ตอนที่ 1551 – การโต้กลับ (3)

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งมองดูเจี้ยนเฉินสังหารผู้อาวุโสจาง พวกเขาเสียขวัญ ทำให้ผู้อาวุโสแสดงสีหน้าที่แตกต่างกันอย่างมากและจิตใจของผู้พิทักษ์ก็อดไม่ได้ที่จะปั่นป่วนจนเกือบสูญเสียความสงบ บางคนกลัวและมีความกังวลต่อเจี้ยนเฉิน

ในฐานะจอมยุทธขั้นย้อนกลับ ผู้อาวุโสจางถูกกระบี่ของเจี้ยนเฉินโค่นลงในเวลาที่น้อยกว่าสามกระบวนท่า แม้ว่าผู้อาวุโสจางจะถูกควบคุม แต่สามกระบวนท่าก็เพียงพอที่จะบอกว่าเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังเพียงใด

เจี้ยนเฉินต้องการเพียงแค่สามกระบวนท่าเท่านั้นที่จะฆ่าผู้อาวุโสจางผู้ซึ่งมีพลังในการปลดปล่อยตัวเองได้ชั่วคราว หากเขาโจมตีจอมยุทธขั้นรับมอบคนอื่น ๆ พวกเขามิต้องยืนดูความตายของพวกเขาหรือเพราะว่าพวกเขาถูกพันธนาการอย่างสมบูรณ์หรอกหรือ ? แม้ว่าพวกเขาจะหนีไปในรูปแบบของวิญญาณ มันก็ยากที่พวกเขาจะหลีกเลี่ยงความตาย สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้อาวุโสจางเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่จอมยุทธขั้นรับมอบจากต่างโลกได้ตระหนักถึงสิ่งนี้และพวกเขารู้สึกกลัวเพราะพวกเขาไม่เหมือนกับจอมยุทธขั้นย้อนกลับเลย จอมยุทธขั้นย้อนกลับสามารถปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการได้ชั่วคราวโดยการเปิดเผยความแข็งแกร่งได้อย่างเต็มที่

เจี้ยนเฉินได้พุ่งเข้าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งคนที่สอง เขากำหนดเป้าหมายไปที่ผู้อาวุโสอีกคนโดยไม่สนใจจอมยุทธขั้นรับมอบในตอนนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเสี่ยวหลิง เถี่ยต้า เจียงหยาง หมิงเยว่หรือฮุสตันที่จะสังหารจอมยุทธขั้นรับมอบ จอมยุทธขั้นย้อนกลับเท่านั้นที่สามารถคุกคามพวกเขาได้

ตอนนี้จอมยุทธขั้นย้อนกลับทั้งหมดมีจำนวนจำกัด เขาต้องการฆ่าให้ได้มากที่สุด หากจอมยุทธขั้นย้อนกลับทุกคนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งตายไป ความกดดันที่ทวีปเทียนหยวนต้องเผชิญจะได้ลดน้อยลง

เป้าหมายที่สองของเจี้ยนเฉินคือเจิงจิงหยวน นางเป็นจอมยุทธขั้นย้อนกลับช่วงกลาง แต่นางได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการต่อสู้กับเจียงหยาง หมิงเยว่ นางยังไม่หายดี ดังนั้นบาดแผลจึงยังคงส่งผลกระทบต่อพลังของนางเป็นอย่างมาก มันค่อนข้างง่ายที่จะฆ่านาง

ทันใดนั้นดวงตาของเจิงจิงหยวนก็หรี่แคบลงและนางเริ่มเคร่งเครียด นางรู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งแค่ไหน แม้แต่เฉียงซ่งจอมยุทธขั้นย้อนกลับช่วงปลายก็พ่ายแพ้ต่อเขา แม้ว่านางจะอยู่ในสภาพที่ดี แต่นางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ที่ทรงพลังมาก ตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสและติดกับกระแสลำแสงสีฟ้า

เจิงจิงหยวนไม่สามารถรักษาบาดแผลของนางได้อีกต่อไป นางอดทนกับผลลัพธ์ที่บาดแผลของนางจะแย่ลงอย่างรวดเร็วในขณะที่นางระเบิดกำลังอย่างเต็มที่ นางผลักตัวเองให้ถึงขีดจำกัด บังคับตัวเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อมสูงสุด นางบังคับให้เปิดการควบคุม

อย่างไรก็ตาม นางจ่ายราคาหนักมาก นางกระอักเลือดออกมาเต็มปากและหน้าซีดมากขึ้น บาดแผลของนางแย่ลงอย่างรวดเร็ว นางคงจะอยู่ได้ไม่นาน

เจิงจิงหยวนกัดฟันของนางขณะที่ความตั้งใจทอประกายผ่านดวงตาของนาง ในช่วงเวลาความเป็นความตาย เพียงเพื่อโอกาสในการเอาชีวิตรอดเพียงเล็กน้อย นางก็ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของนางโดยไม่สนใจที่จะทำร้ายแก่นชีวิตของนาง นางเหวี่ยงแส้ของนาง เมื่อมันลอยผ่านอากาศมันก็ยาวขึ้นเรื่อย ๆ ล้อมรอบเจี้ยนเฉินด้วยแสงสีฟ้า เสียงคำรามของมังกรดูเหมือนจะระเบิดขึ้นมาจากแส้ในเวลาเดียวกัน

แววตาที่เย็นชาส่องผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉิน เขาเหวี่ยงกระบี่จือหยิงไปที่แส้พร้อมกับแสงที่สว่างจ้า แส้ระเบิดขึ้นทันทีด้วยแสงสีฟ้า อาวุธทำให้เกิดประกายไฟเมื่อปะทะกัน เสียงคำรามของมังกรที่ดังอึกทึกปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์พร้อมกับกลิ่นอายของมังกร

ในขณะเดียวกันเมื่อกระบี่จือพุ่งเข้ามาสัมผัสกับแส้ มันถูกพันด้วยแส้ซึ่งยาวหลายพันเมตร ซึ่งมันเหมือนอสรพิษที่ว่องไวที่ขดรอบกระบี่จือหยิง

ตาของเจี้ยนเฉินพลันหรี่ลงอย่างกะทันหัน เขาอดไม่ได้ที่จะทดสอบแส้อีกครั้ง แส้สุดพิเศษ เมื่อกระบี่ของเขาแทงเข้าไปที่แส้ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาแทงโดนมังกรแทน ทำให้เกิดประกายไฟเมื่อสัมผัส แส้ดูเหมือนจะถูกเปลี่ยนเป็นมังกร

หลังจากนั้นไม่นานเจี้ยนเฉินสะบัดมือของเขาอย่างรุนแรงและกระบี่จือระเบิดออกไปพร้อมด้วยแสงและปราณกระบี่ทันที มันหลุดพ้นจากพันธนาการของแส้ในขณะเดียวกันกับที่กระบี่ที่ถือบนมือขวา เจี้ยนเฉินแตะแส้เบา ๆ ด้วยปลายเท้าของเขาแล้วพุ่งไปทางเจิงจิงหยวนเหมือนลูกธนู

แส้ของเจิงจิงหยวนโบกสะบัดอย่างดุเดือดในอากาศ แส้เปลี่ยนทิศทางทันทีและในตอนท้ายของมันร่างของมังกรสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นป้องกันไม่ให้เจี้ยนเฉินเข้ามาใกล้ โล่ที่มีความยาวสามเมตรก่อตัวขึ้นจากแส้ขดตัวปรากฏต่อหน้าเจิงจิงหยวนเช่นกัน

เจี้ยนเฉินปกป้องตัวเองด้วยแสงพิเศษของเขา ขณะที่เขาพุ่งไปทางเจิงจิงหยวนเป็นแนวของแสง เขาใช้การโจมตีเพียงครั้งเดียวเพื่อสลายมังกรและเคลื่อนที่ผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงสุด เขาพุ่งเข้าหาเกราะของเจิงจิงหยวนราวกับว่าเขาไม่อาจหยุดได้

กระบี่จือหยิงส่องสว่างขึ้น ปลายกระบี่พุ่งลงสู่กึ่งกลางของโล่และสร้างเสียงอันดังกึกก้อง โล่ได้พังทลายลง เจิงจิงหยวนก็กระอักเลือดออกมา นางปลิวกลับไปอย่างแรง

จิตสังหารอย่างหนักปรากฏในดวงตาของเจี้ยนเฉิน เขาไล่ตามทันทีโดยไม่คิดเพื่อให้เจิงจิงหยวนล้มลงใต้กระบี่ของเขา เขาไม่ได้อ่อนข้อให้นางเพราะนางเป็นผู้หญิง

” เราต้องช่วยเจิงจิงหยวน เขาแข็งแกร่ง แต่การฆ่าเขานั้นก็เป็นเพียงการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งหากเราร่วมมือกัน” ผู้อาวุโสขั้นย้อนกลับให้เหตุผล หลายคนระเบิดพลังขึ้นอย่างแรงในทันทีโดยหลุดจากพันธนาการชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม กระแสของลำแสงสีฟ้าขยายตัวในขณะนั้น ปะทุขึ้นดังสนั่นด้วยแรงที่มากยิ่งขึ้นโดยที่จอมยุทธขั้นย้อนกลับติดอยู่ จอมยุทธขั้นย้อนกลับไม่สามารถทำลายได้ทันเวลาเพื่อช่วยเหลือเจิงจิงหยวนได้อีกต่อไป

ในขณะนี้ เสียงที่ดังกึกก้องได้ดังขึ้น โอวหยางหยิงเว่ยระเบิดพลังพลุ่งพล่านและโจมตีกระแสลำแสงสีฟ้าอย่างเต็มกำลังโดยใช้กระบี่ของเขา ทำให้พวกมันสลายตัวทันที กระแสลำแสงสีฟ้าสามารถพันธนาการจอมยุทธขั้นย้อนกลับช่วงกลางได้ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถหลุดพ้นเป็นอิสระได้อย่างรวดเร็วด้วยกำลังของพวกเขา แต่มันค่อนข้างยากที่จะกักตัวโอวหยางหยิงเว่ยไว้ อย่าลืมว่าโอวหยางหยิงเว่ยนั้นทรงพลังเกินไป ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นเทียบได้กับขั้นแลกเปลี่ยน เขายังคงถูกพันธนาการอยู่ด้วยความตั้งใจของเขาก่อนหน้านี้ในความพยายามที่จะทำให้โถงศักดิ์สิทธิ์อ่อนกำลังลง

หลังจากหลุดเป็นอิสระ โอวหยางหยิงเว่ยพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินโดยไม่ลังเลเลย โลกสีแดงโลหิตปรากฏอยู่ข้างหลังเขาในขณะที่ดวงอาทิตย์สีแดงราวกับเลือดจมอยู่ใต้เส้นขอบฟ้าด้านตะวันตก พระจันทร์เสี้ยวที่มีสีแดงเหมือนเลือดลอยขึ้นอย่างช้า ๆ จากทางทิศตะวันออกลอยขึ้นสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า มันแผ่แสงปีศาจ

“รูปแบบที่หนึ่งของตะวันโลหิตและจันทร์เสี้ยว ! พลังตะวันลา” โอวหยางหยิงเว่ยร้องออกมา ดวงอาทิตย์สีแดงเลือดในโลกแห่งการนองเลือดที่อยู่ข้างหลังเขาดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขา เขาใช้พลังในการสร้างปราณกระบี่ที่น่าตกใจ ปราณกระบี่เป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์มีอำนาจของดวงอาทิตย์สีแดงเลือด มันพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วเหมือนสายฟ้าและแสงสีแดงของปีศาจ