เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 436: ความรู้สึกเมื่อได้กลับบ้าน

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพกระบี่มรณะ ตอนที่ 436: ความรู้สึกเมื่อได้กลับบ้าน อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 436: ความรู้สึกเมื่อได้กลับบ้าน

ทันทีที่เจียงหยางป้าเข้าประตู ก็มีบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมใบหน้ายินดี เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า หัวหน้าตระกูลมีข่าวดีขอรับ ! นายน้อยสี่กลับมาแล้ว !

เจียงหยางป้าอึ้งไปครู่หนึ่ง มันก็หลายปีมาแล้วที่เขาไม่ได้ข่าวของนายน้อยสี่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เขารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ก่อนที่จะกลายมาเป็นความปั่นป่วน เขารีบตะโกนถามบ่าวรับใช้อย่างรวดเร็วว่า เจ้าพูดอะไรนะ ?

หัวหน้าตระกูล นายน้อยสี่กลับมาแล้ว ! บ่าวรับใช้พูดอีกครั้งด้วยน้ำตาคลอหน่วย

ตาของเจียงหยางป้าเบิกกว้าง ขณะที่เขายังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่งและใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นเวลาหลายปีแล้วตั้งแต่บุตรชายคนที่สี่ของเขา เจียงหยางเซียงเทียนออกจากคฤหาสน์ไปโดยไม่มีข่าวคาวหรือเบาะแสใด ๆ ในใจของเขามีความกลัวลึก ๆ ว่าเขาอาจจะไม่ได้เห็นหน้าของบุตรชายคนที่สี่ของเขาแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เขารู้สึกเจ็บมากเขาก็ได้คิดว่าบุตรชายคนที่สี่ของเขาอาจจะตายไปแล้ว แต่ตอนนี้บุตรชายที่เขาคิดว่าตายไปแล้วได้กลับมา ! เขาไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับความรู้สึกแบบนี้และมันเป็นเรื่องที่เขาแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

เจ้าพูดจริงนะ เซียงเอ๋อกลับมาแล้ว ? เจียงหยางป้าจ้องมองไปยังบ่าวรับใช้ ขณะที่พูดเสียงเข้มแบบสั่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความหวังของเขา

หัวหน้าตระกูล คำพูดของข้าเป็นเรื่องจริงแน่นอน ! ฮูหยินสี่และฮูหยินสองได้ยืนยันตัวตนของเขาแล้ว มันไม่ผิดอย่างแน่นอน บ่าวรับใช้ตอบ

เมื่อได้ยินว่านายน้อยสี่ผู้ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายปีก่อนได้กลับมา ทำให้ทหารที่อยู่ด้านหลังเจียงหยางป้ากลายเป็นโง่งม แต่ละคนมองหน้ากันและกันด้วยความรู้สึกตกใจและสันสบอย่างหนัก หลายคนเป็นคนเก่าคนแก่ภายในตระกูล เขารู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดกับนายน้อยสี่ ในใจพวกเขาต่างก็คิดว่านายน้อยสี่ของพวกเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ไม่มีใครสักคนเดียวที่จะคิดว่าเขาจะกลับมาอย่างปุบปับ

ตอนนี้เซียงเอ๋ออยู่ที่ไหน ? เจียงหยางป้าถาม มันเป็นเรื่องกะทันหันที่สำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้เขายังเป็นพ่อของเขา

นายน้องสี่อยู่ในห้องของฮูหยินสี่ บ่าวรับใช้ตอบ

ทันใดนั้นร่างของเจียงหยางป้าก็หันหน้าเดินไปยังห้องของไป๋หยุนเทียนอย่างเร่งร้อน

ในห้อง เจี้ยนเฉิน, แม่ของเขาและหยูเฟิงหยานกำลังนั่งอยู่ในห้องเดียวและพูดคุยด้วยกัน หัวข้อที่คุยนั้นเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินในช่วงที่เขาอยู่ข้างนอก แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะพยายามอย่างมากเพื่อจะไม่เล่าถึงวินาทีที่เขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่เขาประสบพบเจอมา แต่มันก็ยังคงทำให้หญิงสาวทั้งสองตกใจระคนหวาดกลัว เพราะว่านั่นเป็นลูกของนาง น้ำตาของไป๋หยุนเทียนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของนางมานานแล้วและดวงตาของนางยังคงแดงอยู่

หญิงสาวทั้งสองคนเริ่มคิดเกี่ยวกับความวุ่นวายของโลกภายนอก ทั้งสองไม่อาจจินตนาการได้ว่าการอยู่คนเดียวในโลกเช่นนั้นหรืออันตรายที่ต้องเผชิญในเทือกเขาสัตว์อสูรนั้นน่ากลัวเพียงใด ? เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตายมากมาย ทั้งไป๋หยุนเทียนและหยูเฟิงหยานรู้สึกว่าหัวใจของพวกนางจะแตกสลายจากความหวาดกลัว

ปัง ! ทันใดนั้นประตูหนาของห้องก็ถูกเปิดออก ขณะที่เจียงหยางป้าในชุดดำเดินเข้ามาในห้องอย่างเร่งรีบ เขามองหาเจี้ยนเฉินไปรอบ ๆ ห้อง

ท่านพี่ !

ท่านพี่ !

หยูเฟิงหยานและไป๋หยุนเทียนยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ

ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงของฮูหยินทั้งสอง ดวงตาของเจียงหยางป้าจับจ้องไปยังร่างของเจี้ยนเฉินและความรู้สึกภายในของเขาก็พุ่งขึ้นมา ดวงตาของเขาเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาเมื่อเขาเห็นเจี้ยนเฉิน เขายังจำบุตรชายของเขาได้แม้ว่าเขาจะเติบใหญ่ขึ้นมา

เจี้ยนเฉินมองบิดาของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทันทีที่ทั้งสองเห็นกันและกัน เจี้ยนเฉินก็เริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อยและเอ่ยว่า ท่านพ่อ !

เมื่อถูกเรียกว่า ‘ท่านพ่อ ! ‘ ร่างกายของเจียงหยางป้าก็ราวกับแข็งทื่อก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ เจี้ยนเฉินอย่างช้า ๆ เขามองไปยังร่างกายของลูกชายของเขาก่อนที่จะยิ้มในที่สุด เซียงเอ๋อ เจ้าเติบใหญ่แล้ว ! ในที่สุดน้ำตาของเขาก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเขา

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางป้าไม่ได้พบเจอกันมาหลายปีแล้ว หลังจากที่พูดคุยกันอยู่หลายคำ เจียงหยางป้าก็กลับไปที่ห้องก่อนที่จะทิ้งให้เจี้ยนเฉินอยู่กับแม่ของเขาและหยูเฟิงหยาน

สงครามพึ่งจะสิ้นสุดลงและทหารของตระกูลเจียงหยางเพิ่งจะกลับมา ในฐานะหัวหน้าตระกูล เจียงหยางป้ามีหลายสิ่งต้องทำและเขาก็ยุ่งมาก

ด้วยการกลับมาของทหารทั้งหมดและคนสำคัญของตระกูล ทำให้ทั้งคฤหาสน์ทั้งหมดคึกคักไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ นา ๆ ห้องพักหลายห้องที่ว่างเปล่าเป็นเวลานานก็ได้รับการทำความสะอาดและได้รับแสงอีกครั้ง ในขณะเดียวกันข่าวการกลับมาของเจียงหยางเซียงเทียนก็แพร่กระจายไปยังทหารที่กลับมา ทุกคนต่างก็ตกใจและประหลาดใจเอามาก ๆ

เจี้ยนเฉินออกจากห้องของมารดาเพราะมันมืดค่ำแล้ว หลังจากที่นางส่งเขากลับด้วยตัวเอง เจี้ยนเฉินก็ได้รับการต้อนรับโดยสาวใช้ทั้งสองของเขา

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ได้กลับมาที่ห้องเป็นเวลานาน แต่ห้องของเขาก็อยู่ในสภาพเดียวกับที่เขาเป็นอยู่ ไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อยและสามารถมองเห็นถึงการจัดเตรียมต่าง ๆ ในห้องของเขาและดูเหมือนว่าไม่มีใครแตะต้องสิ่งของในห้องเลย

เซียงเอ๋อ มันก็ดึกแล้ว เจ้าควรจะพักบ้าง ดวงตาของไป๋หยุนเทียนสะท้อนให้เห็นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร

เจี้ยนเฉินพยักหน้า ท่านแม่ ท่านก็ควรจะพักผ่อนเช่นกัน

หลังจากที่ไป๋หยุนเทียนออกจากห้อง เจี้ยนเฉินก็เหลือเพียงสาวใช้ทั้งสอง

นายน้อยสี่ โปรดอนุญาตให้บ่าวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท่าน หญิงสาวคนหนึ่งพูดเบาๆ เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินรูปงามเพียงใด สองสาวใช้อดรู้สึกช่วยไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย

สองสาวใช้อายุประมาณ 20-28 ปี แม้ว่าพวกนางจะไม่งดงามถึงขั้นล่มเมือง แต่พวกนางก็นับว่างดงามอยู่บ้าง ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเจียงหยาง คนธรรมดา ๆ ที่ไหนจะสามารถเข้ามายังตระกูลที่ทรงอำนาจเช่นนี้ได้ ?

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ ห้องของเขาด้วยสายตาที่หวนระลึกถึงความเก่า ก่อนที่จะพูดขึ้น ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองออกไปได้แล้ว ข้าอยากพักผ่อนสักครู่ หากไม่มีเรื่องสำคัญใด ๆ เจ้าก็ออกไปได้

เจ้าค่ะ ! สาวใช้ทั้งสองพูดก่อนที่จะออกไปจากห้อง แต่ดวงตาของพวกนางสะท้อนให้เห็นถึงความผิดหวัง เจี้ยนเฉินไม่เพียงแต่เป็นนายน้อยสี่ของตระกูลเจียงหยางเท่านั้น เขาเป็นคนที่รูปงามอีกด้วย หญิงสาวทั้งสองต้องการที่จะพลีกายเพื่อที่ตัวเองอาจจะกระโดดกลายเป็นหงส์ได้

เจี้ยนเฉินยืนอยู่กลางห้องขณะที่เขามองรอบ ๆ ทุกอย่างที่เขาทิ้งเอาไว้ยังคงอยู่ในจิตใจอย่างไม่อาจช่วยได้ แต่เมื่อย้อนคิดกลับไปตอนที่เขายังเด็ก ภาพความทรงจำต่าง ๆ ก็แล่นผ่านจิตใจของเขาทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกว่ามันยากที่จะนอนหลับได้

บ้าน นี่คือบ้านของข้า ในที่สุดข้าก็ได้กลับมา ! เจี้ยนเฉินไม่อาจหยุดพึมพำกับตัวเองในท่าทีเจ็บปวดและโง่งมได้ เขารอวันนี้มานานมาก ความคิดถึงบ้านของเขาเกิดขึ้นกับเขาหลายครั้งและตอนนี้มันก็ได้เป็นความจริงแล้ว ในที่สุดเขาก็สงบจิตใจของเขาได้

สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้และวันที่ได้กลับมาอยู่ในตระกูลเจียงหยางได้ เจี้ยนเฉินได้เสียสละไปหลายอย่างมากและทำภารกิจบางอย่างมากมาย เขาเดินบนเส้นทางแห่งความเป็นความตายและมีหลายครั้งที่เขาเกือบตาย หากเขาก้าวพลาดเพียงครั้งเดียว ถ้าไม่ใช่จิตวิญญาณกระบี่ม่วง-ฟ้า เขาอาจจะต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่หวนกลับนานแล้ว

เขาใช้เลือดตัวเองเพื่อถางทางกลับบ้าน

เมื่อคิดถึงเส้นทางในความทรงจำของเขาที่เกิดขึ้น หลังจากที่เขาจากไป เจี้ยนเฉินก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะกล้ำกลืนได้อีกต่อไป ในที่สุดดวงตาของเขาก็มีหยาดน้ำตาที่แวววาวออกมา

มู่วว… ราวกับสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของเจี้ยนเฉิน ลูกเสือขาวที่ได้คร่อมคอของเจี้ยนเฉินและเริ่มส่งเสียงคลอ ๆ ขณะที่ไซร้แก้มของเจี้ยนเฉิน เสียงที่ได้ยินนั้นดังกังวาลราวกับพยายามปลอบใจเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเดินไปที่เตียงของตัวเองอย่างช้า ๆโดยที่ไม่มีความคิดใด ๆ ปรากฏขึ้นมาในใจก่อนที่จะนอนหลับลง

คืนนั้น เจี้ยนเฉินได้นอนหลับอย่างเป็นสุขและไร้ความกังวล นี่เป็นช่วงเวลาที่เขานอนหลับสนิทอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาจากมา มันเป็นความรู้สึกที่เบาสบายอย่างมาก มันแตกต่างจากช่วงเวลาอื่น ๆ ที่เขาต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา

ลูกเสือไม่ได้นอนเลยและขดตัวอยู่บนร่างของเจี้ยนเฉิน หัวของมันยังคงมองซ้ายทีขวาทีเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อม

….

เซียงเอ๋อ เจ้าดื่นหรือยัง ?

เช้าวันที่สอง ไป๋หยุนเทียนได้มาหาที่ห้องเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินตื่นนอนและรู้สึกว่าร่างกายของเขาสดชื่นและแจ่มใสอย่างมาก ความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกมานานแบบนี้แล้ว มันใช่ความรู้สึกที่ได้กลับบ้านหรือไม่ ?

เซียงเอ๋อ เจ้านอนหลับสนิทหรือไม่ ? ไป๋หยุนเทียนได้ดูสดใสเหมือนปกติ ขณะที่นางถามบุตรของนาง การที่เจี้ยนเฉินได้กลับมาทำให้นางรู้สึกดีใจอย่างยิ่งและร่างกายของนางก็ดูมีชีวิตชีวามาก ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่านางนอนหลับอย่างพอเพียงและมีความสุข

เจี้ยนเฉินและมารดาของเขาพูดกันอยู่หลายคำก่อนที่จะออกจากห้องและไปห้องอาหาร

ขณะที่ทั้งสองเดินไปที่ห้องอาหาร เจี้ยนเฉินก็นึกถึงภาพความทรงจำในวัยเด็ก ในอดีตเขาจะต้องเดินตามมารดาเพื่อไปทานอาหารเช้าทุก ๆ เช้า ด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้น เขาได้แต่สุขใจ

เจี้ยนเฉินและมารดาของเขาเข้ามาในห้องอาหาร ป้ารองหยูเฟิงหยานและป้าสามไป๋ยู่ซวงกำลังทานอาหารอยู่ โดยที่ด้านข้างมีเด็กหนุ่มที่ดูสง่าและอายุก็ไม่ห่างจากเจี้ยนเฉินเท่าไรนัก เขาก็คือพี่ชายของเจี้ยนเฉิน เจียงหยางเค่อ

หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี ใบหน้าของป้าสามก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก อย่างไรก็ตามใบหน้าของเจียงหยางเค่อดูเหมือนจะแปลกไปเล็กน้อยและมีดวงตาที่ดูเหมือนกับของเจี้ยนเฉิน รูปร่างหน้าตาของเขาค่อนข้างน่าเกรงขามบวกกับผิวที่ซีดขาวของเขาและแม้ว่าอายุของเขาจะห่างจากเจี้ยนเฉินไม่มากนัก แต่รูปร่างหน้าตาของเขาก็เหมาะสมกับอายุของเขา

เซียงเอ๋อกลับมาแล้ว ป้าสามดูสิ ! หลังจากที่หายไปหลายปีเซียงเอ๋อก็โตมารูปงามมาก เขาสามารถโปรยเสน่ห์ให้กับหญิงสาวได้ทุกคนภายใต้สวรรค์ชั้นฟ้านี้ หยูเฟิงหยานหัวเราขณะที่นางมองไปยังเจี้ยนเฉินที่กำลังวิตกกังวล

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด