เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 452: เปิดเผยตัวตน

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพกระบี่มรณะ ตอนที่ 452: เปิดเผยตัวตน อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 452: เปิดเผยตัวตน

หลังจากนั้นที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าและราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนก็ได้เข้าสู่เมืองลอร์ และเดินทางไปตามถนนก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ประตูด้านนอกของตระกูลเจียงหยาง ทหารชุดเกราะดำล้อมรอบพื้นที่อย่างรวดเร็วและยืนเฝ้ายามเพื่อคุ้มกันราชา

แม้ว่าที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าอยู่ที่นี่และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายราชา แต่ทหารชุดเกราะดำก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของพวกเขา

ไป๋เต๋าผู้บังคับบัญชาชองทหารชุดเกราะดำยืนอยู่ข้างราชา สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเมื่อมองไปที่ตระกูลเจียงหยาง ในใจของเขามีความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ เขาไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรหลังจากได้ยินคำบอกเล่าจากราชา

ตระกูลเจียงหยางได้ยินมานานแล้วว่าราชากำลังจะมา ดังนั้นสมาชิกระดับสูงกว่าหลายคนจึงรวมตัวกันอยู่ที่ประตู แม้แต่เจียงหยางป้าและเจียงหวูจี่ก็ยังยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับผู้ใหญ่ของตระกูลที่อยู่ด้านหลังพวกเขา เจี้ยนเฉินและเหล่าฮูหยินของเจียงหยางป้าอยู่ข้างหลังพวกผู้อาวุโส

“ตระกูลเจียงหยางยินดีที่ได้ต้อนรับองค์ราชา องค์ราชาเมตตาพวกเรามาก” ผู้นำตระกูลเจียงหยางป้ายิ้ม ในขณะที่เจียงหวูจี่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา

ราชาหยิบของขวัญจากหนึ่งในทหารชุดเกราะดำและส่งมอบให้เจียงหยางป้า เขายิ้มและตรัสว่า นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้มาเมืองลอร์ ครั้งนี้ข้ามีเวลา ข้าจึงตัดสินใจมาเยี่ยมเยียน ข้าหวังว่าข้าไม่ได้มาขัดจังหวะ”

เจียงหยางป้าหัวเราะเบา ๆ เขาพูดกับราชาสองสามคำก่อนที่จะหันไปยังที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าซึ่งอยู่ข้างหลังเขาด้วยท่าทางตกใจ เขารีบโค้งคำนับให้กับพวกเขาและพูดว่า “ข้าผู้นี้ไม่คิดว่าที่ปรึกษาจักรพรรดิผู้ทรงเกียรติจะมาด้วยเช่นกัน ตระกูลเจียงหยางของเราสะเพร่า ได้โปรดเข้ามาเถิด” ใบหน้าของเจียงหยางป้าเคร่งขรึมขึ้นเมื่อหันไปมองที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้า เขาพูดจาอย่างสุภาพนอบน้อม

เจียงหวูจี่โค้งคำนับที่ปรึกษาทั้งห้าคนก่อนที่จะพูดคำคุยกับพวกเขาอย่างสุภาพ จากนั้นเขาเชิญพวกเขาให้เข้าไปข้างในอย่างกระตือรือร้น หากที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนได้เป็นแขกของตระกูลเจียงหยาง พวกเขาก็จะได้รับเกียรติอย่างมาก

แม้แต่ยามและผู้อาวุโสของตระกูลเจียงหยางก็ยังรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขเมื่อเห็นว่าที่ปรึกษาจักรพรรดิเดินเข้ามาในเขตคฤหาสน์

ที่ปรึกษาทั้งห้าคนไม่ต้องการหยาบคายเมื่อเห็นว่าเจียงหยางป้าและเจียงหวูจี่มีความกระตือรือร้นมากเพียงใด พวกเขาทักทายกลับอย่างสุภาพกว่าตอนที่พูดคุยกับคนในพระราชวัง

หลังจากนั้นราชาและทหารชุดเกราะดำที่อยู่รอบตัวเขาก็เดินตามที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าผ่านประตูเข้าไป ราชารีบเอ่ยขึ้นมาว่า “เจียงหยางป้า ข้าได้ยินมาว่าเจียงหยางเซียงเทียนกลับมาแล้ว เขาอยู่ที่ไหน และถ้าเป็นไปได้ข้าขอพบตัวเขาได้หรือไม่ ? ข้ายังไม่เคยเห็นหน้าว่าที่ลูกเขยของตัวเองเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”

เจียงหยางป้ายิ้มแย้มในขณะที่หัวใจของเขาแจ่มใสสว่างไสวเมื่อเขามองไปข้างหลังผู้อาวุโสคนหนึ่งซึ่งเจี้ยนเฉินยืนหลบอยู่ “เซียงเอ๋อ มาคารวะองค์ราชาสิ”

“บางทีอาจเป็นการเหมาะสมกว่าถ้าจะเรียกเขาว่าพ่อตา ” เจียงหวูจี่พูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ราชาก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่งรอยยิ้มกว้าง ขณะที่เจียงหยางป้ามีรอยยิ้มอันร่าเริงบนใบหน้าของเขา

ผู้อาวุโสหลายคนรีบเปิดทาง ขณะที่เจี้ยนเฉินผู้หล่อเหลาเดินมาแสดงความเคารพต่อองค์ราชา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ประจบประแจงหรือหยิ่งยโส “เจียงหยางเซียงเทียนขอคารวะราชา ! “

ราชามองเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาสังเกตเห็นว่าเจี้ยนเฉินผมสั้น หน้าตาที่หล่อเหลาและได้รูป สมบูรณ์แบบไม่มีใครสามารถเทียบได้ ทั้งหมดนี้ถูกรวมเข้ากับผิวสีขาวซีดที่เหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเขาและทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกอิจฉา – เจี้ยนเฉินเกิดมาเพื่อให้หญิงสาวหลงใหลจริง ๆ เขาเติบโตขึ้นมาอย่างจริงจังพร้อมด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและมุ่งมั่นของเขา เขาดูไม่เหมือนคนที่สามารถล้อเล่นได้

ดี ! ดีมาก ! ราชาพอใจมากเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขย เขาพูดออกมาเพียงสามคำเท่านั้น ในฐานะราชา เขาได้พบเห็นผู้คนมามากมาย แต่ถึงกระนั้นเขาก็สามารถบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินไม่เหมือนคนที่เขาเคยเห็น การได้ยินเกี่ยวกับเขาและการได้เห็นเขาด้วยตนเองเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ตอนนี้เมื่อราชาได้พบกับเจี้ยนเฉิน ทัศนคติที่มีต่อเขาจึงดีขึ้น

“เขาเป็นมังกรในหมู่มนุษย์ที่แท้จริง ! ” ราชาถอนหายใจด้วยความชื่นชม เจียงหยางป้ายืนอยู่เคียงข้างเขาด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิ

เมื่อที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าเห็นเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็ตกใจ พวกเขามองไปข้างหน้า ก้าวออกไปและยกมือขึ้นทันทีขณะที่พวกเขาพูดว่า “พวกเราขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ! “

เมื่อทั้งห้าคนพูดว่า ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ใบหน้าของเจียงหยางป้าและราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนนั้นจะแข็งทื่อทันที พวกเขามองดูที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าทักทายเจี้ยนเฉินและยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดเป็นเวลานาน

ผู้อาวุโส ทหารยามของตระกูลเจียงหยางและทหารชุดเกราะดำทุกคนที่คุ้มกันจักรพรรดิก็มีสีหน้าแข็งทื่อเช่นกัน แต่ละคนจ้องมอที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนทักทายเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางตื่นเต้น

“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิรึ ? ทำไมที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าจากอาณาจักรฉินหวงถึงเรียกเจี้ยนเฉินว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ? ป้ารองไป๋ยู่ซวงพูดด้วยความประหลาดใจ นางแทบจะสิ้นสติด้วยความตกใจ

เจี้ยนเฉินฝืนยิ้มออกมาเมื่อเขามองเซียวเทียนและคนอื่น ๆ ” ข้าไม่คิดว่าพวกท่านจะหาข้าเจอเร็วขนาดนี้”

ฉิงเส้าฟานมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะอมยิ้ม ” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ทรงเกียรติ ข้าหวังว่าเราจะไม่สร้างปัญหาให้กับท่าน”

เจี้ยนเฉินผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะพูด เสียงของเจียงหยางป้าก็ดังขึ้นมาก่อน “เซี่ยงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” น้ำเสียงของเจียงหยางป้าสั่นเครือขณะที่เขาพยายามซ่อนความสับสนในคำพูดของเขา ทุกคนเคยได้ยินว่าเจียงหยางเซียงเทียนถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเลย

ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนนั้นได้เรียกลูกชายของเขาว่าเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิโดยที่เขาไม่คาดคิด นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมอาณาจักรฉินหวง โดยเฉพาะที่ปรึกษาของจักรพรรดิทั้งห้าเดินทางไกลมาหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่อาณาจักรเกอซุนนั้นเป็นเพราะลูกชายของเขา -เจียงหยางเซียงเทียน

ในขณะนั้น เจียงหวูจี่และราชาได้สติขึ้นมาและมองเจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ ขณะเดียวกันพวกเขาก็รอคำตอบของเขา

เจี้ยนเฉินลังเลก่อนที่เขาจะพูดว่า “ท่านพ่อ เราควรพูดเรื่องนี้ในห้องโถง”

เจียงหยางป้าหายตกใจเช่นกัน เขากำลังระงับความตกใจของเขา เขารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ใช่แล้ว เราควรไปที่ห้องโถง ฝ่าบาท ท่านที่ปรึกษาจักรพรรดิ โปรดตามข้ามาข้างใน”

หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลเจียงหยาง ราชาของอาณาจักรเกอซุน และที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนจึงเดินเข้าไปในห้องโถง แม่ของเจี้ยนเฉินและป้าทั้งสามคนของเขาไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมในการสนทนานี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเจี้ยนเฉินและอาณาจักรฉินหวงถูกเปิดเผย พวกนางจึงเรียกความกล้าหาญในตัวเองและเข้าร่วมการสนทนา

เนื่องจากมีเก้าอี้ไม่เพียงพอสำหรับทุกคน เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเจียงหยางจึงเป็นคนแรกที่สละเก้าอี้ พวกผู้อาวุโสยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย พวกเขาจ้องมองที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทางตกใจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสิ่งที่ได้ยินในใจ ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าได้เรียกนายน้อยสี่เจียงหยางเซียงเทียนว่าเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิ พวกเขาแทบจะไม่เชื่อว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสปฏิเสธที่จะนั่งและเลือกที่จะยืนข้าง ๆ เจี้ยนเฉินก็พาแม่ของเขาไปนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่เขาจะนั่งบนเก้าอี้ถัดจากนาง

“เซียงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? เจ้าเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงจริงหรือไม่ ? ” ทันทีที่เขานั่งลง เจียงหยางป้าก็พูดกับคำถามที่คาใจเขาทันที

“นั่นถูกต้องแล้ว ท่านพ่อ ข้ามีสถานะเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวง เจี้ยนเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผย เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังข้อเท็จจริงอีกต่อไป

ร่างกายของเจียงหยางป้าเริ่มสั่นเทา ใบหน้าของเขาเริ่มกระตุกด้วยอารมณ์ เขาหันหน้าไปหาที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้า เขากำลังมองหาคำยืนยัน

ผู้ชายคนอื่น ๆ ในห้องโถงเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน ดวงตาของพวกเขาไร้แสงเหมือนกับว่าพวกเขาสูญเสียความคิด เหล่าผู้อาวุโสและเจียงหวูจี่ได้รับผลกระทบอย่างมาก หัวใจของพวกเขาเต้นรัว ผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ลึกลับแห่งอาณาจักรฉินหวงที่จริงแล้วเป็นสมาชิกของตระกูลของพวกเขาเอง !

ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าจากราชอาณาจักรฉินหวงยิ้มแย้มและพยักหน้าเพื่อยืนยันคำพูดของเจี้ยนเฉิน

ในบรรดาผู้คนทั้งหมด ราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนนั้นเป็นคนที่ประหลาดใจและไม่เชื่อมากที่สุด ในตอนแรกตัวตนของผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวงนั้นเป็นปริศนาสำหรับเขา มันทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อหาความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างอาณาจักรเกอซุนและอาณาจักรฉินหวง และความสัมพันธ์ก็ไต่ขึ้นไปกับพวกเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นต้นไม้ เพื่อที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาก็พยายามที่จะคิดหาวิธีที่จะเชื่อมโยงความเกี่ยวข้อง

เขาไม่เคยคิดเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นเหมือนละคร หลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ผู้พิทักษ์จักรพรรดิที่เขาต้องการเอาอกเอาใจก็คือลูกเขยของเขาเอง เมื่อผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ ราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนจึงไม่ทราบว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“ลูกเขยที่รัก เจ้าทำให้ทั้งครอบครัวประหลาดใจ” ราชาฝืนยิ้มเล็กน้อย แต่การได้รู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิทำให้เขามีความสุขอย่างล้นเหลือ เขาเริ่มพูดกับเจี้ยนเฉินด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างออกไป

เจียงหวูจี่ถอนหายใจก่อนที่จะพูดขอบคุณเจี้ยนเฉินอย่างสุดซึ้ง “นายน้อยสี่ ข้าคนนี้ไม่รู้เลยว่าท่านมีสถานะที่สำคัญเช่นนี้ ตระกูลเจียงหยางของเราจะเปล่งประกายรุ่งโรจน์เพราะท่าน”

ตอนนี้ตัวตนของเจี้ยนเฉินถูกเปิดเผยต่อผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลเจียงหยาง ทุกคนจึงมีมุมมองใหม่ต่อเขา การเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวงนั้นมากเกินพอที่จะล้มล้างราชาของอาณาจักรเล็ก ๆ เช่นอาณาจักรเกอซุนได้อย่างง่ายดาย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด