แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1099 ฉันยินดีช่วยเต็มที่ / บทที่ 1100 หรือว่าซุกผู้หญิงไว้
บทที่ 1099 ฉันยินดีช่วยเต็มที่
เยี่ยหวันหวั่นเล่าลำดับเรื่องราวกับสองคนคร่าวๆ
“อย่างนี้นี่เอง…แต่…เยี่ยหวันหวั่นหน้าตาดีขนาดนี้ แต่งชายก็ปลอดภัยยอะขึ้นจริงๆ นั่นแหละ! ก่อนหน้านี้คุณซือต้องทำเพราะเป็นห่วงพี่แน่นอน!” เจียงเยียนหรานหยักหน้าแสดงความเข้าใจ
ฉู่เฟิงกะพริบตาปริบ พึมพำเสียงเบา “ความจริงสมัยนี้ผู้ชายก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย…”
เจียงเยียนหรานเอ่ย “ฉู่เฟิง นายพูดอะไร”
ฉู่เฟิงเอ่ย “เปล่าๆๆ! ฉันพูดว่า จากนี้ถ้าพวกเราสองคนอยากเจอไอดอลพวกเรา ก็ให้พี่เยี่ยแต่งชายตอนที่ออกมากินข้าวกับพวกเราก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ” ฉู่เฟิงเอ่ยอย่างตื่นเต้น
เจียงเยียนหรานเอ่ย “จริงด้วย!”
เยี่ยหวันหวั่นพูด “…ตามหลักแล้ว ก็แบบนั้นแหละ”
อธิบายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดเจียงเยียนหรานกับฉู่เฟิงก็ใจเย็นลงพอสมควรแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “ใจเย็นแล้วยัง ฉันพูดเรื่องงานได้แล้วใช่ไหม”
เจียงเยียนหรานยกมือ “หวันหวั่น ฉัน! ฉันยังมีคำถาม!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม “อะไรเหรอ”
เจียงเยียนหรานเอ่ย “ฉันอยากพูดหนึ่งประโยค”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “อะไร”
เจียงเยียนหรานพูด “ทำไมคุณป้าไม่คลอดพี่เป็นผู้ชายกันนะใจสลายจัง…”
เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก “พอได้แล้วน่า ฉู่เฟิงเธอจะแทงใจแล้ว”
ฉู่เฟิงสูดจมูก เอ่ยพึมพำ “ถ้าเป็นพี่เยี่ยละก็ ผมยินดีช่วยเต็มที่…”
ไม่ช่วยแล้วจะมีประโยชน์เหรอ! คู่แข่งน่ากลัวขนาดนี้!
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
“หวันหวั่น ฉันใจเย็นแล้วๆ เมื่อกี้เธอจะพูดอะไรนะ” เจียงเยียนหรานรอคำชี้แนะด้วยสีหน้าจริงจัง
เยี่ยหวันหวั่นตั้งสมาธิเอ่ยปาก “เยียนหราน เธอรู้จักหนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับเผิงหย่วนหูไหม”
เจียงเยียนหรานคิดเล็กน้อย “หนังเรื่องใหม่ของเผิงหย่วนหู เธอหมายถึงเรื่อง… ‘ดอกมะลิ’ เหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ใช่”
เจียงเยียนหรานพยักหน้า “ต้องรู้จักอยู่แล้ว ได้ยินว่าหามาครึ่งปีก็ยังหานางเอกที่เหมาะสมไม่เจอ เลยไม่ได้เริ่มถ่ายทำสักที! หวันหวั่น เธอถามทำไมเหรอ”
“เดือนหน้าผู้กำกับเผิงจะไปคัดตัวนางเอกตามมหาวิทยาลัยใหญ่ต่างๆ ฉันแนะนำให้เธอไปร่วมการทดสอบ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตามตรง
“ฉัน?” เจียงเยียนหรานพลันสีหน้าตกใจ “นั่นเป็นละครของผู้กำกับเผิงหย่วนหูเชียวนะ! ฉันจะไปทดสอบผ่านได้ยังไง! ฉันต้องไม่ผ่านแน่นอน!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าแน่วแน่ “เชื่อฉัน ด้วยความสามารถกับทักษะพื้นฐานของเธอก็เหลือเฟือแล้ว อีกอย่างฉันศึกษามาแล้ว บทของละครเรื่องนี้ แต่ละด้านล้วนเหมาะกับเธอมาก”
เจียงเยียนหรานยังคงมีสีหน้าลังเล “แต่ว่า เมื่อก่อนดาราแถวหน้ากระทั่งดาราเหนือกว่าแถวหน้าพวกนั้นเคยคัดตัวก็ยังไม่ผ่านเลยนะ นักเรียนที่ยังไม่เริ่มทำงานอย่างฉันจะเป็นไปได้ยังไง…”
“เธอยังไม่โดนวงการบันเทิงกลืนกิน นี่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบใหญ่สุดของเธอ ถ้าผู้กำกับเผิงอยากได้ดาราดังที่มีความนิยมคับคั่งแบบนั้น งั้นก่อนหน้านี้ทำไมเขาไม่เลือกคนพวกนั้นไปเลย? คนพวกนั้นสัมภาษณ์ไม่ผ่าน ก็พิสูจน์แล้วว่าผู้กำกับเผิงไม่ได้อยากได้นางเอกแบบนั้น” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยวิเคราะห์
เจียงเยียนหรานยังคงโลเลมาก “แต่ ฉันจะได้จริงๆ เหรอ…”
ถึงแม้เจียงเยียนหรานจะโดดเด่นมาก แต่เพราะถูกปกป้องดีเกินไป ไม่เคยผ่านสังคมมาก่อน นิสัยจึงยังคงอ่อนโยนใจเสาะอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นพึมพำกับตัวเองชั่วครู่ ไม่รู้คิดอะไรได้ ชั่วพริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงเยี่ยไป๋ เอ่ยอย่างอ่อนโยนทันที “ไม่ว่าสำเร็จไม่สำเร็จ ก็ลองสักครั้งเถอะ คิดซะว่าสั่งสมประสบการณ์! ว่าไง ไปไหม”
เจียงเยียนหรานชะงัก จากนั้นก็โพล่งปาก “ไป!”
พลังของไอดอล…แข็งแกร่งจริงๆ ด้วย…
…………………………………………..
บทที่ 1100 หรือว่าซุกผู้หญิงไว้
“งั้นตอนนี้ฉันต้องเตรียมอะไรบ้างเหรอ” เจียงเยียนหรานถามอย่างเคร่งเครียดอยู่บ้าง
“ฉันจะส่งข้อมูลเธอให้กองถ่ายช่วยเธอสมัครก่อน ด้วยคะแนนมหาวิทยาลัยภาพยนตร์ของเธอ การเข้าร่วมทดสอบไม่น่ามีปัญหา จากนั้นฉันจะส่งข้อมูลจำนวนหนึ่งของบทให้เธอ เธออ่านดีๆ สักรอบ มีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามฉัน สำหรับเธอการเต้นไม่น่ายากอะไร กลับไปฝึกนิดหน่อยก็ได้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เจียงเยียนหรานพยักหน้ารัว “อืมๆ ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว!”
“สู้ๆ ไม่ต้องเครียด ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร คิดซะว่าเก็บประสบการณ์”
“อื้ม!”
…
หลังยืนยันเรื่องเสร็จแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มช่วยเจียงเยียนหรานตระเตรียมการทดสอบ
เป็นอย่างที่เธอคาด การสมัครประสบความสำเร็จมาก ไม่นานก็ได้รับการตอบกลับจากฝั่งกองถ่าย แจ้งเวลาและสถานที่ทดสอบ แถมยังส่งแนะนำบทอย่างง่ายมาหนึ่งฉบับ
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาอ่านหนึ่งรอบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปคร่ำเคร่งนิดหน่อยทันที นางเอกของ ‘ดอกมะลิ’ ชื่อว่าหลินโม่ลี่ บทของหลินโม่ลี่ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ช่วงต้นเป็นสาวน้อยที่ไม่จักโลกภายนอก ต่อมาสงครามปะทุ เธอสูญเสียความทรงจำในสงคราม กลายเป็นอีกคนหนึ่ง…
ที่ยากคือพลอตหลังจากหลินโมลี่เสียความทรงจำ ความทรงจำสองอย่างปะทะกันก่อให้เกิดชุดอารมณ์ที่ซับซ้อนยุ่งเหยิง
ดูเหมือนว่าต้องใช้เวลาศึกษานิดหน่อยจริงๆ ตอนนี้มีแค่เค้าโครงบทคร่าวๆ เท่านั้น เยี่ยหวันหวั่นเตรียมหาละครหนังที่คล้ายคลึงกันมาอ้างอิง กลับไปค่อยให้เจียงเยียนหรานเตรียมตัวดีๆ
หลายวันนี้เยี่ยหวันหวั่นเตรียมการคัดตัวของ ‘ดอกมะลิ’ ตลอด ทางฝั่งของกงซวี่กับลั่วเฉินก็ราบรื่นทุกอย่าง นอกจากทุกวันต้องอดทนฟังเสียงปีศาจของกงซวี่กรอกหู
กลางคืน เยี่ยหวันหวั่นมองเวลาบนโทรศัพท์ คิ้วขมวดเล็กน้อย
ซือเยี่ยหานยังไม่กลับมา
ช่วงนี้ซือเยี่ยหานเหมือนจะยุ่งมากเพราะต้องยุ่งถึงกลางคืน เกรงว่าจะรบกวนเธอกับถังถัง หลายวันนี้เขาจึงอยู่ที่จิ่นหยวน
ตานี่ ทำไมร่างกายดีขึ้นนิดหน่อยนิสัยเก่าก็กำเริบอีกแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นหอมหน้าผากถังถัง จากนั้นก็ย่องลงจากเตียง สวมเสื้อผ้า
คิดไปคิดมาไม่วางใจ เยี่ยหวันหวั่นขับรถไปจิ่นหยวนสักรอบดีกว่า
รถขับมาถึงทางเข้าคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
ใต้แสงจันทร์ เยี่ยหวันหวั่นเห็นว่า ในสวน ดอกไม้พืชผักนานาพันธุ์ที่เธอปลูกโตดีมาก ในอากาศล่องลอยไปด้วยกลิ่นสดชื่นของพืชพรรณในสวน
ถึงแม้พวกนี้จะดูไม่ค่อยเข้ากับคฤหาสน์งดงาม แต่ก็อุดมสมบูรณ์ ดูมีชีวิตชีวาไม่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นปัดๆ เสื้อโค้ตบนตัว ก้าวเดินไปยังหน้าประตู
เพิ่งเข้าใกล้ทางเข้าอาคารหลัก เยี่ยหวันหวั่นก็พลันหน้าเปลี่ยนสี ฝีเท้าหยุดชะงักโดยไม่รู้…
ไม่เหมือนกับกลิ่นอายสดชื่นของต้นไม้ในสวน ยิ่งเข้าใกล้ทางเข้า เธอก็ยิ่งสัมผัสได้ว่าในอากาศเหมือนจะมีกลิ่นคาวอ่อนๆ …
กลิ่นของเลือด…
ทันทีที่สวี่อี้ซึ่งเฝ้าอยู่หน้าประตูเห็นเยี่ยหวันหวั่นเขาก็หน้าเปลี่ยนสีทันที “คะ…คุณหนูหวันหวั่น…ทำไมมาที่นี่ล่ะครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นเห็นสวี่อี้สีหน้าผิดปกติอยู่บ้างก็เอ่ยอย่างสงสัย “ฉันมาไม่ได้? ”
ดึกดื่นแบบนี้ให้สวี่อี้เฝ้าอยู่หน้าประตู ซือเยี่ยหานกำลังทำอะไรอยู่ข้างในกัน
สวี่อี้รีบเอ่ย “ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึง ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณหนูยังมาที่นี่ มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า…”
“ไม่สบายใจเขาน่ะ กลัวว่าเขาจะยุ่งจนลืมสุขภาพอีก” เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางเดินมายังคฤหาสน์
สวี่อี้กลับก้าวขึ้นขวางหน้าเยี่ยหวันหวั่นโดยสัญชาตญาณ “คุณหนูหวันหวั่น เดี๋ยวก่อนครับ…”
เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว “พ่อบ้านสวี่ นายร้อนตัวทำไม ซือเยี่ยหานซุกผู้หญิงไว้ข้างใน?”
…………………………
คอมเม้นต์