ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 2800 หากว่าอาจารย์ตายล่ะ? 2 / บทที่ 2801 เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมโดยแท้!
บทที่ 2800 หากว่าอาจารย์ตายล่ะ? 2
ราชันปีศาจจัดการเรื่องราวได้มีประสิทธิภาพนัก วันประหารด้วยการเชือดเนื้อเถือหนังอูเชียนเหยียนก็เลือกไว้เป็นยามเว่ยของวันนี้
ยังเหลืออีกสี่ชั่วยามก่อนถึงกำหนดประหาร
กู้ซีจิ่วลอบยินดีอยู่ภายในใจที่กลับมาเร็วพอ มิเช่นนั้นเธอคงได้รับเพียงซากศพของอูเชียนเหยียนเสียแล้ว!
เธอเหลือบมองฟั่นเชียนซื่อแวบหนึ่ง เอ่ยถามเขา ‘หากว่าอาจารย์ไม่กลับมา เจ้าก็ไม่คิดจะไยดีความเป็นความตายของเชียนเหยียนเลยใช่หรือไม่?’
ฟั่นเชียนซื่อนิ่งไปแวบหนึ่ง เม้มริมฝีปากบางนิดๆ เอ่ยเสียงแผ่ว ‘ขอรับ’
อันที่จริงเขารู้ว่าอาจารย์อยากได้ยินอะไร ถึงขั้นที่เขาสามารถกล่าวสิ่งที่นางอยากจะฟังก็ได้ ทำให้จิตใจนางได้รับการปลอบโยน แต่เขาไม่อยากหลอกลวงนาง
และบางทีเขาอาจรู้สึกว่าถึงโกหกนางไปก็หลอกนางไม่ได้อยู่ดี
เขาเติบใหญ่มาจนถึงขนาดนี้แล้วอันที่จริงก็เคยชินกับการโกหกหลอกลวงคนแล้ว แต่มีอาจารย์คนเดียวเท่านั้น ที่เขาไม่กล้าเลย หรืออาจจะเป็นหักใจไม่ลงกระมัง?
‘อาจารย์ นางเป็นเพียงบ่าวรับใช้คนหนึ่ง’ ฟั่นเชียนซื่อเอ่ยอธิบายอีกประโยค สีหน้าหยิ่งทะนงยิ่งนัก
กู้ซีจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง
เธอมองเขาอย่างยิ้มมิเชิงยิ้ม ‘เชียนซื่อ แล้วในใจเจ้าสิ่งใดเล่าถึงจะควรค่าให้แลกชีวิตเข้าปกป้อง?’
‘อาจารย์!’ ฟั่นเชียนซื่อโพล่งออกมาทันที
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว ‘หากว่าอาจารย์ตายล่ะ?’
‘อาจารย์เป็นเทพผู้สร้างโลก จะสิ้นชีพได้อย่างไร? อาจารย์อย่าได้กล่าวล้อเล่นเช่นนี้…’
‘อาจารย์เพียงสมมุติ’
‘เช่นนั้นศิษย์จะทำให้หกภพภูมิอับปางร่วมกลบฝังไปด้วยกันกับอาจารย์!’ เค้าความเหี้ยมโหดฉายขึ้นมาบนดวงหน้าของฟั่นเชียนซื่อ
สีหน้าของกู้ซีจิ่วเยียบเย็นลง ซัดตะเกียบลงบนโต๊ะ ‘สารเลว!’
ฟั่นเชียนซื่อผงะไป คุกเข่าลง ไม่เอ่ยวาจา
กู้ซีจิ่วปวดประสาทนัก!
วันหน้าเทพผู้สร้างโลกต้องค้ำจุนหกภพภูมิ เลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้จริงๆ เลี่ยงไม่ให้ละทิ้งส่วนรวมเป็นประโยชน์ส่วนตน จะต้องมีความรักอันยิ่งใหญ่ มีจิตเมตตาอุ้มชูโลกานี้ เช่นนี้ถึงจะทำให้โลกนี้เจริญก้าวหน้าได้
หากว่าแม้แต่เทพผู้สร้างโลกก็ยังเห็นแก่ตัวใจดำเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้ เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าวันหน้าจะชักนำหายนะใดมาให้หกภพภูมิบ้าง…
เธออบรมสั่งสอนเขามาเนิ่นนานขนาดนี้ เป็นการสอนไปอย่างเสียเปล่าแล้ว!
เธอมองกระหม่อมของเขา รู้สึกเพียงว่าเส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ อย่างรุนแรงเมื่อครู่เธอเพียงถามไปส่งๆ เท่านั้น ซ้ำยังส่งกระแสเสียงถามอย่างลับๆ ด้วย ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้กลับมา
ยามนี้ย่อมมิใช่เวลามาอบรมศิษย์
กู้ซีจิ่วมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เอ่ยวาจาอีก หันหลังจากไปเลย
ฟั่นเชียนซื่อรออยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้รับคำตำหนิสั่งสอนจากอาจารย์ เขาจึงเงยหน้าขึ้น พบว่ากู้ซีจิ่วหายไปแล้ว
เขาตะลึงงัน ยกมือนวดหว่างคิ้ว ลุกขึ้นหมายจะตามออกไป พนักงานกลับสกัดเขาไว้ “คุณชาย ทั้งหมดเป็นราคาหนึ่งร้อยมุกวิญญาณขอรับ”
ฟั่นเชียนซื่อยัดถุงที่บรรจุมุกวิญญาณไว้ถึงสามร้อยเม็ดใส่อกของพนักงาน “รับไป!”
แล้วหันหลังก้าวออกไปเลย
….
ทัณฑ์ประหารด้วยการแล่เนื้อเถือหนังโหดร้ายทารุณเป็นที่สุด แต่เมื่อเป็นการลงทัณฑ์ต่อหน้าสาธารณชน ก็ยังคงกระตุ้นโลหิตแห่งการซุบซิบนินทาของชาวบ้านได้ คนที่ต้องการมาล้อมวงดูมีเป็นภูเขาเลากา
ลานพิธีถูกจัดขึ้นในจัตุรัสที่กว้างขวางที่สุดในเมืองหลานเยวี่ย ก่อแท่นลงทัณฑ์ขึ้นบนจัตุรัส บนแท่นมีเสาต้นหนึ่ง ด้านบนมีโซ่ตรวนสีแดงคล้ำ แถมยังมีตาข่ายลวดหนามที่ดูคล้ายแหจับปลาอยู่ผืนหนึ่งด้วย
ไม่จำเป็นต้องถามเลย อีกประเดี๋ยวการลงทัณฑ์ก็จะเกิดขึ้นที่นี่
ยังไม่ถึงเวลา บนลานพิธีก็มีผู้คนมารวมตัวไม่น้อยแล้ว
กู้ซีจิ่ววนดูในละแวกลานพิธีรอบหนึ่ง
สายตาเธอเฉียบไว วนรอบเดียวก็พบทางลับมากมายแล้ว เธอเคลื่อนย้ายเข้าไปในประตูลับ พบว่าด้านในมีทหารของภพมารซุ่มอยู่ไม่น้อยเลย แต่ละคนถือมีดน้าวคันศร อาวุธครบมือ
“เจ้าว่า แค่ประหารศิษย์ที่แอบอ้างอาจารย์ทรยศสำนักสักคน เหตุใดองค์ราชันต้องจัดวางกลศึกใหญ่โตถึงเพียงนี้ด้วย? ซ้ำยังส่งทหารปีศาจสามหมื่นนายมาซุ่มโจมตีอีก?”
“ใช่ ข้าก็รู้สึกว่าเกินความจำเป็นเหมือนกัน สตรีนางนั้นถูกเคี่ยวกรำจนเป็นเช่นนั้นแล้ว ยังจะหนีรอดไปได้อีกหรือ? อีกอย่างจะมีผู้ใดมาช่วยนางกัน?”
————————————————————————————-
บทที่ 2801 เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมโดยแท้!
“เรื่องนี้ก็พูดยากนะ ในสังกัดของเทพผู้สร้างโลกยังมีศิษย์ชายอยู่อีกคนนี่นา ได้ยินว่ามีฝีมือร้ายกาจนัก ซ้ำยังเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ที่เติบโตกับอูเชียนเหยียนคนนี้ด้วย ยากจะรับประกันได้ว่าเขาจะไม่มาชิงตัวนักโทษ”
“นี่ก็ถูก เพียงแต่ฟันเชียนซื่อคนนั้นอยู่ภายใต้การอบรมของเทพผู้สร้างโลกเพียงห้าปีเท่านั้น ต่อให้ฝีมือร้ายกาจแล้วจะร้ายกาจได้สักแค่ไหนกัน? เขาหัวเดียวกะเทียมลีบ เกรงว่านายทัพที่ร้ายกาจที่สุดของฝั่งเราสักคนก็สามารถสยบเขาอย่างราบคาบได้แล้ว ไม่ต้องให้พวกเราออกโรงหรอก”
“องค์ราชันตรัสว่า วันนี้ไม่ว่าจะเป็นใครที่มาชิงตัวนักโทษ หรือมาช่วยเหลืออูเชียนเหยียนผู้นั้น ล้วนแต่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ให้สังหารอย่างไม่ละเว้น! ดาบของพวกเราล้วนเคลือบพิษที่ร้ายกาจที่สุดเอาไว้แล้ว ขอเพียงฟันถูกผิวหนังสักนิด พิษนั้นก็จะแทรกซึมเข้าไปเอาชีวิตคนได้ทันที พวกเจ้าต้องระวังหน่อยล่ะ อย่าให้ทำร้ายคนกันเองเข้า”
“ใช่แล้ว องค์ราชันยังตรัสด้วยว่า ฟั่นเชียนซื่อคนนั้นเจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะสร้างเทพผู้สร้างโลกตัวปลอมขึ้นมาตบตาคนก็ได้ สั่งว่าตอนที่พวกเราลงมือไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น เลี่ยงไม่ให้เทพผู้สร้างโลกตัวปลอมคนนั้นไปทำร้ายคนได้อีก…”
คนเหล่านี้สนทนาพาทีกันอยู่ตรงนั้น ทว่าเผยข้อมูลออกมาไม่น้อยเลย
มุมปากกู้ซีจิ่วหยักขึ้นนิดๆ เผยรอยยิ้มเยียบเย็นสายหนึ่ง
ชัดเจนนัก ครั้งนี้คนที่ราชันปีศาจคิดจะจัดการก็คือตัวเธอผู้เป็นเทพผู้สร้างโลกจริงๆ อูเชียนเหยียนเป็นเพียงหมากที่ราชันปีศาจใช้ล่อเธอออกมาเท่านั้น
ราชันปีศาจน่าจะเดาได้ว่าพลังยุทธ์ของเธอสูญหายไปมหาศาล จึงคิดจะฉวยโอกาสสังหารเธอ
ดังนั้นเขาจึงคิดค้นแผนการนี้ขึ้นมา
หากว่าเธอได้ยินข่าวแล้วตามมาช่วยอูเชียนเหยียน ราชันปีศาจก็จะกลับขาวเป็นดำ ทำสารพัดวิถีทางเพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเธอคือตัวปลอม!
ไม่แน่ว่าอาจจะบีบคั้นให้เธอลงมือ หากว่าเธอพ่ายแพ้ ราชันปีศาจก็จะฉวยโอกาสข่ม ยิ่งตอกย้ำชื่อเสียงของ ‘ตัวปลอม’ ให้เธอเข้าไปอีก!
หากว่าเธอชนะ ราชันปีศาจก็ใช้ข้ออ้างว่า ‘กลัวว่าเธอจะเป็นตัวปลอมแอบอ้างดังนั้นจึงต้องหยั่งเชิงดู’ มาเพื่อปัดความรับผิดชอบ…
แน่นอน หากว่าเธอไม่โผล่หน้าออกมาเลย อูเชียนเหยียนจะถูกประหารด้วยทัณฑ์แล่เนื้อไป ก็จะมีข้ออ้างที่ผ่าเผยชอบธรรมแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะทางรุกทางถอยราชันปีศาจล้วนเตรียมไว้รอบด้านยิ่ง! เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมโดยแท้!
กู้ซีจิ่วยิ้มเยาะ เธอมองพิษร้ายบนอาวุธของคนที่ซุ่มรอโจมตีกลุ่มนั้น ส่ายหน้านิดๆ
เธอเป็นเทพผู้สร้างโลก ต้านพิษได้ตั้งแต่เกิด พิษใดก็ไม่อาจกล้ำกรายเธอได้ทั้งนั้น ศรพิษเหล่านี้ต่อให้ยิงถูกตัวเธอก็ทำให้เธอแค่เจ็บๆ คันๆ เท่านั้น เธอไม่เก็บมาใส่ใจเลย
เรือนกายเธอวูบไหว
นายทหารเหล่านั้นพลันรู้สึกคล้ายมีเงาคนวาบผ่านหน้า พวกเขาตกตะลึง คว้าอาวุธขึ้นมาทันที โจมตีเข้าใส่เงาร่างคนผู้นั้น! ทว่าโจมตีได้เพียงความว่างเปล่า เงาร่างนั้นหายไปในพริบตา ราวกับภาพมายา
“ผู้ใด?!” ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
แต่สิ่งที่ตอบรับเขามีเพียงสายลมเย็นเฉียบแผ่วเบาหอบหนึ่ง สายลมนั้นเย็นยะเยือก พัดจนพวกเขาขนลุกขึ้นมา
พวกเขามองหน้ากันเหลอหลา ผู้เป็นหัวหน้ามองดูลูกน้องของตน “พวกเจ้าเห็นชัดหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด?”
เหล่าทหารส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาไม่เห็นแม้แต่โครงร่างของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
“จะใช่…จะใช่ท่านเทพผู้สร้างโลกหรือไม่? นางอาจไม่พอใจที่องค์ราชันของพวกเราจับกุมสาวใช้ของนางมา…”
“ไม่ใช่กระมัง? หากว่านางมาจริงๆ จะต้องไปทวงคนกับองค์ราชันสิ จะมาที่นี่เพื่อข่มขู่ให้พวกเราตกใจเพื่ออะไรกันล่ะ?”
“ใต้เท้า พวกเราควรไปรายงานให้องค์ราชันทราบไหมขอรับ?”
นายกองคนนั้นใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก บางทีพวกเราแค่อาจจะตาฝาดไป…หากว่าไปรายงานข่าวเพียงเพราะพวกเราตาฝาด องค์ราชันอาจจะลงโทษพวกเราถึงตายได้!”
ราชันปีศาจโหดเหี้ยมทารุณ ทันทีที่เขารายงานต่อเบื้องบนไป หากว่าไม่มีรูปพรรณสันฐานและฝีมือของอีกฝ่ายไปรายงานล่ะก็ ราชันปีศาจไม่เพียงแต่จะไม่ตกรางวัลให้พวกเขาเท่านั้น ยังจะตำหนิว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ ลงโทษพวกเขาอย่างหนักหนายิ่งด้วย
————————————————————————————-
คอมเม้นต์