เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 402 – เจียงหวูจี่

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพกระบี่มรณะ ตอนที่ 402 - เจียงหวูจี่ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 402 – เจียงหวูจี่

“ตูม ! “

หลังจากได้ยินเสียงระเบิดขนาดใหญ่ กระบี่ขนาดใหญ่ทำให้ลูกศรกระแทกกับกำแพงป้อมปราการ แม้จะมีเหล็กกล้าที่สามารถต้านทานการระเบิดปืนใหญ่ผลึกแกนอสูร แต่กำแพงป้อมปราการก็พังอย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้ด้วยการโจมตีของกระบี่ ทันทีที่ฝุ่นจางหายไป จะเห็นรูโหว่เส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร

เมื่อเห็นอย่างนี้ ผู้รอดชีวิตที่เหลือก็มองไปที่หลุมด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มพุ่งไปในทุก ๆ ทิศทางเท่าที่จะทำได้เพื่อพยายามหลบเลี่ยงเศษซากที่ล่วงหล่นลงมาและหลบหนี

ดวงตาของเจี้ยนเฉินดุร้ายยิ่งขึ้นด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วงในพวกมัน ” วันนี้ข้าจะทำลายป้อมปราการนี้ ข้า เจี้ยนเฉินจะทำให้อาณาจักรปิงหยางต้องชดใช้อย่างสาสม ! ” แต่ละคำได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังซึ่งเน้นความเกลียดชังของเขา จิตสังหารของเขาแพร่กระจายออกมาอย่างรวดเร็วทั่วพื้นที่ และทำให้อุณหภูมิลดลงหลายองศา

“ตูม ! ” ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งในขณะที่ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนได้ตกลงมาบนพื้นเพื่อทำลายมัน การโจมตีด้วยลูกศรเกิดขึ้นอีกครั้ง มันชนเข้ากับกำแพงป้อมปราการทำให้มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตรขึ้นอีกรู

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงนกหวีดขณะที่กลิ่นอายจำนวนมากลอยอยู่เต็มอากาศ ในเวลาต่อมา ร่างสี่ร่างซึ่งสามารถมองเห็นได้ลอยอยู่ในอากาศด้วยความเร็วสุดขีด

เมื่อเห็นเซียนสวรรค์ทั้งสี่จากอาณาจักรปิงหยาง ดวงตาของเจี้ยนเฉินเริ่มเยือกเย็นด้วยจิตสังหาร ลูกศรได้เปลี่ยนรูปเป็นกระบี่ยักษ์ที่มีสีฟ้าและสีม่วง ปราณกระบี่เปล่งประกายแปลบปลาบไปทั่วใบมีดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาคนทั้งสี่

ด้วยเสียงตะโกนอันกึกก้อง เซียนสวรรค์ทั้งสี่ได้เสริมกำลังตัวเองด้วยพลังเซียน ก่อนที่จะปะทะกับกระบี่ยักษ์

เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เสียงระเบิดก็ดังไปทั่วทั้งพื้นที่ แสงอันเจิดจ้าของระเบิดสามารถมองเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง ทำให้ทหารที่อยู่ภายใต้การระเบิดปลิวไปในอากาศด้วยบาดแผลที่ร้ายแรง หลายคนอวัยวะภายในถูกทำลายจากการระเบิดซึ่งได้ฆ่าพวกเขาทันที

ในการต่อสู้ระหว่างเซียนสวรรค์ แม้แต่ลูกหลงจากการโจมตีทุกครั้งก็สามารถฆ่าคนได้ แม้แต่เซียนปฐพีที่เข้ามาใกล้เกินไป พวกเขาก็จะพบว่ามันยากที่จะต้านทานคลื่นกระแทก

คลื่นกระแทกนั้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 300 เมตร ภายในป้อมปราการมันได้ฝังทหารจำนวนมากภายใต้การระเบิด และยังทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อกำแพงซึ่งเริ่มสั่นคลอน

การต่อสู้ระหว่างเซียนสวรรค์ทั้งห้านั้นรุนแรงเกินไป แม้แต่กระบี่ยักษ์ยาว 10 เมตรที่เจี้ยนเฉินถือก็พังทลายลงมาภายใต้พลังของเซียนสวรรค์ทั้งสี่คนที่มาจากอาณาจักรปิงหยาง

ในวินาทีต่อมาหลังจากที่คลื่นกระแทกได้หมดสิ้นลง เจี้ยนเฉินได้ห่อหุ้มร่างกายของเจียงหยางหู่ไว้ในฟองอากาศแล้วทำให้มันลอยขึ้นไปกลางอากาศ ถึงตอนนี้ เซียนสวรรค์ทั้งสี่คนได้ล้อมเจี้ยนเฉินไว้ตรงกลางในรัศมี 100 เมตรแล้ว แต่ละคนก็มองเขาอย่างดุร้าย

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินอายุน้อยแค่ไหน พวกเขาก็ตกใจเกินกว่าจะเชื่อ เจี้ยนเฉินยังเด็กเกินไปที่จะใช้พลังเช่นนี้ !

พวกเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าผู้เยาว์คนนี้สามารถบรรลุขอบเขตที่พวกเขาบรรลุ “ฮืม เขาต้องใช้ยาบางอย่างเพื่อฟื้นฟูความเยาว์วัยของเขา ” เซียนสวรรค์คนหนึ่งสันนิษฐาน

เซียนสวรรค์อีกสามคนก็เชื่อมั่นว่าเป็นเช่นนั้น หนึ่งในสี่คนร้องออกมา “เจ้าอยู่ที่นั่น บอกชื่อของเจ้ามา ! “

“ใครเป็นคนรับผิดชอบในการตัดแขนขาทั้งสี่ของพี่ใหญ่ของข้า” เจี้ยนเฉินเปล่งเสียงคำรามอันดุร้ายโดยไม่สนใจคำถาม

“พี่ใหญ่ของเจ้าเป็นใคร ? “

เซียนสวรรค์ทั้งสี่คนตื่นตกใจ บุคคลที่เจี้ยนเฉินอุ้มอยู่นั้นถูกตัดแขนขาทั้งสี่ของเขา เจียงหยางหู่จะมีพี่น้องที่เป็นถึงระดับเซียนสวรรค์หรือ ? เซียนสวรรค์ทั้งสี่ตกใจจนคิดว่าพวกเขาฟังผิด

“ใครเป็นคนทำ ! ” เจี้ยนเฉินพูดซ้ำอีกครั้งพร้อมด้วยจิตสังหารของเขาที่ลอยอยู่ในอากาศ

เมื่อมองหน้าซึ่งกันละกัน ชายทั้งสี่เริ่มพยายามที่จะหาความเป็นมาของเจี้ยนเฉิน “เจ้าเป็นใคร ข้าเชื่อว่าข้าอาจหูฝาดไป”

ต่อจากนั้นไม่นาน ได้มีแสงไฟขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้บินตัดท้องฟ้าราวกับดาวตกที่พุ่งไปทุกทิศทุกทาง

ไม่นานหลังจากนั้น แสงสีแดงก็หยุดลงตรงกลางอากาศห่างออกไป 500 เมตร เผยให้เห็นผู้อาวุโสที่มีธาตุไฟล้อมรอบร่างของเขาราวกับฟองอากาศ ผู้อาวุโสที่มีลักษณะมองดูค่อนข้างธรรมดาที่มีผมสีขาวผูกไว้ด้านหลังใบหน้าที่เหี่ยวย่นและซีด

เมื่อผู้อาวุโสเหลือบมองไปรอบ ๆ เขาก็สังเกตเห็นร่างที่ไร้แขนขาที่ลอยค้างอยู่ของเจียงหยางหู่ทันที ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสก็ส่งเสียงร้องด้วยความเศร้าโศกว่า “นายน้อย ! “

เซียนสวรรค์ทั้งสี่หันมามองผู้มาใหม่ด้วยความโกรธเคือง” อืมม เจียงหวูจี่ เจ้ามาแล้ว หลังจากที่เจ้าสังหารผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรปิงหยาง 2 คนแล้ว ข้าจะให้เจ้าถูกฝังไว้ข้าง ๆ พวกเขาในวันนี้!”

ดวงตาของเจียงหวูจี่เปล่งประกายทันทีด้วยจิตสังหารที่ดุร้ายในขณะที่เขาจ้องมองไปที่คนทั้งสี่ “เจ้ากล้าตัดแขนขาทั้งสี่ของนายน้อย ? เยี่ยม ! อนุญาตให้ชายชราคนนี้ได้เล่นกับพวกเจ้า แม้จะต้องตอบแทนด้วยชีวิตของข้า ข้าก็อยากจะเห็นพวกเจ้าทุกคนถูกสังหาร ! “

” หืมม โอหังจริง ๆ แม้ว่าเจ้าจะบาดเจ็บ เจ้าก็ยังสามารถพูดคำนี้ออกมาได้” หนึ่งในเซียนสวรรค์ตะโกนออกมาอย่างเหยียดหยาม เขายกมือขึ้นคำนับและโค้งไปทางด้านหลัง เขาพูดว่า “ศิษย์พี่เฉียนหยุน โปรดแสดงตัว” เสียงพูดของเขาในลักษณะที่สามารถได้ยินจากที่ไกล

ในไม่ช้า ก็เห็นผู้อาวุโสสวมชุดสีขาวกำลังบินไปหาเซียนสวรรค์ทั้งสี่ ทรงผมของผู้อาวุโสผูกไว้ในแบบนกกระเรียนและดูประณีตราวกับบัณฑิต เจี้ยนเฉินตัดสินจากกลิ่นอายของเขา เขารู้สึกราวกับว่านี่เป็นชายที่รู้แจ้ง

“เฉียนหยุน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะนำอาณาจักรฉินกานของเจ้าเข้าร่วมในครั้งนี้ เป็นไปได้ไหมที่เจ้ากำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมต่อสู้กับอาณาจักรเกอซุนร่วมกับอีกสี่อาณาจักร?” ตอนนี้ใบหน้าของเจียงหวูจี่เหมือนหิน สถานการณ์เริ่มเลวร้ายอย่างยิ่ง ถ้าอาณาจักรฉินกานเข้าสู่สถานการณ์นี้ นั่นหมายความว่ามี 5 อาณาจักรต่อสู้กับอาณาจักรเกอซุน

เจียงหวูจี่รู้ว่าเฉียนหยุนเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ในอาณาจักรฉินกาน เขาอาศัยอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของพระราชวังเพื่อบ่มเพาะและมีชีวิตอยู่มาเกือบ 400 ปีแล้ว แม้จะเป็นเซียนสวรรค์วัฎจักรที่ห้า แต่เขาก็ยังใกล้จะบรรลุเป็นเซียนสวรรค์วัฎจักรที่หก และยังเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรฉินกาน

เฉียนหยุนมองไปที่เจียงหวูจี่สักครู่ก่อนที่จะมองเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่ดูมืดครึ้ม “เขาเป็นใคร ? “

เซียนสวรรค์ทั้งสี่จากอาณาจักรปิงหยางส่ายหน้า “เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เขาต้องเกี่ยวข้องกับอาณาจักรเกอซุน”

เฉียนหยุนจ้องที่เจี้ยนเฉินชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปหาเจียงหวูจี่ด้วยรอยยิ้ม “พี่หวูจี่ เราไม่ได้เจอกันมานานนับร้อยปี แต่ข้าไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของท่านจะสูงถึงระดับนี้ อาณาจักรฉินกานไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ข้าเพียงต้องการทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของท่าน”

“เจ้าต้องการทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของข้าหรือ ? ” เจียงหวูจี่คำราม

“ถูกต้อง พี่หวู หากท่านมอบทักษะการต่อสู้ให้กับข้า ข้าก็จะวางมือจากเรื่องนี้” เฉียนหยุนหัวเราะ

“ฮืม เจ้าช่างกล้าหาญ สามกระบวนท่าอสรพิษป่า เป็นสิ่งที่สืบทอดมาจากเจ้านายของข้า แต่เจ้าก็ยังกล้าถามหา เจ้าไม่กลัวการกลับมาของเจ้านายของข้าและทำลายอาณาจักรฉินกานของเจ้าหรือ ? ” เจียงหวูจี่พูดอย่างดุร้าย

เฉียนหยุนมีสีหน้าที่หวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้ม “เจียงหวูจี่ เจ้ายังนึกถึงเจ้านายของเจ้าที่หายไปนานนับสิบปี ? เจ้าพูดถูกต้องว่าความแข็งแกร่งของท่านบรรพชนตระกูลเจียงหยางนั้นช่างน่าประหลาดใจอย่างแท้จริงและไร้คู่ต่อสู้ แต่เจ้าอย่าลืมว่าเขาได้หายสาบสูญไปหลายปีแล้ว ด้วยอายุของเขาที่มากถึงเก้าร้อยปีแล้ว เขาก็มาถึงจุดจบของชีวิต ความจริงที่ว่าไม่มีข่าวคราวของเขานั้นเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเขาตายไปแล้ว”

“ฮืม เจ้านายของข้าเป็นอัจฉริยะ แม้แต่ในหมู่สวรรค์และมนุษย์ก็ไม่มีใครเทียบ ความลึกลับอะไรในโลกที่สามารถหยุดยั้งเขาได้ ? เมื่อเขากลับมา เขาจะทำลายอาณาจักรฉินกานของเจ้า”

เฉียนหยุนแค่นเสียงแล้วพูด “เจียงหวูจี่ ข้า เฉียนหยุน ไม่ใช่คนที่ถูกข่มขู่ได้โดยง่าย ข้ายืนยันคำพูดของข้า ถ้าเจ้ามอบทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ให้ข้า ข้าจะจากไป”

“อย่าคิดว่าเพียงเพราะชายชราคนนี้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าจะรอดพ้นจากอันตราย” ได้มีคลื่นพลังงานที่ก่อขึ้นจากภายในร่างของเจียงหวูจี่ แม้จะมีอาการบาดเจ็บอยู่ก็ตาม แต่ศีรษะของเขาก็ยังคงเชิดอยู่โดยไม่หวั่นเกรงการต่อสู้

ในขณะนั้น เซียนสวรรค์ทั้งห้ากำลังเตรียมตัวต่อสู้ ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่เจียงหวูจี่และเจี้ยนเฉิน การต่อสู้ก็กำลังเตรียมพร้อมที่จะแตกหัก

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาว่า

“มอบพวกมันให้กับข้า วันนี้ข้าจะทำลายอาณาจักรปิงหยางและแขวนศีรษะพวกมันทั้งหมดไว้ที่นี่บนกำแพงนี้”

มันเป็นเจี้ยนเฉินที่พูดด้วยน้ำเสียงสงบ แม้ว่าจะมีจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา แต่ทุกคนก็ประหลาดใจกับคำพูดของเขา

ทำลายอาณาจักรปิงหยาง !

แขวนหัวของผู้แข็งแกร่งบนกำแพง !

เซียนสวรรค์ทั้งสี่จากอาณาจักรปิงหยางได้โดยเหยียดหยามเป็นการส่วนตัว ด้วยความโกรธ กระแสจิตสังหารเริ่มไหลพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน

หนึ่งในเซียนสวรรค์ได้คำรามออกมา “บัดซบ เจ้าไม่สามารถแยกแยะว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเป็นเช่นไร ! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นบรรพชนเจียงหยางหรือ และจะทำลายอาณาจักรปิงหยางด้วยความแข็งแกร่งของเซียนสวรรค์ ?

แม้แต่เจียงหวูจี่ก็ยังแปลกใจและตกใจอย่างมาก เมื่อเขามองเจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ก็ดูกังขา เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เจี้ยนเฉินเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตของเขาต่อสู้กับเซียนสวรรค์เหล่านี้

เจียงหวูจี่เริ่มตรวจสอบเจ้าหนูเจี้ยนเฉินด้วยความสงสัย มีความรู้สึกคุ้นเคยกับเขาราวกับว่าทั้งสองเคยพบกันมาก่อน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาเคยได้พบกับเจ้าหนูคนนี้มาก่อนเมื่อใด แม้จะมีความรู้สึก เขาก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินเนื่องจากเซียนสวรรค์ทั้งหมดที่เขาเคยพบมาก่อนเป็นชายวัยกลางคน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด