Advent of the Archmage – Chapter 282: เมืองผี (1)
วิ้ว, วิ้ว ภายใต้เสียงกระหึ่มเบาๆของการทำงานของผนึกเวทมนตร์, USS Owl ก็ลอยผ่านเมฆหนาสามไมล์ในอากาศ มันมุ่งหน้าไปยังเดลอนก้าด้วยความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง
การเดินทางจากที่รกร้างเฟิร์ดไปยังส่วนลึกในอาณาจักรเดลอนก้านั้นใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ หลังจากนั้น, เรือเหาะก็ลดความเร็วลงแล้วเริ่มทำการค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของเมืองผี
ข้อมูลของสคินอร์สนั้นได้พูดถึงเมืองผีเอาไว้, แต่ว่ามันก็ยังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอน พวกเขารู้แค่ว่ามันอยู่ที่ส่วนกลางของอาณาจักรเดลอนก้า และในส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวกับทหาร 30,000 คนนั้น, เขาได้รับมันมาจากนักโทษสงคราม มันเป็นการประเมินคร่าวๆ
สถานการณ์จริงๆยังไม่ชัดเจน
แต่ว่าการตามหาสถานที่นั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเผ่ายับบ้า
“เปิดใช้ผนึกเวทย์ตรวจจับ…เริ่มการค้นหาคลื่นความมืด,” ผู้บัญชาการเรือเหาะเมอร์ลินสั่งอย่างจริงจัง เขาแตกต่างจากคนอารมณ์ดีก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
วิ้ว ด้วยเสียงกระหึ่มเบาๆ, ก็มีภาพที่ชัดเจนปรากฎขึ้นในเรือเหาะ มันบันทึกรายละเอียดเฉพาะของพื้นที่ที่อยู่ด้านล่างเรือเหาะเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นป่า, เส้นทาง, หมู่บ้าน, คนที่เดินผ่านไปมา, และแม้กระทั่งใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้นก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ปิ้บ, ปิ้บ, ปิ้บ ทุกๆสองวินาที, คลื่นสีฟ้าจะทำการตรวจสอบภาพ, และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในภาพก็จะส่องแสง
คนธรรมดานั้นจะส่องแสงสลัวๆ แสงของธาตุพื้นฐานที่แตกต่างกันจะปรากฎขึ้นตามสถานะร่างกายที่แตกต่างกันของพวกเขา สีฟ้า, สีเขียว, สีขาว, และสีอื่นๆล้วนเป็นปกติทั้งหมด
ประมาณสองนาทีต่อมา, จู่ๆก็มีกลุ่มอัศวินที่มีรัศมีสีดำปรากฎขึ้น พวกเขามีประมาณ 13 คน, ซึ่งสวมชุดเกราะกันทุกคน ในแวบแรก, พวกเขาดูไม่ต่างจากคนทั่วๆไปเลย อย่างไรก็ตาม, พอสังเกตุดูใกล้ๆ, จะเห็นว่าดวงตาและผิวหนังของพวกเขาเป็นสีดำ ชุดเกราะของพวกเขาเป็นรูปแบบของอาณาจักรเดลอนก้า แต่ว่ารูนที่อยู่บนพื้นผิวนั้นเป็นรูนแห่งความมืดทั้งหมด
“พวกมันคืออัศวินอันเดธ พวกมันใช้วิธีการเฉพาะบางอย่างเพื่อปกปิดออร่าและตัวตนของพวกมัน นี่เป็นเขตต่อสู้, และดูเหมือนว่าพวกมันจะมาที่นี่…เห้ย, พวกมันกำลังจับตัวประชาชน!”
อัศวินพวกนี้ตรงไปทางหมู่บ้าง ในตอนที่พวกเขามาถึง, พวกเขาก็แยกกันไปปิดทางเข้าออกทั้งหมด แล้วบางส่วนก็เดินเข้าไปในหมู่บ้าน และหลังจากที่พูดอะไรบางอย่าง, ชาวบ้านเกือบ 300 คนก็มารวมตัวกันและถูกอัศวินอันเดธที่แข็งแกร่งบังคับให้ออกจากหมู่บ้าน
ชาวบ้านนั้นมีทุกเพศทุกวัย พวกเขาไม่รู้ชะตากรรมของพวกเขา, แต่นี่ก็ไม่ได้หยุดความหวาดกลัวของพวกเขาเลย ผู้หญิงบางคนร้องไห้ออกมา, ในขณะที่คนหนุ่มบางส่วนพยายามจะหลบหนี แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีผู้หลบหนีคนนึงถูกจับได้และถูกตัดแขนขาทิ้ง แทนที่จะฆ่าเขา, อัศวินอันเดธกลับปล่อยให้เขาร้องโอดครวญอยู่บนพื้น
ภาพนี้ทำให้ชาวบ้านทุกคนหวาดกลัว พวกเขาเริ่มกรีดร้องดังขึ้น, แต่ก็ไม่มีใครพยายามที่จะหนีอีก
“พวกเขาจะถูกเอาไปบูชายัญหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นทหารอันเดธ พวกเราควรจะช่วยพวกเขาไหม?” เมอร์ลินถาม
“แน่นอนสิ” อัศวินศักดิ์สิทธิ์โจเซฟพูดโดยไม่ลังเล “พวกเราจำเป็นต้องจับอัศวินอันเดธมาเป็นคนนำทางด้วย”
องค์หญิงมิลด้าไม่เห็นด้วยในทันที “ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดถ้าพวกเราไม่เคลื่อนไหวนะ อัศวินอันเดธพวกนี้ได้เชื่อมทางจิตกับเวเวอร์ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกมัน เวเวอร์จะรู้ตัวในทันที, และการลอบโจมตีของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย”
แผนการของพวกเขาในครั้งนี้คือการจู่โจม ยิ่งมันกระทันหันและรวดเร็วเท่าไหร่, โอกาสที่มันจะสำเร็จก็ยิ่งสูงขึ้นเท่าน้น
โจเซฟกำลังจะพูดเถียง, แต่ว่าในที่สุด, เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วหยุดพูด การช่วยเหลือชาวบ้านในตอนนี้จะทำให้แผนการโดยรวมของพวกเขาเสียกระบวน อย่างไรก็ตาม, การปล่อยให้ชาวบ้านเหล่านี้ตกสู่นรกแห่งความมืดมิดและความเศร้านั้นก็ถือว่าเป็นการขัดต่อโบสถ์
“ไม่ต้องกังวลหรอกหน่า” ลิงค์ปลอบเขา “ถ้าพวกเรารีบไปถึงเมืองผีก่อนพวกมันแล้วเอาชนะเวเวอร์ได้หล่ะก็, พวกชาวบ้านก็จะปลอดภัยแล้ว”
พวกคนจากโบสถ์พยักหน้า, แต่ว่าสีหน้าของพวกเขาทุกคนนั้นก็ยังหนักหน่วง
จากนั้นลิงค์ก็พูดกับเมอร์ลิน “พวกเราต้องเร่งความเร็วแล้วหล่ะ ความแข็งแกร่งของเวเวอร์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล!”
เมอร์ลินพยักหน้าแล้วสั่งนักบินที่อยู่ข้างๆเขา “ขยายระยะตรวจจับเป็น 30 ไมล์แล้วใช้เวทย์ตรวจจับเลือนลางด้วย!”
ภาพใหญ่ขึ้นแล้วหยุดแสดงรายละเอียดเฉพาะในทันที มันแสดงแค่กระแสออร่าทั่วๆไปเพียงเท่านั้น ออร่าพวกนี้มีสีแตกต่างกันทั้งหมดและเคลื่อนไหวอยู่ตลอด, ทำให้มันดูเหมือนกับภาพเรดาร์ตรวจอากาศ
หลังจากที่บินไปได้ประมาณ 100 ไมล์, เมอลินก็ชี้ไปที่หย่อมสีดำขนาดใหญ่ “ดูที่ป่านี่สิ มันมีออร่าแห่งความมืดสูงกว่าบริเวณโดยรอบตั้งห้าเปอร์เซ็นแหน่ะ มันต้องมีความหมายอะไรบางอย่างแน่ๆ!”
จากนั้น, เขาก็ส่งสัญญาณให้นักบิน นักบินตัวจิ๋วคนนี้ก็จัดการกับผนึกเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องหน้าเขา, แล้วภาพก็คมชัดขึ้นในทันที, เผยให้เห็นป่าหนาทึบทางใต้
อัศวินศักดิ์โจเซฟมองแค่แวบเดียวก่อนที่จะพูดออกมา “ป่าแห่งนี้ไม่ปกติเลย มันมืดเกินไปและแทบไม่มีสัตว์อยู่เลย!”
ภาพกำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นพักนึง, ลิงค์ก็อุทานออกมา “หยุดก่อน! ดูพื้นที่ตรงนั้นสิ!”
จากนั้นภาพก็หยุดลง มันเผยให้เห็นหมอกหนาทรงกลมที่ลอยเหนือป่าทั้งหมด มันปกคลุมพื้นที่หนึ่งพันตารางไมล์, ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะดูว่าข้างในนั้นมีอะไร
นี่เป็นป่าหมอกพิษเดลอนก้า ดังนั้นการที่มีหมอกพิษในป่านั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะปกติ อย่างไรก็ตาม, ภาพได้แสดงกลุ่มหมอกมากมาย, และมันก็หนาจนผิดปกติ ซึ่งนี่มันเกินกว่าขีดจำกัดที่ธรรมชาติจะสร้างได้
“นายช่วยสแกนออร่าในพื้นที่นี้ให้หน่อยได้ไหม?” ลิงค์ถามเมอร์ลิน
“ได้สิ” เมอร์ลินดีดนิ้ว, แล้วพื้นที่ก็เปลี่ยนเป็นแผนที่กระแสออร่า
สิ่งที่แปลกก็คือไม่มีคลื่นออร่าผิดปกติในพื้นที่หมอกนี้เลย ดูเหมือนว่ามันจะกลมกลืนกับส่วนที่เหลือของป่าอย่างสมบูรณ์
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่,” โรมิลสันพูด
“ไม่, ความผิดปกติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือไม่มีอะไรผิดปกติเนี่ยหล่ะ พวกเราก็เห็นนี่ว่าหมอกในบริเวณนี้มันหนากว่าบริเวณรอบๆ พื้นที่หมอกรอบๆนั้นเต็มไปด้วยสารพิษ พื้นที่นี้ก็เหมือนกัน, แต่ตามหลักเหตุผลแล้ว, ความเป็นพิษของมันน่าจะสูงกว่าสิเพราะหมอกหนากว่า แต่นี่มันเหมือนกันเด้ะเลย!”
“คงมีใครบางคนจงใจปกปิดมัน” มิลด้าคิดตาม
“เมอร์ลิน, พวกเรามองทะลุหมอกได้ไหม?” ลิงค์ถามอีกครั้ง
เมอร์ลินยักไหล่ “ทำไม่ได้หรอก เจ้าต้องรู้นะว่า, พวกเราอยู่สูงกว่ามันตั้ง 18 ไมล์ การแสดงภาพละเอียดนั้นถึงขีดจำกัดแล้ว”
“ถ้างั้นพวกเราก็ต้องลงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง หมอกเต็มไปด้วยพิษธรรมชาติ, ดังนั้นยาแก้พิษระดับกลางก็น่าจะได้ผลแล้ว เอาหล่ะ, เมอร์ลิน, หาพื้นที่ปล่อยพวกเราลงที นายไม่จำเป็นต้องเข้าไปไกล้เกินไปนะ แค่รอพวกเราอยู่ข้างนอกก็พอแล้ว”
“ไม่มีปัญหา”
เรือเหาะเริ่มลดระดับลงและหยุดที่ความสูง 1,000 ฟุต ประตูเรือเหาะเปิดแล้วคนก็เริ่มกระโดดออกไปทีละคน ในตอนที่อัศวินศักดิ์สิทธิ์กระโดดลงไป, ลิงค์ได้ร่ายเวทย์ลอยใส่พวกเขาแต่ละคน จากนั้นมันก็ถึงตาของโรมิลสัน
ชายคนนี้เป็นโรคกลัวความสูงขั้นรุนแรง เขาเกาะประตูในขณะที่ตัวสั่น, เขากลัวเกินกว่าที่จะมองลงไป
“องค์หญิง, ลิงค์, ทั้งสองคนลงไปก่อนเลย ข้าขอเวลาเตรียมใจหน่อย”
“ไอขี้ขลาดเอ้ย!” มิลด้าเดินมาหาด้วยความหงุดหงิดแล้วเตะก้นเขา โรมิลสันกรีดร้องแล้วร่วงลงไป
ลิงค์ร่ายเวทย์ลอยใส่เขาอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้น, ด้วยสภาพของโรมิลสันในตอนนี้, เขาอาจจะกลายเป็นนักเวทย์คนแรกที่ตายด้วยการตกที่สูง
หลังจากเตะเขา, มิลด้าก็ยิ้มให้ลิงค์ “เขาคงจะใช้เวลาเตรียมใจทั้งชาติ, ดังนั้นต้องมีคนช่วยเขา”
พอพูดจบ, เธอก็กระโดดลงไป, ทิ้งลิงค์ไว้คนเดียว
นักบวชสองคนมีหน้าที่ในการรักษา, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้และอยู่ในเรือเหาะ
ในตอนนี้, มีนักบวชคนนึงเดินเข้ามา, แล้วส่งของแกะสลักขนาดเท่าฝ่ามือให้กับลิงค์ “มาสเตอร์ลิงค์, นี่คือของแกะสลักของนักบุญราฟาเอล มันถูกเก็บเอาไว้ในโบสถ์เมืองฮอทสปริงและมีประวัติศาสตร์กว่า 200 ปี หัวหน้าบาทหลวงเทโรลล์ได้ขอให้ข้าเอามันมาให้ท่าน มันเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์เลเวล 9 เอาไว้ โปรดเอาไปเผื่อด้วย, แต่ข้าหวังว่าท่านจะไม่จำเป็นต้องใช้มันนะ”
ลิงค์รับของสลัก “ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ!”
นี่หมายความว่าเขามีแผนสำรองที่สามารถช่วยชีวิตของเขาได้แล้ว หลังจากที่เก็บของสลักอย่างระมัดระวัง ลิงค์ก็กระโดดลงไป
เพื่อที่จะเก็บเรื่องเรือเหาะเอาไว้เป็นความลับ, ทุกคนจึงลงนอกบริเวณป่า ในตอนที่ลิงค์กับคนอื่นๆมาถึงพื้น, เรือเหาะก็ลอยสูงขึ้นในทันทีและกลับไปซ่อนตัวในกลีบเมฆ
“เอาหล่ะ, มาสำรวจป่ากันต่อและเตรียมส่งกำลังเสริมทุกเมื่อ!” เมอร์ลินสั่ง
…
ภาคพื้นดิน
ลิงค์กับคนที่เหลือได้ลงมาถึงพื้นกันหมดแล้ว รวมทั้งนานะด้วย, มีทั้งหมด 14 คน, และพวกเขาก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
ลิงค์สังเกตุสถานการณ์รอบๆ เขาเห็นว่ามีต้นบีชขนาดใหญ่หลายต้นที่บดบังแสงอาทิตย์เอาไว้ มีชั้นของใบไม้แห้งหนาบนพื้น มีบึงกับบ่อโคลนให้เห็นทุกที่, ซึ่งพวกมันได้ส่งกลิ่นเหม็นลอยฟุ้งไปหมด ทั้งป่านั้นมืดทึบ, อับชื้น, และเสื่อมโทรม
“โถ่, ไอพวกยุงเวรเอ้ย!” โรมิลสันตบตัวเองอย่างกระทันหัน ในตอนที่เขาเอามือออก, ทุกคนก็เห็นว่ามีศพยุงตัวใหญ่บนหน้าเขา จากนั้นตุ่มสีแดงขนาดเท่านิ้วโป้งก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
มันทั้งเจ็บและคัน โรมิลสันเอามือออกมาเกา, แต่เขาก็ไม่กล้าออกแรงมาก เขาเกือบร้องออกมา
หลังจากนั้น, คนอื่นๆก็ถูกแมลงโจมตีเช่นกัน พวกเขาพึ่งจะมาถึงพื้นแต่ก็เจอความวุ่นวายเล็กๆแล้ว นี่เป็นความวุ่นวายที่คาดไม่ถึง และที่แย่ยิ่งกว่านั้น, พวกเขาทุกคนมาจากดินแดนทางเหนือ, ดังนั้นจึงไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับป่าทางใต้ พวกเขาเตรียมตัวมาไม่พอ
นานะเป็นคนที่สบายที่สุด ไม่มีแมลงตัวไหนกัดทะลุเปลือกโลหะของเธอได้ พอเห็นความลำบากของทุกคน, เธอก็พบว่ามันแปลก “นายท่าน” เธอถามลิงค์ “นานะควรจะเอาแมลงขึ้นลิสท์ที่ต้องถูกกำจัดด้วยไหม?”
“…ไม่ต้องเลยนะ” ลิงค์พูดไม่ออก นานะก้าวร้าวมากจนเธอคิดจะกวาดล้างแม้กระทั่งพวกแมลง
ไม่กี่นาทีต่อมา, มิลด้าก็ถูกกัดที่คอ เธอเอาน้ำทิพย์เอลฟ์ออกมาแล้วดื่มมันหมดขวด การรักษาแมลงกัดต่อด้วยยาศักดิ์สิทธิ์นั้นพูดตามตรงแล้วมันเหมือนกับการใช้ปืนใหญ่ฆ่ายุง
หลังจากนั้นพักนึง, ลิงค์ก็ยื่นคทาออกมาแล้วร่ายเวทย์นึกหวีด ด้วยเสียงตุ้บ, งูสีดำก็ร่วงลงมาบนกองใบไม้, ลิงค์เดินไปถลกหนังมันด้วยความชำนาญ จากนั้นเขาก็เอาถุงน้ำดีออกมา
“ทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?” โรมิลสันถาม
“งูพวกนี้กินแมลงและเป็นศัตรูตามธรรมชาติของพวกแมลงด้วย กลิ่นน้ำดีของมันสามารถใช้ไล่แมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พอลิงค์พูดจบ, เขาก็ระเบิดถุงน้ำดี จากนั้นด้วยการใช้เวทย์ลม, เขาก็เปลี่ยนน้ำดีให้เป็นไอและพัดมันใส่ทุกคนเบาๆ
ลิงค์เรียนรู้เรื่องนี้มาจากนิตยาสารชีววิทยา มันอธิบายถึงวิธีการเอาตัวรอดในป่าทางใต้, และตอนนี้, ความรู้นั้นก็ได้ถูกเอามาใช้ในที่สุด
พวกเขาถูกกัดน้อยลงจริงๆหลังจากที่พวกเขาถูกปกคลุมด้วยกลิ่นงูดำ ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะไม่อย่างนั้น, พวกเขาอาจจะเสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้ได้ถ้ายุงมาบินหึ่งๆที่ข้างหูของพวกเขา
หลังจากนั้น, อัศวินศักดิ์สิทธิ์โจเซฟก็เดินนำกลุ่ม ลิงค์เดินตามหลังเขา, คอยบอกทาง หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งไมล์, หมอกก็หนาขึ้นมาอย่างกระทันหัน, และมีกลิ่นฉุนฟุ้งอยู่ด้วย
“พวกเรามาถึงพื้นที่หมอกพิษแล้ว ทุกคน, ดื่มยาแก้พิษระดับกลางซะ” ลิงค์เอายาสีเขียวออกมาแล้วดื่มมันจนหมด เขาได้รับยานี้มาจากเกรนซี่, และมันก็ได้ผลมากๆ
คนที่เหลือก็เริ่มดื่มเหมือนกัน ในฐานะนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด, โจเซฟยังคอยเฝ้าระวังในขณะที่ดื่ม เขาสอดส่องทุกทิศทาง, และระวังทุกๆอย่าง ทันใดนั้นเอง, เงาสีดำก็วิ่งผ่านหางตาของเขา เขารู้สึกตกใจและพอดื่มยาหมดเขาก็ชักดาบออกมา
“ระวังด้วย พวกเราอาจจะถูกอันเดธเจอตัวแล้ว”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ก็มีข้อความปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์
เปิดใช้งานภารกิจ: เมืองผีของเวเวอร์
ภารกิจขั้นแรก: ตามหาตำแหน่งที่แน่นอนของเมืองผี
รางวัลภารกิจ: หนังสือแก่นแท้แห่งเพลิงเลเวล 8
ลิงค์สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วรับมัน
คอมเม้นต์