เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 1700 : บรรพชนตระกูลโม่

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพกระบี่มรณะ ตอนที่ 1700 : บรรพชนตระกูลโม่ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 1700 : บรรพชนตระกูลโม่

การโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้สามารถตัดแขนของขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลางได้ มันถึงกับบอกผู้ชนะได้เลยซึ่งอีกฝ่ายไม่อาจจะต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย คู่ต่อสู้นั้นมีสภาพน่าอดสู นี่คือสิ่งที่คนที่เพิ่งขึ้นเป็นขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงต้นไม่กี่เดือนก่อนทำได้งั้นรึ ?

ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตระกูล, ซีหยูหรือแม้แต่ผู้อาวุโสทั้งห้าและทุกคนนอกจากเจี้ยนเฉินต่างก็อึ้งกับฉากนี้ พลังจากการโจมตีของเฉินเจี้ยนนั้นทำให้ทุกคนต่างก็ตะลึง

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เฉินเจี้ยนนั้นเป็นเพียงขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงต้นและเขาก็เพิ่งจะทะลวงผ่านขึ้นมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เขาจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ยังไง ? โม่หยุนอยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลาง ชัดเจนแล้วว่าเขาเหนือกว่าขั้นต้น ทำไมเขาถึงได้มีสภาพเช่นนี้จากการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ ? มันเป็นไปไม่ได้” โม่ชานเข้าไปประคอง โม่หยุน เขาไม่อาจจะใจเย็นลงได้ เขาไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเป็นจริง

“เฉินเจี้ยนแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง ? เขาตัดแขนโม่หยุนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว สวรรค์ เขาอยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงต้นได้ยังไง ? แม้แต่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงปลายหรือจุดสูงสุดก็ไม่อาจจะทำเช่นนี้ได้” ผู้อาวุโสตระกูลโม่มองเฉินเจี้ยนใหม่ด้วยความชื่นชม พวกเขาต่างก็พากันกลัว

พลังจากการโจมตีของเฉินเจี้ยนนี้ได้ฝังความกลัวลึกเข้าไปในหัวใจพวกเขา

“เขาเป็นใครกัน ? เขากลับแข็งแกร่งกว่าขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงปลายแม้ว่าจะเพิ่งเป็นขั้นศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนว่าเฉินเจี้ยนนั้นจะไม่ใช่คนทั่วไป” ซีหยูมองไปที่เฉินเจี้ยน ก่อนจะมองไปที่เจี้ยนเฉิน ใจของนางเต้นรัวเมื่อมองไปที่ เจี้ยนเฉินที่ยังสีหน้านิ่งดังเช่นแต่ก่อน ชัดแล้วว่าความแข็งแกร่งที่เฉินเจี้ยนแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจแม้แต่น้อย

“ชัดเจนแล้วว่าเจี้ยนเฉินรู้ถึงความแข็งแกร่งของเฉินเจี้ยน เฉินเจี้ยนนั้นแข็งแกร่งแต่ก็ยังเรียกเจี้ยนเฉินว่าน้อง มันมีแค่สองเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่ว่าจะสนิทกันหรือไม่ หรือว่าเจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่งเช่นกัน บางทีเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่ากันแต่ไม่ได้ด้อยไปกว่ามากนัก ไม่งั้นแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะนิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสนิกายจุลกระบี่ ข้ารู้สึกว่าความมั่นใจของเจี้ยนเฉินนี้ไม่ได้มาจากเฉินเจี้ยน ดูเหมือนถึงแม้ว่าจะไม่มีเฉินเจี้ยนช่วยแต่เขาก็สามารถจัดการกับผู้อาวุโสทั้งสองได้ ”

โม่หยานหยุดร้อง นางเอามือปิดปากและมองไปที่โม่หยุนซึ่งเสียแขนไป นางตะลึง นางไม่คิดว่าผู้อาวุโสจากนิกายจุลกระบี่จะเสียแขนต่อหน้าทุกคนเพราะเรื่องของนาง

เขาเป็นผู้อาวุโสขอบเขตเทพ โม่หยานเชื่อว่าตราบใดที่ขึ้นถึงขอบเขตเทพ พวกเขาได้กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตระกูลก็ยังต้องสุภาพต่อพวกเขา พวกเขาเป็นรองแค่บรรพชนในนิกายหรือตระกูลของตนในด้านฐานะ

เข.. เขาเป็นคนที่ข้าช่วยชีวิตไว้จริง ๆ หรือ ? โม่หยานจ้องที่เฉินเจี้ยนพร้อมกับแววตาแปลก ๆ เพราะความตื่นเต้นค่อย ๆ ลุกโชนขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ

โม่หยุน ข้ายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว เจ้าวางแผนจะสั่งสอนบทเรียนให้ข้าอย่างไร ? เฉินเจี้ยนเดินไปหาโม่หยุน เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่ได้ปลดปล่อยพลังของเขาให้รั่วไหลออกมา ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนเป็นคนธรรมดา

แต่พลังของเขาแผ่ออกมานี้กลับกดดันผู้อาวุโสทั้งสองได้ โม่ชานถอยกลับไปพร้อมกับประคองโม่หยุน ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งสองไม่ได้มีความมั่นใจอีกต่อไป กลับกันแล้วพวกเขากลับแสดงความกลัวออกมาบนใบหน้าแทน

“ผู้นำตระกูล…” โม่ชานป้องมือให้กับผู้นำตระกูลโม่ ตอนนี้เขาลืมเรื่องเกียรติที่เขามีในฐานะจอมยุทธขอบเขตเทพไป เขาเหมือนจะขอให้ผู้นำตระกูลสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดมันออกมาตามตรง ๆ แต่เจตนาของเขาก็ถูกมองออกอย่างชัดเจน

นี่เพราะโม่ชานรู้สึกว่าหากเขายังแสดงท่าทีดังเดิม เฉินเจี้ยนคงฆ่าพวกเขาทั้งสองคน มันเพราะเขาไม่เห็นความกลัวในแววตาของเฉินเจี้ยนเลย นิกายจุลกระบี่นั้นไม่ได้มีความหมายใด ๆ ต่อเขา

“ใจเย็น ๆ ก่อน น้องเฉินเจี้ยน แม้ว่าผู้อาวุโสโม่หยุนจะทำเกินไปแต่เขาก็ได้รับการลงโทษที่สมควรแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเห็นแก่หน้าของข้าปล่อยพวกเขาไป” ผู้นำตระกูลป้องมือให้กับเฉินเจี้ยนและพูดออกมาอย่างสุภาพ

เมื่อเห็นว่าผู้นำตระกูลออกปากแทนพวกเขา ผู้อาวุโสทั้งสองก็โล่งใจ ตอนที่พวกเขามองไปที่เฉินเจี้ยนซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามองดูคนแต่เป็นกระบี่แทน

เฉินเจี้ยนไม่ได้ตอบตกลงทันที เขามองไปที่เจี้ยนเฉินและถามขึ้นมาว่า “คนที่พวกนี้หาเรื่องนั้นคือเจ้า เจ้าจะปล่อยพวกนี้ไปหรือไม่ ? ”

ตอนนั้นทุกคนต่างก็หันไปมองเจี้ยนเฉิน ก่อนหน้านนี้ไม่มีใครให้ความสำคัญกับเจี้ยนเฉินเลยนอกจากผู้นำตระกูลโม่ แต่มุมมองที่ทุกคนมีต่อเจี้ยนเฉินตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว

“เจี้ยนเฉินผู้นี้ทำให้คนอิจฉาจริง ๆ เขากลับมีสหายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เฮ้อ ทำไมข้าถึงไม่โชคดีแบบเขาบ้าง ? ” ความคิดนี้โผล่มาในหัวของผู้อาวุโสทั้งห้าคน

เฉินเจี้ยนนั้นแข็งแกร่งทั้ง ๆ ที่อยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงต้น เขาถึงกับแข็งแกร่งกว่าขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงปลาย หากเขาก้าวขึ้นไปขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงกลางหรือช่วงปลายแล้ว มันไม่หมายความว่าเขาจะสามารถสู้กับขั้นเทพได้หรือ ?

เจี้ยนเฉินโบกมือและพูดกับผู้อาวุโสทั้งสองว่า “พวกเจ้าไปได้ ข้าไม่อยากเอาเรื่องแต่หากมีครั้งที่สอง ข้าจะไม่เมตตาพวกเจ้า ”

เจี้ยนเฉินไม่ต้องการให้ตระกูลโม่มีปัญหากับนิกายจุลกระบี่ก่อนที่เขาจะเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสี่องค์กรในแคว้นนี้ เขาไม่กลัวนิกายจุลกระบี่แต่เขาไม่ต้องการให้ตระกูลโม่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยเพราะเขา

เจี้ยนเฉินยังหวังดีต่อตระกูลโม่ที่มีโม่หยานอยู่ด้วย นางได้ช่วยเขาและเฉินเจี้ยนเอาไว้

โม่ชานและโม่หยุนไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเก็บแขนที่ขาดและออกจากตระกูลไปพร้อมกับศิษย์คนอื่น ๆ ที่พากันแบกนายน้อยที่บาดเจ็บกับศิษย์สามคนที่บาดเจ็บตามหลังผู้อาวุโสทั้งสองไป

ตอนมาพวกเขามากันอย่างยิ่งใหญ่ แต่ตอนกลับนั้นกลับมีสภาพน่าอดสู

“ฮ่าฮ่า น้องเฉินเจี้ยน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง การโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้ข้ากลัว มันทำข้าใจเต้นรัว” ผู้นำตระกูลเดินเข้าไปหาเฉินเจี้ยนและหัวเราะออกมา เขาถึงกับทำตัวสนิทสนมกับเฉินเจี้ยนด้วยซ้ำ

“น้องเฉินเจี้ยน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญกฎแห่งกระบี่ มันเปิดมุมมองของเราจริง ๆ ข้าเอง็ใช้กระบี่ หากเจ้ามีเวลา งั้นช่วยชี้แนะเรื่องกระบี่ให้ข้าที” ผู้อาวุโสทั้งห้าเดินเข้ามาหา พวกเขาต่างก็พูดกับเฉินเจี้ยนราวกับประจบ

ตอนนั้นสีหน้าของผู้นำตระกูลก็เปลี่ยนไป เขาได้ป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและ เฉินเจี้ยน ก่อนจะพูดขึ้น “น้องเฉินเจี้ยน น้องเจี้ยนเฉิน ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการ ขอตัวก่อน หยูเอ๋อ ดูแลแขกทั้งสองนี้ให้ดี”

“ได้ ท่านพ่อ” ซีหยูตอบกลับ ในความเห็นของนางแล้ว เฉินเจี้ยนและเจี้ยนเฉินนี้ต่างจากเดิมอย่างมาก

เจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะละสายตาก่อนจะป้องมือให้กับผู้นำตระกูล

ตอนนี้ผู้นำตระกูลได้ยืนอยู่ในห้องโถงที่ลึกที่สุดของตระกูลโม่ ตอนนั้นเขาไม่ได้มีความยิ่งใหญ่ของผู้นำตระกูลเลย

ตรงหน้าเขานั้นมีชายหัวล้านไม่สวมเสื้อตัวกำยำยืนอยู่ เขาเหมือนอายุเพียง 40 ปีและถึงกับดูเด็กกว่าผู้นำตระกูล

“บรรพชน ท่านออกมาแล้วหรือ ? ” ผู้นำตระกูลยืนอยู่ตรงหน้าชายหัวล้านและพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ

ชายหัวล้านมองไปที่หัวหน้าตระกูลและพูดขึ้น “ขั้นเทพปรากฏตัวขึ้นในตระกูล ข้าจะไม่ออกมาได้ยังไง ? ”

สีหน้าของผู้นำตระกูลเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้ยินแบบนั้น ” อะไรกัน ! ขั้นเทพรึ ? “

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด