ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 2664 ไม่สบายตรงไหน? / บทที่ 2665 พวกสวะ! โง่เง่า!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ลำนำบุปผาพิษ ตอนที่ ตอนที่ 2664 ไม่สบายตรงไหน? / บทที่ 2665 พวกสวะ! โง่เง่า! อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 2664 ไม่สบายตรงไหน?

โกหก! โกหกชัดๆ!

‘หลานไว่หู’ อยากจะหยามหมิ่นนางนัก!

ทำให้นางถูกนายท่านด่าจนแทบกลายเป็นสุนัขแล้ว…

“ซีจิ่ว วันนี้ข้าไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ค่อยออกไปได้ไหม?”

หลานไว่หูไม่อยากทำเรื่องไร้ประโยชน์เช่นนี้อีก

“ไม่สบายหรือ? ไม่สบายตรงไหน? มา เดี๋ยวข้าดูให้”

กู้ซีจิ่วนั่งลงข้างกายนาง จับข้อมือของนางไว้

หลานไว่หูพูดไม่ออกแล้ว…

นางลืมไปเลยว่าอีกฝ่ายเป็นหมอเทวดา! แกล้งป่วยต้องถูกจับได้แน่นอน!

นางชักข้อมือของตนออกอย่างเงียบเชียบ

“น่าจะกินอิ่มไปหน่อยน่ะ รู้สึกท้องอืดอยู่บ้าง…ช่างเถอะ ตามเจ้าออกไปก็ดีเหมือนกัน จะได้ย่อยอาหารหน่อย วันนี้พวกเราจะไปไหนกันหรือ?”

“แดนเผ่าจิ้งจอกคราม”

“…จะแวะไปจัดการธุระที่อื่นก่อนหรือเปล่า?”

“น่าจะไม่”

“หา?”

“ขอเพียงไม่มีใครหาเรื่องมาให้ข้าระหว่างทาง ก็ไม่ต้องหักเลี้ยวอีกแล้ว”

กู้ซีจิ่วเอ่ยคำมั่น

เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว! ในครั้งก่อนๆ ที่ออกไประหว่างทางเจ้าล้วนบอกว่ามีสหายส่งกระแสเสียงมาบอกให้ไปหาทุกครั้ง จากนั้นก็หายลับไปไม่เห็นเงาเลย!

เหตุผลนี้เจ้าพูดออกมาสามสี่รอบแล้ว!

‘หลานไว่หู’ บ่นอยู่ในใจอย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่นางไม่อาจปฏิเสธกู้ซีจิ่วได้ อย่างไรผู้อื่นก็ยังเป็นถึงเทพศักดิ์สิทธิ์ กระทืบเท้าทีหนึ่งสั่นสะเทือนคนทั้งโลกได้ นางจะยุแหย่ไม่ได้

นางอดไม่ได้ที่จะมองเยี่ยนเฉินแวบหนึ่ง เยี่ยนเฉินไม่มีท่าทีอื่นใด เพียงจัดการตัวเขาเองอย่างว่องไวนัก จากนั้นก็เอ่ยประโยคหนึ่ง

“ไว่หู ไปเก็บของเถอะ เดี๋ยวเราจะไปกันแล้ว”

‘หลานไว่หู’ จนปัญญา ได้แต่เข้าห้องไปเก็บของ

ในครั้งก่อนๆ ตอนที่นางจะออกไปล้วนแจ้งต่อตวนมู่เหยี่ยนตลอด ผลคือถูกขายฝันทุกครั้ง ในครั้งสุดท้ายตวนมู่เหยี่ยนได้เอ่ยประโยคหนึ่งออกมาอย่างแข็งกร้าวเยียบเย็นยิ่ง

“ถ้าเจ้ารายงานข้อมูลเท็จอีก ผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้าจะเอาหัวเจ้ามาเตะแทนลูกบอล!”

ช่างเถอะ! ครั้งนี้นางยังไม่รายงานก่อนก็แล้วกัน! ต้องยืนยันให้แน่ใจว่ากู้ซีจิ่วจะไปที่แดนเผ่าจิ้งจอกครามจริงๆ แล้วค่อยหาโอกาสรายงาน

….

‘หลานไว่หู’ ยืนอยู่นอกเขตแดนของเผ่าจิ้งจอกครามมึนงงอยู่บ้าง!

มาจริงๆ แล้ว!

ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้จะมาจริงๆ! แถมยังไม่เปลี่ยนแผนระหว่างทางด้วย…

ทำยังไงดี? นางควรจะแจ้งให้ทราบ! มิเช่นนั้นนายท่านอาจฉีกนางเป็นชิ้นๆ ก็ได้!

“ซีจิ่ว ข้า…ข้าอยากจะปลดทุกข์ก่อน” ‘หลานไว่หู’ ทำได้เพียงใช้ข้ออ้างนี้ถึงจะปลีกตัวไปได้

“ได้”

กู้ซีจิ่วไม่สงสัยเลยสักนิด

“ไปสิ”

เธอมองรอบข้างแวบหนึ่ง เห็นป่าเล็กๆ อยู่ไม่ไกล

“ไปตรงนั้นก็แล้วกัน”

หลานไว่หูพยักหน้า วิ่งตรงไป เข้าไปในป่า

นางไม่ได้รีบร้อนจะถ่ายเบา แต่หยิบอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียงออกมา ขณะที่กำลังจะติดต่อ พลันมีเสียงลมแว่วขึ้นข้างกาย จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ปรากฏกายขึ้นข้างตัวนาง

‘หลานไว่หู’ ตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบท่วมร่าง อุปกรณ์สื่อสารในมือแทบจะร่วงลงพื้นแล้ว!

“ซีจิ่ว…เจ้า…เจ้ามาทำไมหรือ?”

นางแทบจะติดอ่างแล้ว

กู้ซีจิ่วมองนางด้วยสีหน้าห่วงใย

“เมื่อครู่ข้าเห็นเงาดำสายหนึ่งแวบผ่านมาทางนี้ เกรงว่าเจ้าจะประสบเรื่องร้ายอันใดเข้า…ถึงอย่างไรละแวกนี้ก็เป็นอาณาเขตของพวกเขา พวกเราระวังไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย เอาล่ะ เจ้าถ่ายเบาเถอะ ข้าจะเฝ้าเจ้าอยู่แถวนี้แหละ”

แล้วถอยออกไปสองก้าว รอคอยนางอย่างอดทน

‘หลานไว่หู’ พูดไม่ออกเลย

นางลอบเช็ดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผาก โอดครวญอยู่ในใจ

กู้ซีจิ่วอยู่ใกล้ขนาดนี้ นางย่อมไม่กล้าเปิดอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียงอีก ได้แต่ละวางความคิดนี้ไป ฉวยโอกาสตอนที่ย่อกายถ่ายเบา เก็บอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียงที่ชุ่มเหงื่อให้ดีอีกครั้ง…

————————————————————————————-

บทที่ 2665 พวกสวะ! โง่เง่า!

ขณะที่นั่งยองๆ อยู่ นางพลันตัดสินใจ แสร้งทำให้เท้าส่ายโงนเงน เซเข้าใส่หินใหญ่ก้อนหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง ท้องหันเข้าหาเหลี่ยมหินพอดี!

นางคิดจะทำร้ายตัวเอง ดีที่สุดคือให้มีทีท่าว่าจะแท้ง แบบนี้จะได้เดินทางกลับได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปอย่างผ่าเผยชอบธรรม…

แต่นางยังไม่ทันล้มลงไปก็ถูกกู้ซีจิ่วที่เคลื่อนย้ายเข้ามาพยุงแขนเอาไว้แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ชนเข้ากับหินเท่านั้น แม้แต่เท้าก็ไม่กระแทกด้วยซ้ำ

นางลอบกัดฟัน ทว่าสีหน้ากลับซาบซึ้ง

“ขอบใจนะ โชคดีที่มีเจ้า”

นางแทบนึกสงสัยแล้วว่ากู้ซีจิ่วจับตามองตนอยู่ตลอด!

กู้ซีจิ่วตบไหล่นางเบาๆ

“ทำไมไม่ระวังขนาดนี้ล่ะ?”

“เท้า…เหน็บกินเท้าไปชั่วขณะน่ะ”

“แล้วตอนนี้ล่ะ? อยากให้ข้าช่วยนวดให้เจ้าสักหน่อยไหม?”

กู้ซีจิ่วยังคงห่วงใยนางยิ่งนัก

“ไม่…ไม่ต้องหรอก หายแล้ว”

หลานไว่หูไม่กล้าให้นางนวด มิเช่นนั้นสิ่งที่เรียกว่าเหน็บกินเท้าของนางคงถูกจับได้

กู้ซีจิ่วถอนหายใจ

“งั้นเจ้าก็ระวังบ้างนะ”

พานางกลับไปที่จุดเดิม จากนั้นก็ส่งนางให้เยี่ยนเฉิน

“เยี่ยนเฉิน ตอนนี้นางท้องอยู่ ไม่ค่อยสะดวกนัก เมื่อกี้เกือบจะลื่นล้มไปชนโขดหินเข้าแล้ว ตอนนี้ข้าคืนนางให้เจ้าแล้ว คอยดูแลนางให้ดีตลอดเวลาด้วย”

เยี่ยนเฉินพลันหน้าเปลี่ยนสี แขนข้างหนึ่งโอบรัดหลานไว่หูไว้

“วางใจเถอะ ไว่หู ข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดเวลาเลย”

หลานไว่หูเงียบงัน…

นางมีความลำบากไม่อาจเอื้อนเอ่ยได้ เดิมทีเยี่ยนเฉินไม่ได้ติดตามอยู่ข้างกายนางตลอด แต่หลังจากนางใช้แผนนี้ กลับทำให้เรื่องราวย่ำแย่ลง เยี่ยนเฉินแปะติดอยู่กับนางราวกับแผ่นยาหนังสุนัข ไม่ห่างเลยสักก้าว เกรงว่านางจะไม่มีโอกาสติดต่อหาผู้อื่นตามลำพังแล้ว

มาถึงตอนนี้ นางไม่มีวิธีแล้ว ได้แต่ย่างเดินไปทีละก้าว

ถึงแม้คนของดาวจิ้งจอกครามพวกนี้จะมีวิทยาการก้าวล้ำนำสมัย แต่ก็ติดตั้งเขตแดนไม่เป็น เขตแดนของแดนเผ่าจิ้งจอกครามยังคงเป็นหลานเยวี่ยรวมถึงผู้อาวุโสเหล่านั้นที่ร่วมกันก่อขึ้นมา

เป็นสิ่งพิเศษอย่างหนึ่ง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถแก้ได้

ส่วนหลานไว่หูก็มีฐานะเป็นราชครูของเผ่าจิ้งจอกคราม และเป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยนั้นด้วย

กู้ซีจิ่วกับเยี่ยนเฉินล้วนเคยเห็นนางเปิดเขตแดนที่นี่แล้ว แถมเขตแดนนี้ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนใหม่ด้วย ‘หลานไว่หู’ คิดจะแสร้งทำเป็นแก้ไม่เป็นก็ไม่ได้แล้ว ท่ามกลางสายตาคาดหวังของกู้ซีจิ่ว ทำได้เพียงพยายามเปิดเขตแดนอย่างขมขื่นเท่านั้น ในใจได้แต่หวังให้เขตแดนนี้มีการติดตั้งระบบเตือนภัยแบบใหม่ ทันทีที่พวกเขาเข้าไปคนที่อยู่ด้านในจะได้รับรู้ได้…

แต่เห็นได้ชัดว่าการการคาดคะเนของนางไม่เป็นผล พวกเขาสามคนเข้ามาถึงหนึ่งเค่อเต็มแล้ว คนที่อยู่ด้านในยังคงไม่รับรู้เลย

ที่หลับก็หลับ ที่เล่นพนันเสียงดังโหวกเหวกก็ส่งเสียงโหวกเหวกต่อไป ทหารแต่ละกลุ่มที่ลาดตระเวนผ่านมาก็ราวกับคนตาบอด พวกนางสามคนเดินผ่านข้างกายพวกเขาไปชัดๆ ก็มองไม่เห็นเลย

ยังคงคุยกันเสียงดังอยู่ตรงนั้นทำนองว่าต่อให้มียุงบินผ่านมาสักตัวก็ต้องแยกเพศให้ได้…

พวกสวะ! โง่เง่า!

หลานไว่หูอดไม่ได้ที่จะสบถด่าอยู่ในใจอย่างโกรธเกรี้ยว นางอยากเคลื่อนไหวเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณเตือนยิ่งนัก แต่เยี่ยนเฉินติดหนึบอยู่ข้างกายนางตลอด นางไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้งเกินไป เลี่ยงไม่ให้เยี่ยนเฉินนึกสงสัย

ถึงอย่างไรนางก็ยังปฏิบัติภารกิจที่นายท่านมอบหมายให้ไม่สำเร็จ…

แม้ว่าฐานทัพแห่งนี้จะมีระบบตรวจจับด้วยอินฟราเรดสารพัดอยู่ แต่ไม่รู้ว่ากู้ซีจิ่วร่ายเกราะกำบังอันใดลงบนร่างเขากับนาง ไม่น่าเชื่อว่าจะหลบเลี่ยงจากแสงอินฟราเรดอย่างสมบูรณ์ได้ ประกอบกับบนร่างของคนทั้งสามมียันต์เร้นกายอยู่ พออยู่ที่นี่ก็เสมือนเข้าสู่ดินแดนที่ไร้ผู้คนจริงๆ ไปมาได้อย่างเสรี

โชคดีที่หลังจากพวกกู้ซีจิ่วเข้ามาแล้ว ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร เพียงแค่เดินเตร่ไปรอบๆ ทำให้หลานไว่หูเดินเตร็ดเตร่ไปด้วย อย่างอกสั่นขวัญแขวน…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด