสองสาขาในนั้น เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่อาจพูดเรื่องหลอกลวงได้…
บอสใหญ่แห่งบริษัทซิงเฉินเรื่องแบบนี้พูดส่งๆ ในสถานการณ์อย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด กรรมการผู้จัดการโจวและกรรมการผู้จัดการหลี่ไม่มีทางล้อเรื่องนี้เล่นแน่ๆ ไม่งั้นอาจรักษาภาพพจน์อันเป็นทางการเอาไว้ไม่ได้
เวลานี้เส้าเหิงตาโตอ้าปากค้าง หันไปมองคุณตาที่ตกตะลึงอยู่เช่นกัน
“นี่..นี่มัน…จะเป็นไปได้ยังไง!”
คุณตาของเส้าเหิงมองเยี่ยหวันหวั่นที่มีสีหน้าเรียบเฉยบนเวที ลมหายใจเขากระชั้นชิดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นซึมออกมา
ผู้หญิงคนนั้น…เป็นไปได้ยังไง…
คุณตาของเส้าเหิงเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบหลักของหนึ่งในสามสาขาใหญ่ของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ย่อมรู้ดีว่าคำว่าบอสใหญ่บริษัทซิงเฉินที่ออกจากปากของกรรมการผู้จัดการโจวและกรรมการผู้จัดการหลี่นั้นไม่ไร้สาระแม้แต่น้อย…
เขาก็ได้ข่าวมานานแล้ว แต่ที่มาในครั้งนี้ไม่ใช่เถ้าแก่ใหญ่…แต่นี่มันบอสของเถ้าแก่ใหญ่ชัดๆ!
หรือเรียกได้ว่า เถ้าแก่ใหญ่ของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ทำงานภายใต้คำสั่งของผู้หญิงคนนี้!
“คุณตา…เธอเป็นบอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉิน นี่เป็นไปได้ยังไง…ตาแก่สองคนนั่นต้องโกหกแน่…พวกเขาต้องมีแผนร้ายแน่นอน!” เส้าเหิงโพล่งขึ้นทันที
เพิ่งสิ้นเสียงของเส้าเหิง ชายชราก็หันไปมองเส้าเหิง ก่อนที่จะพลิกมือตบหน้าเส้าเหิงอย่างแรง
“คุณตา…” เส้าเหิงยกมือกุมใบหน้า เขาถูกชายชราตบจนรู้สึกโง่งมอยู่บ้าง
“หุบปาก!” ชายชราถลึงตาใส่เส้าเหิง “แกไอ้หลานทรพี แกทำฉันซวยแล้ว!”
…
อีกด้านหนึ่ง เยี่ยอีอีมองเยี่ยหวันหวั่นที่มีสีหน้าเฉยเมยบนเวที แต่สีหน้าของเธอกลับว่างเปล่าเล็กน้อย
กู้เยว่เจ๋อที่อยู่ด้านข้างของเยี่ยอีอี สายตาของเขาก็จ้องเขม็งไปยังเยี่ยหวันหวั่นที่ดูเจิดจรัสภายใต้แสงสปอตไลต์ สีหน้าของเขาปรากฏความตกตะลึงขึ้นทุกที เยี่ยหวันหวั่น…บอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉิน…เป็นไปได้ยังไง มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ…!?
“เมื่อกี้กรรมการผู้จัดการโจวกับกรรมการผู้จัดการหลี่พูดว่า…เยี่ยหวันหวั่นเป็นเถ้าแก่ของบริษัทซิงเฉินงั้นเหรอ”
เยี่ยหงเหวยที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วแน่น ยังคงนึกว่าตัวเองหูฝาดไป
เยี่ยหวันหวั่นมีดีแค่ไหน เขาย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่เยี่ยหวันหวั่นเป็นเถ้าแก่ของบริษัทซิงเฉินเนี่ยนะ? นี่มันมุกตลกอะไรกัน!
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” หัวใจของเหยาเจียเหวินเต้นไม่เป็นส่ำ เยี่ยไป๋กับบอสใหญ่ของบริษัทซิงเฉิน ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเกี่ยวข้องกันได้!
คอมเม้นต์