แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 1971 นอนหลับอยู่ข้างๆ นายเหรอ? / บทที่ 1972 รู้สึกเหมือนว่าคืนนี้จะถูกทุบตาย
บทที่ 1971 นอนหลับอยู่ข้างๆ นายเหรอ?
วินาทีต่อมา ชิวสุ่ยก็โยนโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่นให้เป่ยโต่ว “อยากโทรนายก็โทรเองสิ ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายแบกความรับผิดชอบเอาเองนะ”
“ให้ตาย แบกก็แบก ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาฉันจะรับไว้เอง แต่ถ้าจะได้หน้า ฉันก็ได้คนเดียวนะ” จากนั้นเป่ยโต่วก็รับโทรศัพท์มา หลังจากบ่นพึมพำอยู่สองสามคำ เขาก็กดโทรวิดีโอคอลทันทีอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้นไม่นานก็โทรติด หลังจากเห็นใบหน้าของเป่ยโต่ว คิ้วของซือเยี่ยหานก็ขมวดแน่นขึ้นอีกครั้ง
“นายแห่งอาชูร่า คุณโทรหาผู้นำของเรามีธุระอะไรเหรอครับ? ผู้นำของพวกเรานอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเนี่ย” เป่ยโต่วบอกซือเยี่ยหาน
“นอนหลับอยู่ข้างๆ นายเหรอ” เมื่อได้ยินดังนั้น ก็มีแสงเย็นวาบปรากฏขึ้นในแววตาของซือเยี่ยหานครู่หนึ่ง
“ใช่ครับ นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเลยเนี่ย” เป่ยโต่วพยักหน้าหงึกๆ “คุณจะดูหน่อยไหม ผมโกหกคุณแล้วจะได้อะไร”
“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป่ยโต่วจะไม่ได้ยินที่ชายหนุ่มพูด จากนั้นเขาก็หันกล้องไปทางเยี่ยหวันหวั่น
เมื่อเห็นว่าในห้องเต็มไปด้วยผู้คน และเยี่ยหวันหวั่นก็นอนอยู่บนโซฟา สีหน้าของซือเยี่ยหานก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้นำไป๋”
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ซือเยี่ยหานจึงถามขึ้น
“ไม่มีอะไรครับ ผู้นำของพวกเราดื่มเหล้าไปนิดหน่อยก็คอพับแล้ว นายแห่งอาชูร่ามีเรื่องอะไรด่วนไหมครับ” เป่ยโต่วเอ่ยถาม
“อากาศเย็น ไปหาผ้าอะไรมาห่มให้เธอหน่อยสิ” ซือเยี่ยหานเลี่ยงที่จะตอบคำถามเป่ยโต่วโดยตรง
เมื่อได้ยินดังนั้น เป่ยโต่วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ครับ ดูเหมือนว่าผู้นำจะต้องนอนที่นี่ทั้งคืน…จะได้ไม่ต้องหนาวสั่น”
หลังจากที่เป่ยโต่วพูดจบ เขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้ชิวสุ่ย จากนั้นจึงไปหยิบผ้าห่มแล้วเดินไปที่โซฟา
“เอ๊ะ พี่เฟิง พี่ตื่นแล้วเหรอ?” เป่ยโต่วถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา
เมื่อสิ้นเสียงของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยกแขนขวาขึ้นเล็กน้อย จากนั้นทุกคนก็ได้ยินแค่เสียงดัง ‘ปั้ง’ โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นซัดกำปั้นเข้าที่จมูกของเป่ยโต่ว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเป่ยโต่วที่ดังเหมือนหมูถูกเชือด จากนั้นเป่ยโตวก็ปลิวออกไปพร้อมกับผ้าห่ม
“เปิดประตู ใครก็ได้ช่วยเปิดประตูให้ฉันที?!”
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ผู้อาวุโสสองตกใจมาก และรีบตะโกนไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสาม ต่างก็ถอยออกไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยหวังว่าจะอยู่ห่างจากเยี่ยหวันหวั่นหนึ่งแสนแปดหมื่นลี้ได้ยิ่งดี
อย่างไรก็ตาม ประตูได้ถูกล็อคเอาไว้ มีหลายคนอยากออกไป แต่ก็ไม่มีหนทางให้ออกไปได้ เว้นเสียแต่ว่าจะพังประตูเท่านั้น
“เหล่าชี เร็วเข้า รีบไปเอารีโมทมา!”
ตอนนี้ผู้อาวุโสสามมองไปยังชีซิงแล้วรีบออกคำสั่ง
เมื่อได้ยินดังนั้น ชีซิงจึงหันไปมองรีโมทที่วางอยู่ข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวทันทีโดยแทบจะไม่ต้องคิด พลางกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ไป”
ผู้อาวุโสสามพูดไม่ออก
“มา…ดื่ม!”
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเยี่ยหวันหวั่นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า จากนั้นหญิงสาวก็ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพอีกครั้ง
“โอ๊ย…”
เป่ยโต่วกุมจมูกของเขา จากนั้นก็รีบพยุงกายลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง เหล้าก็ดื่มหมดแล้ว พี่รีบเปิดประตูให้ผมออกไปเถอะนะ ให้ผมไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเถอะ พรุ่งนี้ผมจะมาดื่มเป็นเพื่อนพี่แน่”
เมื่อได้ยินเป่ยโต่วกล่าวดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มองไปยังตู้เก็บเหล้าที่อยู่ด้านข้างเธอด้วยความสงสัย มีเหล้ามากมายวางอยู่ในตู้เก็บเหล้าตู้นั้น
ทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนมุมปากของเยี่ยหวันหวั่น และยกนิ้วชี้ยื่นไปทางเป่ยโต่ว
เมื่อเห็นว่าเป่ยโต่วไม่หือไม่อือ ผู้อาวุโสสองก็รีบกล่าวอย่างร้อนรน “เป่ยโต่ว แกรีบไปสิ ผู้นำเรียกแกน่ะ!”
“ฉันไม่ไป ใครอยากไปก็ไปเองสิวะ!” เป่ยโต่วส่ายหน้ารัวๆ ทุกคนเห็นว่าเขาโง่เหรอไง เมื่อกี้เขาเพิ่งโดนต่อยไปเองนะ!
“มานี่”
เยี่ยหวันหวั่นออกคำสั่งด้วยสภาพเมามาย
————————————————————–
บทที่ 1972 รู้สึกเหมือนว่าคืนนี้จะถูกทุบตาย
“ผู้อาวุโสสาม นายก็ไปกับฉันสิ…” เป่ยโต่วมองไปยังผู้อาวุโสสามที่อยู่ด้านข้างทันที
“ไป!” ผู้อาวุโสสามกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของเป่ยโต่วก็จับจ้องไปที่ชีซิง “ชี…”
“ไม่ไปโว้ย” ชีซิงรีบตอบ
เป่ยโต่วพูดไม่ออก
ว่ากันว่าเราจะเห็นความจริงใจกันในยามลำบาก ในช่วงเวลาความเป็นความตายก็น่าจะไม่ต่าง? พวกผู้ชายแม่งก็แย่เหมือนกันหมดทุกคน!
ในความสิ้นหวัง เป่ยโต่วทำได้เพียงเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่นช้าๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“พี่เฟิง”
เป่ยโต่วมองไปยังเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
แต่ก่อนที่เป่ยโต่วจะพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็ยกแขนขวาขึ้นมา ยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จมูกของเป่ยโต่วก็ถูกเยี่ยหวันหวั่นซัดเข้าให้อีกหมัดในทันใด
นักรบเป่ยโต่วยกมือขึ้นมากุมจมูกของตัวเอง แล้วมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “พี่เฟิง พี่เปลี่ยนที่ต่อยบ้างไม่ได้เหรอไง?”
ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นชี้ไปยังตู้เก็บเหล้าที่อยู่ไม่ไกล “นั่น…นั่นไม่ใช่เหล้าเหรอ”
เป่ยโต่วหมดคำพูด
หลังจากเมาเหล้าจะไม่มีสติไม่ใช่เหรอ ดูแล้วหญิงสาวก็ไม่ได้ทึ่มนี่นา แถมยังรู้อีกว่าในตู้เก็บเหล้ามีเหล้าอยู่ เขาคิดว่าคืนนี้เขาจะต้องถูกพี่เฟิงทุบจนตายอย่างแน่นอน!
“พี่เฟิง ใช่แล้วพี่ นายแห่งอาชูร่า นายแห่งอาชูร่าตามหาพี่บอกว่ามีเรื่องด่วนจี๋ที่สุด!” เป่ยโต่วรีบกล่าวอย่างร้อนรน ตอนนี้นายแห่งอาชูร่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้
“นายแห่งอาชูร่า…”
เมื่อได้ยินเป่ยโต่วบอกดังนั้น แววตาของเยี่ยหวันหวั่นก็ปรากฏความงุนงงขึ้นมา
“ไหน…เขาอยู่ที่ไหนล่ะ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามพลางมองไปรอบด้าน
“นี่ๆๆ อยู่นี่ไงพี่!”
ทันใดนั้นเป่ยโต่วก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปอยู่ข้างๆ ชิวสุ่ย แล้วขอให้ชิวสุ่ยยกโทรศัพท์ขึ้น หันจอไปทางเยี่ยหวันหวั่น
“เซ็งจริงๆ!” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น “ดื่มเหล้า…ก็แค่ดื่มเหล้าปะ ยัง…ยังจะเอารูปเหมือนมาโชว์ทำไมเนี่ย…”
เป่ยโต่วพูดไม่ออก
ผู้อาวุโสใหญ่พูดไม่ออก
ผู้อาวุโสสองพูดไม่ออก
ผู้อาวุโสสามก็เช่นกัน
ไม่ว่าใครต่างก็คิดไม่ถึงว่านายแห่งอาชูร่าที่อยู่ในวิดีโอคอล จะถูกผู้นำของพวกเขาบอกว่าเป็นรูปเหมือนไปเสียได้ แม้แต่ซือเยี่ยหานก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่เฟิง นั่นไม่ใช่รูปเหมือนนะพี่ นั่นคือนายแห่งอาชูร่า” ผู้อาวุโสใหญ่หันไปทางเยี่ยหวันหวั่นเพื่อกล่าวเตือนสติ
“นายแห่งอาชูร่าเหรอ?”
เมื่อฟังจบ เยี่ยหวันหวั่นก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหรี่ตาลง และเพ่งมองชายหนุ่มที่อยู่ในวิดีโอคอลอย่างละเอียด
ในตอนนี้ ซือเยี่ยหานก็มองเยี่ยหวันหวั่นเช่นกัน ทั้งสองคนต่างไม่พูดไม่จา
“นายแห่งอาชูร่า…เขาตายยังไงเหรอ?” หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็ถามขึ้นมา
เมื่อสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เผยสีหน้าตกตะลึงอีกครั้ง
ได้ เหล้านี่ดื่มเข้าไปแล้วทำให้ท้องฟ้าถล่มแผ่นดินทลายจริงๆ
“ผู้นำไป๋ ผมยังอยู่ในสายนะ”
ไม่นานนัก ซือเยี่ยหานก็เอ่ยปากบอกเยี่ยหวันหวั่น
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ภาพเหมือนนี่” เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นชายหนุ่มในวิดีโอคอลอ้าปากพูด
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองซือเยี่ยหานที่อยู่ในวิดีโออยู่เป็นเวลานาน และก่อนที่ใครจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ชี้เข้าไปในวิดีโอคอลแล้วพลันกล่าวว่า “คุณคือนายแห่งอาชูร่าเหรอ? ไม่ใช่ คุณไม่ใช่ คุณเป็นลูกกระจ๊อกที่อาชูร่าขังไว้ในห้องมืดไม่ใช่เหรอ…”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดดังนั้น แววตาลึกล้ำของชายหนุ่มที่อยู่ในวิดีโอคอลแทบไม่กะพริบ เขาสบตากับเยี่ยหวันหวั่น ราวกับกำลังพยายามค้นหาบางสิ่งในดวงตาของเธอ
สุดท้ายนี้ เธอจำอะไรได้บ้างไหม
ในตอนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆ พากันจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้าที่ยากจะอธิบาย ผู้นำพูดเรื่องอะไรกัน ผู้ชายคนนี้เป็นบอสใหญ่แห่งกองกำลังอาชูร่าชัดๆ ทำไมผู้นำบอกว่าเขาเป็นแค่ลูกกระจ๊อกคนหนึ่ง
“พี่เฟิงดื่มเยอะเกินไปแล้วจริงๆ แม้กระทั่งนายแห่งอาชูร่าพี่เฟิงก็จำไม่ได้แล้ว นี่ก็เพิ่งจะดื่มไปไม่มากเท่าไรนะ!” ชีซิงมองไปยังเยี่ยหวันหวั่นพลางบ่นพึมพำ
“พี่เฟิงดื่มเหล้าเยอะไม่ได้” ชีซิงที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวเสริม
………………………..
คอมเม้นต์