ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 2419 ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น 2 / บทที่ 2420 ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น 3
บทที่ 2419 ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น 2
เขาเป็นบุตรแห่งเทพมาร ซ้ำยังมีดวงวิญญาณพิเศษ อายุหนึ่งขวบของเขาเทียบเท่ากับอายุสิบปีของผู้บำเพ็ญคนอื่น เก้าขวบก็เทียบเท่ากับอายุเก้าสิบปีของคนอื่นแล้ว…
ไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือร่างกาย ล้วนเป็นผู้ใหญ่อย่างสิ้นเชิง!
ไม่มีใครกล้าเห็นเขาเป็นเด็กแล้ว มีแต่สาวน้อยคนนี้ ที่ยังวอแวกับอายุของเขาไม่ยอมปล่อย…
“นี่ สรุปแล้วพิษของเจ้าคลายหรือยัง?”
หลังจากผ่านไปสามรอบกู้ซีจิ่วก็ทนไม่ไหวแล้ว
คงไม่ใช่ไอ้เด็กแสบนี่จะทำหนึ่งคืนเจ็ดครั้งกระมัง?!
เธอคิดจับชีพจรเขาดูตามสัญชาตญาณ ตี้ฝูอีกลับตวัดพลิกกุมมือเธอไว้ ปรับเปลี่ยนท่วงท่าของเธอ ถอนหายใจเบาๆ อยู่ริมหูเธอ
“น่าจะใกล้แล้ว เหลืออีกนิด…”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย หวาดเกรงเขาแล้ว!
เขาคือหมาป่าหิวโซในตำนาน…
เธอส่งตัวเองมาหาถึงหน้าประตู ส่วนเขาก็ใช้งานอย่างคุ้มค่า กินเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าหมดจดเกลี้ยงเกลา ไม่เว้นเลยสักนิด…
ตอนนี้เขาอยู่แนบชิดกับเธอระหว่างทั้งสองไม่มีช่องว่างเลยสักนิด มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยสายตาที่พร่ามัว ความอบอุ่นในใจเอ่อท้นขึ้นมาเป็นระลอก ถึงแม้ในใจเธอจะยังมีจุดที่ไม่เข้าใจเขาอยู่บ้าง ยังมีบางเรื่องราวที่ไม่กระจ่าง แต่เขารักเธอ!
เรื่องนี้ไม่มีข้อกังขาเลย
และตัวเธอก็รักเขาเหมือนกัน ชอบจนไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาที่ได้อยู่กับเขาถึงไม่ได้ทำอะไรเลยก็เต็มไปด้วยความสุข
พอไม่เห็นเขาก็เหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไป มีความรู้สึกราวกับจอกแหนที่ล่องลอยไร้ที่หยั่งราก คล้ายว่ามีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ในชีวิตขาดหายไป ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เติมเต็มไม่ได้…
ชาติก่อนของตนกับเขาก็น่าจะรักกันเช่นนี้กระมัง?!
เดี๋ยวนะ ไม่ถูกสิ!
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ารักกันมาสองชาติแล้ว หรือเขาจะฟื้นฟูความทรงจำในชาติก่อนได้แล้ว?!
“เจ้าจำเรื่องในชาติก่อนได้แล้วหรือ? ชาติก่อนพวกเราแต่งงานกันหรือเปล่า? ข้ารู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าชาติก่อนพวกเราอยู่กินกันแล้ว…”
กู้ซีจิ่วอยากสอบถาม
ตี้ฝูอีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ประทับจูบลงมา อุดปากน้อยๆ ของเธอ
“ตั้งใจหน่อย!”
กู้ซีจิ่วจึงเงียบไป
หัวใจเธอคันยุบยิบ สรุปแล้วเจ้าจำได้หรือไม่ได้กันแน่?!
ไม่สนแล้ว! รอว่างแล้วค่อยถามเขาให้ดีๆ แล้วกัน!
เธออยากรู้มากจริงๆ ว่าชาติก่อนเขาทำเรื่องอันใดไว้กันแน่ แล้วทั้งสองรักกันได้อย่างไร…
เรื่องในชาติก่อนที่เธออยากถามมีมากมายเหลือเกิน หยกนภาจอมบัดซบรู้เรื่องดี แต่มันหุบปากแน่นยิ่ง ง้างออกมาไม่ได้เลย
ทำให้เธออยากถามแต่ก็ถามไม่ได้ความอยู่ดี หากว่าตี้ฝูอีจำทุกอย่างได้แล้ว เช่นนั้นก็จะช่วยแถลงไขให้เธอได้…
“เด็กน้อย ถ้าเจ้าใจลอยอีก ข้าจะทำเจ้าเจ็ดครั้ง! ให้เจ้าลุกจากเตียงไม่ได้เลย”
กู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปเลย
เธอไม่กล้าใจลอยอีกแล้ว! ขืนถูกเขาทำเจ็ดครั้งจริงๆ เธอคงหมดสภาพแน่…
….
เวลาผ่านไปว่องไวยิ่ง แต่ก็คล้ายว่าจะเชื่องช้านัก
กู้ซีจิ่วก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำกับเขามานานเท่าไหร่แล้ว รู้แค่ว่าในช่วงสุดท้าย เขายังไม่ถอนกายไปเธอก็ผล็อยหลับไปแล้ว
ตอนที่ตี้ฝูอีทำความสะอาดให้เธอ เธอสะลึมสะลือนึกว่าเขาจะเข้ามาอีก เลยจับมือเขาไว้เอ่ยปฏิเสธ
“ไม่เอาแล้ว…”
ตี้ฝูอีจึงแกล้งนาง
“เด็กน้อย พิษข้ายังไม่คลายจนหมดนะ…”
“จัดการเอาเองสิ!”
ต่อให้เธอสะลึมสะลืออยู่ก็ยังออกความเห็นได้
“ไปหาแม่นางทั้งห้าเถิด…”
ถึงแม้ตี้ฝูอีจะเป็นทายาทรุ่นที่สองของของผู้ทะลุมิติ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจศัพท์แสลงสมัยใหม่บางส่วนอยู่ดี เขาค่อนข้างฉงน
“แม่นางทั้งห้ารึ? ผู้ใดคือแม่นางทั้งห้า?”
โง่เง่า! แม้แต่แม่นางทั้งห้าก็ยังไม่รู้จัก…
กู้ซีจิ่วดูแคลนเขา เธอโบกมือน้อยๆ ของตนไปมา
“นี่…ก็คือแม่นางทั้งห้า…”
ตี้ฝูอีนิ่งไปครู่หนึ่ง
เขาจับมือนางไว้ เอ่ยเสียงหวาน
“เจ้าอยากใช้มือช่วยข้าหรือ?”
กู้ซีจิ่วชักมือตัวเองกลับ พลางดูแคลนเขายิ่งกว่าเดิม
“ใช้ของเจ้าเองสิ!”
แม่นางน้อยคนนี้ช่างรู้มากเสียจริง!
————————————————————————————-
บทที่ 2420 ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น 3
กู้ซีจิ่วหลับไปแล้ว ซุกอยู่ในอ้อมแขนเขาหลับสบายยิ่งนัก
นางเหมือนคนพเนจรที่รอนแรมอยู่ด้านนอกในที่สุดก็หาบ้านพบแล้ว พาคนที่นางจะไว้ใจพึ่งพาได้พบแล้ว ที่แฝงอยู่ตรงหว่างคิ้วนางคือความสงบสุขสบายใจ
มือน้อยๆ ข้างหนึ่งของนางยังคงจับนิ้วเขาไว้ คงเกรงว่าเขาจะหนีหายไปจึงดึงมือเขาไปหนุนซบไว้ใต้ดวงหน้าเล็กๆ…
หัวใจของตี้ฝูอีอบอุ่น รั้งตัวนางมาโอบกอดในอ้อมแขน
เขาพอใจยิ่งนัก!
พิษคลี่คลาย เขตแดนนี้ที่อวิ๋นชิงหลัวสร้างขึ้นไม่อาจกักขังเขาไว้ได้ เขาสามารถพานางออกไปได้ทุกเมื่อ
อันที่จริงเขาฉงนยิ่งนัก เขตแดนนี้ของอวิ๋นชิงหลัวสร้างไว้วิปริตถึงเพียงนี้ ขนาดเขามีวรยุทธ์เช่นนี้ยังออกไปไม่ได้ แล้วนางใช้วิธีใดกันแน่ถึงบุกเข้ามาได้?
นางที่อยู่ในห้วงนิทรายังละเมอคำว่า
‘ส่งตัวให้ถึงหน้าประตู’
ด้วย ไม่ทราบเช่นกันว่าเอ่ยถึงผู้ใด
“เด็กน้อย อยากออกไปหรือเปล่า?”
เขาเอ่ยถามริมหูนาง
“ข้าง่วง…อย่ากวน ให้ข้านอนหน่อย…”
ด้วยเหตุนี้ตี้ฝูจึงรั้งอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ
สถานที่ ที่มีเจ้าของก็คือสถานที่ที่ดีที่สุดแล้ว ขอเพียงนางอยู่กับเขา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ได้ทั้งนั้น…
เขาหลุบตามองนาง แววตาค่อนข้างลึกซึ้ง
สิ่งที่เรียกว่าความทรงจำในชาติก่อนของเขาไม่ได้ฟื้นคืนมา เพียงแต่ได้รับการยืนยันจากปากอวิ๋นชิงหลัวว่าชาติก่อนตนคือเทพศักดิ์สิทธิ์หวงถูผู้นั้นจริงๆ ก็เท่านั้น
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดได้ทั้งที่ไม่มีความเป็นไปได้ในการกลับชาติมาเกิดแล้ว…
ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องความยึดติดของเขาเท่านั้น สาเหตุน่าจะเป็นเพราะดวงวิญญาณที่ทรงพลังอย่างยิ่งของเขาด้วย ถึงได้แหกกฏเกณฑ์ลิขิตสวรรค์กลับชาติมาเกิดใหม่ได้เช่นนี้
คนที่สามารถแหกกฎสวรรค์ได้มีอยู่น้อยนิดเป็นที่สุด บางทีในชาติที่แล้วของชาติที่แล้วเขาอาจเป็นตัวตนที่มีอำนาจยิ่งนักคนหนึ่งเหมือนกัน
เป็นใครกันล่ะ?
ท่านพ่อของเขารู้เรื่องราวภายในหรือเปล่า?
มิเช่นนั้นก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงชื่อแซ่ของเขากระมัง?
หรือตัวเขาในชาติก่อนก็แซ่ตี้ด้วย?
ผู้ที่มีความทรงจำในส่วนนี้นอกจากอวิ๋นชิงหลัวแล้วยังมีใครอีก?
เขาส่ายหน้า ปัญหานับไม่ถ้วนวนเวียนอยู่ในใจเขา แต่สะสางไม่ได้ชั่วคราว เขาก็คร้านจะคิดให้มากความแล้วเช่นกัน
เขากำลังใคร่ครวญอยู่ว่าขั้นต่อไปควรจะทำอย่างไรดี…
อวิ๋นชิงหลัวไม่ควรค่าพอให้แยแส อวิ๋นเยียนหลีเป็นตัวปัญหาใหญ่ผู้หนึ่ง ยังมีผู้ยิ่งใหญ่ที่เร้นกายอยู่หลังม่านคนนั้นด้วย ถึงแม้คนผู้นั้นจะไม่ได้เผยตัวออกมาเลย แต่หายนะที่ก่อขึ้นกลับใหญ่หลวงยิ่ง…
คนผู้นั้นใช้วิชามารยกระดับอวิ๋นเยียนหลีอย่างรวดเร็ว ทำให้จินเซียนคนหนึ่งสามารถบรรลุสู่ขั้นซ่างเซียนได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ร้อยปี ทำเพื่ออะไรกันแน่?
ดูเหมือนเป้าหมายของอีกฝ่ายจะมิใช่แค่ตำแหน่งจักรพรรดิเซียน น่าจะยิ่งใหญ่กว่านั้น
หรือจะเป็นลั่วจิ่วเฉินคนนั้นที่คิดแย่งชิงตำแหน่งมหาเทพจากบิดาของเขาเมื่อปีนั้น?
วิชามารเหล่านี้ของอวิ๋นชิงหลัวดูคล้ายกับวรยุทธ์ของลั่วจิ่วเฉิน…
เพียงแต่ ลั่วจิ่วเฉินถูกผนึกไว้ในระฆังลิขิตสวรรค์ตลอด ไม่อาจออกมาได้เป็นเวลาห้าหมื่นปี ถึงแม้จะถูกปล่อยออกมาระยะหนึ่ง แต่ก็เป็นเรื่องในไม่กี่ปีมานี้
แต่คนผู้นั้นที่ถ่ายทอดวิชามารให้อวิ๋นชิงหลัวกลับถ่ายทอดให้เมื่อสองร้อยปีก่อนแล้ว…
ระยะเวลาไม่ตรงกัน
เห็นทีว่ายอดฝีมือที่บงการอยู่เบื้องหลังผู้นี้จะเป็นคนอื่น
ความจริงแล้วตี้ฝูอีไม่สนใจตำแหน่งจักรพรรดิเซียนเลย สำหรับเขาแล้ว ใครจะเป็นจักรพรรดิเซียนก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงไม่ออกนอกลู่นอกทาง ใช้อำนาจสร้างความวุ่นวายก็พอ
ผู้ใดมีความสามารถผู้นั้นได้ไป ไม่ทำให้หกอาณาจักรวุ่นวายก็พอ
ดังนั้นหากว่าอวิ๋นเยียนหลีพึ่งพาความสามารถของตนเพื่อชิงตำแหน่งนี้ เขาจะไม่ก้าวก่ายเลย…
แต่เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นเหยียนหลีใช้วิชามาร ทำชั่วใหญ่หลวง เขาย่อมประสานมือชมอยู่ด้านข้างไม่ได้…
ดังนั้นการอยู่ที่แดนอสุราหนนี้ เขาจะต้องจัดการสะสางเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
เขาหลุบตามองมือตน ตอนนี้พลังยุทธ์ของเขาคือจินเซียนขั้นเก้า ถ้าอิงตามความเร็วในการฝึกฝนบำเพ็ญของเขา อย่างน้อยก็ยังต้องใช้เวลาอีกสามปีถึงจะฝ่าสู่ซ่างเซียนได้
แต่ต่อให้ฝึกฝนถึงขั้นซ่างเซียนแล้วก็ยังไม่แน่ว่าจะใช่คู่ต่อสู้ของอวิ๋นเยียนหลี…
ห่างชั้นกันมากเกินไป
คอมเม้นต์