ตอนที่ 1555 – ร่างมนุษย์ของเสือขาว

แม้ว่าฮุสตันจะรู้มานานแล้วว่าการตายของลูกชายของเขาจะมาถึงในวันหนึ่งและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุดแม้ว่าเขาจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม

เจี้ยนเฉินถอนหายใจอยู่ข้างในเช่นกัน ฮุสตันไม่เคยปรากฏตัวเมื่อลุงเซียวมี่เสียชีวิต เขาไม่ได้เห็นหน้าลูกชายของเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ฮุสตันไม่ใช่คนเดียวที่เต็มไปด้วยความเสียใจ แม้แต่เจี้ยนเฉินและชาวบ้านในหมู่บ้านหุบเขายั่งยืนก็ยังรู้สึกเสียใจ เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าจะปลอบใจฮุสตันได้อย่างไรเมื่อเขาเห็นสีหน้าของฮุสตัน เขาเข้าใจความรู้สึกของฮุสตันเพราะเขาเองก็เป็นพ่อเช่นกัน

เจี้ยนเฉินมองดูเสือขาว เสือขาวมีความยาวเพียง 1 เมตร ขนสีขาวราวหิมะของมันถูกย้อมด้วยสีแดงของเลือดและมีกลิ่นคาวเลือด ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้เสือขาวก็มีบาดแผลสาหัสเช่นกัน แม้ว่ามันจะหายดีแล้วก็ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลือดที่แห้งกรังบนขนของมัน

เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสุขเมื่อเขาสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของเสือขาวในปัจจุบัน เขารู้สึกมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ เขามีความสัมพันธ์พิเศษอย่างยิ่งกับเสือขาว เจี้ยนเฉินเองก็ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อเสือขาว ย้อนกลับไปเมื่อเสือขาวเพิ่งเกิดมา มันอยู่ข้างเจี้ยนเฉินก่อนที่มันจะสามารถลืมตาได้ โดยทั่วไปแล้วมันใช้เวลาตลอดชีวิตของมันอยู่กับเจี้ยนเฉินนอกเหนือจากเวลาที่ใช้ในหอคอยสัตว์เทวะ เจี้ยนเฉินเฝ้าดูเสือขาวที่เติบโตขึ้นจากการเป็นลูกเสือที่ยังไม่ลืมตาจนถึงสภาวะปัจจุบัน พวกเขาเป็นเหมือนสหายและยังเหมือนพ่อกับลูกชาย

“เสี่ยวไป๋ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะได้รับโชคลาภอันยิ่งใหญ่จากหอคอยสัตว์เทวะจนไปถึงขอบเขตดั้งเดิม แม้ว่าโลกนี้จะถูกผนึกและเข้าใจกฎเช่นกัน แม่ของเจ้าจะต้องมีความสุขมาก” เจี้ยนเฉินพูดกับเสือขาว จากนั้นเขาก็หยุดก่อนที่จะถามด้วยความสงสัย เจ้าได้มาถึงขอบเขตดั้งเดิมแล้ว เจ้ายังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ได้อีกหรือ ? หรือพยัคฆ์ปีกเทวะไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้”

ความลังเลปรากฏในดวงตาของเสือขาว อย่างไรก็ตามในไม่ช้าความลังเลก็หายไปกลับแทนที่ด้วยความมุ่งมั่น ร่างกายของมันเปลี่ยนไปและในพริบตาก็กลายเป็นเด็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะกล้าหาญมาก ผิวของเขานุ่มมากเหมือนเด็กแรกเกิด ผมของเขาเป็นสีขาวราวหิมะและยาวอย่างน้อย 1 ฟุตพาดบนไหล่ของเขา ผมของเขายังมีเงาลึกลับราวกับว่าแต่ละเส้นนั้นเต็มไปด้วยพลัง ใบหน้าของเขาซึ่งยังเด็กค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนเล็กน้อยที่ไม่ตรงกับอายุของเขาเลย มันทำให้เขาดูเหมือนแม่ทัพที่เคยประสบกับสงครามมามากมาย

เถี่ยต้า, เจียงหยาง หมิงเยว่, ซางกวน มู่เอ๋อ, เสี่ยวหลิง และ ฮุสตัน ทั้งหมดได้จับจ้องอยู่ที่เสือขาว พวกเขาเคยได้ยินจากข่าวลือโบราณที่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะปรากฏตัวเสมอในรูปสัตว์อสูรและไม่เคยปรากฏในร่างมนุษย์ ดังนั้นทุกคนในโลกจึงเชื่อว่าสายเลือดของพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นพิเศษและไม่สามารถรองรับร่างของมนุษย์ได้ เมื่อไปถึงขอบเขตดั้งเดิม อย่างไรก็ตามข่าวลือที่เพิ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วต่อหน้าต่อตาพวกเขา

เสี่ยวหลิงมาถึงตรงหน้าเสือขาวและเดินไปรอบ ๆ เขา ดวงตาที่สดใสของนางเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่นางบ่น” แปลก ทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้า ? ” เสี่ยวหลิงขมวดคิ้วของนาง แต่นางก็ไม่เข้าใจว่าทำไม

“ชื่อที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์ของข้าไม่ใช่พยัคฆ์ปีกเทวะ แต่เป็นจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ เราเป็นหนึ่งในสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเปรียบได้กับมังกรบรรพกาล ตราประทับที่นี่ทรงพลังมาก แต่ก็ไม่สามารถปิดผนึกสายเลือดของพวกเราได้ พวกเราสามารถสันนิษฐานได้ว่าพวกเราสามารถเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ได้เมื่อพวกเราไปถึงขอบเขตดั้งเดิมเพราะสายเลือดที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเรา” เสือขาวกล่าว เสียงของเขาฟังค่อนข้างดิบเถื่อน อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูด เขาไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจน ทุกคนที่นั่นรวมถึงเจี้ยนเฉินไม่รู้ว่ามังกรบรรพบุรุษคืออะไร แม้แต่เสี่ยวไป๋ก็ไม่รู้ว่ามังกรบรรพกาลคืออะไร ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจมันมากนัก อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณกระบี่ที่อ่อนแอนั้นก็ตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับมังกรบรรพกาล จิตใจของพวกเขาเริ่มปั่นป่วน

“เขาได้รับมรดกแบบใด เขารู้เกี่ยวกับมังกรบรรพกาลได้อย่างไร..”

“และเผ่าพันธุ์ที่ท้าทายสวรรค์ประเภทใด ที่เป็นจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ทำไมเราไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน ? พวกเขาจะมีสายเลือดที่ทรงพลังเปรียบกับมังกรบรรพกาลเช่นนั้นได้อย่างไร ? แม้แต่ราชาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ในโลกอมตะของเราก็ไม่มีสายเลือดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้..”

“เขาพูดเกินจริงหรือเปล่า..”

“เขาต้องเรียนรู้ทั้งหมดนี้จากพยัคฆ์ปีกเทวะตัวก่อนหน้านี้ผ่านทางมรดก ต้นกำเนิดของพยัคฆ์ปีกเทวะโบราณคืออะไร ? เขารู้เกี่ยวกับมังกรบรรพกาลจริง ๆ หรือ ? แต่มังกรบรรพกาลหายตัวไปเมื่อหลายพันล้านปีก่อนจากโลกอมตะของเรา บุคคลทั่วไปไม่สามารถรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเขา แต่ใครก็ตามที่รู้เกี่ยวกับพวกเขาจะต้องเป็นจอมยุทธที่ยอดเยี่ยมที่มีชีวิตรอดมานับไม่ถ้วนปีหรือคนที่มีความสำคัญกับภูมิหลังที่ดี … ”

ในขณะนั้น จิตวิญญาณของกระบี่เริ่มให้ความสำคัญต่อเสือขาวอย่างแท้จริง พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เนื่องจากพวกเขาเปรียบได้กับมังกรบรรพกาล พวกเขาจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ในขณะนี้ เทียนเจี้ยนกลับมา เขาเดินเข้ามาจากระยะไกลและในมือของเขาเป็นขนสัตว์สีขาวราวกับหิมะที่น่าประทับใจ เสือขาวเห็นขนสัตว์อสูรทันทีที่มันปรากฏขึ้น เขารู้สึกว่าคุ้นเคยกับขนของสัตว์อสูรเพราะมันเป็นขนที่ถูกถลกมาจากจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยโบราณ พวกมันเป็นสายพันธุ์เดียวกันและมรดกที่เขาเพิ่งได้รับมาจากจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์คนเดียวกัน

เทียนเจี้ยนส่งขนสัตว์ผืนสุดท้ายไปให้เถี่ยต้า เถี่ยต้าถือขนสัตว์อสูรและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เทพเจ้าสงครามคนก่อน เอ่อหยินได้รับการผนึกหลังจากถูกสังหารโดยพยัคฆ์ปีกเทวะ ซากศพของเขาถูกขังไว้นานกว่าล้านปี ในที่สุดเขาก็รวบรวมขนสัตว์อสูรทั้งสิบแปดผืนได้และตอนนี้มีกุญแจที่จะปลดผนึก เขาสามารถปล่อยให้ซากศพของเอ่อหยินให้กลับมาสู่โลก

ช่วงเวลาที่เถี่ยต้าได้รับขนสัตว์อสูร เขาไม่ได้คิดถึงสมบัติหรือมรดกที่เขาจะได้รับ เขาคิดเพียงการวางแผนการฝังศพอันยิ่งใหญ่สำหรับซากของเอ่อหยิน

“นอกเหนือจากขนสัตว์อสูร ข้าพบสิ่งของสองสามอย่างที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราในคลัง เทียนเจี้ยนกล่าว ด้วยโบกมือของเขากล่องหยกต่าง ๆ ก็ลอยออกจากแหวนมิติของเขา มีมากกว่าหนึ่งพันกล่อง

มีคนสองสามคนเปิดกล่องไม่กี่อันออกมาด้วยความอยากรู้ สิ่งภายในนั้นมีตั้งแต่แกนอสูรระดับสูงไปจนถึงยาเม็ดต่าง ๆ มันมีแกนอสูร ระดับ 9 จำนวนมากในขณะที่ที่เหลือก็เป็นแกนอสูรระดับ 8

” สิ่งของเหล่านี้ควรจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยเจ้าของโถงศักดิ์สิทธิ์คนก่อนนี้ เนื่องจากตราประทับบนกล่องสิ่งของทั้งหมดได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้าไม่รู้ว่าพวกมันอยู่มานานแค่ไหน แต่พวกมันควรยังคงใช้ได้ในวันนี้” เทียนเจี้ยนกล่าว