เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 479: ตระกูลเทียนฉิน

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพกระบี่มรณะ ตอนที่ 479: ตระกูลเทียนฉิน อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 479: ตระกูลเทียนฉิน

คุณหนูรองของตระกูลเทียนฉินรีบเดินเข้ามาหาเจี้ยนเฉินและมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ด้วยดวงตาที่งดงามของนาง ท่านเจี้ยนเฉิน ตอนนี้ท่านเป็นคนมีชื่อเสียงมาก ด้วยตำแหน่งราชาทหารรับจ้างของท่าน ทำให้ชื่อเสียงของท่านโด่งดังไปทั่ว

เมื่อยามทั้งสองได้ยินคุณหนูรองพูด ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นตกใจ เมื่อพวกเขาหันมามองเจี้ยนเฉินด้วยมุมมองใหม่ พวกเขาก็เริ่มเสียใจอย่างสุดซึ้งภายในใจของพวกเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่ได้พูดห้ามเจี้ยนเฉินไม่เข้าไปในตระกูลเทียนฉิน ใบหน้าของเขาซีดเผือดไปทันที บัดซบ ! ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นราชาทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉิน ข้าพูดอะไรกับเขาไปเนี่ย ?

เจี้ยนเฉินป้องมือพร้อมกับรอยยิ้ม คำพูดที่คุณหนูรองกล่าวเกินจริงไปแล้ว ข้าเพียงได้รับตำแหน่งนั้นเพียงเพราะโชคดีเท่านั้นเอง

ท่านเจี้ยนเฉินช่างถ่อมตนเสียจริง ดวงตาที่งดงามของคุณหนูรองเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่มองเจี้ยนเฉินอย่างพึงพอใจและพูดว่า ท่านเจี้ยนเฉิน เนื่องจากท่านมาที่ตระกูลเทียนฉินของเรา โปรดเข้ามาและพักที่นี่สักครู่

อันที่จริงข้าต้องการจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างสุภาพและไม่มีการเย่อหยิ่ง

งั้นเชิญท่านเข้ามา คุณหนูรองผายมือเชิญก่อนที่จะเดินเคียงข้างเขาเข้าไปในลาน ในขณะที่นางเดินผ่านยาม นางก็ต่อว่าและสั่งพวกเขา นี่คือเจี้ยนเฉิน เป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเทียนฉินของเรา ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่หยาบคายต่อเขาอีก รีบขออภัยท่านเจี้ยนเฉินเร็ว

ยามทั้งสองคุกเข่าลงด้วยความกลัวและพูดด้วยความตกใจ บ่าวรนหาที่ตาย ! ได้โปรดยกโทษให้บ่าวด้วยท่านเจี้ยนเฉิน ! ยามรู้ดีว่าอิทธิพลของราชาทหารรับจ้างนั้นระบือไกลแค่ไหน หากตระกูลเทียนฉินทราบว่าพวกเขาได้ห้ามปรามราชาทหารรับจ้างไม่ให้เข้ามาเยี่ยมและยังพยายามขับไล่เขาออกไป ยามเหล่านี้ก็กลัวว่าจะต้องโดนลงโทษอย่างหนัก

เอาล่ะ นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ลืมเรื่องนี้เสียเถิด ! เจี้ยนเฉินไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยและสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ร้ายแรงสำหรับเขา ตระกูลใหญ่ ๆ ทั้งหลายมักจะมียามที่เย่อหยิ่งอยู่แล้ว แม้แต่ตระกูลเจียงหยางก็ไม่แตกต่างกัน

เจี้ยนเฉินติดตามคุณหนูรองเข้าไปยังตระกูลเทียนฉินในขณะที่มีข่าวว่าราชาทหารรับจ้างเดินทางมาถึง มันก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่าไปยังยามและหัวหน้าตระกูล ดังนั้นไม่นานหลังจากที่เจี้ยนเฉินได้เดินเข้ามาในลานหญ้า บิดาของฉินเซียวและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง

ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเรายินดีต้อนรับน้องเจี้ยนเฉินสู่ตระกูลเทียนฉินของเรา การปรากฏตัวของเจ้าอาจนำแสงสว่างมายังที่พักพิงอันแสนต่ำต้อยของข้า ผู้นำตระกูลเทียนฉินเดินหัวเราะเข้ามาทักทายด้วยความเครารพ ตอนนี้ตัวตนของเจี้ยนเฉินไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ด้วยตำแหน่งทหารรับจ้าง แม้แต่หัวหน้าตระกูลเทียนฉินก็ยังคงต้องปฏิบัติต่อเขาแตกต่างไปอย่างมากจากที่เคยทำมา

หลังจากสนทนากับกับเหล่าผู้นำ เจี้ยนเฉินก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นภายในห้องโถง ในขณะเดียวกันข่าวที่ว่าเขาอยู่ที่นี่ก็แพร่กระจายออกไปภายในตระกูลเทียนฉิน สมาชิกระดับสูงอีกหลายคนที่กำลังติดพันงานอยู่ก็รีบละมือและวิ่งเข้ามาพบเขา บางคนต้องการที่จะเป็นสหายกับเขา ขณะที่บางคนต้องการจะเห็นราชาทหารรับจ้างผู้สง่างาม

ภายในห้องโถงที่หรูหราแห่งหนึ่งของตระกูลเทียนฉิน เสียงครางของผู้ชายและเสียงร้องอย่างกระสันของผู้หญิงที่ดังออกมา ทันใดนั้นพ่อบ้านคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาและเคาะประตู นายน้อย ผู้รับใช้เพิ่งได้รับข่าวมาว่า ราชาทหารรับจ้างเจี้ยนเฉิน เดินทางมาที่ตระกูลเทียนฉินของเรา

ภายในห้อง เทียนเจว๋และหญิงสาวผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเสียงของพ่อบ้าน ร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นและร่างกายส่วนอื่น ๆ ของเขาก็อ่อนยวบ อะไรนะ เจี้ยนเฉินมาที่ตระกูลของเรา ? เทียนเจว๋อดไม่ได้ที่จะคิดย้อนกับไปถึงเรื่องระหว่างเขากับเจี้ยนเฉินเมื่อปีที่แล้วและทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียว

เจียนเฉินมาที่ตระกูลเทียนฉิน เขา…เขามาหาข้ารึ ? ไม่, ไม่ ! ข้าไม่อาจอยู่ที่นี่ ! เทียนเจว๋ใช้แรงทั้งหมดผละหนีหญิงสาวของเขาทันที ขณะที่เขาไม่ต้องการที่จะมีอะไรต่อ เขาไม่สนใจความไม่พอใจของหญิงสาว เขาผุดลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มแต่งตัวทันที

พ่อบ้านเทียน เตรียมรถม้า ข้าจะออกนอกเมืองทันที อย่างบอกเรื่องนี้กับใคร

….

ในขณะนั้นเจี้ยนเฉินกำลังพูดคุยกับสมาชิกระดับสูงของตระกูลเทียนฉิน ตอนนี้เขาเป็นราชาทหารรับจ้างแล้ง ตระกูลเทียนฉินทั้งหมดต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพสูงสุด ไม่มีใครกล้าทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะฝั่งตระกูลเทียน เพื่อที่จะขอโทษกับความผิดใจกันระหว่างเทียนเจว๋และเจี้ยนเฉินเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาจะต้องแสดงความจริงใจเป็นพิเศษ

หลักจากการพูดคุยกันหลายคำ เจี้ยนเฉินก็พูดเข้าประเด็น เมื่อเผชิญหน้ากับหัวหน้าตระกูลเทียนฉิน เขาก็พูดว่า นายท่าน ข้าอยากจะเจอฉินเซียว

ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ แต่นับตั้งแต่ที่เขากลับมาจากการชุมนุนทหารรับจ้าง ลูกชายของข้าก็ไปฝึกฝนกับผู้อาวุโสใหญ่และยังไม่กลับมา ชายคนนั้นพูดขอโทษ แต่เขาแอบดีใจเป็นอย่างมาก ถ้าลูกชายของเขาและเจี้ยนเฉินยังคงสนิทสนมกันอยู่ เมื่อถึงเวลานั้นลูกชายของเขาจะกลายเป็นหัวหน้าตระกูลเทียนฉินเพราะว่าเขามีสหายที่แข็งแกร่ง

มีข่าวลือเกิดขึ้นทั่วทวีปเทียนหยวน เมื่อใดก็ตามที่มีปรากฏตัวของราชาทหารรับจ้างคนใหม่ พวกเขาก็จะก้าวหน้าขึ้นไปอีก อย่างน้อย ๆ เขาก็จะกลายเป็นเซียนสวรรค์ ส่วนที่เหลือมักจะมีโอกาสมากที่จะเป็นเซียนผู้คุมกฏ

เมื่อได้ยินว่าฉินเซียวไม่อยู่ เจี้ยนเฉินก็มีสีหน้าผิดหวัง เขามาที่ตระกูลเทียนฉินในวันนี้เพื่อที่จะแจ้งจุดประสงค์ของเขา

หลังจากนั้นตระกูลเทียนฉินก็พยายามชักชวนให้เจี้ยนเฉินอยู่ต่อให้นานขึ้น ด้วยความคาดหวังว่าเจี้ยนเฉินจะเห็นด้วย ขณะที่ส่งคนไปฉินเซียวให้กลับมา

สุดท้ายเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนใจและสัญญาว่าเขาจะอยู่อีก 1 วัน อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธความพยายามของตระกูลเพื่อที่จะเรียกฉินเซียวกลับ เพราะว่าเขาไม่ต้องการรบกวนการบ่มเพาะของฉินเซียว

เจี้ยนเฉินได้รับบการต้อนรับเป็นอย่างดีจากตระกูลเทียนฉินและในคืนนั้นก็มีงานเลี้ยงต้อนรับเจี้ยนเฉิน หลังจากงานเลี้ยงเจี้ยนเฉินก็ได้รับห้องที่หรูหราที่เตรียมไว้เพื่อเขาเป็นพิเศษ

ในขณะนี้ลูกเสือกำลังนอนหลับอยู่ที่อกของเจี้ยนเฉินก็ได้ตื่นมาในที่สุด เมื่อมันเปิดตามันก็เริ่มหันไปมองรอบ ๆ ก่อนที่จะกระโดดไปอยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉินโดยใช้หัวที่มีขนฟู ๆ ของมันถูแก้มของเจี้ยนเฉิน

เจ้าตัวน้อย ในที่สุดเจ้าก็ตื่นมาหลังจากที่หลับมานาน เจี้ยนเฉินหัวเราะขณะที่เขามองลูกเสือ เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงพลังงานภายในของลูกเสือ เจี้ยนเฉินรับรู้ได้ว่าตอนนี้ลูกเสือได้กลายมาเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 แล้ว

มู่วว…. ลูกเสือครางเบา ๆ ขณะที่มันเริ่มสูดดมไปที่แหวนมิติของเจี้ยนเฉิน

เมื่อรู้ว่าลูกเสือกำลังจะทำอะไร เจี้ยนเฉินก็รู้สึกตกใจ สติปัญญาของลูกเสือเพิ่มขึ้นมาก หากสามารถใช้วิธีนี้เพื่อค้นหาสมบัติสวรรค์

ลูกเสือตัวนี้ควรจะเรียกว่าเทพพยัคสวรรค์ เจี้ยนเฉินคิดและเอาหญ้าคดเคี้ยว, แกนดอกบัวและผลไม้ม่วง เจี้ยนเฉินเริ่มให้อาหารแก่ลูกเสือทีละอย่าง หลังจากที่กินสมบัติสวรรค์ไปหลายอัน ลูกเสือก็เริ่มล้มตัวลงนอนและหลับไป

เจี้ยนเฉินวางลูกเสือไว้ที่เตียงและนำทรัพยากรที่เหลือกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็วด้วยความกังวล มีสมบัติสวรรค์เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ข้าอาจจะมีเพียงพอที่จะทำให้ลูกเสือเลื่อนเป็นสัตว์อสูรระดับ 4 ก่อนที่มันจะหมดไป ข้าต้องหาให้มากกว่านี้โดยไม่อาจชักช้าได้ ไม่อย่างนั้นความแข็งแกร่งของลูกเสือจะติดขัด เขาพึมพำ

ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็วและในเช้าวันที่สองเจี้ยนเฉินก็นำลูกเสือออกจากห้องพร้อมกับเขาและอำลาตระกูลเทียนฉิน

ระหว่างทางเขาเดินผ่านสวนดอกไม้ได้ยินเสียงพิณจากคุณหนูรองของตระกูลเทียนฉินที่นั่งอยู่กลางศาลาและกำลังเล่นเครื่องดนตรีนั้น

เมื่อได้ยินเสียงพิณอันน่าหลงใหลเขาก็อดไม่ได้ที่จะย้อนคิดถึงหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ที่เขาพบในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทหารรับจ้าง

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นงดงามและไร้ที่เปรียบภายใต้สวรรค์นี้ ความงามของนางนั้นถึงขั้น ‘มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง’ แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากถอดถอนใจและชื่นชมหญิงสาวผู้นี้ที่เป็นอันดับหนึ่งในยุคของนาง

เจี้ยนเฉินเดินไปที่ศาลาที่ซึ่งคุณหนูรองอยู่อย่างใจเย็น เมื่อมองดูลวดลายของพิณบนโต๊ะหินแล้ว แววตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความตกใจ

เมื่อเขาเห็นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็สามารถมองเห็นพิณที่อยู่กับนางได้ คุณหนูรองของตระกูลเทียนฉินก็ใช้พิณแบบเดียวกับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ นี่เป็นสิ่งที่เกิดคาดไปอย่างมาก

เจี้ยนเฉินไม่รบกวนคุณหนูรองและหยุดนิ่งเพื่อรับฟังแทน ไม่นานคุณหนูรองก็เล่นพิณเสร็จและหันหลังมา ท่านเจี้ยนเฉิน เชิญนั่ง มีผ้าผืนบางปกปิดใบหน้าของนางเพื่อทำให้ไม่อาจเห็นหน้าของนางได้โดยตรง

เจี้ยนเฉินเดินไปยังฝั่งตรงข้ามกับคุณหนูรองและนั่งลง

นิ้วที่เรียวยาวของคุณหนูรองดีดสายพิณเบา ๆ นางมองไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะพูดว่า ข้ารู้ว่าท่านเจี้ยนเฉินไม่ได้ชมชอบเครื่องดนตรีอย่างพิณ ถ้าอย่างนั้นเหตุใดท่านถึงต้องมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวผู้นี้ด้วย ?

เจี้ยนเฉินยิ้มและพูดว่า ข้าได้สังเกตเห็นว่าพิณของคุณหนูรองและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นเหมือนกัน ข้าแค่อยากรู้และตัดสินใจที่จะเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อสังเกต หากข้ารบกวนท่านข้าก็ขออภัยด้วย”

ดวงตาของคุณหนูรองแสดงให้เห็นถึงความแปลกใจขณะที่มองมาที่เขา ท่านเจี้ยนเฮินเคยได้พบกับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ด้วยหรือ ?

ข้าได้พบนางโดยบังเอิญที่เมืองทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉินพูด

เมื่อเข้าใจอย่างนั้นคุณหนูรองแห่งตรนตระกูลเทียนฉินก็พูดว่า ท่านอาจจะมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป พิณอันนี้เป็นเพียงของเลียนแบบพิณปีศาจร่ำไห้ ด้านนอกทั้งสองอาจจะเหมือนกัน แต่มีหลายอย่างที่ไม่อาจเหมือนกัน

อย่างนั้นเป็นเพราะความรีบร้อนของข้าทำให้ข้ามองข้ามรายละเอียดไป หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็พูดคุยกันอยู่อีกหลายประโยคก่อนที่จะกล่าวคำอำลา คุณหนูรอง วันนี้ข้าจะไปจากตระกูลเทียนฉินแล้ว ข้าหวังว่าเราจะได้พบเจอกันใหม่ในอนาคต ขออำลา !

ท่านจะจากไปเร็วขนาดนี้เลยหรือ ? นางประคองพิณไว้ในมือก่อนที่จะเดินนำทางอย่างสบาย ๆ ให้กับเจี้ยนเฉินในท่าทางที่คุณหนูพึงปฏิบัติ

ข้ามีธุระสำคัญมาก จึงไม่อาจล่าช้าได้ ดังนั้นข้าจึงไม่อาจอยู่ได้นาน เจี้ยนเฉินตอบ

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็กล่าวลาหญิงสาวและเดินทางไปหาผู้นำตระกูลเทียนฉิน แม้ว่าหัวหน้าตระกูลเทียนฉินจะต้องการรั้งเขาให้อยู่ต่อ เจี้ยนเฉินก็ยังคงแน่วแน่ที่จะจากไป ไม่มีอะไรบังคับให้เขาอยู่ต่อได้ ดังนั้นหัวหน้าตระกูลจึงเสียใจอย่างมากที่จะต้องบอกลาเจี้ยนเฉิน

ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ออกจากตระกูลเทียนฉิน เขาก็ซื้อแผนที่ที่มีรายละเอียดจากร้านค้าใกล้ ๆ เมื่อเสร็จเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจเทียนเจว๋คนที่หยิ่งผยองและไร้ค่าของเมืองหว่าลู่เหรินอีก

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด