แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 247 แฟนของคุณสวยขนาดไหน / บทที่ 248 วันที่นายท่านไม่หึงก็คือวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
บทที่ 247 แฟนของคุณสวยขนาดไหน
หลังจากวางโทรศัพท์ เยี่ยหวันหวั่นใจลอยกลับถึงสวนจิ่นหยวนโดยไม่รู้ตัว
สายโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ เธอหลุดการควบคุมตัวเองไปหน่อย แต่ความรู้สึกผิด โทษตัวเอง รวมถึงความน้อยใจในทั้งสองชาติมันสะสมรวมกัน แล้วยังได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจจากปากพี่ชายที่ไม่เคยว่าเธอแรงๆ สักคำ ทำให้ไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจเข้าลึก พยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
เวลานี้เอง โทรศัพท์ดัง “ติ๊ง” ข่าวบันเทิงเด้งขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นแตะเปิดดู เห็นสื่อปล่อยข่าวซุบซิบใหม่ออกมาอีกแล้ว หานเซี่ยนอวี่โมโหจนบันดาลโทสะทำร้ายนักข่าว ในเน็ตมีแต่คำวิจารณ์ต่อว่า สำหรับหานเซี่ยนอวี่แล้วสถานการณ์กำลังแย่ลงเรื่อยๆ
ข่าวฉาวที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้ จะต้องอธิบายให้ชัดเจนในช่วงเวลาที่ยังสามารถอธิบายได้ผลอยู่ ไม่อย่างนั้นถ้าหากปล่อยเวลาให้ผ่านไปแล้วมาอธิบายทีหลัง ต่อให้อธิบายให้ชัดเจนแล้วก็ยังส่งผลต่อภาพจำของประชาชนอยู่ดี
เธอจะต้องรีบไปพูดคุยกับทางหานเซี่ยนอวี่ เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ทันเวลา
แต่ทว่า ก่อนจะไปจัดการเรื่องราวพวกนี้ เธอจำเป็นจะต้องมีฐานะที่เหมาะสมเสียก่อน
คิดถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ที่จริงก่อนหน้านี้เธอก็ปวดหัวอยู่ เพราะกฏที่ซือเยี่ยหานตั้งขึ้นกับเธอมีข้อหนึ่งที่บ้าเอามากๆ ห้ามยั่วยวนเพศตรงข้าม
นี่มันจะทำได้ได้อย่างไร?
โชคดีที่เธอไม่ได้คิดจะเป็นดารา ไม่อย่างนั้นแค่ข้อนี้ข้อเดียวเธอก็ทำอะไรต่อไปไม่ได้แล้ว
แต่ต่อให้เป็นคนทำงานเบื้องหลัง หน้าตาของเธอนี้ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะ
เธอเคยคิดแล้วว่าจะใช้วิธีการแต่งหน้าประหลาดๆ แบบนั้นต่อไปดีไหม แต่คิดดูแล้วไม่อาจทำได้จริง วงการบันเทิงต่างจากในโรงเรียน โหดร้ายและเป็นจริงกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นวงการบันเทิงเป็นสถานที่ที่ดูหน้าตาเป็นหลัก
หากใช้หน้าตาน่ากลัวแบบนั้น เกรงว่าเธอยังไม่ทันได้คุยเรื่องการร่วมมือ ก็ทำให้คนอื่นตกใจหนีไปก่อนเสียแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเค้นสมองอย่างหนักคิดหาวิธีการ เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงใสของชายหนุ่ม “สอบเสร็จแล้วเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นรับหันกลับไป จากนั้นก็เห็นคนบางคนสวมชุดสูทสีดำ ภาพลักษณ์อันสง่างามเหมือนที่ผ่านมา “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ! เร็วขนาดนี้เชียว! บอกว่าวันนี้มีประชุมไม่ใช่เหรอคะ?”
“ประชุมเสร็จแล้ว”
“อ้อ”
ซือเยี่ยหานมองเธออยู่หลายวินาที จากนั้นถามขึ้นกะทันหันประโยคหนึ่ง “ทำข้อสอบไม่ได้เหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้น กระพริบตาปริบๆ ด้วยความไม่เข้าใจ “หือ? ไม่นะคะ ฉันรู้สึกว่าครั้งนี้ฉันทำได้ดีทีเดียว โจทย์ข้อใหญ่ข้อสุดท้ายของวิชาคณิตศาสตร์ ทุกคนต่างบอกว่ายากมาก ฉันยังทำได้เลย ทำไมจู่ๆ คุณถึงถามแบบนี้ล่ะคะ?”
ซือเยี่ยหานตอบว่า “เธอไม่ดีใจ”
“อ้อ…” เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกหมดคำพูด ตอนเธอกลับมาตั้งใจไปล้างหน้า แล้วยังปรับอารมณ์อยู่นาน ขนาดนี้แล้วเขายังมองออกว่าเธอไม่มีความสุข?
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมทีหนึ่ง “ก็ไม่ได้ไม่ดีใจหรอกค่ะ เพียงแต่กำลังปวดหัวกับปัญหาข้อหนึ่งอยู่…”
“ปัญหาอะไร?” ซือเยี่ยหานดึงเน็กไทที่คอเสื้อ นั่งลงบนโซฟา
เยี่ยหวันหวั่นไตร่ตรองคำพูดอยู่แปปหนึ่ง นั่งใกล้สักหน่อย แล้วพูดว่า “เรื่องมันคืออย่างนี้ เบบี๊ กฎที่คุณตั้งขึ้นก่อนหน้านี้มีอยู่ข้อหนึ่งที่ว่า ห้ามยั่วยวนเพศตรงข้าม ฉันคิดว่าข้อนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลค่ะ!”
ซือเยี่ยหานมองเธออย่างไม่เดือนร้อน “ไม่สมเหตุสมผลเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบพยักหน้าติดต่อกันหลายครั้ง “ใช่แล้วๆ คุณคิดดูสิ แฟนของคุณสวยขนาดไหน คุณไม่รู้เหรอ? ฉันมีหน้าตาแบบนี้ จะไปยั่วยวนเพศตรงข้ามได้ยังไง? ต่อให้อาชีพในอนาคตข้างหน้าจะไม่ใช่นักแสดง แต่เป็นคนทำงานเบื้องหลัง แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์นี่นา! ดังนั้น ลบกฏข้อนี้ออกไปได้ไหมคะ? ในเมื่อเรื่องนี้เป็นปัญหาที่หน้าของฉันก่อขึ้น ฉันไม่ได้อยากจะก่อเรื่องเองนี่นา!”
ซือเยี่ยหานเหล่มองเธอที่พูดว่า “แฟนของคุณสวยขนาดไหน” อย่างไม่เขินอายใจไม่เต้นแรง “ฉันไม่เคยพูดว่ามันสมเหตุสมผล”
ฟังน้ำเสียงของซือเยี่ยหานที่เหมือนจะบอกว่า “กฎที่ข้าตั้งขึ้นต้องสมเหตุสมผลด้วยเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นพลันไม่มีอะไรจะพูดต่อ
ได้ๆๆ…หม่อมฉันจะคิดหาวิธีด้วยตัวเองเพคะ?
เยี่ยหวันหวั่นเครียดจนขยี้หัวตัวเอง “หน้าของฉันนี้มีแต่ต้องแต่งหน้าหนาๆ ถึงจะซ่อนเอาไว้ได้ แต่การแต่งหน้าให้น่าเกลียดเสียเปรียบเกินไปในวงการนี้ แต่ว่า ทำอย่างไรถึงจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เพศตรงข้ามคิดอยากจะเด็ดดอกท้อโดยสิ้นเชิงได้? ฉันคิดไปคิดมา…มีอยู่แค่วิธีเดียวเท่านั้นแล้ว…”
ซือเยี่ยหานมองไปทางเธออย่างสนใจใคร่รู้
เยี่ยหวันหวั่นเว้นจังหวะเล็กน้อย มองซือเยี่ยหานดวงตาเป็นประกายพูดว่า “วิธีนั้นก็คือ…แต่งตัวเป็นผู้ชาย…”
แบบนี้ไม่มีทางดึงดูดเพศตรงข้ามให้ขายขนมจีบได้แน่นอน!
เธอช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ!
………………………………….
บทที่ 248 วันที่นายท่านไม่หึงก็คือวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
สำหรับความคิดสุดบรรเจิดของเยี่ยหวันหวั่น ท่าทางของซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้าง “…”
เยี่ยหวันหวั่นเข้าไปออดอ้อน พยายามพูดต่อไปว่า “คุณไม่คิดว่านี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเหรอคะ? ต่อไปเบบี๊ คุณไม่ต้องเป็นห่วงว่าฉันจะดึงดูดใครให้มาขายขนมจีบอีกแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ใช้ได้ อันที่จริงการมีใบหน้านี้ก็ทำให้ตัวเธอเองปวดหัวไม่น้อย หญิงสาวคนหนึ่งอย่างเธอคลุกคลีอยู่ในวงการก็ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไรอยู่แล้ว แต่งตัวเป็นผู้ชายซะ ทำให้เธอทำอะไรๆ ได้สะดวก สิ่งที่น่าดีใจที่สุดคือไม่ต้องทิ้งหน้าตาอันงดงามของเธอให้เปล่าประโยชน์อีกด้วย เวลานี้ผู้ชายที่หน้าตาสวยกว่าผู้หญิงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากพอดี
ซือเยี่ยหานเอียงศีรษะ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ปฏิเสธหรือยอมรับข้อเสนอของเยี่ยหวันหวั่น
หญิงสาวพูดมีเหตุผล เพียงแต่เขากลับรู้สึกอย่างประหลาดว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง…
เยี่ยหวันหวั่นพึมพำเบาๆ “คนอื่นเขาพยายามทำตามกฏที่คุณตั้งขึ้นอย่างสุดความสามารถแล้ว…”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น สวี่อี้เดินออกมาจากห้องครัวพอดี แจ้งให้พวกเขาทราบว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเห็นสวี่อี้ รีบวางแผนหาแนวร่วม พุ่งไปโบกมือเรียกเขา “ผู้ดูแลสวี่ๆ! มาทางนี้เร็ว! มีเรื่องอยากจะถามความคิดเห็นนายหน่อย!”
“ผม?” สวี่อี้มองที่นายท่านของตัวเองทีหนึ่งก่อน ค่อยเดินมาด้วยความสงสัย
เยี่ยหวันหวั่นรีบพูดขึ้น “ตอนนี้ปิดเทอมแล้วใช่ไหม อีกทั้งเดี๋ยวฉันก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บทเรียนของมหาลัยฉันเรียนด้วยเองไปพอประมานแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปฉันจะต้องทุ่มเทไปที่การงานเป็นหลัก เพียงแต่หน้าตาของฉันจะเป็นภัยต่อ…เห้อ เป็นภัยต่อความสมานฉันท์ในครอบครัว…
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยากไร้สาระ ฉันก็เลยคิดว่าจะแต่งตัวเป็นผู้ชาย นายคิดว่าวิธีการนี้เป็นอย่างไร? ดีมากเลยใช่หรือเปล่า?”
เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางส่งสายตาเป็นความนัยให้กับสวี่อี้ บอกว่าพวกเขาลงเรือลำเดียวกัน
“แต่งตัวเป็น…ผู้ชาย…?!” สวี่อี้รู้สึกว่าความคิดของเยี่ยหวันหวั่นช่างบรรเจิดมาก
แต่ว่า หากเยี่ยหวันหวั่นแต่งตัวเป็นผู้ชายละก็ นั่นหมายความว่าจะไม่มีผู้ชายที่ไหนมายุ่งกับเธออีกแล้วไม่ใช่เหรอ?
ขอเพียงนายท่านไม่หึงหวง วันนั้นก็จะเป็นวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง!
หลังจากสวี่อี้คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว กลับรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ใช้ได้อย่างคาดไม่ถึง จึงตอบออกไปอย่างชัดเจน “เป็นผู้ชายสะดวกกว่ามาก แล้วก็ปลอดภัยกว่าด้วยครับ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นพลันมีสีหน้าดีใจ “เบบี๊ คุณดูสิ ผู้ดูแลสวี่ยังเห็นด้วยเลย!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ กรอกสายตาไปมา เปิดหน้ารถเข็นชอปปิ้งในโทรศัพท์ของตัวเองให้เขาดู “เบบี๊ ฉันต้องรีบทำงานหาเงิน คุณดูสิ…แม้แต่อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในอนาคตฉันก็เลือกไว้พร้อมหมดแล้ว”
ในลิงก์หน้าชอปปิ้ง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นกุญแจมือ…เซกซี่…ที่ทำจากเพชร…ระยิบระยับ…คู่หนึ่ง…
ซือเยี่ยหาน “ก็ได้”
ในที่สุดก็ทำสำเร็จ เยี่ยหวันหวั่นส่งเสียงดีใจ จุ๊บที่หน้าของซือเยี่ยหานหนึ่งที
หลังจากนั้นหลายปี มักจะมีคนถามว่าผู้ที่เก่งกาจฉลาดเฉลียวอย่างหัวหน้าตระกูลซือที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นซือเยี่ยหาน ชีวิตนี้เคยตัดสินใจอะไรพลาดบ้างหรือไม่
ทุกครั้งที่โดนถามคำถามนี้ ซือเยี่ยหานมักจะนึกย้อนถึงวันนี้…
ส่วนผู้ชายทั้งแท่งอย่างผู้ดูแลสวี่ก็ได้แต่แสดงความเศร้าที่มุมมองการใช้ชีวิตถูกล้มล้างเสียแล้ว…
เมื่อจัดการปัญหาใหญ่นี้ได้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็วางใจที่จะดำเนินการแผนต่อไปแล้ว
เธอปลอมตัวเป็นนักข่าวเพิ่มจ้าวต้าหย่งพ่อของเด็กเป็นเพื่อนในวีแชทและ QQ รวมถึงค้นดูวงเพื่อน หน้าไทม์ไลน์ รวมถึงโพสต์ประจำวันของทุกไอดีบนหน้าโซเชี่ยลตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน จากนั้นอาศัยความจำค้นหาเนื้อหาที่ตัวเองต้องการ
…………………………………….
คอมเม้นต์