แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1901 รสนิยมน่าสยองเกินไปแล้ว / บทที่ 1902 นายแห่งอาชูร่าเกรงว่าจะเป็นรักแท้ของจี้หวง
บทที่ 1901 รสนิยมน่าสยองเกินไปแล้ว
ชายหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะให้เจียงเหยียนไปรูดการ์ดชำระเงินที่ตรงนั้น จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็รับแหวนวงนั้นมา
เยี่ยหวันหวั่นจ้องแหวนวงนั้นเขม็ง แววตาแทบจะเผากล่องแหวนกล่องนั้นแล้ว…
แง! โกรธชะมัด!
คะแนนเกียรติยศของเธอนะ!
“คือว่า…จี้ซิวหร่าน คุณยังมีแหวนวงอื่นอีกไหม” เยี่ยหวันหวั่นกอดความหวังสุดท้ายพลางเอ่ยถาม ก็ไม่สนว่าหลังถามประโยคนี้ออกไปแล้ว สีหน้าของใครบางคนจะน่าเกลียดขนาดไหนก็ตาม
จี้ซิวหร่านส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว ผมไม่ชินกับการสวมแหวน มีแค่วงเดียว”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “งั้นเหรอ…”
เวรกรรม…
ดูท่าว่าคนที่ประกาศภารกิจ ก็อยากได้แหวนวงนี้นี่แหละ ถ้าเธอเอาอันอื่นไป ก็คงหลอกผ่านไปไม่ได้แน่นอน
เวลานี้คุณหนูสามตระกูลเสิ่นก็พลันก้าวเดินเข้ามาจากด้านหน้า และตรงดิ่งมาถึงเบื้องหน้าของนายแห่งอาชูร่าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นมองจี้ซิวหร่านอย่างเอียงอายเล็กน้อย จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่แหวนวงนั้นในมือของนายแห่งอาชูร่าอย่างร้อนแรง เพราะฝ่ายตรงข้ามมีกลิ่นอายความกดดันมากเกินไปเธอจึงหดตัวเล็กน้อย จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นว่า “ท่านนายแห่งอาชูร่าคะ…แหวนวงนี้…ท่านขายให้ฉันได้ไหมคะ”
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นพูดไปพลางลอบถอนหายใจไปพลาง ว้าว พอมองนายแห่งอาชูร่าใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อเหล่านะเนี่ย!
ใครจะคิดว่านายแห่งอาชูร่าที่ลือกันว่าหน้าตาเหมือนปีศาจจะหล่อเหลาขนาดนี้…
แต่น่าเสียดายที่น่ากลัวเกินไป ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้จริงๆ เทียบกันแล้วจี้ซิวหร่านยังคงอ่อนโยนกว่า
“ฉันสามารถจ่ายราคาได้ถึงสองเท่านะคะ!” คุณหนูสามตระกูลเสิ่นเอ่ยอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
เยี่ยหวันหวั่นตกใจจนเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง
เชี่ย! สองเท่า!
นั้นก็คือสองร้อยล้านเลยนะ!
อ้าปากก็สองร้อยล้านแล้ว!
ตระกูลเสิ่นคนรวยพวกนี้เกินไปแล้วจริงๆ!
เมื่อคุณหนูสามตระกูลเสิ่นพูดจบ ก็เหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เธอเชื่อว่าโลกนี้ไม่มีเรื่องที่เงินจะทำไม่ได้
เหตุผลที่นายแห่งอาชูร่าลงมือแย่งแหวนวงนี้ น่าจะเป็นเพราะไม่ถูกกับแบดเจอร์ อยากต่อต้านเธอ อีกด้านหนึ่งก็เพราะอยากใช้เงินบริจาคหนึ่งร้อยล้านนี้เพื่อผูกมิตรกับตระกูลเสิ่น
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเธอก็จะใช้เงินสองร้อยล้านซื้อแหวนวงนี้จากนายแห่งอาชูร่า ขอแค่นายแห่งอาชูร่าสมองไม่มีปัญหา ก็จะต้องยอมขายให้เธอแน่
ผู้ช่วยข้างกายคุณหนูสามตระกูลเสิ่นก็รู้สึกว่าวิธีนี้ของคุณหนูสามใช้ได้ จึงไม่ได้ห้ามเธอ
“นายแห่งอาชูร่า ว่ายังไงคะ” คุณหนูสามตระกูลเสิ่นถามอย่างมั่นใจในตัวเอง
เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ใช้หางตามองคุณหนูสามตระกูลเสิ่นอย่างเย็นชาและเอ่ยตอบเสียงเรียบ “ไม่ขาย”
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นก็พูดไม่ออก
เป่ยโต่วตกตะลึง
ตอนที่ในงานเงียบอย่างประหลาดนี้ เสียงของเสิ่นเทียนเฉินก็พลันแทรกขึ้นมา เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงดุร้ายว่า “ผมให้สองร้อยห้าสิบล้าน! นายแห่งอาชูร่า ขายให้ผมเถอะ!”
เมื่อเสิ่นเทียนเฉินพูดจบก็รีบประจบเยี่ยหวันหวั่นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย “เทพธิดา ไม่ต้องห่วง ขอแค่เป็นของที่คุณต้องการ ผมจะต้องช่วยคุณหามาให้ได้ครับ!”
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นโกรธจนกระทืบเท้า “พี่ นี่พี่สมองป่วยหรือเปล่าเนี่ย!”
คืนนี้เสิ่นเทียนเฉินอยู่ดีๆ ก็ใช้หนึ่งร้อยล้านซื้อสร้อยผุๆ ของแบดเจอร์เธอก็ยากจะเข้าใจแล้ว ตอนนี้กลับยังได้ยินเขาเรียกแบดเจอร์ว่า…เทพธิดา?
ไม่ใช่ว่าพี่ของเธอถูกใจแบดเจอร์เข้าแล้วหรอกนะ น่าสยองสิ้นดี! รสนิยมก็หนักหน่วงเกินไปแล้ว!
เสิ่นเทียนเฉินไม่ได้สนใจน้องสาว แต่กลับตอแยนายแห่งอาชูร่าต่อ “ไม่ สามร้อยล้าน! ผมจ่ายสามร้อยล้านน่าจะได้แล้วมั้ง”
เรียกได้ว่ารวยจนน่าเกรงขามพอตัว…เกรงว่าคงไม่มีใครปฏิเสธได้แน่นอน…
อย่างน้อยเยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกว่าถ้าเป็นเธอ เธอก็คงขายไปแล้ว
————————————————–
บทที่ 1902 นายแห่งอาชูร่าเกรงว่าจะเป็นรักแท้ของจี้หวง
เมื่อนายแห่งอาชูร่าได้ยินดังนั้นก็มองเสิ่นเทียนเฉินแวบหนึ่ง ในดวงตามืดหม่นนั้นเหมือนมีบางสิ่งเย็นเยียบอย่างสุดแสนเผยออกมา ทำให้เสิ่นเทียนเฉินอดที่จะเสียวสันหลังไม่ได้
เชี่ย ทำไมสายตาที่นายแห่งอาชูร่ามองเขาถึงน่ากลัวขนาดนี้
ในฐานะสุธนกุมาร ใครเห็นเขาไม่ใช่ยิ้มร่าหรอกเหรอ
เสิ่นเทียนเฉินกลืนน้ำลาย “ไม่งั้น ไม่งั้นนายแห่งอาชูร่าเสนอราคาตามใจชอบก็ได้…”
นายแห่งอาชูร่าส่งแหวนให้กับเจียงเหยียนที่อยู่ด้านข้างเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็หมุนตัวจากไปเสียดื้อๆ ก่อนจากไปยังโยนสองคำออกมาด้วยเสียงแหบต่ำ “ไม่ขาย”
เสิ่นเทียนเฉินพูดไม่ออก
คุณหนูสามนิ่งเงียบ
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
สามร้อยล้าน! สามร้อยล้านเชียวนะ!
เยี่ยหวันหวั่นพลันเริ่มสงสัยจับใจ เขากับจี้ซิวหร่าน…เกรงว่าคงจะเป็นรักแท้กันจริงๆ …
เมื่อเห็นนายแห่งอาชูร่าจากไป…เห็นอีกฝ่ายพาคะแนนเกียรติยศหนึ่งหมื่นแต้มของเธอจากไป…เยี่ยหวันหวั่นก็โกรธจนแทบระเบิด!
น่าขำที่เธอยังกลัวว่ากระดุมข้อมือของเขาจะตกอยู่ในมือของผู้หญิงคนอื่นอยู่อีก…
เยี่ยหวันหวั่นจ้องเงาหลังของชายหนุ่มที่พาคะแนนเกียรติยศของเธอจากไปเขม็ง จึงหันไปเอ่ยกับคุณหนูสามตระกูลเสิ่นว่า “คุณหนูสาม กระดุมข้อมือนี้เธอเอาหรือเปล่า ถ้าเอาก็คิดเธอถูกๆ ลดเหลือหนึ่งร้อยล้านแล้วกัน!”
ได้ยินเสียงโกรธน้อยๆ ของหญิงสาวดังมาจากข้างหลัง ว่าเธอจะขายกระดุมข้อมือของตัวเอง ฝีเท้าของนายแห่งอาชูร่าก็เหมือนจะหยุดชะงักลงหนึ่งที แผ่นหลังก็เปลี่ยนไปแข็งทื่อ แต่แค่ชั่วพริบตาเดียว เงาหลังของชายหนุ่มก็หายไปในราตรีสีดำอันมืดมิด
เมื่อคุณหนูสามตระกูลเสิ่นได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็โกรธจนหน้าดำแล้ว “เธอประมูลมาหนึ่งเหรียญแต่จะขายร้อยล้าน ทำไมไม่ปล้นไปเลยล่ะ!”
เยี่ยหวันหวั่นเบ้ปาก “เธอจะสนว่าฉันประมูลมาเท่าไรทำไม กระดุมข้อมือนี้ก็คุ้มค่าราคานี้!”
หลังจากคุณหนูสามโกรธฟึดฟัดก็ฉุกคิดเล็กน้อย รู้สึกว่าไป๋เฟิงก็เหมือนจะพูดถูก…
คุ้มหนึ่งร้อยล้านนะ! เธอก็เหมือนไม่ขาดทุนนี่
ยังไงเสียนายแห่งอาชูร่าก็ยัง…หล่อขนาดนี้…
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นหวั่นไหวแล้ว!
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นกระแอมไอหนึ่งทีแล้วเอ่ยว่า “หนึ่งร้อยล้านใช่ไหม ได้ กระดุมข้อมือนี้ฉันเอา!”
พูดจบก็เอ่ยกับผู้ช่วย “จ่ายเงินให้เธอ”
เมื่อพูดจบก็แบมือใส่เยี่ยหวันหวั่น “เอากระดุมข้อมือมาให้ฉันสิ!”
เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างมองจนตาโตลิ้นพัน นับถืออย่างสุดแสน “พี่เฟิงพี่นี่โคตรเจ๋งเลย!”
เงินหนึ่งเหรียญแลกได้หนึ่งร้อยล้าน นี่มันเป็นการซื้อขายที่ต้นทุนต่ำแต่กำไรงามชัดๆ!
“รีบให้เธอไปเร็วๆ!” เป่ยโต่วเร่งเร้า
เยี่ยหวันหวั่นเจอกับท่าทางเฝ้ารอของคุณหนูสามตระกูลเสิ่น สีหน้าที่เดิมทียังไม่ใส่ใจพลันเย็นชาลง “หนึ่งร้อยล้านก็อยากซื้อกระดุมข้อมือนี้แล้ว? คุณหนูสามแห่งตระกูลเสิ่นออกจะฝันหวานเกินไปหน่อยแล้ว”
“ไป๋เฟิง เธอหมายความว่ายังไง”
“ไม่มีความหมายอะไร แม่ไม่ขาย!”
“ไป๋เฟิง! เธอ! ทั้งที่เธอพูดเองว่าจะขายแท้ๆ! เธอแกล้งฉันเหรอ!” คุณหนูสามโกรธจนแทบจะกระอักเลือด
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ใช่ แล้วไงล่ะ?”
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นพูดไม่ออก
เป่ยโต่วอึ้งค้างแล้ว “พี่เฟิง พี่บ้าไปแล้วเหรอ! ทำไมไม่ขายล่ะ! นี่หนึ่งร้อยล้านเชียวนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่เขาหนึ่งที “หนึ่งร้อยล้านแล้วทำไม มากมายนักเหรอ”
แม่งเอ๊ย ก็มากจริงๆ น่ะสิ!
แต่ปฏิเสธก็ปฏิเสธแล้ว มาเสียใจทีหลังไม่ได้แล้ว
ไม่ได้การแล้ว ถูกทรมานจนสารรูปเป็นแบบนี้ แต่ยังตัดใจจากกระดุมข้อมืออันเดียวของเขาไม่ลง…
“ไปกัน กลับบ้าน”
เยี่ยหวันหวั่นก่อเรื่องในงานเลี้ยงการกุศลชนิดเละไม่มีชิ้นดี ล่วงเกินทุกคนไปหนึ่งรอบ ในที่สุดก็ยอมจากไปสักที
ชีซิงเดินตามอยู่ข้างๆ อย่างกังวลสุดหัวใจ คนอื่นเขาไม่ห่วง ไม่น่ากล้าลงมือกับพันธมิตรอู๋เว่ยเพราะเรื่องแค่นี้ แต่นายแห่งอาชูร่านั้น…
สิ่งที่พี่เฟิงทำในคืนนี้เกินเลยไปจริงๆ เดิมทีอาชูร่ากับพันธมิตรอู๋เว่ยก็ไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ต่างจากการทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเก่า
คอมเม้นต์