Advent of the Archmage – Chapter 283: เมืองผี (2)
ป่าหมอกพิษ
“ดูนั่น!” โจเซฟจ้องไปยังพื้นที่ที่เขาเห็นเงาสีดำ นี่เป็นพื้นที่เฉอะแฉะ, รอยเท้าจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจนบนพื้นที่นุ่มๆนี้
ลิงค์เดินไปตรวจสอบอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ขนาดของรอยเท้ายาวประมาณหนึ่งฟุตและลึกประมาณครึ่งฟุต ดูเหมือนว่าจะเป็นปีศาจที่เดินสองขานะ มันก้าวขาได้กว้างมากๆ แค่ก้าวเดียวก็ครอบคลุมระยะถึงเก้าฟุตแล้ว ผมคิดว่าปีศาจตัวนี้น่าจะสูงอย่างน้อยเก้าฟุตและหนัก 1540 ปอนด์ มันแข็งแกร่งมากจริงๆ!”
จากนั้นเขาก็เดินวนรอบพื้นที่และพบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรวดเร็ว “มีกลิ่นของดินประสิวและกำมะถันอยู่ในอากาศด้วย ดูจากรอยเท้านี้, ผมคาดว่าปีศาจตัวนี้คงไม่สามารถควบคุมพลังของมันได้หลังจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์อย่างกระทันหันของพื้นที่นี้ ที่พื้นที่รอบๆรอยเท้ามีรอยไหม้อยู่ด้วย ถ้าผมคิดไม่ผิด, นี่คงจะเป็นปีศาจเพลิงโฟดอร์ มันน่าจะมีความแข็งแกร่งประมาณเลเวล 7”
ปีศาจเพลิงโฟดอร์
ปีศาจระดับสูง
รายละเอียด: ปีศาจตัวนี้ควบคุมพลังเพลิงปีศาจ มันใช้มีดสปาต้าเพลิงเป็นอาวุธ โดยปกติแล้ว, ปีศาจตัวนี้จะมีความแข็งแกร่งเลเวล 6 ขึ้นไป และปีศาจเพลิงโฟดอร์ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะแข็งแกร่งได้ถึงเลเวล 7 พอพวกมันเริ่มมีอายุ, เทคนิคเพลิงและดาบของพวกมันจะสามารถสร้างความหวาดกลัวให้ได้แม้กระทั่งนักรบที่กล้าหาญที่สุด!
(นักรบเพลิงไร้เทียมทาน)
ในตอนที่ทุกคนได้ฟังการคาดการณ์ของลิงค์, ใบหน้าของพวกเขาก็ถูกความหวาดกลัวกลืนกิน มิลด้าถอนหายใจออกมา “ดูเหมือนว่าปีศาจระดับสูงจะมาช่วยเวเวอร์จริงๆสินะ”
ลิงค์ยืนขึ้นแล้วทำความสะอาดฝุ่นบนมือของเขาที่เกิดจากการตรวจสอบรอยเท้า จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ก็กะเอาไว้แล้วหล่ะนะ โจเซฟ, จากนี้ไป, พวกเราจะได้เผชิญหน้ากับคลื่นนักรบอันเดธและปีศาจติดต่อกัน เตรียมธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์เอาไว้นะ”
เนื่องจากมันมีผลในการต่อกรกับกลู, ตอนนี้ส่วนผสมในการสร้างธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์จึงแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าทางโบสถ์เองก็ได้ครอบครองสิ่งนี้และยังทำการปรับปรุงมันให้ดีขึ้นอีกด้วย แร่เงินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่ารุ่นดั้งเดิมของลิงค์ถึง 50%
“ข้าเข้าใจแล้ว”
โจเซฟเอาขวดออกมาแล้วเริ่มเทของเหลวเงินศักดิ์สิทธิ์ลงไปในช่องพิเศษที่ทำเอาไว้ในดาบกางเขนของพวกเขา ด้วยวิธีนี้, เพียงแค่ดาบของอัศวินศักดิ์สิทธิ์สัมผัสกับศัตรู, แร่เงินศักดิ์สิทธิ์ก็จะฉีดเข้าไปในร่างกายของพวกเขา
อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆเองก็ทำเหมือนกัน
จากนั้นลิงค์ก็บอกกับนานะ “นับจากนี้ไป, เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันตรวจพบตัวตนของปีศาจ, ให้กำจัดพวกมันในทันทีนะ!”
“นานะเข้าใจแล้วค่ะ, นายท่าน!”
แกร้ง! ด้วยเสียงโลหะเบา, นานะก็เอาดาบสั้นระดับอีพิคของเธอออกมาสองเล่ม ดาบสั้นทั้งสองเล่มนี้งดงามมาก, โดยเฉพาะฝันร้ายสิ้นสุด ในตอนที่มันปรากฎออกมา, ก็มีคลื่นอากาศเกิดขึ้นรอบตัวนานะ, ซึ่งนี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของดาบสั้นเล่มนี้ และนี่ก็ทำให้นานะดูน่าเกรงขามมากๆ
โรมิลสันกับมิลด้ารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับดาบสั้นสองเล่มนี้มาก มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของดาบสั้นระดับอีพิคสองเล่มนี้ พวกเขาอดอุทานออกมาไม่ได้
โรมิลสันพูดด้วยความไม่เชื่อ “อาวุธสองชิ้นนี้มาจากที่ไหนกัน? ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นบันทึกเกี่ยวกับพวกมันมาก่อนเลยหล่ะ?”
ทำไมอาวุธคุณภาพสูงระดับนี้ที่สร้างความประทับใจให้ได้แม้กระทั่งไฮเอลฟ์ถึงไม่ถูกเขียนลงในบันทึกประวัติศาสตร์เลยหล่ะ?
มิลด้าที่อยู่ไม่ไกลจากโรมิลสันถามขึ้น “ลิงค์, เจ้าเพิ่งสร้างพวกมันขึ้นมาใช่ไหม?”
จากนั้นลิงค์ก็พยักหน้าเป็นการยอมรับแล้วพูดออกมา “ผมใช้เรี่ยวแรงไปมากเลยหล่ะเพื่อสร้างพวกมันขึ้นมา เอาจริงๆผมว่ามันเกี่ยวกับโชคด้วย ถ้าให้ผมสร้างมันขึ้นมาอีก, ผมอาจจะไม่สามารถสร้างสิ่งที่มหัศจรรย์แบบนี้ได้อีกแล้ว
แม้ว่าลิงค์จะพยายามถ่อมตัวแล้ว, แต่มันก็ยังทำให้ไฮเอลฟ์รู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี
โจเซฟ, ในอีกด้านนึง, ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับดาบสั้นสองเล่มนี้ เขาแค่รู้สึกว่าพวกมันงดงามและละเอียดอ่อนมากๆ นานาเองก็ดูแข็งแกร่ง, ซึ่งนี่คงจะช่วยเหลือพวกเขาได้ในการต่อสู้ในอนาคตของพวกเขา
“ไปกันเถอะ; เวลามีจำกัดนะ” เขากระตุ้นให้คนที่เหลือเดินหน้าต่อ
ทุกคนตามหลังเขาไปติดๆ หลังจากผ่านไปสิบนาที, พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ
“ข้าคิดว่าพวกเรากลับมาที่เดิมแล้วหล่ะ ดูสิ, นี่เป็นที่ที่พวกเราเคยเดินผ่าน” โจเซฟชี้ไปที่จุกก๊อกที่ห่อด้วยกระดาษอลูมิเนียมที่อยู่บนพื้น มันคือสิ่งที่พวกเขาโยนทิ้งในตอนที่พวกเขาดื่มยา สภาพแวดล้อมรอบๆก็ดูคุ้นตาเช่นกัน เมื่อพวกเขาดูข้างๆ, รอยเท้าที่ปีศาจเพลิงโฟดอร์ทิ้งเอาไว้ก็อยู่ตรงนั้น
จากนั้นโรมิลสันก็เยาะเย้ยในขณะที่พูด “มันต้องเป็นฝีมือของเวทย์แสงลวงตาแน่ๆ งานง่ายๆ, ข้าจะทำลายมันโดยใช้เวทย์แสงนำทาง!”
เขายกคทาขึ้นแล้วใส่มานาเข้าไป จากนั้นลำแสงเข้มข้นสีเขียวมรกตก็พุ่งออกมาจากคทาของเขา
ในตอนที่ลำแสงปรากฎขึ้น, ใบหน้าของโรมิลสันก็ขุ่นมัว
เหตุผลนั้นง่ายมาก ถ้าภาพลวงตามันเกิดจากเวทย์แสงลวงตา, ลำแสงก็ควรจะโค้งงอและเป็นคลื่น จากคุณสมบัติของแสง, พวกเขาแค่ต้องตามเส้นแสงนี้ไปเพื่อพาพวกเขาออกจากพื้นที่นี้
อย่างไรก็ตาม, ลำแสงสีเขียวมรกตนี้กลับพุ่งเป็นเส้นตรง ซึ่งนี่บ่งบอกว่าพื้นที่ที่พวกเขาอยู่นั้นไม่ได้โดนผลเวทย์แสงลวงตา แต่ว่า, พวกเขาเองก็ได้กลับมายังจุดเริ่มต้นแม้ว่าพวกเขาจะเดินทางเป็นเส้นตรงก็ตาม…ซึ่งโรมิลสันไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้
เรื่องดูซับซ้อนยิ่งขึ้น
มิลด้าคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าเกรงว่าแสงจะไม่ใช่สิ่งที่บิดเบือนพื้นที่แห่งนี้นะ มันอาจจะเป็นมิติ นี่น่าจะเป็นเวทย์เทพปีศาจที่เวเวอร์ร่ายออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง…ลิงค์, เจ้าคิดว่ายังไง?”
เธอไม่สามารถพึ่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้สำหรับงานที่ต้องใช้สติปัญญามากขนาดนี้, ส่วนโรมิลสันเองก็พ่ายแพ้ให้กับอุบายนี้ไปแล้ว นอกจากนี้, ลิงค์ก็เป็นคนๆเดียวที่ทำการวิจัยเวทย์มิติอย่างเข้มข้น ดังนั้นเขาเป็นคนๆเดียวที่มิลด้าสามารถหันไปพึ่งได้
อันที่จริง, ในตอนที่ลิงค์รู้ตัวว่าพวกเขากลับมายังตำแหน่งเดิม เขาก็เริ่มตรวจสอบรอบๆในทันที และเขาก็ได้ลองร่ายเวทย์สองสามเวทย์เพื่อทดสอบดู
ในตอนที่มิลด้าถามเขา, เขายังทำการทดสอบอยู่
หลังจากผ่านไปห้านาที, เขาก็เดินกลับมาพูด “มิติของพื้นที่นี้ถูกบิดเบือนจริงๆ แต่ว่า, จุดที่บิดเบี้ยวนั้นเล็กมากๆ, ทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะตรวจพบ แต่ก็ยังมีการทดสอบที่พวกเราสามารถทำเพื่อระบุจุดที่ว่านี้ได้นะ ดูนี่”
จากนั้นบอลสีเงินก็ปรากฎขึ้นในมือของลิงค์, แล้วเขาก็ใช้สนามพลังเวกเตอร์เพื่อเหวี่ยงมันขึ้นไป ในขณะที่บอลเริ่มสูงขึ้น, มันก็เดินทางเป็นเส้นตรง อย่างไรก็ตาม, พอมาถึงความสูงที่ 15 ฟุต, เส้นวิถีของมันก็เริ่มโค้งอย่างผิดปกติ
“ความบิดเบือนของมิตินั้นมาพร้อมกับสนามพลังอย่างแน่นอน สนามพลังนี้แทบจะไม่มีผลกับลำแสง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมในตอนที่โรมิลสันยิงลำแสงออกมา, มันถึงยังเป็นเส้นตรงอยู่ แต่ว่า, สนามพลังนี้จะมีผลกับวัตถุสัมผัสได้ที่มีน้ำหนักเพียงพอ, โดยเฉพาะในตอนที่พวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง สนามพลังจะทำให้วิถีของมันเปลี่ยนไป”
ในขณะที่ลิงค์พูด, เขาก็ใช้มือแห่งนักเวทย์ดึงลูกบอลสีเงินของเขากลับมา จากนั้นเขาก็ใช้คทาของเขาวาดเส้นกับรูนมากมายในอากาศ, ดูเหมือนว่าเขากำลังคำนวณอะไรบางอย่าง
หลังจากผ่านไปประมาณห้าวินาที, เขาก็พูดออกมา “ผมคิดว่ามิติบิดเบือนที่นี่ไม่ใช่ฝีมือเวเวอร์นะ, แต่เป็นฝีมือของปีศาจมิติ!”
ปีศาจมิติ
ปีศาจระดับสูง
รายละเอียด: ปีศาจตัวนี้มีความสามารถในการควบคุมมิติได้ตั้งแต่เกิด มันสามารถใช้มิติเป็นโล่ปกป้องร่างกายภาพของมันและยังได้รับผลปกปิดด้วย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมมันถึงเป็นปีศาจนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุด!
(หมายเหตุ: ปีศาจตัวนี้เป็นฝันร้ายของนักเวทย์ทุกคน!)
ในตอนที่เอ่ยชื่อปีศาจมิติออกมา, ใบหน้าของทุกคนรวมทั้งอัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็ซีดเผือดพร้อมกัน
เหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าปีศาจตัวนี้ลอบสังหารสำเร็จมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วในโลกแห่งฟิรุแมน ซึ่งนี่เกิดขึ้นทั้งไฮเอลฟ์และมนุษย์
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันเกิดขึ้นประมาณ 300 ปีที่แล้ว ซึ่งเป้าหมายของมันก็คือนักเวทย์ในตำนานไบรอันท์ หลังจากการลอบสังหาร, ปีศาจมิติได้หนีไปพร้อมกับบาดแผลร้ายแรงในขณะที่ไบรอันท์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย, เหลือเอาไว้แค่เลือดจำนวนมากในฉากต่อสู้
หลายๆคนเชื่อว่าไบรอันท์นั้นถูกปีศาจมิติเขมือบตายคาที่
ดังนั้นพวกเขาจะไม่รู้สึกกลัวได้ยังไงหล่ะในเมื่อมีนักฆ่าที่น่าหวาดกลัวขนาดนั้นปรากฎขึ้นในป่าหมอกพิษ?
โรมิลสันกลืนน้ำลายอย่างรวดเร็ว เขาเป็นนักเวทย์เลเวล 7 และรู้จักเวทย์โจมตีจิตใจมากมาย อย่างไรก็ตาม, เขารู้ว่าไม่มีเวทย์ไหนของเขาที่ได้ผลกับปีศาจมิติ
คุณสามารถทำลายสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ตามที่ต้องการ ส่วนปีศาจมิตินั้นก็แค่ซ่อนตัวอยู่อย่างปลอดภัยในช่องว่างมิติของมันและโจมตีในตอนที่คุณหมดแรงเพื่อจบการต่อสู้
“พวกเราควรจะทำยังไงกันดี?” โรมิลสันมองลิงค์ด้วยสีหน้ากังวล ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูเหมือนจะมีน้ำตาปริ่มๆ
จากนั้นทุกคนก็หันไปมองลิงค์ เขาเป็นคนๆเดียวที่สามารถคิดวิธีแก้ปัญหานี้ได้
ลิงค์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาแค่เริ่มร่ายเวทย์และเอาคทาของเขาแต่อากาศเบาๆ จากนั้นบอลโปร่งแสงขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฎขึ้นในอากาศและลอยนิ่งไม่ขยับไปไหน
จากนั้นเขาก็บอกกับโรมิลสัน “ใช้เวทย์แสงนำทางของนายแล้วยิงมันผ่านใจกลางของลูกบอลนี้ซะ”
“เข้าใจแล้ว” แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมลิงค์ถึงขออะไรแปลกๆแบบนี้, แต่โรมิลสันก็ทำตามคำแนะนำในทันที
ลำแสงสีเขียวมรกตถูกยิงออกมา, และมันก็ยังพุ่งเป็นเส้นตรงเหมือนเดิม จากนั้นลิงค์ก็หันไปคุยกับนานะ “ระวังรอบข้างให้ดี หากมีความบิดเบือนในมิติ, ให้รีบเคลื่อนไหวเลยนะ”
“นานะเข้าใจแล้ว!” จากนั้นนานะก็ตั้งท่าต่อสู้ เธอจะให้การสนับสนุนในตอนที่เธอรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
แล้วลิงค์ก็พูดกับทุกๆคน “ตื่นตัวเอาไว้แล้วตามผมมา โรมิลสัน, นายก็ตามมาด้วยนะ แล้วก็เปิดใช้เวทย์แสงนำทางเอาไว้ด้วย! ส่วนมิลด้า, ชาร์จเวทย์ป้องกันเลเวล 7 ซะแต่ยังไม่ต้องปล่อยออกมานะ เมื่อเธอมั่นใจว่ากำลังจะมีคนได้รับบาดเจ็บ, ให้ปกป้องเหยื่อในทันที”
“เข้าใจแล้ว” ไฮเอลฟ์ทั้งสองคนพยักหน้า
จากนั้นลิงค์ก็เริ่มเดินหน้า เขาเดินไปในทิศทางแปลกๆ, มันไม่ใช่เส้นทางตามวิถีของเวทย์แสงนำทาง เขาเบี่ยงออกมาจากลำแสงเล็กน้อย, แล้วในขณะที่เดิน, เขาก็อธิบาย “ผมได้คำนวณความโค้งของมิตินี้เอาไว้แล้วเมื่อสักครู่นี้ ลำแสงนี้จะสะท้อนโครงสร้างที่แท้จริงของมิตินี้ จากความโค้งผมได้เปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างกับเส้นทางที่พวกเราควรมุ่งหน้าไป จากมุมที่สูงกว่า, ลำแสงนี้คือความโค้งจริงๆ, และถึงแม้ว่าเส้นทางที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปนั้นอาจจะดูเลี้ยวไปเลี้ยวมาในมิตินี้, แต่จริงๆแล้วมันคือทางตรงที่แท้จริง”
คำพูดเหล่านี้ฟังดูน่าสับสนเล็กน้อย อัศวินศักดิ์สิทธิ์รู้สึกเหมือนกับการพยายามฆ่าตัวตายในการทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ลิงค์เพิ่งจะพูดออกมา อย่างไรก็ตาม, ไฮเอลฟ์ทั้งสองคนนั้นเข้าใจมันเป็นอย่างดี
นี่เป็นแค่พื้นฐานของเวทย์มิติและไม่ได้ยากเลย
จากนั้นมิลด้าก็ถามขึ้น “ลูกบอลเล็กๆที่เจ้าปล่อยออกมาก่อนหน้านี้—มันคือจุดยึดหรอ?”
“ใช่ ผมต้องทำให้มั่นใจว่าจุดเริ่มต้นของลำแสงจะไม่ถูกปีศาจมิติเปลี่ยน, ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมจุดยึดถึงจำเป็น อันที่จริง, พวกเราต้องสร้างจุดยึดใหม่ทุกๆ 300 ฟุตด้วย พวกเราจะต้องทำกระบวนการนี้ซ้ำอีกสองสามครั้ง, พวกเราถึงจะออกจากมิติบิดเบือนนี้ได้”
ในขณะที่ลิงค์อธิบาย, พวกเขาก็มาถึงจุดมาร์ค 300 ฟุต ระยะทางนี้คือขีดจำกัดสำหรับการควบคุมเวทย์แสงนำทางจากระยะไกลแล้ว ดังนั้นลิงค์จึงปล่อยจุดยึดใหม่ออกมา
หลังจากนั้น, เขาก็ไม่ได้ออกเดินทางในทันที แต่เขากลับเริ่มทดสอบและคำนวณรอบใหม่
หลังจากการคำนวณที่ไม่มีใครเข้าใจ, ลิงค์ก็ชี้ไปยังทิศทางนึงแล้วพูด “เมื่อสักครู่นี้, ปีศาจมิติได้ปรับแต่งอะไรบางอย่างกับมิติบิดเบี้ยวนี้ ดังนั้น, นี่เป็นทิศทางที่พวกเราต้องไป โรมิลสัน, ใช้เวทย์แสงนำทางตรงนี้ซะ”
“เข้าใจแล้ว” โรมิลสันจะทำตามทุกอย่างที่ลิงค์บอกให้เขาทำ
หลังจากที่ลำแสงถูกยิงไปทางนั้น, ลิงค์ก็พากลุ่มเดินหน้าต่ออีกครั้ง ครั้งนี้, เส้นทางของเขาแปลกยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่ทางที่ให้ความรู้สึกว่าพวกเขากำลังเดินเป็นเส้นตรงเลย ลิงค์จะพาพวกเขาเลี้ยวจากซ้ายไปขวาแล้วก็ซ้ายอีกครั้ง, ซึ่งเขาจะหยุดบ่อยมากเพื่อทำการทดสอบบางอย่าง
คนอื่นๆมองการกระทำเหล่านี้ไม่ออก อย่างไรก็ตาม, มิลด้ากลับมองทั้งกระบวนการนี้ด้วยความหวั่นเกรงและความเข้าใจ
เธอเป็นคนๆเดียวในที่นี้ที่เข้าใจเหตุผลของการกระทำของลิงค์ แม้ว่าสถานการณ์จะดูสงบดี, แต่ลิงค์ก็ได้ต่อสู้กับปีศาจมิติแล้ว
การต่อสู้นี้อาจจะไม่ได้ปรากฎออกมาให้เห็น, แต่มันก็เข้มข้นมากๆ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำพลาดแม้เพียงเล็กน้อย, พวกเขาก็จะต้องเจอกับเคียวของยมทูตในทันที
หลังจากเดินไปได้ประมาณ 150 ฟุต, ลิงค์ก็หยุดเดินอย่างกระทันหันแล้วยกคทาขึ้นมา, “ตัด!”
บอลโปร่งแสงปรากฎขึ้นที่ปลายคทาของเขา ในตอนที่บอลนี้ปรากฎขึ้น, มันก็เปลี่ยนเป็นรูปร่างเป็นเคียวแล้วพุ่งตรงไปยังพื้นที่ว่างเปล่าที่อยู่ข้างหน้า 90 ฟุตอย่างจงใจ
ฉัวะ! การโจมตีนี้โดนอะไรบางอย่างเข้าจริงๆ ในจังหวะต่อมา, อากาศก็ดูเหมือนกำลังบิดเบี้ยว, และเงาสีดำก็ปรากฎขึ้นในบรรยากาศ มันคือปีศาจมิติ!
ในการปะทะกันที่เงียบสงบแต่เข้มข้นนี้, ปีศาจมิติได้พยายามแทรกแซงการตัดสินของลิงค์ด้วยการเปลี่ยนมิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการกระทำอย่างโจ่งแจ้งของเขาก็ได้เปิดเผยที่ซ่อนของเขาในที่สุด!
ลิงค์เป็นผู้ชนะในการต่อสู้ท่ามกลางเงามืดนี้!
“นานะ!”
ตูม! นานะหายไปจากตำแหน่งเดิมของเธอและปรากฎขึ้นที่หน้าปีศาจมิติในทันที จากนั้นดาบสั้นสนับสนุนของเธอก็พยายามแทงปีศาจตัวนี้ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ, แล้วต่อด้วยดาบหลักของเธอ, ฝันร้ายสิ้นสุด, ก็ตามไปติดๆ
เกร้ง! มีเสียงแหลมดังขึ้น ฉัวะ! จากนั้นก็มีเสียงเลือดกระฉูดตามมา บ่อเลือดสีดำทะลักออกมาจากร่างของปีศาจ และในจังหวะต่อมา, ร่างของปีศาจมิติก็หายไปในอากาศ
เขากำลังหนี!
คอมเม้นต์